ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1195 เงามืดบนโลกซ้อนโลก
กษัตริย์เร้นลับสบตากษัตริย์ดารา ครู่ต่อมาค่อยยิ้มขึ้น
“สหายร่วมเส้นทางเฉินในใจไม่ใช่ว่ามีคำตอบอยู่แล้วหรอกหรือ” กษัตริย์เร้นลับพยักหน้า “การคาดเดาของท่านไม่ผิดพลาด ในตอนนั้นเป็นข้าหยางเซ่อบอกศิษย์ของท่านเกี่ยวกับสหายร่วมเส้นทางฉู่หวน บิดาของนางจริงๆ”
กษัตริย์ดาราเงียบเสียง จับจ้องกษัตริย์ดาราและไม่พูดอะไรอยู่เนิ่นนาน
เยี่ยนจ้าวเกอได้ฟังอยู่ด้านข้าง กล่าวในใจว่า ‘สหายร่วมเส้นทางฉู่…บิดา…ศิษย์ของท่าน…นั่นหมายถึงบิดาของฉู่หลีหลีแล้ว’
ส่วนใหญ่เขาทราบถึงเรื่องราวในอดีตเพียงครึ่งหนึ่ง เห็นรายละเอียดเล็กน้อยในการสนทนาระหว่างกษัตริย์ดาราและจักรพรรดินี
ครั้งนี้พอได้ฟังคำสนทนาของกษัตริย์เร้นลับและกษัตริย์ดารา เบาะแสที่เผยออกมาแม้จะกระจัดกระจาย แต่ก็ค่อยๆ เชื่อมต่อข่าวสารที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเข้าด้วยกันได้ เหมือนใช้เชือกร้อยเรียงมุก
“ท่านนี้เป็นลูกหลานของสหายร่วมเส้นทางเยี่ยนกระมัง ชื่อก็คือ…เยี่ยนจ้าวเกอ?” ยามนี้กษัตริย์เร้นลับกลับมองมาที่เยี่ยนจ้าวเกอ
“กษัตริย์เร้นลับอยู่ต่อหน้า ผู้เยาว์ขอคารวะ” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือแก่กษัตริย์เร้นลับอย่างเยือกเย็น
“อยากจะเจอพวกเจ้าสองพ่อลูกมานานแล้ว น่าเสียดายที่ก่อนหน้าไม่เคยมีเวลาว่าง จนวันนี้ความปราถนาค่อยเป็นจริง” กษัตริย์ดารากล่าวอย่างไม่รีบไม่ร้อน
เยี่ยนจ้าวเกอสั่นศีรษะ “ข้าก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะได้เจอกษัตริย์เร้นลับในสถานการณ์เช่นนี้”
สายตาของเขาเคลื่อนไปมาระหว่างกษัตริย์เร้นลับและกษัตริย์ดารา “ยิ่งคิดไม่ถึงว่าพอฟังความหมายในวาจาของพวกท่านเมื่อครู่ ถึงกับเป็นท่านที่ทำให้กษัตริย์ดาราต้องไปแช่แข็งเขตแดนด้านนอกนับพันปี…”
นี่ทำให้โลกซ้อนโลกในตอนนั้นสูญเสียยอดฝีมือระดับเซียนลี้ลับผู้หนึ่ง สำหรับสำนักเต๋าที่เจริญรุ่งเรืองหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่แล้ว ไม่ต่างจากการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
ถ้าไม่ใช่เพราะกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยผงาดขึ้น เติมเต็มที่ว่างอย่างรวดเร็ว สถานการณ์สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิบนโลกซ้อนโลกก็คงยากจะรักษาได้ต่อ
ถึงแม้ว่ากษัตริย์เร้นลับจะแสดงท่าทีน้อยครั้ง แต่ว่าที่แล้วมาเป็นการพัฒนาอย่างมั่นคง เพื่อให้สำนักหลักสามพิสุทธิ์รุ่งเรืองอีกครั้ง ซึ่งอยู่ในเส้นทางเดียวกับกษัตริย์ดิน
การกระทำแบบนี้เหมือนมีความขัดแย้งกับพฤติการณ์ของคนผู้นี้
“แช่แข็งเขตแดนด้านนอกพันปี ไม่ได้หมายความว่าเสียชีวิตหรือร่วงหล่นเป็นมาร” กษัตริย์เร้นลับกล่าวอย่างเรียบเฉย “ในตอนที่สภาพการณ์เร่งด่วน สามารถช่วยสหายร่วมเส้นทางเฉินออกมาได้ตลอดเวลา”
กษัตริย์ดารากล่าวอย่างเย็นชา “วิธีของหมิงคงเรียนมาจากท่านนี่เอง”
การศึกษาวิชาสะกดมารในอดีต หลักๆ แล้วมีกษัตริย์ดาราและกษัตริย์เร้นลับรับผิดชอบร่วมกัน
