ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1278 สถานการณ์อันมั่นคงมิอาจย้อนคืนมา
พวกเยี่ยนจ้วเกอหลังจากมาถึงโลกซ้อนโลก ก็ยืนยันข่าวก่อน ทราบว่าราชันพระเสาร์เจี่ยงเซิ่นยังไม่กลับมา
หลังจากนัดแนะกันว่าอีกเดี๋ยวไปพบกษัตริย์ดาราด้วยกันที่หุบเขาเซียนเร้นกาย เยี่ยนจ้าวเกอกับกษัตริย์กระบี่ก็แยกทาง คนหนึ่งกลับเขากว่างเฉิงที่เขตชางเทียนตะวันออก คนหนึ่งกลับเขานครหยกยอดเขาเป่ยเกาบนเขาคุนหลุน
ปัจจุบัสถานการณ์วุ่นวาย ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง อนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครสามารถเห็นได้ชัดเจน
พวกเยี่ยนจ้าวเกอคิดจะฝ่าภัยพิบัติครั้งนี้อย่างปลอดภัย จำเป็นต้องเตรียมแผนการไว้ให้พร้อมเพรียง
หลังจากไปถึงเขากว่างเฉิง พบกับพวกหยวนเจิ้งเฟิง เยี่ยนจ้าวเกอก็อธิบายสถานการณ์อย่างคร่าวๆ
แน่นอนว่าเขาหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงโถงเซียนเส้นทางนอกรีตกับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ แทนด้วยคำว่าศัตรูแกร่ง
หลังจากที่เข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ แล้ว พวกหยวนเจิ้งเฟิงต่างรู้สึกได้ถึงความสาหัสของปัญหา
“บิดาข้าตอนนี้เข้าฌานในตำหนักโอสถ ขอให้อาจารย์ปู่ควบคุมสถานการณ์ก่อน” เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางมองหยวนเจิ้งเฟิง
ตัวเขาต้องไปเตรียมการ มิอาจรั้งอยู่ที่เขากว่างเฉิงได้นาน
หยวนเจิ้งเฟิงพอได้ยินเข้าใจความนัย สั่งให้คนอื่นๆ ออกไป จากนั้นก็ถาม “จ้าวเกอมีความคิดอะไรแล้ว?”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “พูดตอนนี้ยังเร็วเกินไป ข้าไม่มีความมั่นใจเต็มร้อย ได้แต่บอกว่าต้องลองดู”
“ศัตรูแข็งแกร่ง สภาวะยิ่งใหญ่ ไม่ยอมเลิกราง่ายๆ พวกเราต่อให้รับมือกับราชันพระเสาร์กับกษัตริย์เร้นลับได้ ต่อจากนี้ก็มีแต่เรื่องให้ต้องกังวล”
“เพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์นั่งรอความตายในตอนสุดท้าย มีแต่ต้องบุกเบิกเส้นทางใหม่ถึงกระทำได้” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเสียงเบา “เรื่องราวสำคัญ ยังจำเป็นต้องดำเนินกานอย่างลับๆ เพื่อไม่เปิดเผยร่องรอย”
เขาอธิบายแผนการอย่างคร่าวๆ หยวนเจิ้งเฟิงสีหน้าฉายแววตื่นตระหนก “ถึงกับเป็นแผนการยิ่งใหญ่ขนาดนี้? มิน่าแม้แต่เจ้าก็ยังบอกว่าไม่มั่นใจเต็มร้อย”
เจ้าสำนักคนเก่าพยักหน้าแช่มช้า “เจ้าหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงความเป็นมาของศัตรู สมควรเป็นคู่ต่อสู้ที่พวกประมุขอาคเนย์เคยพูดถึงกระมัง? ข้ายังมิได้เลื่อนสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุข ดังนั้นเจ้าถึงได้กล่าววาจาระมัดระวังถึงเพียงนี้”
“ไปจัดการให้เต็มที่เถอะ ข้าจะช่วยเจ้าดูแลเอง”
เยี่ยนจ้าวเกอว่า “รบกวนอาจารย์ปู่ด้วย”
