ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1106 ผู้สืบทอดสายหยกดพิสุทธิ์และผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์
- Home
- ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี
- บทที่ 1106 ผู้สืบทอดสายหยกดพิสุทธิ์และผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์
ในปัจจุบัน โลกซ้อนโลกกับมรกตท่องฟ้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ปรองดองกันนัก
กษัตริย์ดินตรากฎไว้แต่แรกว่าห้ามไม่ให้ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์เข้ามาในโลกซ้อนโลก ผู้ฝ่าฝืนต้องถูกสังหาร กฎนี้ได้รับการสนับสนุนหรือความเห็นด้วยส่วนหนึ่งจากคนส่วนใหญ่ในสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ
ในการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ถึงขนาดว่าต้องทำตามอย่างเคร่งครัดจริงๆ แต่ว่าคำสั่งของกษัตริย์ดินย่อมไม่ใช่คำพูดไร้น้ำหนัก
ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์หากเคลื่อนไหวอยู่บนโลกซ้อนโลก หลังจากถูกเปิดเผยสถานะแล้วมักมีจุดจบจะไม่ค่อยดีนัก การที่สามารถออกจากโลกซ้อนโลกเป็นๆ ได้ เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว
ภายใต้ภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่นี้ คนที่ครอบครองวรยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์แล้วยังเดินส่ายอาดๆ อยู่บนโลกซ้อนโลกได้ มีแค่เยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋สองพ่อลูกเท่านั้น
พวกเขาเป็นกรณีพิเศษ
ตี๋ชิงเหลียน ย่าของเยี่ยนจ้าวเกอคือยอดฝีมือระดับสุดยอดของการสืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ เป็นบุคคลอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ด้านมรรคากระบี่เทียบเคียงได้กับเยี่ยนซิงถางผู้เป็นสามี
ทว่าเยี่ยนซิงถาง ปู่ของเยี่ยนจ้าวเกอกลับเป็นราชันพระศุกร์ หนึ่งในเก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนใหม่ซึ่งบุกเบิกโลกซ้อนโลก
เยว่เจิ้นเป่ยลูกศิษย์ของเยี่ยนซิงถางยิ่งเป็นกษัตริย์กระบี่ หนึ่งในสามกษัตริย์แห่งโลกซ้อนโลก ถูกจัดให้อยู่ในระดับเดียวกับกษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นลับ
ดูจากต้นกำเนิดแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกถือเป็นคนของโลกซ้อนโลกมาตั้งแต่แรก ทว่าถ้าหากพวกเขาถือครองวรยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์ ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่จินตนาการไม่ออก
ดังนั้นนอกเสียจากว่าพวกเขาจะเอนเอียงมาทางมรกตท่องฟ้าอย่างชัดเจนแล้ว โลกซ้อนโลกย่อมไม่กดดันให้สองพ่อลูกเซียนผู้ถูกเนรเทศที่มีพลังและศักยภาพน่าตระหนกออกไปเอง
ต่อให้ปัจจุบันกษัตริย์ดินจะยังอยู่ในมิติต่างแดน ไม่ได้กลับโลกซ้อนโลก กระนั้นพวกจักรพรรดิเอกภพกำเนิดก็ไม่มีใครยุ่งกับปัญหาของการสืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์
คนที่เหลือ ต่อให้จะเป็นหลงเสวี่ยจี้และหลงฮั่นหัวสองพ่อลูกก็จำเป็นต้องซ่อนสถานะ
จักรพรรดิน้ำพุหลงถึงแม้จะเป็นผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ แต่ในสายตาของคนบนโลกซ้อนโลกหลายปีมานี้ ต่างก็มองเขาเป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ของมรกตท่องฟ้ามากกว่า
ด้วยเหตุนี้ ถ้าเกิดคนรุ่นหลังของเขาถูกเปิดเผยว่าเป็นผู้สืบทอดของสายเหนือพิสุทธิ์ แม้จะไม่มีอันตราย แต่ก็ไม่อาจรั้งอยู่บนโลกซ้อนโลกต่อได้
ตอนนี้พลันได้ยินว่าประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวครอบครองกระบี่ยุคชื่อหมิง และสามารถเคลื่อนไหวบนโลกซ้อนโลกได้อย่างโจ่งแจ้ง หลงฮั่นหัวย่อมประหลาดใจ
เกาเสวี่ยโพและหลงเสวี่ยจี้สองพี่น้องสบตากัน ใบหน้าฉายแววครุ่นคิด คล้ายกับนึกอะไรบางอย่างออก
