ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1003 มนุษย์และเซียนสู้กัน
ฟู่ถิงไม่มาถือว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในความคาดหมาย
อาการตกค้างหลังจากไปยังโถงเซียนไม่อาจดูแคลนได้
แต่ว่าคนที่ยอดเขาอัศจรรย์ส่งมากลับมีสถานะไม่ต่ำต้อย เป็นคนที่มีวัยวุฒิเทียบเท่าจักรพรรดิแพรงามและเทพธิดาสสารกำเนิดเถาอวี้
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ต้อนรับผู้มา สองพ่อลูกก็สบตากันเอง
คนจากยอดเขาอัศจรรย์ดูเหมือนจะไม่ทราบเรื่องเมฆแปลงกำเนิดจริงๆ
ที่มาในครั้งนี้นอกจากกระทำตามมารยาทแล้ว เรื่องที่ต้องการบอกกล่าวมีอยู่เรื่องหนึ่ง แต่กลับเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง
กล่าวง่ายๆ ก็คือ จักรพรรดิแพรงามที่มุ่งหน้าไปยังมิติต่างแดนส่งข่าวกลับมา หลังจากต่อสู้กับทวนพระอังคาร
เรื่องที่เยี่ยนจ้าวเกอสังหารผู้สืบทอดยอดเขาอนัตตาซึ่งเป็นลูกศิษย์ของจักรพรรดิเอกภพ และผู้อาวุโสสองคนที่เป็นลูกศิษย์เนินต้นจักพรรรดิของประมุขทักษิณ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่มีอิทธิผลมากที่สุดในหลายวันมานี้
หากติดต่อไม่ได้ก็แล้วกันไป เกิดว่าช่องทางข่าวสารสะดวก ยอดเขาอัศจรรย์จะต้องรีบแจ้งจักรพรรดิแพรงามโดยเร็วที่สุด
นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความคิดเห็นที่ฟู่ถิงหรือเถาอวี้มีต่อเยี่ยนจ้าวเกอ แต่เป็นสิ่งที่ควรกระทำ
สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายเล็กน้อยก็คือ จักรพรรดิแพรงามตอบกลับอย่างรวดเร็ว
เนื้อหาที่ตอบกลับมา อยู่เหนือความคาดหมายของคนส่วนหนึ่ง
“เขาจะรีบจัดการเรื่องราวในมือโดยเร็วที่สุด รีบกลับมาก่อนจักรพรรดิเอกภพกำเนิด ถ้าหากว่าจักรพรรดิเอกภพสร้างความลำบาก เขาจะลงมืออย่างนั้นหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ ก่อนจะมองไปยังเยี่ยนตี๋ ซึ่งบัดนี้บิดาของตนเองก็หน้านิ่วคิ้วขมวดเช่นกัน
จักรพรรดิแพรงามอวิ๋นฉือกับประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยค่อนข้างสนิทสนมกัน ดังนั้นในตอนที่เฉาเจี๋ยเผชิญหน้ากับจักรพรรดิเอกภพกำเนิด จักรพรรดิแพรจึงยินดียื่นมือช่วยเหลือ
แต่ว่าถ้าหากจักรพรรดิเอกภพกำเนิดเปลี่ยนมาสู้กับเขากว่างเฉิง จักรพรรดิแพรจะลงมือหรือไม่ นั่นก็ยากจะบอกแล้ว
ถึงแม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะมีความสำคัญอันดีกับลูกศิษย์ในผาบัวแดงเช่นฟู่ถิง เรื่องที่จักรพรรดิแพรเชิญพวกเขาสองพ่อลูกไปยังที่บำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยในตอนนั้นก็ถือว่าให้ความสำคัญ
ทว่าจักรพรรดิผู้นี้ในใจมองเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงอย่างไรกันแน่ ปัจจุบันยังไม่อาจยืนยันได้
โดยเฉพาะเขาจะออกหน้า สู้กันถึงตายกับจักรพรรดิเซียนจริงแท้อีกคนหนึ่งเพื่อเขากว่างเฉิงหรือไม่
ถึงอย่างไรเนื่องจากพิจารณาถึงการควบคุมสถานการณ์ใหญ่บนโลกซ้อนโลก สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิมีน้อยครั้งจะเกิดความขัดแย้งกัน แต่ละฝ่ายล้วนรักษาการสะกดกันไว้
ถ้าหากบอกว่าจักรพรรดิแพรทราบถึงการดำรงอยู่ของเมฆแปลงกำเนิด นอกจากนี้ยังรู้ด้วยว่าเยี่ยนตี๋มีเมฆแปลงกำเนิดอยู่ในมือ เช่นนั้นก็อธิบายได้
ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอยังวางแผนจะนำการสืบทอดสายเอกพิสุทธิ์มาจากผาบัวแดงแแห่งยอดเขาอัศจรรย์
