ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1275 ซ่อนคมหล่อเลี้ยงกระบี่
เป็นเพราะการเข้ามายุ่งเกี่ยวของราชันพระอังคารสั่วหมิงจาง กับปีศาจกวางขาว สิ่งที่มรกตท่องฟ้าจะได้ในครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการหยิบเกาลัดในกองไฟ ความยากค่อนข้างสูง
กษัตริย์อนันต์จางปู้ซวีมีความคาดหวังอยู่หลายส่วน เป็นเพราะว่าวาสนาความบังเอิญ หวังจะได้หยิบฉวยผลประโยชน์ของพวกเยี่ยนจ้าวเกออยู่หลายส่วน ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่อาจสยบวิญญาณตำหนักโอสถได้
ถ้าหากไม่มีกองกำลังพิเศษของพวกเยี่ยนจ้าวเกอโผล่มากะทันหัน ผลแพ้ชนะในตอนท้าย จะเป็นการตัดสินระหว่างสั่วหมิงจาง ปีศาจกวางขาว และวิญญาณตำหนักโอสถ
ขอแค่ไม่มีคนจากโถงเซียนตามมาในระยะเวลาอันสั้น คนที่ได้เปรียบที่สุดสมควรเป็นสั่วหมิงจาง
ในเรื่องการต่อสู้กับผู้คน หลงเสวี่ยจี้ค่อนข้างชอบเอาชนะ โดยเฉพาะชอบเปรียบพลังกับคนที่โดดเด่นในเชิงกระบี่
ทว่าในเรื่องอื่นๆ อย่างเช่นวาสนาของล้ำค่า ก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ยิ่ง
“เช่นนี้ขอขอบคุณอาจารย์ลุงหลงมากๆ” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือแก่หลงเสวี่ยจี้
ภายใต้การควบคุมของเขา ตำหนักโอสถล่องลอยอยู่ในมิติต่างแดน ทดลองหาทางกลับจักรวาลสำนักเต๋า
ขณะที่เดินทาง ทุกคนพูดคุยกัน พวกเยี่ยนจ้าวเกอและเนี่ยจิงเสิน ได้บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกซ้อนโลกในหลายปีมานี้ให้แก่กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ย
ถึงแม้ว่าจะเคยมีการติดต่อ แต่ว่าการสื่อสารถึงอย่างไรค่อนข้างรวบรัดไปบ้าง จะสู้การสนทนาต่อหน้าไม่แบ่งเป็นเรื่องใหญ่เรื่องเล็กเช่นตอนนี้ได้อย่างไร
พวกเยี่ยนจ้าวเกอได้อะไรมากมายจากเย่วเจิ้นเป่ยเช่นกัน
เรื่องสำคัญที่สุดในนี้ย่อมเป็นราชันพระเสาร์เจี่ยงเซิ่น สำเร็จระดับห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด ฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวง ขึ้นสู่ตำแหน่งจ้าวสวรรค์ระดับเซียนกำเนิดสุญญตาสำเร็จ
เปรียบเทียบกันแล้ว ข่าวที่ค่อนข้างดีก็คือ ราชันพระอังคารสั่วหมิงจางหาเรื่องโถงเซียน สร้างความโกรธแค้นให้แก่ยอดฝีมือจำนวนมากของโถงเซียน จนเปิดฉากไล่ล่าสังหารเขา
เพียงแต่เมื่อเป็นแบบนี้ แดนสุขาวดีศานาพุทธซึ่งเป็นเส้นทางนอกรีตและเป็นคู่ปรับเก่าของโถงเซียน ย่อมสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในจักรวาลโถงเซียน
ตอนที่อยู่ในเมฆดาราปฐมกำเนิด ก็มีผู้ยิ่งใหญ่จากแดนสุขาวดีไปตรวจสอบ
หลังจากยืนยันได้ว่าไม่ใช่สถานการณ์ที่โถงเซียนจงใจสร้างขึ้น แดนสุขาวดีศาสนาพุทธย่อมไม่ยอมละทิ้งโอกาสบุกจู่โจม
การต่อสู้ของเต๋าและพุทธที่ตอนแรกเริ่มสงบลง ช่วงนี้มีแนวโน้มที่จะปะทุขึ้นอีกครั้ง
ถ้าโถงเซียนจัดการสั่วหมิงจางได้ในระยะเวลาอันสั้นยังพอทำเนา พวกเขาสามารถปรับกองกำลัง ไปรับมือกับการคุกคามของแดนสุขาวดีได้
ถึงแม้จะถูกกดดันให้ต้องทำสงคราม แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสูญเสียการแบ่งความสำคัญ
“ทว่าพวกเขาไม่อาจทำอะไรราชันพระอังคารได้ กลับถูกราชันพระอังคารฆ่าคน หนีออกจากวงล้อมสำเร็จ” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “นิ่งกระอักกระอ่วนยิ่ง”
ดังนั้น สภาวะจู่โจมของแดนสุขาวดีศานาพุทธ อาจกลายเป็นไฟป่าม้วนคลุมโถงเซียนได้ทุกเวลา
“แต่ว่าการเคลื่อนไหวของศานาพุทธเส้นทางนอกรีต ไม่ได้รุนแรงเหมือนอย่างที่คาดไว้” กษัตริย์กระบี่กล่าวอย่างสงบนิ่ง “จะต้องมีสาเหตุที่ลึกล้ำนี้กว่าแน่นอน”
ย่อมไม่มีทางที่โถงเซียนจะขอประนีประนอมกับแดนสุขาวดี
ต่อให้ต้องยอมปล่อยสั่วหมิงจางไปชั่วคราว โถงเซียนก็ไม่มีทางถอยให้แดนสุขาวดี
เมื่อเป็นแบบนี้ แดนสุขาวดีกลับไม่ฉวยโอกาสเคลื่อนไหว เหตุผลทำให้คนขบคิดอย่างละเอียด
“โถงเซียนเต๋านอกรีตมีผู้ช่วยหรือพันธมิตร?” เยี่ยนตี๋ขมวดคิ้ว “เผ่าปีศาจหรือ?”
