ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1197 กษัตริย์ดาราขวางประตู
ม่านแสงสีน้ำเงินมืดมัวเหมือนกับเหวลึกไร้สิ้นสุดบนพื้นดิน ไอความเย็นที่เย็นยะเยือกหายเข้าไปด้านใน ไม่มีการตอบกลับ เหมือนหินจมสู่มหาสมุทร
“ถึงแม้ภูมิประเทศของข้าจะหยาบ แต่ว่าชัยภูมิก็ยังนับว่าเป็นชัยภูมิ เหมือนที่สหายร่วมเส้นทางเฉินกล่าวเมื่อครู่ ท่านมีสะบั้นคลื่นเย็นเยือก ข้ามีพัดบดบังฟ้า” เสียงของกษัตริย์เร้นลับดังมา “ข้าผู้แซ่หยางขอนั่งอยู่เฉยๆ ไม่ขอออกไปอีก หากสหายร่วมเส้นทางเฉินคิดเข้ามากลับต้องล้มเหลว โลกภายนอกกว้างใหญ่ไพศาล พวกท่านจะทำอะไรก็ทำไป ข้าผู้แซ่หยางเพียงเฝ้าฟ้าดินเล็กๆ แห่งนี้ก็พอ”
ปฏิกิริยาของกษัตริย์เร้นลับทำให้เยี่ยนจ้าวเกอกับกษัตริย์ดาราเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง
“หยางเซ่อ…” กษัตริย์ดาราขมวดคิ้ว กลับไม่คิดลงมือ เก็บดาบหักหยกขาว มองหุบเขาเซียนเร้นกาย “ท่านวางแผนอะไรอยู่กันแน่”
กษัตริย์เร้นลับหัวเราะเบาๆ กล่าว “ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าไม่คิดจะรอความช่วยเหลือ แม้ว่าพี่ร่วมเส้นทางเจี่ยงจะกลับมา ข้าและท่านถ้าหากสู้กัน ก็จะไม่ให้เขามายุ่งด้วย การต่อสู้นี้นับว่าข้าติดค้างท่าน ค่อยใช้คืนทีหลัง รอถึงตอนนั้นเมื่อเราท่านต้องสู้กัน ข้าผู้แซ่หยางจะสนองสหายร่วมเส้นทางเฉินจนพอใจ”
กษัตริย์ดารามองหุบเขาเซียนเร้นกาย ขมวดคิ้วไม่กล่าววาจา
“แต่ข้าเพียงรับประกันการต่อสู้ระหว่างข้ากับท่านว่าไม่ถูกคนก่อกวนเท่านั้น” กษัตริย์เร้นลับกล่าวอย่างราบเรียบ “เรื่องอื่นๆ ข้าผู้แซ่หยางไม่อาจรับประกันได้”
“กษัตริย์เร้นลับ” อยู่ๆ เยี่ยนจ้าวเกอก็ส่งเสียงถามขึ้น “หลังจากกษัตริย์ดารากลับโลกซ้อนโลก ท่านต้องการให้กษัตริย์ดินกลับมามากใช่หรือไม่”
หลังจากเงียบงันชั่วขณะ กษัตริย์ดินก็กล่าวพลางหัวเราะ “แน่นอน ไฉนจึงไม่เล่า”
กษัตริย์ดารามองหุบเขาเซียนเร้นกายที่อยู่ห่างออกไป สีหน้าค่อยๆ สงบนิ่งแล้ว “ข้าออกจากโลกซ้อนโลกมาหลายปี วันนี้อุตส่าห์กลับมาได้แล้ว เรื่องราวมากมายผันแปร วัตถุยังอยู่แต่ผู้คนไม่ ข้าจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนสหายร่วมเส้นทางหยางเอง ส่วนใดที่รับกวนต้องขอภัยด้วย”
ว่าแล้วเขาก็เหาะร่างขึ้น มาถึงกลางอากาศเหนือหุบเขาเซียนเร้นกาย
จากนั้นม่านน้ำสายหนึ่งก็แผ่ขยายออกไปรอบๆ โดยมีกษัตริย์ดาราเป็นศูนย์กลาง ก่อนจะสาดส่องทั่วฟ้าดิน กลายเป็นม่านที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ครอบคลุมหุบเขาเซียนเร้นกาย
ม่านน้ำจับตัวกันเป็นน้ำแข็งด้วยความเร็วสูง กลายเป็นธารน้ำแข็งขนาดมหึมา ผนึกฟ้าดินรอบๆ หุบเขาเซียนเร้นกายไว้
กษัตริย์ดารานั่งขัดสมาธิอย่างสงบนิ่งในน้ำแข็ง