วรยุทธ์สายหยกพิสุทธิ์ที่เขาถือครองอยู่มีประโยชน์ต่อจักรพรรดิแพรงาม แต่ไม่ใช่ของจำเป็น
ทว่าตอนนี้สถานการณ์แตกต่างไปจากเดิม
แปลงกำเนิดซึ่งเป็นอันดับแรกในห้ากำเนิดแรกเริ่ม เป็นวรยุทธ์ก่อนกำเนิดของสายเอกพิสุทธิ์เพียงชนิดเดียวที่ยอดเขาอัศจรรย์ไม่มี
ถ้าหากรวบรวมห้ากำเนิดแรกเริ่มได้ครบ สำหรับจักรพรรดิแพรกับยอดเขาอัศจรรย์แล้ว มันย่อมไม่ใช่แค่การเพิ่มวรยุทธ์มาชนิดหนึ่ง
ในอีกมุมหนึ่ง ถ้าหากว่าต้องการให้ยอดเขาอัศจรรย์นำวรยุทธ์ก่อนกำเนิดสายเอกพิสุทธิ์อีกสี่ชนิดมาแลกกับหมัดแปลงกำเนิด พวกเขาอาจจะยินดีก็เป็นได้
อาศัยหมัดแปลงกำเนิด แลกกับให้จักรพรรดิแพรงามลงมือ ต้านทานจักรพรรดิเอกภพกำเนิด
เมื่อมีแต้มต่อนี้ ก็มีน้ำหนักมากพอ
“เมฆแปลงกำเนิดเข้ามายังโลกซ้อนโลกจากมิติต่างแดน หรือว่าจักรพรรดิแพรจะสัมผัสได้” เยี่ยนตี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ต่อให้จักรพรรดิแพรทราบก็ไม่เป็นไร เพราะสิ่งที่เยี่ยนตี๋สนใจก็คือ จักรพรรดิแพรทราบได้อย่างไร
ในฐานะเจ้าของเมฆแปลงกำเนิด เยี่ยนตี๋ต้องการและมีความจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกัน
เยี่ยนจ้าวเกอนวดขมับเบาๆ “มีความเป็นไปได้นี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้อื่นเช่นกัน”
คำกล่าวที่ทางด้านยอดเขาอัศจรรย์ส่งมาคือ เพราะคำเชิญของจักรพรรดิแพร เยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกจึงมุ่งหน้าไปยังที่บำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อย สุดท้ายจักรพรรดิกลับผิดนัดในฐานะเจ้าภาพ
เรื่องที่จักรพรรดิแพรงามผิดนัดจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงสองคนคล้ายไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ว่าหลังจากทวนพระอังคารจู่โจมที่บำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อย เยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกก็กลายเป็นบ่อปลาโดนไฟลามอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
ต่อมาเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงพลัดหลงไปยังโถงเซียน ช่วยเหลือกันเอาชนะอุปสรรคมาได้
ที่เยี่ยนจ้าวเกอกลับจากโถงเซียนมาได้อย่างรวดเร็ว เยี่ยนจ้าวเกอมีคุณปการมากมาย ดังนั้นครั้งนี้จักรพรรดิแพรจึงขออภัยและขอขอบคุณ
คำอธิบายนี้ถือว่าใช้ได้
ถึงแม้ตำแหน่งของทั้งสองฝ่ายในตอนนี้เหมือนยังมีข้อแตกต่าง แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรจักรพรรดิแพรก็มักทำอะไรตามใจ จึงไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
แต่ว่าก็ต้องรอปรึกษากัน
เยี่ยนจ้าวเกอไม่คิดจะใช้ความคิดของผู้น้อยทำความเข้าใจจิตใจของผู้ยิ่งใหญ่ แต่ว่าการฝากฝังความเป็นความตายไว้กับจริยะธรรมของคนอื่นไม่ใช่นิสัยของเขา
จนถึงตอนนี้ความประทับใจที่จักรพรรดิแพรมอบให้เยี่ยนจ้าวเกอยังดียิ่ง คนผู้นี้มักชอบทำตามใจตัวเองจริงๆ
ถ้าหากนึกว่านั่นเป็นชายชราที่มีน้ำใจคนหนึ่ง ก็คิดผิดไปไกลแล้ว
ดูจากชีวิตของเขา เยี่ยนจ้าวเกอก็พอจะเดาออกว่าจักรพรรดิแพรงามที่ฝึกฝนการสืบทอดสายเอกพิสุทธิ์เดินไปบนเส้นทางลืมรักสูงส่งแล้ว
ลืมรักสูงส่งไม่ใช่ไร้รัก แต่ว่าจักรพรรดิแพรงามในความทรงจำของใครหลายๆ คนเป็นคนมากรัก
ที่เขาได้บุตรียามแก่ชรา มีฟู่ถิงเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขคนเดียว ไม่ใช่ไร้เหตุผล
