ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1194 ไม่พบคนอื่นได้ ไม่พบข้าไม่ได้
ที่แล้วมากษัตริย์เร้นลับหยางเซ่อ ราชันพระเกตุ อดีตหนึ่งในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ถูกจัดอยู่ในสามกษัตริย์ของโลกซ้อนโลกหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ มีชื่อเสียงขจรขจาย
แต่ว่าสำหรับคนส่วนใหญ่รวมถึงเยี่ยนจ้าวเกอ ต่างก็รู้แค่ว่าเขามีชื่อเสียงมานาน แต่กลับขาดความเข้าใจมากมาย
ในเวลาส่วนใหญ่ ความรู้สึกของการดำรงอยู่ของกษัตริย์ผู้นี้ยังสู้ห้าจักรพรรดิไม่ได้
หากนึกทบทวนถึงอดีต ผู้คนต่างค้นพบอย่างตกใจ เพราะคิดไม่ออกว่ายอดฝีมือระดับเซียนลี้ลับผู้นี้เคยมีวีรกรรมน่าตกตะลึงอะไรบ้าง
ความเคารพที่มีต่อเขา คล้ายแค่มาจากอิทธิพลที่เกิดขึ้นจากระดับพลังฝึกปรือของเขาเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นยุคที่เก้านพเคราะห์ส่องแสงเจิดจรัสบนโลกซ้อนโลกเมื่อหลายพันปีก่อนพร้อมกัน หรือว่าเป็นวันเวลาที่สามกษัตริย์ยืนเคียงข้างกันบนโลกซ้อนโลกในกาลต่อมา กษัตริย์เร้นลับคล้ายเป็นเงาสายหนึ่งที่ไร้สุ้มเสียง ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังคนอื่นๆ
เหมือนกับมีแต่ตอนพูดถึงนิยามเชิงหมู่คณะเช่นเก้านพเคราะห์คุนหลุน หรือสามกษัตริย์โลกซ้อนโลก ทุกคนจึงค่อยคิดถึงการดำรงอยู่ของยอดฝีมือท่านนี้
นอกจากนี้แล้ว ในเวลาอื่นๆ ผู้คนคิดไม่ออกว่าเขามีผลการรบที่โดดเด่นอันใด หรือเรื่องราวที่มีเกียรติอันใด
มีคำพูดโบราณว่าไว้ ผู้ชาญศึกไร้ผลการรบโดดเด่น
แต่การเก็บตัวเงียบเชียบมาหลายพันปีเหมือนกับกษัตริย์เร้นลับ ก็ออกจะสงบเสงี่ยมเกินไป
ภาพประทับใจที่ผู้คนมีต่อเขา คล้ายเหลือแค่การเร้นกายและการเข้าฌาน รวมถึงการมีความคิดคล้อยตามกษัตริย์ดิน แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่เคยมองข้ามกษัตริย์ที่มีความรู้สึกของการดำรงอยู่เบาบางผู้นี้
ยังไม่พูดถึงว่าเป็นเซียนลี้ลับผู้หนึ่ง ที่ขอแค่ยืนอยู่เฉยๆ ไม่ได้พูดอะไรก็มีพลังการคุกคามมหาศาลแล้ว
พอคิดถึงกษัตริย์เร้นลับ เยี่ยนจ้าวเกอก็นึกถึงเรื่องราวในอดีต
ครั้งกระโน้นในตอนที่งัดข้อกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์บนโลกแปดพิภพ ยอดฝีมือระดับแกนกลางของอีกฝ่ายถูกเรียกว่าเจ็ดสุริยัน
ในเจ็ดสุริยัน จรัสแสงที่เป็นผู้นำของคนทั้งเจ็ด มีพลังฝึกปรือแข็งแกร่งที่สุด แต่คนที่ถูกจัดอยู่อันดับหนึ่ง กลับเป็นแสงรัตติกาลที่สงบเสงี่ยมที่สุด เงียบเชียบที่สุด
สาเหตุที่แสงรัตติกาลเก็บเนื้อเก็บตัว ความจริงเป็นเพราะเขารับผิดชอบงานสกปรกในที่ลับ เป็นผู้รับผิดชอบที่ปกครองโลกมืดของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเปลือกนอกจึงสงบเสงี่ยมยิ่ง
แต่ในเมื่อสามารถจัดการงานสกปรกทุกรูปแบบได้ พลังย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอไม่แน่ใจว่ากษัตริย์เร้นลับใช่เป็นคนประเภทเดียวกับแสงรัตติกาลในตอนนั้นหรือไม่
