ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1179 ราชันพระพุทธ
“ศิษย์ขอคำนับท่านอาจารย์” เจี่ยหมิงคงสูดหายใจลึก สงบจิตใจ คารวะไปทางภูเขาน้ำแข็ง
อารมณ์บนใบหน้านางกลับคืนสู่ความปกติหลังผ่านไปชั่วพริบตาเดียว
เหมือนกับทั้งหมดที่เยี่ยนจ้าวเกอเห็นเมื่อครู่เป็นภาพลวงตา
เยี่ยนจ้าวเกอหลุบเปลือกตาต่ำ ไม่มีการเคลื่อนไหวเกินเลย
เขาเชื่อว่าจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงจะต้องไม่ยินดีให้คนเห็นลักษณะเมื่อครู่ของนางแน่ ดังนั้นเขาจึงไม่มองดูสิ่งผิดจริยะ ไม่พูดถึงสิ่งผิดจริยะ
‘แต่ว่า..’ เยี่ยนจ้าวเกอพลันเกิดความสงสัย ‘ข้ามองผิดไปใช่หรือไม่ เมื่อครู่ในการเปลี่ยนแปลงชั่วขณะของจักรพรรดินี ถึงกับมี…ความละอายกับความกระสับกระส่ายหรือนี่’
นางละอายใจและกระสับกระส่ายเพราะอะไรกัน
สภาพของกษัตริย์ดาราในตอนนี้เกี่ยวข้องกับนาง เกิดขึ้นเพราะนางหรือ
เยี่ยนจ้าวเกอลอบขมวดคิ้ว พริบตาเดียวในใจเกิดความคิดมากมาย
“ผู้ที่มากับศิษย์ในวันนี้ เป็นลูกหลานของราชันพระศุกร์” ยามนี้เจี่ยหมิงคงพูดกับภูเขาน้ำแข็งด้วยความนอบน้อม
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็สืบเท้าขึ้นด้านหน้าครึ่งก้าว คารวะไปทางภูเขาน้ำแข็ง “ผู้เยาว์เยี่ยนจ้าวเกอ ปู่คือเยี่ยนซิงถาง วันนี้ตั้งใจมาพบกษัตริย์ดารา”
“คนรุ่นหลังของซิงถางหรือ” เสียงนั้นมั่นคงดุจเดิม น้ำเสียงไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ภูเขาน้ำแข็งใหญ่ยักษ์สั่นไหวเล็กน้อย ชั้นน้ำแข็งที่ตีนเขาพลันเปิดออก เผยให้เห็นประตูทางเชื่อมสายหนึ่ง
“เข้าไปเถอะ” เจี่ยหมิงคงพูดกับเยี่ยนจ้าวเกอ “หลังจากได้ทราบว่าลูกหลานของราชันพระศุกร์ปลอดภัยไร้เรื่องราว ท่านอาจารย์ดูดีใจมาก ต้องการพบเจ้า”
เยี่ยนจ้าวเกอประหลาดใจเล็กน้อย “จักรพรรดินีไม่เข้าไปด้วยกันหรือ”
“ข้ายังไม่เข้าใป เจ้าเข้าไปคนเดียวก็พอ เดินไปตามทางเส้นทางใต้ภูเขาน้ำแข็งก็จะพบอาจารย์เอง” เจี่ยหมิงคงพูดขึ้นหลังจากเงียบงันเล็กน้อย
“…ตกลง จักรพรรดินี ไว้พบกัน” เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้พูดอะไรมาก พยักหน้าเล็กน้อย แล้วหมุนกายเดินเข้าไปในถ้ำทันที
กระนั้นถึงเขาจะลงมาแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอกลับระวังตัวขึ้น
ในพริบตาที่เจี่ยหมิงคงปฏิเสธเมื่อครู่ เขารู้สึกได้รางๆ ว่าอารมณ์ของอีกฝ่ายคล้ายมีความแปรปรวนเล็กน้อย
นี่ไม่ปกติอย่างชัดเจน
เรื่องราวผิดปกติย่อมมีเลศนัย เยี่ยนจ้าวเกอพลันรู้สึกว่าบันไดที่สร้างขึ้นจากน้ำแข็ง และแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้าใต้ฝ่าเท้า เปลี่ยนเป็นสั่นไหวขึ้นมา
‘เฮ้ยๆๆๆ! เป็นกษัตริย์ดาราจัดการข้า หรือท่านจัดการข้า หรือบอกว่า..ท่านคิดจัดการกษัตริย์ดารา’ เยี่ยนจ้าวเกอโอดครวญในใจ
ที่แล้วมาเขาไม่กลัวการใช้ความคิดในแง่ร้ายที่สุดคาดการณ์คนอื่นๆ ตอนนี้ย่อมคิดแผนการไว้มากมาย
แต่พอคิดไปคิดมา กลับไม่มีเบาะแสแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายมีความคิดเช่นนี้
จะบอกว่าพวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวกับกษัตริย์ดินก็ไม่ถูกต้อง ด้วยนิสัยของจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคง ถ้าหากนางสนับสนุนกษัตริย์ดิน คงจะไสม้าออกมาลงมือกับเยี่ยนจ้าวเกอตั้งแต่แรกแล้ว
