ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1204 มีคนเลื่อนเป็นเซียน
บนกิ่งใบของต้นไม้วิเศษเกาะด้วยหยาดน้ำ หักเหแสงสีเขียวของใบไม้กลายเป็นขมุกขมัว
ทุกคนช้อนตาขึ้นมองดู ต่างจับจ้องต้นไม้สูงเสียดฟ้าต้นนั้นด้วยความสงสัย ครู่ต่อมาสีหน้าของเฟิงโม่หยางก็เปลี่ยนแปลงก่อน
ในบรรดาคนที่อยู่รอบๆ มีคนที่มีระดับพลังฝึกปรือค่อนข้างสูงอยู่ด้วย สายตาเป็นประกายขึ้นมาเช่นกัน ทว่าคนที่พลังฝึกปรือต่ำไม่มีการค้นพบอันใด แต่พวกเขาไม่ได้วู่วามถาม ต่างมองสหายร่วมสำนักที่สีหน้าเปลี่ยนแปลงอยู่ด้านข้างด้วยความฉงน
ในที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปนาน คนที่เหลืออยู่ทั้งหมดสีหน้าเริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลง
“เป็นความรู้สึกหลอนของข้าหรือไม่” ทุกคนมองหน้ากัน “รู้สึกว่าพลังชีวิตของต้นไม้ต้นนี้คล้ายเข้มข้นขึ้นส่วนหนึ่ง”
“มาจากผลทางจิตใจหรือไม่ เป็นเพราะว่าเชื่อมั่นศรัทธาอาจารย์อาเยี่ยนเกินไปจึงทำให้ตาลายไปบ้าง” ทุกคนไม่ค่อยแน่ใจอยู่บ้าง
เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงของต้นไม้วิเศษตรงหน้าไม่ได้ชัดเจน
แต่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้วจริงๆ!
“เป็นมันไม่ผิดแล้ว!” เฟิงโม่หยางปรบมือถอนใจชมเชยก่อน มองกาหยกในมือเยี่ยนจ้าวเกอ “ดูเหมือนหลังจากเทน้ำใส่แล้วจะต้องให้มันอยู่นิ่งเพื่อเตรียมใช้สักระยะ จากนั้นค่อยเอามารดต้นไม้”
ทุกคนพอฟังต่างกระจ่างแจ้ง
“อาจารย์อาเยี่ยนถึงกับมีวิธีแก้ไขจริงๆ!” มีคนอุทานขึ้น
“ไม่ต้องแตกตื่น ที่แล้วมาศิษย์พี่เยี่ยนเชี่ยวชาญการแก้ไขปัญหาทุกประเภท ยังไม่เคยเห็นเรื่องที่ทำให้เขาลำบากมาก่อน!” จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงคนหนึ่งด้านข้างเขาที่มีอายุมากกว่าเล็กน้อยพูดด้วยความภูมิใจ
ดรุณีงดงามคนหนึ่งในกลุ่มไม่สนใจเรื่องของคนอื่น เพียงจับจ้องเยี่ยนจ้าวเกอ สายตาร้อนเร่า ไม่ทราบว่าคิดอะไรอยู่ แต่ว่าไม่ใช่มีแค่นางเพียงคนเดียว ลูกศิษย์สตรีที่มีอายุเหมาะสมแล้วซึ่งอยู่รอบๆ ล้วนมีท่าทางไม่ต่างกันนัก เพียงแต่ส่วนใหญ่แล้วแอบพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่กล้ามองตรงๆ
เยี่ยนจ้าวเกอถูกคนรุมล้อมจนเคยชินมานาน ใบหน้าไม่แปรเปลี่ยน กลับรู้สึกดียิ่ง
เขาปล่อยให้คนมองด้วยความเคารพอย่างสงบนิ่ง ชั่งน้ำหนักกาหยกในมือแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก่อนหน้านี้ข้ากำลังใคร่ครวญความสามารถของกาหยกใบนี้อยู่ กลับมีความสามารถนี้นี่เอง”
“ต้นผลคนเป็นของวิเศษแห่งเจิ้นจวงจากอารามคงมายาในตำนาน คิดจะเพาะปลูกจะต้องพิถีพิถันจริงๆ” เฟิงโม่หยางพยักหน้า
เยี่ยนจ้าวเกอเงยมองต้นไม้สูงเทียมฟ้าต้นนั้น กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผลคนเป็นของดี ถึงแม้ว่าต้นไม้ต้นนี้จะไม่ได้เป็นต้นแท้ ติดตาต่อกิ่งมา แต่ถ้าจะออกผลจริงๆ ก็คุ้มค่าให้พวกเรารอคอย”