เป็นเพราะเขาทราบว่าคนที่ถนัดการทำงานอย่างลับๆ เช่นการลอบสังหารมากที่สุดในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ ก็คือราชันพระราหูเจี่ยนซุ่นหัว
ทว่าราชันพระเกตุหยางเซ่อจะต้องไม่ใช่บุคคลธรรดดาอย่างแน่นอน
การคิดว่าเขาเข้ามาอยู่ในเก้านพเคราะห์เพื่อถมจำนวนให้เต็ม นั่นไม่ใช่เป็นการดูถูกเขา แต่เป็นการดูถูกคนอื่นๆ เช่นพวกเกาหาน เจี่ยเซิ่น และเยี่ยนซิงถาง
เยี่ยนจ้าวเกอเหาะเหินระหว่างเขาคุนหลุน ข้ามขุนเขามากมาย
เมื่อมองไกลออกไป ระหว่างกลุ่มเขาค่อยๆ ปรากฏหุบเขาแห่งหนึ่ง ภายนอกมองไปไม่สะดุดตา แต่ว่าสามารถสัมผัสได้ว่าปราณวิญญาณอันเต็มเปี่ยมในหุบเขาปรากฏออกมาไม่ขาดสายดุจคลื่นทะเล
ที่นั่นเป็นนิวาสสถานและที่บำเพ็ญของกษัตริย์ดารา หนึ่งในอาณาเขตหลักทั้งสามที่มีอำนาจสูงสุดในปัจจุบันของโลกซ้อนโลก หุบเขาเซียนเร้นกาย
กษัตริย์เร้นลับไม่ได้รับลูกศิษย์ หุบเขาเซียนเร้นกายเหมือนกับพฤติการณ์ของเขา เปล่าเปลี่ยวเงียบเชียบ ปกติแล้วมีแค่ทารกรับแขกไม่กี่คนที่คอยดูแล
ทว่าวันนี้ที่นี่ยากจะสงบต่อไปได้อีก
ตอนนี้คนหนุ่มผมขาวกำลังยืนมองดูหุบเขาเบื้องหน้าอยู่ด้านนอก…เป็นกษัตริย์ดารา เฉินเสวียนจง
ทารกผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงปากหุบเขา ใบหน้าลำบากใจ คำนับและกล่าวว่า “ประมุขเซียนกำลังเข้าฌาน ไม่อาจพบแขกได้จริงๆ ท่านผู้นี้…”
“เข้าฌานได้ก็ออกฌานได้” กษัตริย์ดาราพูดอย่างราบเรียบ “คนอื่นๆ สหายร่วมเส้นทางหยางไม่พบยังพอว่า แต่วันนี้ข้ามาถึง สหายร่วมเส้นทางหยางเพียงสมควรโผล่หน้ามา เขาให้ข้ารอมามากกว่าพันปีแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องไปแจ้ง สหายร่วมเส้นาทงหยางจะทราบเองว่าข้ามาแล้ว”
ทารกส่งสารตาลาย เห็นหุบเขาที่เหมือนมีสี่ฤดูเป็นวสันต์ฤดู ตอนนี้ถึงกับกลายเป็นฟ้าน้ำแข็งแดนหิมะ!
เมื่ออยู่ในโลกหิมะน้ำแข็งใบนี้ เหล่าทารกกลับไม่รู้สึกได้ถึงความเย็น แต่พอเพ่งตามองไป มวลหมู่พฤกษาล้วนกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็ง ไม่ใช่ภาพลวงตา
หิมะและน้ำแข็ง ไม่ปรากฏไอความเย็นแม้แต่น้อย นี่ไม่ใช่แสดงว่าทุกสิ่งนี้เป็นภาพลวงความรู้สึกหลอน แต่เป็นเพราะว่าอุณหภูมิของฟ้าดินรอบๆ หุบเขาเซียนเร้นกายตกลงอย่างรวดเร็ว จนหนาวเสียดแทงกระดูก
นอกจากทารกไม่กี่คนที่มีหน้าที่ดูแลในหุบเขาแล้ว ร่องรอยสิ่งมีชีวิตทุกอย่างต่างมลายไปหมดสิ้น กลายเป็นความเงียบงันวังเวงในชั่วพริบตา
แสงอาทิตย์ที่อยู่บนท้องฟ้ายังเปลี่ยนเป็นหนาวสะท้าน
แดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดบนโลกซ้อนโลก ขณะนี้เหมือนกับผลึกน้ำแข็งเปราะบางก้อนหนึ่ง พร้อมจะแหลกสลายได้ทุกเวลา
“สหายร่วมเส้นทางหยาง ต่อให้ก่อนหน้านี้ท่านเข้าฌานปิดตาย ตอนนี้ก็สมควรรู้สึกตัวแล้ว” กษัตริย์ดารากล่าวอย่างราบเรียบ “ถ้าหากท่านได้รับบาดเจ็บเพราะการรบกวนนี้ ข้าขออภัยอย่างสุดซึ้ง แต่เรื่องในวันนั้นติดค้างในใจข้ามานับพันปี วันนี้จะต้องถามไถ่ให้กระจ่าง”