เครื่องหมายคำถามปรากฏในห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอ ‘กษัตริย์ดารากำลังสะกดอะไรอยู่ จักรพรรดินีไม่อยากให้เขาอยู่ที่นี่ตลอดไป ดังนั้นจึงให้ข้าเป็นผีตายแทน รับปัญหาเหล่านี้แทนนางหรือ ข้าเป็นตัวโชคร้ายที่ถูกเลือกผู้นั้นหรือนี่…แต่ก็ไม่เหมือนจะเป็นเช่นนั้น…’
ในใจของเยี่ยนจ้าวเกอเกิดความคิดสับสนวุ่นวาย แต่เปลือกนอกของเขาไม่แสงอารมณ์ เดินผ่านทางเชื่อมด้านในภูเขาน้ำแข็งอย่างมั่นคงทีละก้าวจนถึงใต้นภูเขาน้ำแข็ง
พอมาถึงที่นี่ โลกซึ่งมืดมิดมาโดยตลอดพลันมีแสงสว่าง เหมือนกับเบิกฟ้าผ่าดิน แสงสว่างแรกเริ่มสาดส่องทั่วทั้งโลก
เยี่ยนจ้าวเกอมองดูอย่างละเอียด เห็นสุดปลายทางเชื่อมเป็นประกายใสแจ๋ว กลับเป็นน้ำแถบใหญ่ที่กว้างใหญ่ไพศาลไม่รู้กี่เท่า เหมือนกับมหาสมุทรอย่างไรอย่างนั้น
มหาสมุทรใต้ภูเขาน้ำแข็ง กลางธารน้ำแข็ง!
เยี่ยนจ้าวเกอเหยียบลงบนผิวน้ำ เดินบนทะเลน้ำแข็ง เคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง เห็นไกลออกไปมีเสาน้ำแข็งหยาบใหญ่ต้นหนึ่ง เหมือนกับเสาค้ำฟ้า ด้านล่างจมลงไปในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ด้านบนคือแผ่นน้ำแข็งที่เหมือนกับท้องฟ้า
เสาน้ำแข็งต้นหนึ่งเจาะทะลุเขาน้ำแข็ง ไปจนถึงขั้นน้ำแข็งที่อยู่ลึกกว่าของก้นทะเล เชื่อมต่อกับธารน้ำแข็งทั้งหมด เหมือนกับแกนกลาง
เงาคนสายหนึ่งบัดเดี๋ยวปรากฏบัดเดี๋ยวสูญหายในเสาน้ำแข็ง
เยี่ยนจ้าวเกอเข้าไปใกล้ จากนั้นก็เงยหน้ามองไป แต่เนื่องจากกั้นไว้ด้วยชั้นน้ำแข็งที่มัวซัวพร่าเลือน ทำให้เขามองไม่เห็นรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่าย
ชั้นน้ำแข็งย่อมไม่อาจกั้นสายตาของเยี่นจ้าวเกอ สิ่งที่ก่อให้เกิดทุกอย่างนี้คือพลังของยอดฝีมือระดับเซียนซึ่งแช่แข็งชายฝั่งยมโลก และผนึกเส้นทางของนพยมโลกของอีกฝ่าย
“ลูกหลานของซิงถางหน้าตากลับไม่คล้ายซิงถาง เป็นเพราะเมฆแปลงกำเนิดเป็นเหตุหรือ”
เสียงดังมาจากในเสาน้ำแข็ง จากนั้นก็เห็นเงาคนเปลี่ยนเป็นแจ่มชัดขึ้นมา
บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งที่รูปลักษณ์ภายนอกมองไปมีอายุไม่เกินยี่สิบกว่าปี อยู่ในวัยเดียวกันกับเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ระหว่างดวงตาทั้งสองข้างกับแฝงความโชกโชน
องคาพยพของคนผู้นี้เมื่อแยกกันมองคล้ายไม่โดดเด่น แต่เมื่อรวมกันกลับกอปรเป็นใบหน้าที่เปี่ยมเสน่ห์ ทำให้ผู้คนลุ่มหลงลืมตัว
เขาสวมเสื้อคลุมยาวสีฟ้า ภายนอกปักลายสีขาว ผมยาวสีขาวราวกับหิมะระอยู่ด้านหลัง สงบนิ่งเงียบขรึมเหมือนน้ำแข็ง
ถึงอีกฝ่ายจะอยู่ในเสาน้ำแข็ง เหมือนกับถูกแช่แข็ง แต่ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาชัดเจน
แม้จะได้เห็นตัวจริงเป็นครั้งแรก ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอเคยเห็นภาพเหมือนเงาแสงของเขามานานแล้ว
คนที่อยู่เบื้องหน้าเขาคือกษัตริย์ดารา ผู้ได้รับการขนานนามเป็นสามกษัตริย์บนโลกซ้อนโลกเหมือนกษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นลับ ก่อนหน้ากษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ย
อดีตหนึ่งในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ เฉินเสวียนจง ราชันพระพุทธ!