ทุกคนเหมือนนึกอะไรได้ “ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
เผ่าปีศาจคิดเคลื่อนไหวหลังสงบสุขมานาน ตอนนี้ดูแล้วเป็นเรื่องแน่นอนไม่ต้องกังขา
สิ่งที่น่ากังวลเพียงหนึ่งเดียวก็คือ เมื่อพวกเขาคิดเคลื่อนไหวเช่นนี้ ได้วางแผนอะไรในที่ลับ
พวกเขาเป็นพันธมิตรของโถงเซียน หรือว่ามีแผนการอื่น?
เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญไม่หยุด ความคิดมากมายแวบขึ้นในชั่วพริบตา รู้สึกแค่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ยากหยั่งคาดกว่าเดิม
หลงเสวี่ยจี้กับอวี่เยี่ยคำนับเยว่เจิ้นเป่ย “ศิษย์พี่เยว่”
“อาจารย์ลุงเยว่” ครั้งนี้อวี่เยว่กลับไม่เหม่อลอยอย่าหาได้ยาก มองเยว่เจิ้นเป่ยด้วยความใคร่รู้
เมื่อครู่กษัตริย์กระบี่สู้กษัตริย์อนันต์ กระบี่หยกเบิกนภาสู้กระบี่ทำลายโลกสายเหนือพิสุทธิ์ ควาลี้ลับไร้สิ้นสุดในนี้ ทำให้นางรู้สึกเป็นบุญตา ชมดูจนลุ่มหลงงงมงาย
ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยกับจอมยุทธ์ซึ่งเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายเหนืพอิสุทธิ์ ที่แล้วมามีความแค้นกันลึกล้ำ
กระนั้น เขาก็ยังเป็นมิตรต่อลูกหลานของหลงจักรพรรดิน้ำพุ “ไม่ต้องเกรงใจ อาจารย์อาหลงมีลูกหลาน ข้ารู้สึกดีใจยิ่ง”
“อาจารย์อาตอนนี้เขาสบายดี?”
หลงเสวี่ยจี้ตอบ “ก่อนที่ข้าจะออกจากมรกตท่องฟ้า บิดายังเข้าฌานอยู่”
“ผู้อาวุโสเกากษัตริย์ลี้ลับมารดาของเจ้ายังคงไม่ออกฌานเช่นกัน?” เยว่เจิ้นเป่ยถาม
“มิผิด” หลงเสวี่ยจี้พยักหน้า
เยว่เจิ้นเป่ยว่า “หลี่เถาม่วงก็สมควรเข้าฌานอยู่กระมัง จางปู้ซวีออกจากฟ้าองมรกตมาหลายปี ครั้งนี้ทางมรกตท่องฟ้ามีพวกเจ้ามาแค่สองคนหรือ?”