หลังจากปรึกษากับหยวนเจิ้งเฟิงสักพัก เยี่ยนจ้าวเกอก็ออกมา อาหู่รออยู่หน้าประตูแล้ว
“อาหู่เจ้าไปรอที่หุบเขาผีเสื้อมังกร ช่วยข้าเตรียมของส่วนหนึ่ง อีกเดี๋ยวข้าจะตามไป” เยี่ยนจ้าวเกอสั่ง “ตอนเจ้าไป ให้แวะเมืองหยวนโจว เรียกเสี่ยวอ้ายไปรอที่หุบเขาผีเสื้อมังกรด้วยกัน ถึงตอนนั้นข้ามีภารกิจมอบหมายให้พวกเจ้าทำ”
อาหู่เห็นเยี่ยนจ้าวเกอใช้น้ำเสียงจริงจัง ก็ตอบด้วยความเคร่งขรึมว่า “ขอรับคุณชาย”
เยี่ยนจ้าวเกอใช้สายตาส่งอาหู่จากไป จากนั้นก็ไปหาเสวี่ยชูชิงมารดาของตน
“ในตอนที่ผู้อาวุโสทวนพระอังคารกลับโลกซ้อนโลก ได้แจ้งข่าวการเสียชีวิตของบูรพาจารย์แล้ว” เสวี่ยชูชิงสีหน้าราบเรียบ ฉุดดึงมือของเยี่ยนจ้าวเกอให้นั่งลง กล่าวอย่างสงบนิ่ง “แต่ว่าเวลาตอนนั้นเร่งด่วน ผู้อาวุโสทวนพระอังคารได้แต่บอกกล่าวคร่าวๆ รายละเอียดเรื่องราวเป็นอย่างไร ถ้าเจ้ามีเวลาก็เล่าให้ข้าฟังด้วย”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ข้าจะเล่าแต่ต้น ท่านแม่ได้โปรดร่วมพิจารณาด้วย”
สองแม่ลูกคนหนึ่งเล่าอย่างฉะฉาน อีกคนฟังอย่างสงบนิ่ง
พอจบแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็พูดว่า “ค่ายกลเส้นรุ้งจตุรัสของท่าน เอาออกมาใช้ได้แล้ว”
หลังจากกษัตริย์ดารากลับโลกซ้อนโลก และได้มอบวิธีการตามหาตำแหน่งของราชันพระอังคารให้ก่อนหน้า เสวี่ยชูชิงก็หยุดวางค่ายกลเส้นรุ้งจตุรัส
ถึงอย่างไร ค่ยกลนี้ก็เกี่ยวข้องกับเกาหานราชันพระอังคาร ด้านในอาจแฝงแผนการของอีกฝ่าย
เยี่ยนจ้าวเกอตอนนี้พูดถึงเรื่องเก่า เสวี่ยชูชิงที่ทราบถึงความคิดของเขาก็เข้าใจในทันที “ใช้การวางค่ายกลเส้นรุ้งจตุรัสนี้อำพรางแผนการที่แท้จริงของพวกเรา”
“เป็นเช่นนี้” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะฮ่าๆ
เสวี่ยชูชิงผงกศีรษะกล่าว “เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง ป้องกันไม่ให้คนอื่นฉวยโอกาส มอบความได้เปรียบให้แก่เขา”
“หลังสำเร็จแล้ว ท่านก็ไปหาท่านพ่อที่ตำหนักโอสถ” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ถึงแม้เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ของอีกฝ่ายจะเป็นราชันพระอังคาร แต่อีกฝ่ายก็อยากจะจัดการพวกเราสองคนให้เร็วที่สุดเช่นกัน”
หลังจากวางแผนกับเสวี่ยชูชิงเป็นมั่นเหมาะ เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่เสียเวลา บอกลาเสวี่ยชูชิง ไปยังเขาหลังของเขากว่างเฉิง
เขาเพ่งสมาธิ ขีดเขียนลวดลายอาคมที่ซับซ้อนสายแล้วสายเล่า
ลวดลายค่ายกลหลายสายกลายเป็นรูปทรงกลางอากาศ จากนั้นก็ตกลงบนพื้น หายไปไร้ร่องรอย
เทียบกับการวางค่ายกลแล้ว การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอเชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
เขียนได้ครึ่งทาง ก็หยุดเขียนใคร่ครวญอยู่หลายครั้ง
พอถึงตอนท้าย ทุกอย่างก็เสร็จสิ้น เขาถึงขั้นที่มีความรู้สึกจิตใจเหนื่อยล้าอยู่หลายส่วน