“คำนับกษัตริย์ดารา” เยี่ยนจ้าวเกอคารวะกษัตริย์ดารา
กษัตริย์ดารามีท่าทีสงบนิ่ง ไร้สภาวะกดข่มผู้คนของยอดฝีมือที่สั่นสะท้านจิตใจผู้คน เพียงแต่พิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า “เจ้าคือหลานของซิงถาง เมฆแปลงกำเนิดนั่นสมควรเป็นของบิดาเจ้าแล้ว บิดาเจ้ายังมีชีวิตอยู่กระมัง”
เมื่อได้ยินดังนั้น จิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอสั่นไหวเล็กน้อย เพราะคำกล่าวนี้ของกษัตริย์ดาราเหมือนกับแสดงให้เห็นว่าเขาเพิ่งได้ฟังเรื่องของเยี่ยนตี๋และเยี่ยนจ้าวเกอ ทว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้รับรู้
พิธีเปิดสำนักเขากว่างเฉิงห่างจากวันนี้หลายปีแล้ว แต่ว่าไม่มีคนบอกสถานการณ์ของเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกกับกษัตริย์ดารา
กษัตริย์เร้นลับเข้าฌาน กษัตริย์ดินและกษัตริย์กระบี่ยังไม่กลับ
ประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงอยากจะตัดที่พึ่งพิงของเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกออกไปใจจะขาด
แล้วจักรพรรดินีเล่า
‘เจอกันแต่ไม่ได้บอก หรือว่าหลายปีมานี้จักรพรรดินีไม่ได้พบกษัตริย์ดารา วันนี้ที่มากับข้าเป็นครั้งแรกในช่วงนี้’
เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งคิด ทางหนึ่งบอกเล่าสถานการณ์ของตัวเองและเยี่ยนตี๋ผู้เป็นบิดา รวมถึงเรื่องราวที่ได้พบเจอบนโลกซ้อนโลกในช่วงนี้ให้แก่กษัตริย์ดาราฟัง
ถึงแม้ไม่มีเมฆแปลงกำเนิดเป็นหลักฐาน แต่ในเมื่อเป็นจักรพรรดินีพาคนมา กษัตริย์ดาราก็ไม่ได้สงสัยว่าสถานะของเยี่ยนจ้าวเกอเป็นของจริงหรือของปลอม
เขาพูดไม่มาก เพียงถามเป็นบางครั้ง รอให้คำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอจบลงสักพักหนึ่งก่อนจึงค่อยเอ่ยปาก ส่วนใหญ่รับฟังอย่างสงบ
ในตอนท้าย หลังจากรอให้เยี่ยนจ้าวเกอพูดจบ เขาจึงค่อยพยักหน้าเอ่ยว่า “ซิงถางมีลูกหลาน ข้ารู้สึกยินดียิ่งถ้าสหายร่วมเส้นทางตี๋ทางมรกตท่องฟ้าที่อยู่ในปรโลกได้ล่วงรู้ก็คงจะวางใจเช่นกัน”
“น่าเสียดายที่ท่านปู่กับท่านย่าจากโลกไปไว ผู้เยาว์กับบิดาไม่อาจตอบแทนบุญคุณได้” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเสียงเบา
กษัตริย์ดาราพิจารณาเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง “จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย ถึงแม้จะมีกระบี่เปิดกำเนิดอยู่ในมือ แต่สามารถฆ่าหวังเจิ้งเฉิงที่มีภาพภูผาธาราโบ่วกี้คุ้มครองได้ ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ”
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ขานรับ รอการตัดสินของกษัตริย์ดาราอย่างสงบ
………………..