ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1212 แข็งกร้าวและหยิ่งทะนง
มิน่ากษัตริย์ดินกับกษัตริย์กระบี่ถึงต้องรั้งอยู่ในมิติต่างแดน หยุดอยู่ที่โถงเซียนต่อ
ราชันพระอังคารสั่วหมิงจางที่ในอดีตเคยถูกจัดอยู่ในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ และบุกเบิกโลกซ้อนโลกด้วยกันกับกษัตริย์ดินโจมตีจักรวาลของโถงเซียน เรื่องนี้เป็นทั้งเรื่องใหญ่และเรื่องเล็ก
ฉวยโอกาสตอนเรื่องเพิ่งเกิด ก่อนที่สั่วหมิงจะทำให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โตโดยสมบูรณ์ กษัตริย์ดินที่ปวดศีรษะย่อมหาวิธีไกล่เกลี่ย
ไม่ทราบว่าเป็นเพราะความพยายามของเขาหรือไม่ สภาพการณ์ถึงเพิ่มความรุนแรงขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
การกระทำของราชันพระอังคาร ดูจากก่อนและหลังมีความขัดแย้งกันอยู่บ้าง แน่นอนว่าไม่ถึงกับเป็นหัวพยัคฆ์หางงู
หนึ่งในกษัตริย์โถงเซียนสองคนที่เคยไล่ล่าขัดขวาง ทำร้ายทวนพระอังคาร ได้ตกตายด้วยน้ำมือของสั่วหมิงจาง
กษัตริย์ผู้หนึ่ง เซียนลี้ลับสงบนิ่งผู้หนึ่ง ต่อให้มาจากโถงเซียน แต่ก็เป็นยอดฝีมือเซียนลี้ลับที่ปราณเซียนสำเร็จเป็นจิตรา ข้ามผ่านภัยพิบัติสัจพิศวงมาได้ สุดท้ายกลับถูกสั่วหมิงจางฆ่าตายท่ามกลางสายตามากมาย
ที่พวกเขาคิดจับทวนพระอังคารก่อนหน้าก็เพื่อตามหาที่อยู่ของสั่วหมิงจาง ถึงแม้จะไม่สำเร็จ แต่ก็เป็นการปูทางซึ่งอาจจะล่อให้สั่วหมิงจางปรากฏตัวได้
นี่เป็นผลลัพธ์ที่รับได้สำหรับยอดฝีมือระดับสูงของโถงเซียน ดังนั้นโถงเซียนย่อมต้องเพิ่มการคุ้มครองยอดฝีมือเซียนลี้ลับสองคนที่อาจจะกลายเป็นเป้าหมายของสั่วหมิงจาง
ขณะที่คุ้มครองก็เท่ากับวางกำดักเอาไว้ เพื่อรอให้สั่วหมิงจางส่งตัวเองเข้าตาข่าย
สุดท้ายในสถานการณ์เช่นนี้ กษัตริย์ขนนก กษัตริย์ที่สามารถใช้ประโยชน์จากความศรัทธาในแดนเซียนสิบสองแห่งซึ่งอยู่ใต้การปกครองของโถงเซียน ยังคงถูกราชันพระอังคารสั่วหมิงจางสังหารอย่างเหี้ยมหาญภายใต้การคุ้มครองหลายชั้น
ภายหลัง สั่วหมิงจางตะลุยเข่นฆ่า หลุดพ้นจากวงล้อม
ยอดฝีมือโถงเซียนที่จัดการการล้อมในครังนี้ต่างเสียหน้าครั้งใหญ่ ร่วมมือกับยอดฝีมือจำนวนมากกว่าเดิม ไล่ล่าปิดล้อมสั่วหมิงจาง
สั่วหมิงจางไม่ได้ออกจากโถงเซียน ถึงกับเคลื่อนไหวอยู่ในแดนเซียนที่อยู่ใต้การปกครองของโถงเซียน เดี๋ยวปรากฏเดี๋ยวสูญหาย ร่องรอยไม่แน่นอน
ขณะที่พาผู้ไล่ล่าอ้อมเป็นวง เห็นได้ชัดว่ากำลังตามหากษัตริย์โถงเซียนอีกคนหนึ่งที่เคยทำร้ายทวนพระอังคารกับกษัตริย์ขนนกในตอนแรก
ความเกรี้ยวกราดและความหยิ่งทะนงของคนผู้นี้ทำให้ยอดฝีมือแห่งโถงเซียนโกรธจนลมออกหู พลันดึงดูดยอดฝีมือให้ออกสำนักมากกว่าเดิม
แต่ว่าในตอนนี้เอง สถานการณ์ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ราชันพระอังคารหนีออกจากวงล้อมชั้นหนึ่ง ทะลวงการขัดขวางของศัตรู ได้จับยอดฝีมือโถงเซียนผู้หนึ่งที่มาไล่ล่าขวางทางตนเองไปด้วย
จากนั้นก็จากไปเช่นนี้ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของโถงเซียนอีก หากแต่ออกจากจักรวาลของโถงเซียน กลับไปยังมิติต่างแดนไร้สิ้นสุดอีกครั้ง
