ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1202 ต้นผลคนที่ติดตาต่อกิ่ง
เสวี่ยชูฉิงมองมือที่จับกันอยู่ของตนและเยี่ยนตี๋ จากนั้นก็มองเยี่ยนจ้าวเกอ อดยิ้มหยีตาไม่ได้
“ใช่แล้วๆ สมควรเมตตาๆ” นางพูดด้วยรอยยิ้มเบิกบาน แต่เยี่ยนจ้าวเกอเห็นชัดเจนว่านางจับมือของเยี่ยนตี๋แน่นกว่าเดิมแล้ว
“ไม่ขออยู่อีกแล้ว!” เยี่ยนจ้าวเกอสับเท้าร่ำไห้ ผละจากที่นั่งไป ปฏิเสธที่จะรับความเจ็บปวดต่อไปเพื่อประท้วง
เสวี่ยชูฉิงหันมามองเยี่ยนตี๋ “ใช่ข้าทำเกินไปหรือไม่”
เยี่ยนตี๋ยิ้มกล่าว “เจ้าดูถูกเขาเกินไป เขาจงใจ”
“ข้า…ไม่ทราบว่าสมควรคุยอะไรกับเขา มิหนำซ้ำ ข้ารู้สึกผิดต่อจ้าวเกอยิ่ง” เสวี่ยชูฉิงพึมพำ “ตั้งแต่เด็กคนนี้เติบใหญ่ ข้าไม่เคยอยู่เคียงข้างเขาเลย”
ฝ่ายเยี่ยนตี๋กุมมือของภรรยา เขาบีบมือนางเบาๆ “ค่อยเป็นค่อยไปเถอะ ตอนที่เพิ่งเป็นพ่อคน ข้าไหนเลยจะรู้ว่าควรดูแลลูกอย่างไร”
เสวี่ยชูฉิงพยักหน้า ปลุกปลอบจิตใจพลางกล่าว “จ้าวเกอต้องยุ่งกับการเดินทางไปทั่ว เจ้าเองก็ไม่จำเป็นต้องคอยคุ้มครองข้ากับสำนัก เมื่อกษัตริย์ดาราขวางหุบเขาเซียนเร้นกายไว้แล้ว ไม่เพียงแต่เป็นการจับตาดูกษัตริย์เร้นลับเท่านั้น ขณะเดียวกันก็เป็นการสยบทั่วทั้งโลกซ้อนโลกด้วย”
นิวาสสถานที่บำเพ็ญของกษัตริย์เร้นลับ กษัตริย์ดาราคิดขวางก็ขวางไว้ แม้แต่กษัตริย์เร้นลับก็ยังเกือบอดกลั้นไม่ได้ เรื่องเช่นนี้ย่อมทำให้กษัตริย์ดารากับเขากว่างเฉิงมีบารมีเพิ่มขึ้นมาก
ก่อนที่กษัตริย์เร้นลับจะออกสำนัก หรือว่ากษัตริย์ดินกลับโลกซ้อนโลก คนที่ประสงค์ร้ายกับเขากว่างเฉิงเกรงว่าจะต้องทบทวนหลายๆ ครั้ง
กษัตริย์ดาราเฝ้ากษัตริย์เร้นลับ หมายความว่ากษัตริย์ดารายึดครองความได้เปรียบ คิดจะออกจากยอดเขาของหุบเขาเซียนเร้นกายก็สามารถทำได้ตลอดเวลา
ด้วยพลังของกษัตริย์ระดับเซียนพิศวง ถึงแม้โลกซ้อนโลกจะกว้างใหญ่ไพศาล แต่นับว่าไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก สี่ทิศแปดทางไม่ถึงกับไปถึงได้ในชั่วอึดใจ แต่ก็ประหยัดเวลาได้มากมายนัก ดังนั้นเสวี่ยชูฉิงจึงบอกว่าวันนี้กษัตริย์ดาราสามารถสยบโลกซ้อนโลกได้ทั้งใบ
อย่าว่าแต่ตอนนี้จักรพรรดิเอกภพกำเนิดกับประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวไม่ได้อยู่บนโลกซ้อนโลก ต่อให้อยู่ เมื่อพวกเขามีการเคลื่อนไหว หากกษัตริย์ดาราต้องการให้ความสนใจก็ให้ความสนใจได้ แน่นอนว่ามันหมายความว่ากษัตริย์เร้นลับจะมีโอกาสได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระ การคุกคามที่กษัตริย์ดารานำมายังคงมีมหาศาล
จักรพรรดินีไม่ปรากฏตัว มีคนน้อยคนบนโลกซ้อนโลกที่ทราบทิศทางอย่างเป็นรูปธรรมของจักรพรรดินี ยิ่งไม่ทราบถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนชายฝั่งยมโลกเมื่อก่อนหน้านี้
