ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1203 พิรุณราดรดต้นไม้วิเศษ
เยี่ยนจ้าวเกอนำทางสือจวินมาถึงเขาเกิ่นซานซึ่งเป็นหนึ่งในแปดยอดเขากว่างเฉิง
ในแปดยอดเขากว่างเฉิง ยอดเขาที่สูงที่สุดคือยอดเขากานเทียนอันเป็นยอดเขาหลัก แต่ตอนนี้ยามมองไป ยอดเขากานเทียนกลับไม่โดดเด่น เป็นเพราะว่าบนยอดเขาเกิ่นซานปักไว้ด้วยต้นไม้ขนาดมหึมาต้นหนึ่ง
กิ่งใบของต้นไม้ใหญ่เปล่งแสงสีเขียวจางๆ ลำต้นสูงชะลูดไปถึงฟากฟ้า ยิ่งใหญ่ตระการตา
ในความจริงแล้วขนาดจริงๆ ของมันยังใหญ่กว่าที่เห็นในตอนนี้ เป็นต้นไม้ยักษ์ต้นหนึ่งที่ค้ำฟ้ายันดินได้
สืบเนื่องจากเยี่ยนตี๋ได้จัดการปรับพื้นที่และระยะห่างรอบๆ ยอดเขาเกิ่นซาน ดังนั้นต้นไม้ใหญ่ต้นนี้จึงไม่ได้ดูโดดเด่นอะไรขนาดนั้น
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ก็ยังคงใหญ่โตสุดเปรียบปราณ แค่เห็นครั้งเดียวก็ยากลืมเลือน
แต่ว่าต้นไม้สูงเทียมฟ้าต้นนี้กลับมอบความรู้สึกเบาบางชนิดหนึ่งแก่ผู้คน
ไม่ได้แห้งเหี่ยว แต่มองดูไร้ชีวิตชีวา
มองออกได้ไม่ยากว่าถ้าหากปล่อยให้มันเติบโตแบบนี้ต่อไป นานวันเข้าก็จะมีวันที่แห้งตายในที่สุด
‘จักรพรรดิเอกภพมีวิชาลับที่สืบทอดกันมาในอารามอู่จวงก่อนมหาพิบัติ จึงเพาะปลูกต้นไม้ต้นนี้ได้ไม่ยาก ส่วนคนอื่นๆ จะต้องเปลืองสมองแล้ว’
เยี่ยนจ้าวเกอพิจารณาต้นไม้ใหญ่ขึ้นลง ตอนนี้ยืนยันได้ว่าไม่ใช่เพราะเยี่ยนตี๋กดอัดพื้นที่จึงทำให้ต้นไม้วิเศษไม่อาจเติบโตได้ตามปกติ การปลูกถ่ายเมื่อเปลี่ยนสภาพแวดล้อมก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องมากนัก
เขากว่างเฉิงออกตามหา จับตัวลูกศิษย์ในสำนักของจักรพรรดิเอกภพซึ่งหนีออกจากยอดเขาอนัตตาในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งทำลายสำนักได้ แล้วได้ทราบจากปากของคนผู้นี้ว่าพวกเขาไม่ทราบวิธีเพาะปลูกต้นไม้วิเศษ
ที่แล้วมาล้วนเป็นจักรพรรดิเอกภพสั่งอะไรก็ทำเช่นนั้น
ตอนนั้นจักรพรรดิเอกภพจะให้น้ำแร่ส่วนหนึ่งกับพวกเขา เพื่อใช้ราดรดต้นไม้วิเศษ แต่ว่าน้ำแร่นั้นพวกเขาไม่ทราบว่าต้องไปหาที่ไหน
“อาจารย์อาเจ้าสำนักได้เชิญให้อาจารย์อาเฟิงมาจากโลกแปดพิภพเพื่อศึกษาการจัดการเพาะปลูกต้นไม้วิเศษต้นนี้” สือจวินมองต้นไม้สูงเทียมฟ้า ทำท่าปวดศีรษะ “แต่ตอนนี้ยังไม่มีผลลัพธ์”
“ฮ่า ข้าทายถูกว่าท่านพ่อจะต้องเรียกศิษย์น้องเฟิงมา” เยี่ยนจ้าวเกออดหัวเราะขึ้นไม่ได้
เขากวาดมองส่วนยอดของยอดเขาเกิ่นซาน เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยสายหนึ่งด้านล่างต้นไม้วิเศษอย่างที่คิดไว้
กลับเป็นสหายที่คบหากันมานาของเยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงโม่หยาง