นั่นเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นหลักการของดอกซือเฉ่าห้าสิบดอกแทนสรรพสิ่ง ในนี้ใช้เพียงแค่สี่สิบเก้า ดอกแทนไท่จี๋ไม่ต้องใช้
การกำเนิดของฟู่ถิงบ่งบอกถึงขั้นตอนที่จักรพรรดิแพรเดินผ่านสวนบุปผาไปทั่ว แต่กลับไม่มีใบไม้ติดมาสักไป ถึงขั้นผ่านแม่น้ำรั่วสามพันลี้ เพียงหนึ่งจอกก็ดับกระหาย บ่งบอกว่าการฝึกปรือปรือบริสุทธิ์ยิ่ง
แต่ว่าเส้นทางต่อจากนี้จักรพรรดิแพรจะเลือกเดินไปทางไหน เยี่ยนจ้าวเกอคาดเดาไม่ออก
นี่จึงตัดสินถึงลักษณะนิสัยของจักรพรรดิแพรงามได้
ตอนนี้เขายังรักใคร่ฟู่ถิงดี สถานการณ์จึงค่อนข้างดีอยู่
แน่นอนว่าเยี่ยนจ้าวเกอยังมีการคาดเดาอีกอย่าง ทั้งยังเกี่ยวข้องกับเมฆแปลงกำเนิด ไม่ใช่หมัดแปลงกำเนิด
เยี่ยนจ้าวเกอมองเยี่ยนตี๋ เยี่ยนตี๋เข้าใจความหมายของบุตรชาย เอ่ยว่า “คอยดูการเปลี่ยนแปลง”
“จะตีเหล็กต้องทำให้ตัวเองแข็งแรงก่อน” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะผ่อนคลาย”
เยี่ยนตี๋กล่าวชมเชย “มิผิด”
ท่าทีของจักรพรรดิแพรเป็นเรื่องน่ายินดีที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย แต่ว่าสำหรับเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋แล้ว อันดับแรกต้องเพิ่มพลังของตัวเองก่อน
หากใช้หมัดแปลงกำเนิดแลกกับการให้จักรพรรดิแพรลงมือ เรื่องราวจะสำเร็จไปมากกว่าครึ่ง แต่ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ สองพ่อลูกไม่อยากจะคิดถึงความเป็นไปได้นี้ แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการคุกคามที่อาจจะมาถึงตลอดเวลา อาศัยการร้องแรกแหกกระเชอไม่มีประโยชน์ ต้องมีการปฏิบัติจริงจึงจะสำเร็จ
ทุกวันขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอตั้งใจฝึกฝน ก็จัดการระบบความคิดอย่างต่อเนื่อง
เมื่อก้าวข้ามการขวางกั้นระหว่างมนุษย์และเซียน สำเร็จเป็นระดับเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่ สรรพวิชาในโลกก็ไม่อาจทำอันตรายได้อีก
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ต่อให้มีทักษะความสามารถมากขนาดไหน อาศัยแค่ตัวเองก็ทำอะไรเซียนจริงแท้ไม่ได้
เพราะว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
มนุษย์คิดจะสู้กับเซียน จำเป็นต้องวิธีการอื่นไว้
แน่นอนว่าในโลกไม่มีอะไรแน่นอน
มีวิธีหนึ่งที่สังหารเซียนได้จริงๆ
ประวัติศาสตร์โบราณเคยมีการบันทึกไว้ว่ามีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุข ผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ระดับสุดยอดสี่คนผนึกพลังกันกางค่ายกลสังหารเซียน ฆ่าจักรพรรดิเซียนจริงแท้คนหนึ่งเป็นผลสำเร็จ
แสดงให้เห็นถึงอานุภาพของสี่กระบี่รัตนาและการทำลายล้างฟากฟ้าของค่ายกลสังหารเซียน
ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน ไม่เสียดายสิ่งของภายนอก จอมยุทธ์สังหารเซียนเพียงอาศัยวิธีนี้
แต่ค่ายกลสังหารเซียนหายสาบสูญไปนานแล้ว
สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ วิธีนี้ไม่คุ้มค่ากับการศึกษา
ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งย่อมดี สรรพคุณที่โด่งดังที่สุดคือทำให้เซียนเสียสติ พรากวิญญาณของเซียน ทำลายจุดกำเนิดของเทพเซียน และสร้างความเสียหายต่อร่างของเทพเซียน
แต่ถ้าหากว่าไม่มีโอสถลวงเซียนและเคล็ดวิชากักขังเซียนที่เป็นแกนกลาง ก็ไม่อาจทำอะไรยอดฝีมือระดับจักรพรรดิที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนแล้วได้
………………..