“ขอแค่เฉินเฉียนหัวไม่ได้ครอบครองผังค่ายกลลงทัณฑ์เซียน หรือว่าไม่ได้ฝึกฝนคัมภีร์กำเนิดโกลาหลสูญ เช่นนั้นต่อให้เขาครอบครองวรยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์ ก็สามารถเคลื่อนไหวอยู่บนโลกซ้อนโลกได้ไม่มีปัญหา” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเสริม
หลงฮั่นหัวฟังถึงตรงนี้ ความประหลาดใจบนใบหน้าสลายไป คล้ายนึกอันใดออก
เทวกษัตริย์รัตนวิเศษแห่งสายเหนือพิสุทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนจากมีเป็นไม่มี
สิบวรยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์เรียกว่าสิบคัมภีร์เหนือพิสุทธิ์ ห้าคัมภีร์ยุคสมัยเป็นสัญลักษณ์ของการ ‘มี’ ส่วนสี่กระบี่รัตนาเป็นสัญลักษณ์ของกระบวนการที่เปลี่ยนจาก ‘มี’ เป็น ‘ไม่มี’
นอกจากนี้แล้ว คัมภีร์สุดท้าย คัมภีร์โกลาหลสูญซึ่งเป็นจุดจบแห่งสิบคัมภีร์คือสัญลักษณ์ของ ‘การไม่มี’
วิชานี้มีความพิเศษยิ่ง เป็นการประสานกับผังค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
กล่าวจากอีกมุมหนึ่ง ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนอาจจะนับได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ของการแสดงออกภายนอกของมัน
ค่ายกลคือวิชาเต๋า เมื่อถูกกระตุ้นและใช้ออกมาจนถึงระดับสูงสุด จะเป็นตอนที่คัมภีร์โกลาหลสูญกลายเป็นความจริง
คัมภีร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสิบคัมภีร์นภาแรกเริ่มของการสืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ เป็นคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตซึ่งอยู่ในอันดับแรกของสิบคัมภีร์อย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนการสืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ตรงกันข้ามกัน คัมภีร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสิบมหาวรยุทธ์ ก็คือคัมภีร์โกลาหลสูญ ซึ่งเป็นลำดับสุดท้ายของสิบคัมภีร์ สามารถฝึกฝนจนได้ความสามารถในการทำลายความโกลาหล
เมื่อใช้วิชานี้ การสรรสร้างจะหายไป ความโกลาหลดับสูญ กำเนิดโลกใบใหม่
คล้ายกับความไร้ขอบเขตของต้นกำเนิดตรงนี้ นี่ก็เป็นวิชาที่มีหนึ่งไม่มีสองเช่นกัน
ตอนที่เทวกษัตริย์รัตนะวิเศษยังมีชีวิต ไม่มีผู้ใดสามารถฝึกฝนได้
นอกจากเทวกษัตริย์รัตนวิเศษแล้ว มีเพียงแค่เทวกษัตริย์วิเศษคณานับ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสายเหนือพิสุทธิ์ที่ครอบครองผังค่ายกลลงทัณฑ์เซียนฉบับสมบูรณ์ แต่ถึงแม้จะวางค่ายกลลงทัณฑ์เซียนได้ แต่กลับไม่อาจกระตุ้นมันให้ถึงระดับสูงสุด
จนกระทั่งเทวกษัตริย์รัตนวิเศษได้หลุดพ้น คนรุ่นหลังจึงสามารถฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญได้
กระนั้นวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสายเหนือพิสุทธิ์นี้ก็ไม่ทราบว่าสาปสูญไปนานเท่าไร พร้อมกับที่เทวกษัตริย์วิเศษคณานับหายตัวไป และค่ายกลลงทัณฑ์เซียนไร้การสืบทอด
“ขอแค่ไม่ได้ครอบครองผังค่ายกลลงทัณฑ์เซียน หรือไม่ได้ฝึกฝนคัมภีร์กำเนิดโกลาหลสูญ ก็ไม่มีอุปสรรคใดหรือ” หลงเสวี่ยจี้ยืนยันกับเยี่ยนจ้าวเกออีกรอบ
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ถ้าหากข้าคาดเดาไม่ผิด สมควรเป็นเช่นนั้น”
“รากฐานของเขาเป็นคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต หรือว่าคัมภีร์เกิดนภา” หลงเสวี่ยจี้ถามต่อ
เกาเสวี่ยโพใช้สายตาค้นหามองเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน
ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต คัมภีร์แรกเริ่มที่อยู่ในอันดับแรก หรือเป็นคัมภีร์เกิดนภา คัมภีร์อันดับแรกหลังจากต้นกำเนิดได้สร้างโลกขึ้นมา ต่างก็มีความพิเศษยิ่ง