“ผลคนในตำนาน สามพันปีออกดอกครั้งหนึ่ง อีกสามพันปีออกผลครั้งหนึ่ง อีกสามพันปีถึงจะสุกงอม ไม่ทราบว่าพวกเราจะมีชีวิตอยู่จนเห็นหรือไม่” สือจวนพูดอย่างคาดหวัง
เฟิงโม่หยางว่า “ต้นผลไม้ที่ติดตาต่อกิ่ง ปราณวิญญาณของผลไม่ได้เต็มอิ่มขนาดนั้น การออกดอกออกผลและสุกงอมบางทีอาจเร็วกกว่าเล็กน้อย”
“ดูท่าทางเคยออกดอกมาแล้ว รอเพียงผลสุกงอมเท่านั้น” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง
ขณะคนทั้งสามคุยกัน อาหู่ตอนนี้ก็เดินมาแต่ไกล สีหน้าเคร่งขรึมอยู่บ้าง “คุณชาย เพิ่งได้รับข่าวหนึ่งมา”
“ว่าอย่างไร” เยี่ยนจ้าวเกอถาม
“มีข่าวบอกว่าไม่กี่วันมานี้ประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวข้ามการขวางกั้นระหว่างมนุษย์และเซียนได้แล้ว” อาหู่กล่าวเสียงทุ้ม
เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้วเล็กน้อย “อ้อ? เขาข้ามภัยพิบัติมนุษย์เซียน ผลักเปิดประตูเซียนได้อย่างปลอดภัยแล้ว?”
“ข่าวยังไม่ได้รับการยืนยัน” อาหู่ส่ายหน้าตอบว่า “แต่ว่าข่าวไม่ได้ส่งมาจากผากิเลน แต่มาจากทางยอดเขาอัศจรรย์ ฟังว่าเป็นข่าวจากจักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัด”
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเป็นพิเศษ เพียงนวดขมับเบาๆ พึมพำกับตัวเอง “คนผู้นั้นได้คัมภีร์เบิกนภามาหรือ”
เห็นอาหู่มองมาด้วยความสงสัย เยี่ยนจ้าวเกอก็อธิบายว่า “อย่าเพิ่งไปสนใจว่าเฉินทิศบนเชื่อถือได้หรือไม่ ความสามารถพรสวรรค์ในด้านวรยุทธ์ของเขามีคุณค่าให้ยืนยัน”
“ข้าเคยเห็นเขาต่อสู้กับผู้คนและได้ต่อสู้กับเขาด้วยตัวเอง ดังนั้นที่เขามีพลังผลักเปิดประตูเซียนจึงไม่ได้แปลกประหลาด เขาสามารถผลักเปิดประตูเซียนได้ในระยะเวลาอันสั้นก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย”
“เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับตัวเองล้วนๆ สถานการณ์ในคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน อุปสรรคเดียวกัน ข้าอาจจะเหมือนเหยียบย่างบนทางเรียบ แต่เจ้ากลับติดอยู่นับพันปี ถือเป็นเรื่องปกติยิ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ “ข้าเพียงแค่สงสัยว่าเขาผลักเปิดประตูเซียนหลังจากรวบรวมสามคัมภีร์ก่อนกำเนิดและหกคัมภีร์หลังกำเนิดแรกเริ่มได้ หรือว่าไม่สนใจคัมภีร์ที่ขาดไปแต่ไปฝ่าภัยพิบัติโดยตรง”
สืบเนื่องจากฝึกฝนคัมภีร์เกิดนภาและใช้มันเป็นรากฐาน เฉินเฉียนหัวจึงมีข้อได้เปรียบเป็นพิเศษในบางด้าน
ด้านการสั่งสมวรยุทธ์ที่สุดยอดแต่ละชนิดก็เต็มเปี่ยมยิ่ง
ในคัมภีร์นภาแรกเริ่มสิบม้วน นอกจากคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตและคัมภีร์เบิกนภา เฉินเฉียนหัวล้วนมีหมดแล้ว
คัมภีร์นภาไร้ขอบเขตพิเศษเกินไป ไม่ต้องเอ่ยถึงก็ได้ คัมภีร์เบิกนภาหายสาปสูญ ความจริงขาดการสืบทอดบนโลกซ้อนโลกไปแล้ว แต่เป็นเพราะเหตุผลบางอย่าง สุดท้ายเฉินเฉียนหัวก็ไม่ได้คัมภีร์เบิกนภา
ถึงแม้จะยินดีเห็นการผงาดของยอดฝีมือคนใหม่ที่มีความสามารถสะท้านฟ้า แต่นิสัยของเฉินเฉียนหัวทำให้คนปวดหัวได้ง่ายดายยิ่ง ไม่อาจไม่มีข้อกริ่งเกรง ต้องกำหนดข้อห้ามไว้ในทั้งที่ลับและที่แจ้ง