หลังจากจับตัวคนเสร็จก็หนีหายทันที นี่จะทำให้ยอดฝีมือโถงเซียนยอมรับได้อย่างไร
ยอดฝีมือโถงเซียนจำนวนมากไล่เข่นฆ่าต่อ มุ่งหน้าไปยังมิติต่างแดน ไล่ตามราชันพระอังคารสั่วหมิงจาง
แต่ว่าการกระทำที่ผิดปกติไปบ้างของเขานี้ ย่อมดึงดูดความสนใจของผู้คน
‘เขาไม่ใช่เกรงกลัว ปัญหาอยู่ที่ยอดฝีมือของโถงเซียนเต๋านอกรีตที่ถูกราชันพระอังคารจับไปผู้นั้น’ เยี่ยนจ้าวเกอวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว ‘เขาได้ข่าวบางอย่างจากปากของอีกฝ่าย ข่าวที่อยู่เหนือความคาดหมาย แต่กลับทำให้เขาสนใจถึงขีดสุด’
ดังนั้นจึงเปลี่ยนแผนการใหม่ ออกจากโถงเซียน
‘ครั้งนี้น่าสนใจจริงๆ แล้ว’ เยี่ยนจ้าวเกอคิดในใจ
เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ในโถงเซียนต่อ เยี่ยนจ้าวเกอก็เก็บเนื้อเก็บตัวมากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง เลือกสถานที่หนึ่งเพื่อซ่อนร่องรอยแล้วรอคอยอย่างอดทน
ไม่นานเท่าไรก็มีจอมยุทธ์โถงเซียนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัว
หลังจากได้จับเชลยมาสอบสวนเมื่อก่อนหน้า เยี่ยนจ้าวเกอก็ได้รู้แล้วว่ามิติต่างแดนกว้างใหญ่เกินไป ไล่จับราชันพระอังคารไม่ง่าย มีข่าวส่งกลับมาขอให้ส่งยอดฝีมือจำนวนมากกว่าเดิมไปคลี่กางตาข่าย สร้างการกีดขวาง เพื่อทดลองหยุดเป้าหมาย
ยอดฝีมือโถงเซียนกลุ่มนี้คือหนึ่งในกลุ่มคนสนับสนุนกลุ่มใหม่
การจากไปของราชันพระอังคารในครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งตลอดเวลา จอมยุทธ์โถงเซียนที่ไปเพิ่มการสนับสนุนเหล่านี้ไม่อาจหาข้อมูลล่าสุดได้ตลอดเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เยี่ยนจ้าวเกอคิดจะสอบสวนก็ไม่ได้อะไร
กลับมิสู้ลอบติดตามอีกฝ่าย จะได้รับคำสั่งใหม่และเปลี่ยนทิศทางได้ตลอดเวลา
เป็นเพราะเป้าหมายหลักคือการกางตาข่ายจับกุมคน ไม่ใช่กำลังหลักที่ต้องไล่เขนฆ่า ปะทะกันซึ่งหน้า ดังนั้นยอดฝีมือโถงเซียนที่ถูกส่งไปสนับสนุนเหล่านี้จึงไม่ได้มีระดับพลังฝึกปรือล้ำเลิศนัก
เยี่ยนจ้าวเกอจึงเกิดความคิดสะกดรอยอย่างลับๆ ใช้ประโยชน์อีกฝ่ายเพื่อช่วยนำทางให้ตัวเอง
ถึงแม้พวกเขาจะยังไม่รู้ว่าราชันพระอังคารไปอยู่ไหนกันแน่ แต่อย่างน้อยก็ชี้ให้เห็นถึงทิศทางและอาณาเขตการเคลื่อนที่อย่างคร่าวๆ ได้ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ อีกฝ่ายก็มียอดฝีมือที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนอยู่ด้วย
ขณะที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอได้เห็นและได้ทราบถึงความยิ่งใหญ่ของพลังในโถงเซียนโดยตรงเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง ก็ทำให้เขาระวังตัวเป็นพิเศษ ไม่ให้ถูกอีกฝ่ายค้นพบ
เขากลับไม่หวั่นเกรงอีกฝ่าย แต่คิดจะไปให้ถึงเป้าหมายยังจำเป็นต้องกระทำด้วยความระวัง ไม่เผยร่องรอยของตัวเอง
เยี่ยนจ้าวเกอใช้คัมภีร์นภาไร้ขอบเขตเป็นพื้นฐาน แสดงวิชาแทนเงาในสิบสองวิชาประกายกาฬด้านนอก เมื่อประสานกับวิชาในสุดยอดวรยุทธ์อย่างคัมภีร์กระบี่ลวงเซียนสายเหนือพิสุทธิ์ เยี่ยนจ้าวเกอก็เหมือนกับเงามืดไร้รูปร่าง ขณะติดตามอยู่ด้านหลังจอมยุทธ์โถงเซียนกลุ่มนั้น
