ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1254 คนรุ่นใหม่เหนือกว่าคนรุ่นเก่า
เจตจำนงหมัดของเยี่ยนจ้าวเกอทะลวงค่ายกลกระบี่ของจักรพรรดิเมฆอย่างหักโหม จู่โจมถึงเบื้องหน้าจักรพรรดิเมฆ
ตรงเอวของจักรพรรดิเมฆพลันมีประกายกระบี่สายหนึ่งพุ่งขึ้น กลับเป็นกระบี่ยาวแบบโบราณเล่มหนึ่ง กลิ่นอายเก่าแก่เหลือล้น ประกายเย็นเยียบสั่นสะท้าน
นี่คืออาวุธเซียนไร้ช่องโหว่ที่จักรพรรดิเมฆพกพา มีพลังชีวิตเต็มเปี่ยม ไม่ต้องให้จักรพรรดิเมฆสั่งก็พุ่งขึ้นมาคุ้มครองผู้เป็นนายด้วยตัวเอง
คมกระบี่ที่ตั้งตรง ขวางอยู่ด้านหน้ากำปั้นของเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับโล่
เฮ่อเหมี่ยนมีสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก
ด้วยวัยวุฒิคุณวุฒิและสถานะรวมถึงพลังฝึกปรือของจักรพรรดิสัญญะเมฆ การถูกจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งกดดันจนต้องเผยอาวุธ เท่ากับแพ้ไปแล้วหนึ่งกระบวนท่าอย่างไม่ต้องสงสัย
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นกระบี่โบราณเล่มนั้น สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ไม่คิดหยุดหมัดขวาที่ต่อยออกไปแม้แต่น้อย
ที่ศีรษะของเขาพลันมีคันฉ่องใสลอยสูง บนผิวกระจกมีรอยแตกรูปกากบาทจางๆ ทำให้ผิวกระจกเหมือนถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน
ในผิวกระจกสี่ส่วนต่างมีเปลวเทียนกำลังส่องแสง ประกายกระจกสาดลง ปะทะกับกระบี่โบราณตรงหน้าจักรพรรดิเมฆ
กระบี่ได้รับการกระตุ้นจากคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน พลันเปลี่ยนเป็นดุร้ายกว่าเดิม
เยี่ยนจ้าวเกอยังไม่ได้หลอมเปลี่ยนคันฉ่องโบราณนี้อย่างแท้จริง ประกายกระจกพลันมืดลงไป
หากแต่แค่การชะงักไปนี้ หมัดของเยี่ยนจ้าวเกอก็อ้อมผ่านกระบี่โบราณ ต่อยใส่ร่างของจักรพรรดิเมฆแล้ว
ร่างเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่ จักรพรรดิเมฆไม่บาดเจ็บ แต่เมื่อได้รับการกระแทกจากพลัง คนก็โซเซถอยหลัง
ชายชราในเสื้อคลุมเต๋าหยุดสภาวะถอยหลัง ยื่นมืออกมาจับกระบี่โบราณที่กำลังกระสับกระส่ายกลับเข้ามาในฝัก
เขาเงยหน้ามองเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปด้านบน มองคันฉ่องโบราณที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศเหนือศีรษะของอีกฝ่าย
เฮ่อเหมี่ยนมองคันฉ่องบานนั้นอย่างตกตะลึงเช่นกัน “โคมในคันฉ่องของจู๋หยางจื่อ”
ยอดฝีมือระดับสุดยอดในจักรวาลสำนักเต๋าที่โลกซ้อนโลกกับฟ้าท่องมรตอยู่ ไม่ได้รู้จักกันมาแค่วันสองวัน
โคมในคันฉ่อง อาวุธเซียนไร้ช่องโหว่ที่จักรพรรดิอาทิตย์เทียนไขพกพา จักรพรรดิเมฆและเฮ่อเหมี่ยนสองศิษย์อาจารย์ย่อมรู้จัก
ในห้าจักรพรรดิบนโลกซ้อนโลก จักรพรรดิอาทิตย์ที่แล้วมาใกล้ชิดกับสายสืบทอดของกษัตริย์ดินแห่งผากิเลน เมื่อเยี่ยนจ้าวเกอสังหารประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิง จักรพรรดิอาทิตย์กับเขาย่อมไม่ใช่พวกเดียวกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่จักรพรรดิอาทิตย์จะมอบอาวุธเซียนให้เยี่ยนจ้าวเกอยืมชั่วคราว