คนผู้นี้ถึงแม้จะยังอายุน้อย แต่ค่อนข้างมีส่วนสำเร็จบนมรรคาหลอมโอสถ ในบรรดาคนหนุ่มสาวของเขากว่างเฉิงเป็นรองเพียงเยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้น
หากไม่ดูระดับพลังฝึกปรือ เพียงมองระดับการหลอมโอสถ เขาเป็นยอดฝีมือด้านการหลอมโอสถที่จัดอยู่ในชั้นแถวหน้าของทั่วทั้งสำนัก
นอกจากนี้แล้ว เพื่อเก็บรวบรวมยา คนผู้นี้จึงมีการวิจัยด้านการเพาะปลูกพืชพรรณมากมาย เดิมทีก็มีพรสวรรค์ในด้านนี้น่าทึ่งอยู่แล้ว ต่อมายังเชี่ยวชาญมากกว่าเดิม
ถึงแม้ระดับพลังฝึกปรือจะไม่สูง ไม่ได้โดดเด่นบนโลกซ้อนโลก แต่เฟิงโม่หยางเป็นผู้อาวุโสผู้เชี่ยวชาญที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในเขากว่างเฉิงแล้ว
ตอนนี้เขากำลังเพ่งมองดูต้นผลคนที่นำมาติดตาต่อกิ่งต้นนั้น
เยี่ยนจ้าวเกอตบไหล่ของเฟิงโม่หยาง อีกฝ่ายสะดุ้งก่อนจะหมุนกายมา สายตาเลื่อนลอยอยู่บ้าง
วินาทีถัดมาเฟิงโม่หยางค่อยได้สติ “ท่านกลับมาแล้วหรือ”
“กลับมาดูสำนักเท่านั้น อีกเดี๋ยวต้องออกเดินทางแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฟังว่าต้นไม้ต้นนี้มีปัญหา ข้าย่อมมาสักเที่ยวหนึ่ง สิ่งที่ข้านำกลับมาด้วยไม่อาจปล่อยทิ้งเสียเปล่า”
เฟิงโม่หยางพอฟังก็กล่าวอย่างจนปัญญา “ยังดีที่ท่านจำได้ว่าต้นไม้ต้นนี้เป็นท่านให้คนส่งกลับสำนัก”
เขาหันไปมองต้นไม้วิเศษสูงเทียมฟ้าตรงหน้า “ผู้เชี่ยวชาญในสำนักไปกลับเขาคุนหลุนมาหลายรอบ นำต้นน้ำที่อยู่บริเวณที่อยู่เก่าของยอดเขาอนัตตากลับมาหมดสิ้น แต่ไม่ประสบผลใด ไม่เข้าใจว่าจักรพรรดิเอกภพกำเนิดเอาน้ำแร่มาจากที่ใด หากขอบเขตมากเกินไป แหล่งน้ำก็จะมีมากเกินไป ต่อให้มีกำลังพอจะนำน้ำแต่ละแหล่งกลับมาทดสอบดู เวลาก็เกรงว่าจะไม่พอ”
รอบๆ เพียงยังมีลูกศิษย์เขากว่างเฉิงส่วนหนึ่ง ตอนนี้ต่างรวมตัวกันเข้ามา แต่กลับไม่กล้าเข้าใกล้
ทุกคนแอบซุบซิบ “นั่นคือ…นั่นคือศิษย์พี่เยี่ยน เซียนผู้ถูกเนรเทศไม่ใช่หรือ”
“เหมือนจะใช่ ก่อนหน้านี้ข้าเคยเห็นจากภาพเหมือนเงาแสง”
“อะไรคือเหมือนจะใช่ เดิมทีก็ใช่อยู่แล้ว ผู้ใดมีบุคลิกแบบนี้บ้าง”
“ทำไมดูธรรมดาจัง…”
“เจ้าจะเข้าใจอะไร นั่นเรียกว่าเจียศิลากลับคืนสู่ความจริง หากเป็นคนธรรมดาจริงๆ เมื่อเข้าใกล้ต้นไม้วิเศษ ถูกแสงวิเศษบนกิ่งส่องใส่คงสลบไสลไปแล้ว แม้แต่พวกเราถ้าไม่ใช่โคจรพลังป้องกัน ผู้ใดเข้าใกล้ได้บ้าง ตอนเจ้าโคจรพลัง ทำให้คนมองไม่เห็นเลศนัยเหมือนเป็นคนธรรมดาได้หรือไม่”
“นั่นกลับถูกต้อง เช่นนั้นหมายความว่า ศิษย์พี่เยี่ยนร้ายกาจจริงๆ…”
“วาจาเหลวไหล นั่นเป็นเซียนผู้ถูกเนรเทศเชียวนะ! จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า แม้แต่มนุษย์เซียนที่แท้จริงในตำนานก็ยังเอาชนะศิษย์พี่เยี่ยนไม่ได้!”