อวี่เยี่ยพอฟังก็กะพริบตาปริบๆ
หลี่เถาม่วง ก็คืออาจารย์ของพวกกษัตริย์ลี้ลับและกษัตริย์อนันต์ บูรพาจารย์เฒ่าแห่งมรกตท่องฟ้า กษัตริย์เถา
คนผู้นี้แซ่หลี่ ฉายาฆราวาสเถาม่วง
กระนั้นคำเรียกหลี่เถาม่วง ปกติแล้วล้วนเป็นคำเรียกหาที่มีแต่คนที่มีศักดิ์ฐานะเท่าเทียมนางถึงจะใช้
เยว่เจิ้นเป่ยเรียกกษัตริย์เซียนลี้ลับแบบนี้ก็ไม่มีปัญหา แต่สองฝ่ายมีคุณวุฒิและวัยวุฒิแตกต่างกันเกินไป ด้วยนิสัยจริงจังของเยว่เจิ้นเป่ย ไม่ค่อยเสียมารยาทแบบนี้บ่อยนัก
ทว่าสีหน้าของเขาสงบนิ่ง กล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้รู้สึกว่าผิดปกติแม้แต่น้อย
อาศัยเพียงข้อนี้ ก็เห็นได้แล้วว่า สองฝ่ายมีความสัมพันธ์เลวร้ายขนาดไหน
หลังจากราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถางอาจารย์ของเยว่เจิ้นเป่ยได้เสียชีวิตลง กษัตริย์เถาเหยียดหยามเยี่ยนซิงถาง และเกลียดชังสายสืบทอดของเขานครหยก เพราะว่าตี๋ชิงเหลียนได้ประสบเพทภัยไปด้วย
เพราะเหตุนี้ ไม่เพียงแต่กษัตริย์เถาจะชิงชังเยว่เจิ้นเป่ยเท่านั้น เยว่เจิ้นเป่ยก็ไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อกษัตริย์เถาเช่นกัน
“นอกจากพวกเราแล้ว อวิ๋นเจิงเต้าจ่าง กับเฮ่อเก้าสวรรค์ลูกศิษย์ของเขาก็มาแล้ว” หลวงเสวี่ยจี้ไม่ได้ตกใจ ตอบอย่างราบเรียบ
“อวิ๋นเจิงนักพรตก็มาด้วยหรือ?” เยว่เจิ้นเป่ยพยักหน้ากล่าว “แต่ว่าถ้าไม่ใช่เพราะมั่นใจเก้าในสิบส่วนว่าจะควบคุมตำหนักโอสถได้ทั้งหมด เขาสมควรไม่ถึงกับเปิดคมเพราะเรื่องในวันนี้”
พอได้ยินคำว่า ‘เปิดคม’ เยี่ยนจ้าวเกอก็ตาเป็นประกายเล็กน้อย “จักรพรรดิเมฆกำลังหล่อเลี้ยงกระบี่จริงๆ หรือ?”
“เจ้าต่อสู้กับเขาแล้ว?” หลงเสวี่ยจี้มองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง
“จักรพรรดิเมฆไม่ได้ใช้กระบี่สำเร็จล้ำ ได้แลกเปลี่ยนกันไม่กี่กระบวนท่า” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ถึงแม้ไม่ได้กล่าวถึงผลลัพธ์ แต่พอเห็นท่าทีผ่อนคลายของเขา ทุกคนก็ทราบว่า การแลกเปลี่ยนกระบวนท่ารอบนี้ เยี่ยนจ้าวเกอไม่เพียงแต่ไม่เสียท่า ถึงขั้นที่มีเปรียบด้วยเล็กน้อย
แม้นจักรพรรดิสัญญะเมฆจะกำลังหล่อเลี้ยงกระบี่ แต่ว่าความแข็งแกร่งของพลังก็หาคู่ต่อสู้ในเซียนจริงแท้ตอนนี้ได้ยาก
การหล่อเลี้ยงกระบี่ ไม่ใช่การกักเก็บพลัง
นี่เป็นวิชาโบราณที่ถ่ายทอดเป็นการลับของสายเหนือพิสุทธิ์ ตอนที่ยอดฝีมือผู้ฝึกกระบี่มีความสามารถเลื่อนระดับ จะจงใจสะกดข่ม สั่งสมหล่อเลี้ยงเจตจำนงกระบี่และจิตใจ
หากเปิดคม ระดับพลังฝึกปรือจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับทันที
ในขณะเดียวกัน เมื่อสั่งสมได้มากเข้า ก็จะส่งผลดีต่อการทะลวงระดับที่สูงกว่า
ในวินาทีที่เพิ่งทะลวง จิตใจที่สะกดไว้นานจะระเบิดออก กระบี่แรกสามารถทำลายใต้หล้า
กระนั้น ระดับในปัจจุบันที่ยังไม่ทะลวงก็ไม่ส่งผลต่อการลงมือด้วยพลังทั้งหมดของจอมยุทธ์
ดังนั้นการเอาชนะจักรพรรดิสัญญะเมฆของเยี่ยนจ้าวเกอ ยังคงสร้างความตกตะลึงให้แก่พวกเยว่เจิ้นเป่ย
การเก็บคมหล่อเลี้ยงกระบี่ฝึกฝนยากถึงขีดสุด หากไม่ระวังแม้แต่นิดเดียว อาจจะทำให้คนพิการ ติดอยู่ในระดับปัจจุบันตลอดชีวิต ไม่อาจข้ามผ่านได้อีก
ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา ยอดฝีมือสายเหนือพิสุทธิ์ที่ฝึกฝนวิชานี้ มีน้อยเหมือนขนหงส์เกล็ดกิเลน
“กระนั้นมรกตท่องฟ้าในตอนนี้ คล้ายไม่ได้มีแค่จักรพรรดิเมฆแค่คนเดียวที่ฝึกฝนวิชานี้” เยี่ยนจ้าวเกอถามอย่างสนอกสนใจ “อาจารย์อารุ่นปู่หลงกับอาจารย์ลุงเกาก็กำลังฝึกฝนวิชานี้อยู่เช่นกันกระมัง”
………………..