วันนี้เขาตั้งใจมาก่อกวนอยู่แล้ว ย่อมไม่กริ่งเกรงว่าอีกฝ่ายจะเข้าฌานหรือไม่
เสียงเพิ่งขาดลง หิมะน้ำแข็งที่ปกคลุมหุบเขาเซียนเร้นกายพลันเริ่มสลายไปอย่างไร้สุ้มไร้เสียง
ไม่เห็นหิมะน้ำแข็งละลาย แต่ว่าระเหยไปเฉยๆ อย่างต่อเนื่อง
ลำแสงสีน้ำเงินเข้มจางๆ สายหนึ่งเข้าปกคลุมหุบเขาเซียนเร้นกายแทน
‘พลังกัดกร่อน…’ เยี่ยนจ้าวเกอเห็นเหตุการณ์นี้ก็พลันกระจ่างแจ้ง “แตกต่างกับพลังกัดกร่อนของราหู นี่เป็นพลังกัดกร่อนของพระเกตุ และเป็นพลังที่ทำลายแสงสว่างขับไล่ความมืด บดขยี้อาทิตย์และจันทรา”
กษัตริย์ดารามองทุกอย่างอย่างเงียบสงบ ไม่ได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
ครู่ต่อมา เสียงหนึ่งก็ดังมาจากหุบเขาเซียนไร้กายที่ถูกปกคลุมอยู่ใต้แสงสีน้ำเงินเข้ม “สหายร่วมเส้นทางเฉิน ไม่เจอกันหลายปี สบายดีหรือ”
“ไม่อาจบอกว่าสบายดี” กษัตริย์ดาราตอบอย่างเฉื่อยชา
ลำแสงสีน้ำเงินเข้มถอยออกไป หุบเขาเซียนเร้นกายปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคนอีกครั้ง
เป็นเพราะการแช่แข็งก่อนหน้านี้ สิ่งมีชีวิตในหุบเขาที่เหมือนมีสี่ฤดูเป็นวสันต์ฤดูจึงทรุดโทรมลง เหมือนกับก้าวสู่เหมันต์ฤดูในชั่วพริบตาเดียว
เงาร่างสายหนึ่งเดินออกมาจากปากหุบเขาทีละก้าว พร้อมกับก้าวย่างของเขา ชีวิตก็ฟื้นคืนมาใหม่
สถานที่ที่เงานี้เดินผ่าน หญ้าสีเขียวดูนุ่มราวฟูกนอนงอกขึ้น ขุนเขาดารดาษด้วยบุปผางาม
เยี่ยนจ้าวเกอมองคนผู้นั้น เห็นรูปร่างภายนอกของเขา คือบุรุษวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบปี องคาพยพพื้นเพธรรมดา รูปลักษณ์ภายนอกไม่โดดเด่น ร่างสูงปานกลาง ไม่มีอะไรสะดุดตา
กล่าวอย่างไม่เกรงใจ ถ้าหากเพียงมองลักษณะภายนอก แล้วนำคนไปอยู่ในฝูงชน จะหาตัวไม่เจอทันที ต่อให้พิจารณาใบหน้าของเขาเนิ่นนาน แค่หมุนตัวก็อาจจะลืมทันทีว่าเขามีหน้าตาอย่างไร
แต่ว่าบุรุษที่มองดูธรรมดาจนไม่น่สนใจผุ้นี้ กลับเป็นเจ้าของหุบเขาเซียนเร้นกายตรงหน้า…กษัตริย์เร้นลับหยางเซ่อ
ราชันพระเกตุที่ในอดีตได้รับการจัดอยู่ในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ และกำหนดสถานการณ์ของโลกซ้อนโลกในปัจจุบันพร้อมพวกเฉินเสวียนจง เยี่ยนซิงถาง และเซ่าจวินหวง
หนึ่งในคนที่มีอำนาจและพลังมากที่สุดบนโลกซ้อนโลกในขณะนี้
“ในเมื่อรอมาพันปีแล้ว ไฉนตอนนี้จึงรีบร้อน” กษัตริย์เร้นลับยิ้มอย่างเป็นมิตร น้ำเสียงสงบนิ่ง ไม่อนาทรร้อนใจ
กษัตริย์ดารามองคนตรงหน้าอย่างสงบนิ่ง เหมือนกับเพิ่มรู้จักเป็นครั้งแรก พิจารณาอยู่เนิ่นนาน
ผ่านไปสักพักเขาค่อยเปิดปาก เอ่ยอย่างแช่มช้าว่า “เป็นเพราะการรอคอยนับพันปีนี้ไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ แค่ครู่เดียวก็ยาวนานเกินไป อย่าว่าแต่พันปีเลย”
………………..