เมื่อใช้พวกมันเป็นพื้นฐาน ยามศึกษาวิชาอื่นๆ วิชาเหล่านั้นจะมีส่วนส่งเสริม ไม่สั่นสะเทือนพื้นฐาน สุดท้ายจะสำเร็จเป็นเซียนได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับรากฐาน
ดังนั้นหากฝึกฝนคัมภีร์นภาสองชนิดนี้ จะเป็นการสืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ที่ไม่อาจสั่นสะเทือน
ต่อให้ฝึกฝนวรยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์มากเท่าไร ก็เปลี่ยนแปลงรากฐานนี้ไม่ได้ นอกเสียจากว่าจะเป็นคัมภีร์โกลาหลสูญ คัมภีร์สุดท้ายสายเหนือพิสุทธิ์
หรือว่าจะเดินบนเส้นทางฝึกสามพิสุทธิ์เหมือนอย่างเยี่ยนจ้าวเกอ
เฉินเฉียนหัวเห็นได้ชัดว่าไม่ได้เดินบนเส้นทางนี้
“ข้าเคยเห็นเฉินเฉียนหัวกับจักรพรรดิแพรงามของโลกซ้อนโลกต่อสู้กัน” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ในตอนที่สู้กัน ขณะที่เผชิญหน้ากับจักรพรรดิเซียนจริงแท้ ส่วนใหญ่แล้วเฉินเฉียนหัวกลับกดข่มและชิงโอกาสได้ก่อน เหมือนกับทราบว่าต่อจากนั้นจักรพรรดิแพรจะลงมืออย่างไร ถึงแม้จากท่าทางแล้ว เขาจะดูออกแค่เรื่องที่กำลังจะเกิดในระยะเวลาสั้นๆ นอกจากนั้นยังไม่ได้แม่นยำชนิดจับวาง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาอย่างไรก็เป็นจักรพรรดิผู้หนึ่ง ส่วนเขายังเป็นแค่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์”
เยี่ยนจ้าวเกอนึกย้อนถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น “ข้อนี้แม้แต่การทำนายก่อนกำเนิดแห่งเหอลั่วก็ใช่ว่าจะทำได้ ถึงแม้จะฝึกฝนการทำนายก่อนกำเนิดแห่งเหอลั่วถึงระดับสูงสุด จะสามารถแก้ไขวิชาของเฉินเฉียนหัวได้ส่วนหนึ่งก็ตาม”
เกาเสวี่ยโพเลิกคิ้วขาวขึ้น “คัมภีร์เกิดนภา”
สิบคัมภีร์นภาแรกเริ่มสายหยกพิสุทธิ์ คัมภีร์อันดับแรกของสามคัมภีร์นภาก่อนกำเนิด คัมภีร์เกิดนภา มันเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนจากไม่มีเป็นมีในตอนแรก เลข ‘หนึ่ง’ เหตุปัจจัยในโลก จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
เพราะให้กำเนิดสรรพสัตว์ จึงสามารถอนุมานได้ถึงเบาะแสของทุกเรื่องราว และต้นสายปลายเหตุมากมาย
หากฝึกฝนจนมีความสำเร็จในระดับสูงสุดจริงๆ ก็แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีเรื่องใดที่ไม่ทราบ ไม่มีเรื่องใดที่ไม่อาจบรรจุ
ทราบถึงทุกเรื่องราวในอดีต และสามารถเหตุถึงความเป็นไปได้มากมายในอนาคต
อนาคตยากคาดเดา มีความเป็นไปได้มากหลาย ไม่มีผู้ใดทราบว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ผลกระทบเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้สภาพการณ์มุ่งไปสู่ทิศทางที่ต่างไปจากเดิม
ดังนั้นต่อให้จะฝึกฝนคัมภีร์เกิดนภา ยามมองอนาคตก็ยังคงมีข้อผิดพลาดอยู่
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ เรื่องราวมากมายก็แทบจะหยั่งรู้ได้ก่อน
ถ้าหากมองอดีต นอกจากเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนน้อยมากๆ แล้ว อดีตก็ไม่มีความลับใดๆ ให้พูดถึงอีก
แน่นอนว่านี่เกี่ยวข้องกับระดับการฝึกปรือของผู้ฝึกฝนอย่างแนบแน่น ยิ่งระดับพลังฝึกปรือสูงส่ง มีความเข้าใจในคัมภีร์เกิดนภาอย่างล้ำลึก เรื่องที่เห็นก็ยิ่งมายิ่งแม่นยำ
เมื่อต่อสู้กับผู้อื่น อานุภาพของคัมภีร์เกิดนภาจะไม่ได้สะท้อนบนการโจมตีหรือการป้องกันตรงๆ ดังนั้นหากพูดถึงพลังโจมตีซึ่งหน้าแล้ว ยังด้อยกว่าคัมภีร์เบิกนภาซึ่งถูกจัดเป็นอันดับสามในสามคัมภีร์ก่อนกำเนิด แต่ก็มีความน่าอัศจรรย์เป็นของตัวเอง
นอกจากการต่อสู้แล้ว ประโยชน์ของคัมภีร์เกิดนภายังมีอีกมากมายนัก
“ถึงแม้ว่าจะหลอมเปลี่ยนร่างแยกศาสนาพุทธร่างหนึ่ง ทว่าเบื้องลึกของเฉินเฉียนหัวจะต้องเป็นสำนักหลักของสำนักเต๋าสายสามพิสุทธิ์แน่” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคาง “ดังนั้นถ้าหากข้าคาดเดาไม่ผิด สมควรเป็นคัมภีร์เกิดนภาอย่างไม่ต้องสงสัย”
………………..