พอออกจากจักรวาลที่เป็นของโถงเซียน เข้าไปในมิติต่างแดนที่กว้างใหญ่ก็ยากจะควบคุมทิศทางและระยะห่างมากกว่าเดิม
เยี่ยนจ้าวเกอติดตามอยู่ด้านหลังจอมยุทธ์โถงเซียนกลุ่มนั้นอย่างอดทน การเดินทางในครั้งนี้ได้ข้ามผ่านมิติมากมาย
ในมิติต่างแดนล้วนเต็มไปด้วยวังวนมิติเวลา ยากทำความเข้าใจมิติและช่องว่าง ทำให้คนคิดจะจดจำเส้นทางยังยากลำบาก
ยอดฝีมือโถงเซียนที่อยู่ตรงหน้าล้วนอาศัยการส่งข่าวมาอย่างต่อเนื่องของคนที่ผ่านมาที่นี่ก่อนหน้า จึงค่อยรักษาทิศทางไม่ให้เบนออกนอกเส้นทางได้
แม้จะเป็นเช่นนั้น เกิดได้รับผลกระทบจากกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาหลายชั้น ยังคงสามารถหลุดออกจากเส้นทางเคลื่อนไหวที่แน่นอนได้ทุกเวลา จำเป็นต้องสัมผัสให้ทัน จากนั้นก็กลับคืนสู่เส้นทางหลักใหม่
ไม่ทราบว่าเดินทางแบบนี้นานเท่าไร เยี่ยนจ้าวเกอพลันรู้สึกฮึกเหิม เป็นเพราะเขาสัมผัสได้ว่าจอมยุทธ์โถงเซียนที่ตนติดตามอยู่หยุดเคลื่อนไหวแล้ว
ใกล้ๆ กับจอมยุทธ์โถงเซียนเหล่านี้ยังมีกลิ่นอายของจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งคนอื่นรวมตัวกับพวกเขา เหมือนกับกำลังรวมพล
‘สมควรถึงที่หมายแล้วกระมัง’ เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวในใจ ‘สาเหตุที่พวกเราหยุดฝีเท้าได้ หมายความว่าราชันพระอังคารที่อยู่ด้านหน้าสุดก็หยุดฝีเท้าเช่นกัน น่าจะถึงปลายทางแล้ว’
เยี่ยนจ้าวเกอหยุดเคลื่อนไหว ไม่ได้เข้าใกล้ต่อเช่นกัน
ในเมื่อราชันพระอังคารสั่วหมิงจางหยุดแล้ว เช่นนั้นยอดฝีมือโถงเซียนจำนวนมากที่ไล่ตามเขาก็จะต้องเริ่มรวมตัวกันที่นี่อย่างต่อเนื่อง กอปรกันเป็นวงล้อมหลายชั้น ตามหาตำแหน่งที่ชัดเจนของสั่วหมิงจาง หลังจากกำหนดตำแหน่งของเขาไว้ได้ ก็จะเกิดสงครามอีกสงครามหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้ ตอนนี้มียอดฝีมือโถงเซียนจำนวนมากมารวมตัวกันแล้ว ในนี้เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมียอดฝีมือระดับสุดยอดอยู่ด้วย ระดับความหนาแน่นไม่แน่ว่าจะสูงกว่าในจักรวาลโถงเซียน
ตนเมื่อมาที่นี่ จำเป็นต้องระวังมากกว่าเดิม เขาสงบจิตใจ ยังคงซ่อนร่องรอยของตัวเอง แต่ว่ากระตุ้นคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต ลอบโคจรวิชาจนกลิ่นอายหายไป คนนิ่งไม่ขยับ แต่ว่าความสามารถในการรับรู้ทางประสาทสัมผัสกลับเพิ่มถึงระดับสูงสุด รวบรวมสัมผัสทุกสิ่งรอบๆ
เป็นอย่างที่คาด เริ่มมีเสียงดังขึ้นในจิตใจ เหมือนกับมีภาพสะท้อนบนน้ำโผล่ขึ้นมา
“บริเวณนี้…ตำแหน่งไม่ชัดเจน…อาณาเขตกว้างมาก…จำเป็นต้องลดอาณาเขตลงอีกขั้นหนึ่ง จึงจะหาตัวได้ง่าย…”
ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอฟังอยู่ จิตใจพลันสั่นไหว สัมผัสได้ว่ามีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งถึงขีดสุดลอยมา
กลับเป็นยอดฝีมือโถงเซียนที่มีพลังฝึกปรือสูงกว่าคนอื่นผู้หนึ่งมาอย่างกะทันหัน
จอมยุทธ์โถงเซียทั้งหมดที่อยู่รอบๆ รีบเข้าไปคำนับ
แต่ไม่รอให้พวกเขาได้พูด กลางความว่างเปล่าในจักรวาลก็มีเสียงตวาดเสียงหนึ่งดังขึ้น “ผู้ใดทำลับๆ ล่อๆ ออกมาให้ข้าเห็น!”
………………..