ในการรับรู้อันแข็งแกร่งของทุกคน จักรพรรดินีย่อมอยู่บนทางเดียวกับกษัตริย์ดารา
นี่เป็นการคุกคามอย่างอ้อมๆ เช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงย่อมไม่มีความสนใจจะยุ่งกับอคติทางความคิดนี้ ดังนั้นเมื่อกษัตริย์ดินยังไม่กลับมา กษัตริย์เร้นลับออกมาไม่ได้ มีกษัตริย์ดาราคอยคุ้มครองเช่นนี้ ช่องว่างอิสระในปัจจุบันของเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงจึงมีมากมายยิ่ง
ไม่เพียงแต่เยี่ยนจ้าวเกอสามารถเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกได้ตามใจ เยี่ยนตี๋กับเนี่ยจิงเสินยังผ่อนคลายลงไม่น้อย คิดเข้าฌานก็เข้าฌาน คิดออกไปก็ออกไปได้
เขากว่างเฉิงเมื่อย้ายมายังเขตสุราลัยบูรพา ทางทะเลหวงเจียในเขตตะวันอาคเนย์จึงว่างเปล่า
ก่อนที่กษัตริย์ดาราจะกลับมา เนี่ยจิงเสินที่เป็นประมุขทักษิณคอยเฝ้าอยู่ตรงพรมแดนของทะเลหวงเจียและบริเวณเขารอบวงในเขตเพลิงทักษิณ ป้องกันจักรพรรดิเอกภพรวบรวมกำลังกลับมาใหม่เพื่อชิงลายมือแห่งแผ่นดินในทะเลหวงเจีย
สถานการณ์ในตอนนี้ เยี่ยนตี๋กับเนี่ยจิงเสินคิดจากไปก็หาเป็นไรไม่ ก่อนที่กษัตริย์ดินจะกลับโลกซ้อนโลก จักรพรรดิเอกภพกำเนิดยากจะลงมือโดยวู่วาม
“อืม ผ่อนคลายลงมากจริงๆ สามารถเตรียมตัวได้หลายเรื่องแล้ว” เยี่ยนตี๋สายตากลายเป็นเคร่งขรึม
…
“ไม่อยากอยู่แล้ว ไม่อยากอยู่แล้วจริงๆ…” เยี่ยนจ้าวเกอออกมาด้วยใบหน้าอึดอัด
อาหู่เห็นดังนั้นอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้ “คุณชาย ท่านเป็นอะไรหรือขอรับ”
“หือ?” เยี่ยนจ้าวเกอหยุดฝีเท้า พิจารณาอาหู่อยู่นานโข พลันยิ้มขึ้นว่า “ไม่เลว ยังน่าอนาถกว่าข้า”
“หา?” อาหู่สีหน้าสับสน
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มกว้าง เอ่ยว่า “อาหู่ ทำได้ไม่เลว ทำต่อไป ข้าเอาใจช่วย”
ครั้นได้ยินคุณชายว่าดังนั้น อาหู่ก็ยิ่งงุนงงกว่าเดิม “คุณชาย เรื่องที่ท่านสั่งข้าย่อมต้องตั้งใจทำ…แต่ว่าท่านพูดถึงเรื่องไหนกันแน่”
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอแย้มยิ้มไม่ตอบคำ ไพล่สองมือไว้ด้านหลัง เดินทอดน่องอย่างสบายใจ
‘พอได้เห็นคนที่น่าสงสารกว่าตัวเอง จิตใจก็ดีขึ้นไม่น้อยจริงๆ คนโบราณว่าไว้ไม่ผิดพลาด’ เยี่ยนจ้าวเกอแตะนิ้วกับริมฝีปาก ‘ถึงแม้ตอนนี้ข้าจะไม่มีภรรยา แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีจริงๆ เพียงแค่ไม่มีชั่วคราวเท่านั้น อืมๆ อย่างนี้นี่เอง!’
หลังจากที่เน้นย้ำในใจอีกรอบ เยี่ยนจ้าวเกอก็หม่นหมองอีกครั้ง ‘ภรรยาไม่รักดี รอข้าจับเจ้ากลับมาเถอะ จะให้เจ้าได้เห็นดีแน่!’