ไม่ใช่บอกว่าเอาไว้สะกดเฉินเฉียนหัว เพียงแต่ว่าในสายตาของยอดฝีมือระดับสูงสุดขอบโลกซ้อนโลกเช่นกษัตริย์ดิน ท่าทีที่มีแต่เขาคือยังต้องการเก็บไว้และเฝ้าสังเกตต่อไป
แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่แน่แล้ว เป็นเพราะว่าบนโลกซ้อนโลกในปัจจุบันปรากฏคนหลายคนที่กลายเป็นเชือกพันธนาการ หรือโซ่ตรวนที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับเฉินเฉียนหัว
ในทางกลับกัน เฉินเฉียนหัวก็อาจสะกดพวกเขาเช่นกัน
มิผิด หมายถึงเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก และเนี่ยจิงเสินที่ยืนอยู่ข้างพวกเขาอย่างแน่วแน่
ในสถานการณ์เช่นนี้ ใครบางคนกลับผ่อนคลายการสะกดเฉินเฉียนหัว ถึงขั้นที่สนับสนุน
เฉินเฉียนหัวมีความเป็นไปได้ที่จะเจอคัมภีร์เปิดนภา ไม่ถือว่าน่าแปลกใจ
หวังเจิ้งเฉิงตกตาย กษัตริย์ดินยังไม่กลับมา แต่อย่าลืมว่าในหุบเขาเซียนเร้นกายยังมีคนอยู่คนหนึ่ง
หลังจากไปหุบเขาเซียนเร้นกายและได้พบกษัตริย์เร้นลับด้วยตัวเอง เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่สงสัยแม้แต่น้อยว่ากษัตริย์ที่ดูเหมือนไม่โดดเด่นผู้นี้จะต้องมีแผนการอื่นๆ อีกมากมายในที่ลับแน่นอน
การทำให้เฉินเฉียนหัวได้รับคัมภีร์เปิดนภาในเวลาและโอกาสที่หมาะสมไม่ทำให้ผู้คนแปลกใจแม้แต่น้อย
“ความสามารถของคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ถ้าเกิดกลายเป็นเซียนก็ไม่อาจยึดถือเขาเป็นเพียงยอดฝีมือระดับเซียนจริงแท้ทั่วไป” ถึงแม้เฟิงโม่หยางจะเพิ่งมาถึงโลกซ้อนโลกไม่นาน แต่ย่อมเคยได้ยินนามอันยิ่งใหญ่ของเฉินเฉียนหัวมาก่อน ทราบว่าคนผู้นี้กับเขากว่างเฉิงมีความสัมพันธ์ไม่ลงรอยกัน
“ถ้าหากเขารวบรวมคัมภีร์นภาเก้าม้วนได้ครบ ความสามารถเกรงว่าจะยิ่งแก่กล้ากว่าเดิม” เฟิงโม่หยางในฐานะลูกศิษย์แกนกลางของเขากว่าเฉิง ปัจจุบันฝึกฝนคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตอยู่เช่นกันเอ่ยขึ้น
อาหู่มองเยี่ยนจ้าวเกอถามว่า “คุณชาย เขามีโอกาสอาศัยคัมภีร์นภาเก้าม้วนอนุมานย้อนถึงคัมภีร์ม้วนแรกสุดแห่งต้นกำเนิดที่อยู่ในตำนานนั้นได้หรือไม่”
“อาจจะศึกษาความลี้ลับได้หลายส่วน แต่ไม่อาจอนุมานย้อนกลับได้” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างราบเรียบ
อนุมานย้อนกลับก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีที่ว่างให้เขาแล้ว
แต่ว่า…
“ถ้าหากเฉินเฉียนหัวผลักเปิดประตูเซียนแล้วจริงๆ ดูจากตอนนี้กลับไม่อาจดูแคลนได้” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวพลางลูบคาง “ในมือของคนผู้นี้มีอาวุธเซียนอยู่”
ปัญหาที่ควรค่าให้ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ขณะที่ก้าวข้ามการขวางกั้นของมนุษย์เซียน พลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่เหมือนฟ้าพลิกแผ่นดินคว่ำ ความสามารถในการมองอดีตสำรวจอนาคต อนุมานสรรพเรื่องราวในคัมภีร์เกิดนภาของเฉินเฉียนหัวจะเพิ่มขึ้นจนสัมผัสได้
………………..