โคมในคันฉ่องนั่นตกมาอยู่ในมือเยี่ยนจ้าวเกอ…เหลือคำอธิบายเดียวแล้ว เพียงแต่คำอธิบายนี้ทำให้คนทั้งสองจากมรกตท่องฟ้ารู้สึกเหลือเชื่อ
พวกเขาได้ต่อสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอด้วยตัวเอง ทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอในปัจจุบันแข็งแกร่งขนาดไหน
จักรพรรดิสัญญะเมฆ หนึ่งในเจ็ดปราชญ์ท่องมรกต หนึ่งในยอดฝีมือที่มีความอาวุโสมากที่สุดของสามพิสุทธิ์สายหลักสำนักเต๋าในปัจจุบัน เป็นคนรุ่นเดียวกับกษัตริย์ดินและกษัตริย์ลี้ลับ ถึงแม้จะเป็นเพราะความต้องการบางอย่างจึงหยุดอยู่ที่ระดับเซียนจริงแท้ แต่ก็แตกต่างกับเซียนจริงแท้คนอื่น
ในห้าจักรพรรรดิบนโลกซ้อนโลก ถ้าหากไม่นับเจี่ยหมิงคง จักรพรรดิเมฆสามารถเอาชนะจักรพรรดิอีกสี่คนได้โดยสิ้นเชิง แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังคงเกือบจะพ่ายแพ้ใต้หมัดของเยี่ยนจ้าวเกอในหนึ่งกระบวนท่า
ทว่าการพ่ายแพ้ในสมรภูมิเป็นเรื่องหนึ่ง การที่อาวุธเซียนในมือไปตกอยู่ในมือคนอื่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ตอนนี้เฮ่อเหมี่ยนเพียงหวังว่า เยี่ยนจ้าวเกอจะชิงแค่อาวุธของจักรพรรดิอาทิตย์มา ถ้าหากยังมีอย่างอื่นตามมาอีก เช่นนี้ก็ออกทำให้คนยากจินตนาการเกินไปแล้ว
‘ตอนนี้เขามีกระบี่เปิดกำเนิด หรือว่าอาวุธเซียนอย่างอื่นอยู่กับตัวหรือไม่’ เฮ่อเหมี่ยนมองเยี่ยนจ้าวเกอ คาดเดาอยู่ในใจ
คิดได้ถึงกลางทางก็รู้สึกขื่นขม เพราะการคิดเรื่องเหล่านี้ในตอนนี้ไม่มีความหมายสำหรับเขามากนัก
สำหรับหลงเสวี่ยจี้ ต่อจากนี้หากตนเลื่อนสู่ระดับเซียน เฮ่อเหมี่ยนยังมีความมั่นใจสู้ตัดสินสูงต่ำกันอีกรอบ แต่หลังจากสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอ ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ นี่เป็นประสบการณ์ที่เขาไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่เกิดมา สามารถก้าวเดินมาถึงวันนี้ได้ ความแน่วแน่และความแข็งแกร่งของเฮ่อเหมี่ยนย่อมไร้ข้อกังขา
เขาพลันรู้สึกว่าจิตใจตนไม่มั่นคง จึงรีบร้อนสงบจิตใจ รวมวิญญาณกับร่างเป็นหนึ่ง สำรวจภายใน ลับจิตกระบี่ใหม่อีกครั้ง
“ปณิธานอันยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิเมฆ คุ้มค่าแก่ความเคารพ” เยี่ยนจ้าเกอไม่มองเฮ่อเหมี่ยน และไม่ได้คิดอธิบายเกี่ยวกับโคมในคันฉ่องที่อยู่บนศีรษะตนแต่อย่างไร เก็บคันฉ่องอย่างสบายอารมณ์แล้วมองจักรพรรดิเมฆด้วยรอยยิ้ม
ผู้ฝึกกระบี่ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์ท่านนี้ แตกฉานทั้งค่ายกลและกระบี่
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอต่อสู้กับสองศิษย์อาจารย์คู่นี้ ก็พอจะสัมผัสได้ว่าจักรพรรดิเมฆคิดจะทำให้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนในตำนานที่หายสาปสูญไปหลายปีปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง!