เขาทางหนึ่งคิดเรื่อยเปื่อย ทางหนึ่งเดินเลียบเส้นทางบนเขา
เยี่ยนตี๋ย้ายภูเขาขนทะเล สร้างเขากว่างเฉิงขึ้นด้วยความสามารถอันเหลือล้น เพราะความตั้งใจ สถานการณ์ของที่นี่จึงเหมือนกับเขากว่างเฉิงในโลกแปดพิภพ และเขากว่างเฉิงที่อยู่บนดินแดนจิตคุณธรรมในทะเลหวงเจียก่อนหน้านี้ ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงคุ้นเคยทางดี บัดนี้เขากำลังมุ่งหน้าไปยังที่อยู่ของสือจวิน
สือจวินสองแม่ลูกกลับจากเขานครหยกมายังเขากว่างเฉิงตั้งนานแล้ว
“อาจารย์อาเยี่ยนน้อย?” พอเห็นเยี่ยนจ้าวเกอมาแล้ว สือจวินที่กำลังจะออกเดินทางก็งงงัน จากนั้นค่อยปีติยินดีเป็นพิเศษ
เยี่ยนจ้าวเกอมองสือจวินอย่างละเอียด
ตามที่บิดามารดาได้พูดถึงเมื่อก่อนหน้านี้ กษัตริย์ดาราได้ตรวจสอบสถานการณ์ของสือจวินสองแม่ลูกเป็นการเฉพาะ ทั้งยังพูดถึงสถานการณ์ของจอมมารที่คิดจะใช้พวกเขาเป็นร่างสถิตด้วย
ผลลัพธ์ทำให้คนตกตะลึง
‘จอมมารที่คุกคามจวินเอ๋อร์ ก่อนที่จะดับสูญไปเป็นไปได้ว่าจะเป็นมารที่เทียบได้กับเทพเจ้าของสำนักเรา ส่วนมารที่คุกคามอวี่เจิน แม้แต่กษัตริย์ดาราก็ไม่อาจยืนยันรากฐานของมันได้…’
กษัตริย์ดาราไม่อาจยืนยันรากฐาน ความจริงเป็นการชี้แนะที่สำคัญมากแล้ว เป็นเพราะมารเช่นนี้มีอยู่ไม่กี่ตนเท่านั้น
“อุตส่าห์ได้กลับสำนัก อีกเดี๋ยวก็ต้องออกไปอีก เลยเดินหาคนไปเรื่อยๆ” เยี่ยนจ้าวเกอภายนอกไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ เขายิ้มให้แก่สือจวิน ถามว่า “ดูเหมือนเจ้ากำลังจะออกเดินทาง ไปที่ใดหรือ”
“จะว่าไปก็เกี่ยวข้องกับอาจารย์อาท่านอยู่ส่วนหนึ่งพอดี” สือจวินตอบ “อาจารย์อาท่านทำลายยอดเขาอนัตตา นิวาสสถานของจักรพรรดิเอกภพกำเนิด ต้นไม้วิเศษที่นำกลับมาจากที่นั่นตอนนี้ปลูกอยู่บนยอดเขาเกิ่นซาน แต่หลังจากปลูกถ่ายต้นไม้วิเศษต้นนั้นแล้ว การเติบโตกลับไม่ค่อยดีนัก ถึงแม้จะไม่ได้แห้งเหี่ยว แต่ก็ดูไร้ชีวิตชีวา ทุกคนจึงกำลังปวดศีรษะกันอยู่”
สือจวินถือกาเคลือบใบหนึ่งในมือ เอ่ยว่า “ข้านึกออกว่าในการเดินทางก่อนหน้านี้ของข้าเคยนำน้ำจากน้ำแร่วิญญาณส่วนหนึ่งกลับมาด้วย ดังนั้นข้าจึงคิดจะนำไปลองรดดู”
“ต้นผลคนที่ทาบกิ่งต้นนั้นนั่นเอง…” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง
สือจวินพยักหน้า “ถูกต้อง ถึงแม้จะไม่ใช่ต้นผลคนจริงๆ แต่ก็มีปราณวิญญาณเต็มเปี่ยม หากสามารถออกผลได้คงจะน่าอัศจรรย์ยิ่ง แต่หากแห้งเหี่ยวตายไปออกจะน่าเสียดายไปบ้าง”
“ไม่ต้องกลัวๆ” เยี่ยนจ้าวเกอขบคิดเล็กน้อย พลันหัวเราะขึ้น “ข้ามีอยู่วิธีหนึ่ง ทดลองดูก็ได้”
สือจวินตาเป็นประกายขึ้นมา เยี่ยนจ้าวเกอจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไป ตามข้ามา เอาน้ำแร่ที่เจ้าตักมาด้วย พวกเราจะทดลองดูกัน”
………………..