การไหลเวียนของใยดินและปราณวิญญาณในเขาคุนหลุนเกิดการเปลี่ยนแปลง หุบเขาเซียนเร้นกายที่อยู่ตรงกลางเปลี่ยนจากสี่ฤดูล้วนเป็นวสันต์ฤดู เป็นเหมันต์ฤดูชั่วนาตาปี
“สหายร่วมเส้นทางเฉินต้องการเช่นนี้ หาเป็นไรไม่” เสียงของกษัตริย์เร้นลับดังมาจากในหุบเขา
จากนั้นหุบเขาเซียนเร้นกายก็เงียบสงบลง ไม่มีสุ้มเสียงใดอีก
“ขอบคุณกษัตริย์ดารา” เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงบนแผ่นน้ำแข็ง คำนับกษัตริย์ดาราในธารน้ำแข็ง
เมื่อเป็นแบบนี้ กษัตริย์เร้นลับนับว่าถูกรั้งตัวไว้ที่หุบเขาเซียนเร้นกายอย่างแท้จริงแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอสงสัยอยู่ลึกๆ ว่าการเข้าฌานหลายครั้งก่อนหน้านี้ของกษัตริย์เร้นลับ มีอยู่ส่วนหนึ่งที่เป็นแผนลวง ถึงอย่างไรด้วยการฝึกปรือของเขา คิดจะลอบออกไปไม่ให้คนสัมผัสได้ก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่ประการใด
แม้ว่ากษัตริย์ดิน กษัตริย์ดารา กับกษัตริย์กระบี่ จะอยู่บนผากิเลน ยอดเขาเมฆมรกต และเขานครหยก แต่ก็เกรงว่ายากจะค้นพบเลศนัยที่อยู่ด้านใน
ตอนนี้กษัตริย์ดาราขวางอยู่หน้าประตูของหุบเขาเซียนเร้นกาย กษัตริย์เร้นลับคิดจะลอบออกมา กลับเป็นไปไม่ได้แล้ว
ความหมายของกษัตริย์ดาราชัดเจนยิ่ง
ท่านบอกว่าท่านเฝ้าฟ้าดินเล็กๆ แห่งนี้ก็มากพอแล้ว ไม่ขอออกไปไหนอีก แต่ข้าไม่เชื่อท่าน
เชื่อท่านมิสู้เชื่อตัวเอง
ท่านคิดซ่อนตัว เช่นนั้นก็อยู่อย่างเรียบๆ ร้อยๆ ห้ามคิดกลอุบายเหมือนก่อนหน้านี้
ไม่อย่างนั้น ข้าจะเอาจริงกับท่านทันที
ถ้อยคำที่บอกว่าเหม็นขี้หน้า จึงเล่นงานกษัตริย์ดาราที่กษัตริย์เร้นลับพูด เป็นแค่การปกปิดเท่นั้น
ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยนจ้าวเกอหรือว่ากษัตริย์ดารา ไม่มีใครยึดถือเป็นจริงเป็นจัง
หลายปีมานี้จะต้องมีเรื่องราวที่ไม่ดีอยู่ไม่น้อย เพียงแต่มีแค่เรื่องที่แอบจับตาดูผู้สืบทอดสายเอกสุทธิ์เท่านั้นที่ถูกกษัตริย์ดาราจับได้คาหนังคาเขา
กษัตริย์ดาราในเมื่อเกิดความสงสัย ถ้าครั้งนั้นสืบสาวตามเบาะแส เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมีการค้นพบมากกว่าเดิม
นี่ค่อยถูกกษัตริย์เร้นลับหาวิธี ‘ปิดปาก’
ด้วยเหตุนี้ ย่อมก่อเกิดปัญหาหนึ่งในทันที
กษัตริย์เร้นลับกระทำเรื่องราวอย่างลับๆ ที่แท้เพื่อปกปิดผู้ใด
กษัตริย์ดาราอาจนับเป็นคนหนึ่ง แต่ว่า สิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอสนใจยิ่งกว่าก็คือ สำหรับกษัตริย์เร้นลับแล้ว ความลับส่วนหนึ่งของเขาบางทีอาจกำลังปกปิดกษัตริย์ดินเจี่ยงเซิ่น!
สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิงแล้ว ก่อนที่กษัตริย์ดินจะกลับมา มีเรื่องหลายเรื่องที่ต้องวางแผน
สำหรับกษัตริย์เร้นลับ บางทีอาจจะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน?
ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี กษัตริย์ดาราก็ต้องขวางเขาไว้ที่นี่ก่อน
ด้วยเหตุนี้ เยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงจึงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างค่อนข้างสบายใจ และเตรียมแผนการได้มากกว่าเดิม
“หลังจากนี้ข้าจะอยู่ที่นี่ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่จะไม่ออกไป” กษัตริย์ดาราร่างอยู่ในน้ำแข็ง แต่กลับไม่ส่งผลต่อการสนทนา “ต่อจากนี้ยามเจ้าเคลื่อนไหวอยู่ด้านอก ถ้าหากได้พบกับหมิงคงและหลีหลี ขอให้ช่วยเหลือเกลี้ยกล่อมสักเล็กน้อย”
เขาส่งกระแสเสียงให้เยี่ยนจ้าวเกอ ย่อมป้องกันหูตาของกษัตริย์เร้นลับได้
“กษัตริย์ดาราวางใจ ข้าจะทำเต็มที่” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า
“ข้าได้พบแม่ลูกคู่นั้น คนรุ่นหลังซึ่งเป็นคนในสำนักเจ้าแล้ว หลังจากเจ้ากลับเขาไป สามารถไถ่ถามสถานการณ์อย่างละเอียดกับบิดามารดาเจ้าได้” กษัตริย์ดารากล่าวต่อ “นอกจากนี้แล้ว คำพูดของหยางเซ่อไม่เป็นจริงอยู่หลายส่วน บางทีอาจมีการเตรียมการอื่นๆ พวกเจ้าต้องระวังให้มาก”
“ผู้เยาว์เข้าใจ” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “คำพูดของกษัตริย์เร้นลับยากจะแยกแยะจริงปลอมจริงๆ แต่ในคำพูดเมื่อครู่ของเขาคล้ายแฝงความหมายชั้นหนึ่ง…”
เขามองกษัตริย์ดารา “กษัตริย์ดินคล้ายกับ…”
ไม่ว่ากษัตริย์เร้นลับจะยินดีเห็นการกลับมาของกษัตริย์ดินหรือไม่ แต่ว่าเมื่อกษัตริย์ดินกลับมา จะต้องไม่ใช่ข่าวดีสำหรับเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิงแน่นอน
กษัตริย์ดาราเงียบไปเล็กน้อย จากนั้นก็ผงกศีรษะกล่าวว่า “ข้าเข้าใจความหมายของเจ้า ความคิดของเจ้าเป็นไปได้ว่าจะไม่ผิดพลาด หลายปีมานี้ พี่ร่วมเส้นทางเจี่ยงอาจเป็นไม้ไผ่ร้อยปล้องที่พร้อมจะยาวขึ้นอีกขั้นหนึ่ง ก้าวสู่ฟ้าดินแห่งใหม่ ไปถึงระดับห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดได้ตลอดเวลา!”
“ครั้งนี้หากเขากลับมา คนที่พวกเราจะเผชิญอาจไม่ใช่กษัตริย์ดินอีก แต่ว่าเป็นเทพดาวเสาร์ยุคสมัยใหม่” กษัตริย์ดารากล่าวอย่างแช่มช้า “สามารถเรียกว่าเป็นเทพพระเสาร์ จ้าวแห่งดาวเสาร์ หรือชื่อเต็มๆ ว่า ‘เทพดาวเสาร์จ้าวปฐพีศูนย์กลาง’ ก็ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอพอฟังต้องยกมือกุมหน้าผาก “เซียนสุญญตา ตำแหน่งของเทพเจ้า”
เขามองกษัตริย์ดาราด้วยรอยยิ้มขื่นขม “กษัตริย์ดารา ข้ามีคำถามเสียมารยาท ไม่ทราบจะถามได้หรือไม่…”
“ถึงข้าจะมีปราณสี่ปราณคอยหนุนเสริมแล้ว แต่ไม่อยู่ในขั้นที่สามารถสำเร็จระดับห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดได้โดยง่าย หากผลีผลามทดลอง บางทีอาจตายเพราะภัยพิบัติบรรพพิศวง” กษัตริย์ดาราทราบอย่างชัดเจนว่า เยี่ยนจ้าวเกอคิดถามอะไร จึงให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมา
ขณะที่พูด กษัตริย์ดารามองดูหุบเขาเซียนเร้นกายที่ถูกแช่แข็งเบื้องล่าง “ถึงแม้จะไม่ได้ประมือกันโดยตรง แต่อาศัยการสัมผัสในตอนนี้ หยางเซ่อก็เหมือนกับข้า ในเวลาอันสั้นสมควรไม่มีหวังก้าวเท้าก้าวนั้นออก”
“เรื่องที่พูดถถึงก่อนหน้า เจ้าลองพิจารณาไปตามาสหายร่วมเส้นทางสั่วดู” กษัตริย์ดารากล่าว
นักพรตสั่วที่เขาพูดถึง ย่อมเป็นคนที่เคยถูกจัดอยู่ในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่เหมือนกับเขา
อดีตราชันพระอังคาร สั่วหมิงจาง
………………..