“ศิษย์พี่เยี่ยนมาทำอะไรที่นี่ มาเพราะต้นไม้วิเศษหรือ”
“อาจารย์อาเยี่ยนก็ไม่มีวิธีกระมัง…”
“จะเป็นไปได้อย่างไร อาจารย์อาเยี่ยนจะไม่มีวิธีได้อย่างไร”
“ไม่ใช่ ศิษย์พี่ท่านใจเย็นก่อน ที่แล้วมาข้าให้ความเคารพอาจารย์อาเยี่ยนยิ่ง แต่ว่าเรื่องราวในวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความสูงต่ำในการฝึกปรือ ต่อให้พลังสูงก็ไม่ได้หมายความว่าจะทราบว่าต้องใช้น้ำแร่ชนิดใดรดต้นไม้วิเศษ”
“เด็กน้อยเจ้าหาเรื่องหรือ วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าแทนอาจารย์เอง!”
ทุกคนวิจารณ์ไปต่างๆ นานา แต่กลับยังไม่กล้าเข้าใกล้
ถึงแม้พูดถึงลำดับรุ่นแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอจะเป็นลูกศิษย์รุ่นที่สามของเขากว่างเฉิงเช่นกัน แต่อย่าพูดถึงคนหนุ่มเหล่านี้ เขากว่างเฉิงในปัจจุบันมีใครยึดถือเขาเป็นลูกศิษย์รุ่นหลังจริงๆ บ้าง
สำหรับเหล่าคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะพวกลูกศิษย์ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ เยี่ยนจ้าวเกอเปรียบเหมือนกับเทพเจ้าในภาพปติมากรรม เป็นตัวตนที่อยู่คนละระดับกับพวกเขาโดยสิ้นเชิง
ทุกคนต่างมองเฟิงโม่หยางกับสือจวินด้วยความอิจฉา อิจฉาที่พวกเขาสามารถสนทนากับเยี่ยนจ้าวเกอได้
ทุกคนอยากจะเข้าไป กลับไม่มีผู้ใดกล้าข้ามเส้นแบ่ง
“ข้ามีวิธีหนึ่ง สามารถลองดูได้” เยี่ยนจ้าวเกอพูดกับเฟิงโม่หยาง
เฟิงโม่หยางมองมาด้วยความสงสัย
เยี่ยนจ้าวเกอหยิบกาหยกใบเล็กออกมาใบหนึ่ง
“นี่เป็นสิ่งของใด” เฟิงโม่หยางกับสือจวินมองกาหยกด้วยความใคร่รู้
เยี่ยนจ้าวเกอโยนกาหยกขึ้นไปกลางอากาศ จากนั้นก็รับไว้ในตอนที่ร่วงลงมา “นี่เป็นสิ่งของที่จักรพรรดิเอกภพเหลือไว้ในตอนที่เขามาบุกมาในพิธีเปิดสำนักครั้งแรกบนทะเลหวงเจีย ข้าอาศัยประกายกระบี่ของอาจารย์ลุงเยว่แห่งยอดเขานครหยกสร้างความเสียหายแก่มัน”
“อ้อ?” เฟิงโม่หยางสายตาพลันเป็นประกาย “หรือว่า…”
“ลองดูก็รู้เองไม่ใช่หรือ ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำจากเขาคุนหลุนโดยเฉพาะ” เยี่ยนจ้าวเกอพูดกับสือจวิน “จวินเอ๋อร์ เจ้าส่งน้ำแร่กานั้นให้ข้า”
สือจวินสีหน้าฉายแววกระตือรือร้น ส่งกาเคลือบไปให้
เยี่ยนจ้าวเกอรับไว้ จากนั้นก็เทน้ำในกาเคลือบใส่กาหยกใบนั้น
กาเคลือบของสือจวินสั่งทำพิเศษ มีความสามารถของถุงย่อส่วน แม้จะดูเล็ก แต่น้ำที่บรรจุไว้กลับมีมหาศาล เหมือนกับห้าทะเลสาบสี่ทะเลไหลเข้าไปอยู่ด้านใน
ส่วนกาหยกในมือของเยี่ยนจ้าวเกอเห็นได้ชัดว่าเป็นเช่นเดียวกัน ต่อให้เทน้ำใส่เท่าไรก็ไม่มีทีท่าว่าจะเต็ม
เยี่ยนจ้าวเกอไม่คิดจะเทจนหมดกา หลังจากเทน้ำส่วนหนึ่งลงด้านในกาหยกเสร็จก็หยุดลง จากนั้นค่อยปิดฝากาแล้วเขย่าๆ ก่อนหยุดนิ่งลงสักพัก
ทุกคนต่างกลั้นหายใจ
สักพักต่อมาเยี่ยนจ้าวเกอก็เหวี่ยงแขน กาหยกลอยขึ้นด้านบนภายใต้การควบคุมจากระยะไกลของเขาไปถึงส่วนยอดของต้นไม้วิเศษ ก่อนจะกลายเป็นพิรุณพร่างพรม
น้ำแร่เหมือนกับฝนห่าใหญ่กระทบถูกกิ่งใบ แล้วไหลลงไปยังรากและดินโคลนที่อยู่ด้านล่าง
………………..