ถึงแม้จักรพรรดินีจะเป็นลูกศิษย์ของกษัตริย์ดารา แต่ไม่ได้ศึกษาทางด้านนี้มากนัก พิธีกรรมที่นางใช้ก่อนหน้านี้แยบยลล้ำเลิศ ในสถานการณ์ที่กษัตริย์ดาราถูกเหล่ามารดึงดูดความสนใจ ก็ได้แต่ปล่อยให้นางดำเนินพิธี
ถ้าไม่ใช่เพราะกษัตริย์ดาราลอบรั้งเยี่ยนจ้าวเกอให้มาสอดมือกลางคัน ผลลัพธ์จะต้องเป็นฉู่หลีหลีที่อยู่ในมรกตท่องฟ้าต้องแบกรับตรามารเพียงคนเดียว
“ดูจากสีหน้าของสหายร่วมเส้นทางเฉิน คล้ายทิศทางของเรื่องราวไม่ปรกติ” กษัตริย์เร้นลับบนใบหน้าตอนนี้ฉายแววขบคิด “เป็นสหายน้อยฉู่แบกรับตรามารคนเดียว แต่ไม่ได้กลายเป็นมารหรือ”
“แต่ก็น่าจะไม่ใช่เช่นนั้น วันนี้ถึงแม้นางจะได้ผลักเปิดประตูเซียน แต่ก็ยังไม่อาจป้องกันการกลับมาของมารน้ำกุ่ยคนเดียวได้ ถ้าหากนางกลายเป็นมาร แต่หลบรอดการเข่นฆ่าของมรกตท่องฟ้าและหนีรอดได้ สหายร่วมเส้นทางเฉินท่านเกรงว่าจะไม่ได้มีท่าทีผ่อนคลายเช่นนี้” สายตาของกษัตริย์เร้นลับมองรอยแผลบนหน้าผากของกษัตริย์ดารา “รอยแผลเป็นของท่านนี้…”
กษัตริย์ดารากล่าวอย่างเรียบเฉย “เรื่องมาถึงขั้นนี้ แผนการในตอนแรกของท่านล้มเหลวแล้ว แต่ความสงสัยในใจของข้ายังคงไม่ได้รับการแถลงไข ถึงข้าและท่านจะไม่ได้มีการคบหากันมากนัก แต่ก็นับว่าร่วมเส้นทางเดียวกัน ในตอนนั้นไม่มีความแค้น ไฉนท่านจึงวางแผนเล่นงานข้า ท่านต้องการให้ข้าสังหารหลีหลี ตัดเส้นทางคืนชีพของมารน้ำกุ่ยหรือ?”
กษัตริย์เร้นลับยิ้มขึ้น “ถ้าหากแค่ต้องการฆ่าสหายน้อยฉู่ ข้าผู้แซ่หยางลงมือด้วยตัวเองก็ได้ไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ไม่มีโอกาสเสียหน่อย ข้าดูออกว่า ท่านคิดปกป้องบุตรีของฉู่หวน ด้วยการศึกษาและวิจัยของพวกเราในตอนนั้น ถ้าหากท่านกลายเป็นมาร ด้วยนิสัยของท่านจะต้องเลือกสละร่างของตัวเองเพื่อแบกรับแทนนางแน่ ถึงอย่างไรท่านก็เป็นร่างสถิตมารน้ำกุ่ยที่เหมาะสมยิ่งกว่านาง”
“ดังนั้น เป้าหมายในตอนแรกของท่านเดิมทีเป็นข้า” กษัตริย์ดาราเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างสงบ
เนิ่นนานให้หลัง กษัตริย์ดาราพลันเอ่ยว่า “ครั้งนั้น ที่ท่านทำตัวแปลกๆ ไป ข้าไม่ได้ทายผิดจริงๆ”
กษัตริย์เร้นลับเงียบงันสักพักหนึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “สหายร่วมเส้นทางเฉิน ท่านความรู้สึกไวนัก ดังนั้นข้าถึงได้แต่เชิญให้ท่านออกจากโลกซ้อนโลก เพื่อหาเวลาบ่มเพาะเพิ่ม”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้นก็พลันหรี่ตาลง
เขามองกษัตริย์ดารา ฝ่ายกษัตริย์ดารากล่าวอย่างแช่มช้า “ฟู่แพรงามแห่งยอดเขาอัศจรรย์ ศิษย์หลานของนักพรตเสวียนจง ข้าได้ทราบเรื่องที่เขาได้เจอแล้ว ตอนนั้นข้าเพียงแค่สงสัย วันนี้จึงค่อยทราบว่าท่านเตรียมเล่นงานผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ไว้แต่แรกแจริงๆ ภัยพิบัติที่ฟู่แพรงามประสบในวันนี้เป็นฝีมือของท่าน”
“สายสืบทอดของนักพรตเสวียนจง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์เหมือนอย่างพวกเรา เป็นผู้สืบทอดสายสายเอกพิสุทธิ์ ทว่าในสามพิสุทธิ์สายหลักของเรา ฟู่แพรงามเป็นบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในสายสืบทอดของพวกเขา ท่านวางแผนเล่นงานเขา เพราะอะไรกันแน่”
พอฟังถึงตรงนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็พ่นลมหายใจยาว
ความสงสัยที่ติดค้างในใจมาเนิ่นนาน วันนี้ได้รับคำตอบแล้ว
จักรพรรดิแพรถูกคนเล่นงานจริงๆ
ในตอนแรกเยี่ยนจ้าวเกอประหลาดใจทีเดียว เพราะว่าด้วยพลังฝึกปรือของจักรพรรดิแพร จะเกิดช่องโหว่ใหญ่โตในเส้นทางการฝึกฝนได้อย่างไร
ในลำดับการเปลี่ยนแปลงเดินทั่วสวนบุปผาเพื่อตามหาคนรักเพียงหนึ่ง นอกจากฟู่ถิงแล้ว ถึงกับมีเมิ่งหว่านที่เป็นบุตรีอีกคนเพิ่มมา จึงทำให้รากฐานเส้นทางแทบพังทลาย
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ ก่อนที่จะได้พบเจอเมิ่งหว่าน ตัวจักรพรรดิแพรถึงกับไม่รู้สึกถึงเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง
ไม่เพียงแค่เดินผิดทาง ตัวเองยังไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย
นี่น่าเหลือเชื่อเกินกว่าจะเป็นข้อผิดพลาดในการฝึกฝนเพียงอย่างเดียวเสียอีก
จักรพรรดิเซียนจริงแท้ที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนมีร่างไร้ช่องโหว่ ถึงกับให้กำเนิดบุตรีอีกคนในสถานการณ์ที่ตนไม่สัมผัสไม่ได้อย่างนั้นหรือ
อย่าว่าแต่จักรพรรดิแพร ไม่ว่าจะเป็นจอมยุทธ์ที่สำเร็จด้านวรยุทธ์คนใด คิดจะเหลือเมล็ดพันธุ์ไว้หรือไม่ล้วนเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ นอกเสียจากจะถูกคนดูดพลัง แต่หากบอกว่าหลิวเซี่ยนถิง มารดาของเมิ่งหว่านสามารถดูดพลังของจักรพรรดิแพรได้ เช่นนั้นยิ่งเป็นเรื่องเหลวไหล
ทว่าถ้าหากด้านหลังมีเงาร่างของกษัตริย์เร้นลับอยู่ ก็ยากจะบอกแล้ว
“ฟู่แพรงามเป็นอัจฉริยะบุรุษที่หายากอย่างแท้จริง น่าเสียดายที่เขาเดินผิดเส้นทางมาตั้งแต่แรก” กษัตริย์เร้นลับตอบอย่างเฉื่อยชา “เป็นเพราะแรงกดดันจากทวนพระอังคาร เขาจึงกระหายที่จะผลักเปิดประตูเซียน คิดถึงผลประโยชน์เฉพาะหน้า มอบโอกาสให้คนฉกฉวยเข้ามา
กษัตริย์เร้นลับพูดพลางยิ้ม “พวกเราต่างทราบดี ว่าที่ฟู่แพรงามกลายเป็นเซียนได้ ล้วนเป็นเพราะโชคช่วย ในนี้ยังมีเหตุอัศจรรย์บางประการ”
“ฉกฉวยเข้ามา?” กษัตริย์ดาราขมวดคิ้ว “ท่านหมายถึง…”
กษัตริย์เร้นลับมองเยี่ยนจ้าวเกอแวบหนึ่ง ยิ้มกล่าว “ไม่จำเป็นต้องปิดบัง สหายน้อยเยี่ยนผู้นี้ในครั้งกระโน้นได้ไปถึงโถงเซียนพร้อมกับบุตรีคนโตของฟู่แพรงาม ได้ยินชื่อของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณมาตั้งแต่แรก”
กษัตริย์ดาราได้ยินดังนั้น สีหน้าพลันแปรเปลี่ยนเล็กน้อย
“กษัตริย์ดาราไม่ต้องเป็นห่วง รายละเอียดผู้เยาว์ค่อยบอกในภายหลัง” เยี่ยนจ้าวเกอขยิบตาให้เขาสงบจิตใจ
กษัตริย์เร้นลับมองเหตุการณ์นี้อย่างสนใจ กล่าวต่อว่า “สหายร่วมเส้นทางเฉินท่านเดาไม่ผิด เป็นโถงเซียนลอบลงมือ ที่ฟู่แพรงามผลักเปิดประตูเซียนได้เร็ว ล้วนเป็นเพราะพวกเขาช่วยเหลือ น่าเศร้าที่ตอนนั้นฟู่แพรงามยังงมงายเลอะเลือน คิดว่าเป็นเพราะเขามีวาสนาล้ำลึกและโชคดีล้นฟ้า ทว่าพอถูกธาตุไฟเข้าแทรกในตอนนี้ เขาเกิดการสะท้อนวิญญาณตัวเองอย่างทะลุทะลวงชนิดไม่เคยมีมาก่อน สมควรทราบแล้วว่าวาสนาในตอนนั้นมีปัญหา”
………………..