จักรพรรดิสัญญะเมฆส่ายหน้า “ไหนเลยจะง่ายดาย แม้แต่จุดเริ่มต้นแรกสุดก็ยังยากเย็นยัก”
“มีความมั่นใจเช่นนี้ก็เหนือกว่าคนมากมายแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอว่า จากนั้นเขาก็โบกมือ “วันนี้ข้าผู้แซ่เยี่ยนเอาชนะไปหนึ่งกระบวนท่าครึ่ง จักรพรรดิสัญญะเมฆถ้าหากยังคิดชี้แนะ ข้ายินดีน้อมสนอง ท่านจะใช้กระบี่สำเร็จล้ำก็หาเป็นไรไม่ แต่ว่าเหมือนกับที่้ข้าพูดกับสหายร่วมเส้นทางเฮ่อศิษย์ของท่าน ตำหนักโอสถที่พวกเราอยู่เดิมทีมีความประหลาด ไม่อาจดูแคลน”
กระบี่สำเร็จล้ำ เป็นอาวุธเซียนไร้ช่องโหว่ กระบี่ของจักรพรรดิสัญญะเมฆ ด้วยพลังฝึกปรือของเขา พอมีกระบี่อยู่ในมือจะกลายเป็นภาพอีกอย่างหนึ่งทันที
จักรพรรดิเมฆพอฟังก็ส่ายศีรษะเล็กน้อย ถึงแม้จะมองออกว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้หลอมเปลี่ยนโคมในคันฉ่อง แต่ผู้ใดจะทราบว่าเขามีกระบี่เปิดกำเนิดหรืออาวุธเซียนชิ้นอื่นอยู่ในมือหรือไม่ แต่ต่อให้ไม่มี ด้วยพลังของเขาแล้ว จะสะบัดก้นจากไปก็ไม่มีปัญหา
ยิ่งไปกว่านั้น พอเห็นโคมในคันฉ่อง ในใจของจักรพรรดิเมฆก็คิดถึงเรื่องราวมากมายในชั่วพริบตา เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ “คนรุ่นใหม่เปลี่ยนคนรุ่นเก่า เยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนมีลูกหลานเช่นนี้ นับว่าตายตาหลับแล้ว”
“จักรพรรดิเมฆชมเกินไปแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า เก็บเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ ไม่มองโกดังโอสถเบื้องล่างอีก
โอสถเซียนที่ยังเหลืออยู่ในโกดัง ก่อนหน้านี้ถูกเขากวาดไปเป็นจำนวนมาก ที่เหลืออยู่แม้จะล้ำค่าเช่นกัน แต่ว่าไม่มีความจำเป็นต้องเปลืองเวลากลับไปจัดการ
การต่อสู้กับนักพรตอวิ๋นเจิ้งและเฮ่อเหมี่ยนสองศิษย์อาจารย์ค่อนข้างกินเวลา ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอสนใจคู่ต่อสู้ที่ก่อนหน้านี้มาถึงก่อน แล้วเอาโอสถเซียนจำนวนมากออกไปจากโกดังโอสถ
หลังจากเขาครุ่นคิดสักพักก็ออกเดินทางใหม่ เป้าหมายในครั้งนี้ของเขาคือแกนควบคุมหลักของตำหนักโอสถ
จักรพรรดิเมฆกับเฮ่อเหมี่ยนมองการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เฮ่อเหมี่ยนมองอาจารย์ของตน จักรพรรดิเมฆส่ายหน้า “โลกมิติด้านล่าง ไม่มีเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ ยากจะเปิดออกในระยะเวลาอันสั้น”
ว่าแล้วเขาก็ติดตามเยี่ยนจ้าวเกอไป เฮ่อเหมี่ยนตามมาติดๆ
“เมื่อครู่เซียนผู้ถูกเนรเทศบอกว่า ตำหนักโอสถของวังเทพแห่งนี้มีความประหลาดอยู่แล้วหรือ” จักรพรรดิเมฆถาม
หลังจากได้เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ เขาจะสมความปรารถนา สามารถจากไปได้
ปัจจุบันเอาเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับมาครองไม่ได้ ได้แต่เปลี่ยนของที่อยู่รองลงไป ลองดูว่าจะหาของอย่างอื่นในตำหนักโอสถได้หรือไม่
เตาโอสถซึ่งเป็นของวิเศษในตำนานที่อยู่ในนี้ ไม่ได้มีแค่เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับเล่านั้น ของวิเศษในตำนานอย่างอื่นก็มีไม่น้อย
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ห้ามไม่ให้พวกจักรพรรดิเมฆร่วมทาง เพียงกล่าวอย่างรวบรัด “ในตำหนักโอสถคล้ายมีตัวตนและเจตจำนงบางอย่าง ไม่แน่ใจว่ามีคนมาถึงก่อน หรือว่ามียอดฝีมือก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่อาศัยอยู่ที่นี่ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไม่อาจไม่ป้องกัน”
พวกจักรพรรดิเมฆต่างขมวดคิ้ว เฮ่อเหมี่ยนพึมพำกับตัวเอง “นอกจากนี้แล้วยังมีเผ่าปีศาจเข้ามายุ่ง”
“มิผิด” เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจเชื่อมต่อกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่อยู่ในแกนนำทางของตำหนักใหญ่ สามารถทราบได้ว่า ปัจจุบันผู้ที่เข้ามาในตำหนักโอสถต่างล้วงลึกเข้ามา โดยมีไม่ต่ำกว่าหนึ่งกลุ่ม
เขามุ่งหน้าไปตามเส้นทาง หลังจากข้ามผ่านมิติเวลามากมาย ในจักรวาลที่มืดมิดตรงหน้าก็พลันปรากฏเมฆดาราที่ส่องแสงสว่างไสว
‘หอเซียนม่วง ที่ที่แกนหลักตำหนักโอสถอยู่…’ เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตา
………………..