หลังจากทำสมาธิเงียบๆ สักครู่หนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอก็ลุกขึ้น ออกจากเขาหลังเขากว่างเฉิง
ที่หมายต่อไปของเขา ก็คือหุบเขาผีเสื้อมังกรในเขาคุนหลุนที่เขตจวินเทียนศูนย์กลาง
อาหู่กับเสี่ยวอ้ายรออยู่ที่นั่นแล้ว
“สร้างป้ายคำสั่งอีกชุดหนึ่ง จากนั้นก็แยกย้ายกันเอาไปให้เหล่าลูกค้าของตึกความลับฟ้า” เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งลงมือ ทางหนึ่งกล่าวกับอาหู่กับเสี่ยวอ้าย “บอกเหตุผลว่าได้เพิ่มความสามารถใหม่เข้าไป”
นี่เป็นความจริงอีกเช่นกัน
ในตอนที่สร้างป้ายคำสั่งครั้งแรก เยี่ยนจ้าวเกอบอกไว้ว่า มิได้เพิ่มความสามารถพิเศษของป้ายคำสั่งส่วนหนึ่งเข้าไป เพื่อรอการพัฒนารุ่นใหม่
ตอนนั้นใช่ว่าจะมีแผนการวันนี้ แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอก็คิดว่าเตรียมไว้ก่อนไม่เสียหาย
ต่อให้จะใช้ไม่ได้ แต่ก็สามารถอาศัยสิ่งนี้หากำไรเล็กๆ น้อยๆ ได้
ปัจจุบันกลับได้นำมาใช้แล้ว
ความสามารถเล็กๆ อันใหม่มีอยู่จริงๆ แต่ว่าความสามารถที่สำคัญยิ่งกว่า คนนอกไม่รู้
“คุณชาย ท่านกลับมาในครั้งนี้ ถึงกับสำเร็จระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุข เกรงว่าจะสร้างความตกใจให้แก่ผู้คนแล้ว” อาหู่เป็นลูกมือด้านข้าง หัวเราะฮ่าๆ พลางเอ่ย “ตอนแรกมีการจัดประมุขทั้งสิบใหม่ ตอนนี้ท่านกลับมา ทุกอย่างเป็นอันพลิกคว่ำแล้ว”
“อ้อ?” เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญ “จัดประมุขทั้งสิบใหม่หรือ? นั่นหมายความว่าหลี่จวินซิ่นจากผากิเลนกับเหอซีสิงจากยอดเขาอัศจรรย์ต่างเลื่อนสู่ระดับมนุษย์เซียนแล้ว?”
โลกซ้อนโลกไม่ทันได้รับข่าวที่เยี่ยนจ้าวเกอเลื่อนสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ ขั้นประมุขในหมู่คนด้านนอก
กลับเป็นข่าวเฉินเฉียนหัวผลักเปิดประตูเซียนสำเร็จค่อยๆ ถูกส่งมา วันนี้ทุกคนต่างยอมรับว่าตำแหน่งประมุขทิศบนได้ว่างลงแล้ว
เมื่อนับหวังเจิ้งเฉิงที่ตายด้วยมือเยี่ยนจ้าวเกอ ประมุขทั้งสิบอย่างน้อยว่างลงสองตำแหน่ง
นี่ยังเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนเห็นด้วยกับการเสริมตำแหน่งประมุขบูรพาของเยี่ยนตี๋
“มิผิด ท่านเหอโอบกอดไท่จี๋จากผาบัวแดงยอดเขาอัศจรรย์ และหลี่จวินซิ่นจ้าววิญญาณดินแห่งผากิเลน ได้เลื่อนสู่ระดับประมุขตามลำดับ เสี่ยวอ้ายกล่าวเสริมด้านข้าง “หลี่จวินซิ่นรวดเร็วกว่า ประมาณหนึ่งเดือนหลังจากเขาเลื่อนระดับ ท่านเหอก็ก้าวเท้าก้าวนั้นสำเร็จ”
“ปัจจุบันข่าวลือที่คนส่วนใหญ่ยอมรับก็คือ หลี่จวินซิ่นเสริมตำแหน่งประมุขปฐวีของหวังเจิ้งเฉิงอาจารย์ของเขา ท่านเหอมาจากเขาคุนหลุน รับตำแหน่งประมุขทักษิณของเนี่ยจิงเสินกระบี่สะท้านเทพ ส่วนเนี่ยจิงเสินกลายเป็นประมุขทิศบนคนใหม่”
เสี่ยวอ้ายหักนิ้วพร้อมกล่าว “ยังมีคนกล่าวว่า เป็นท่านเหอไปฝั่งตะวันออก รับตำแหน่งประมุขบูรพาของท่านเขย ท่านเขยกลายเป็นประมุขทิศบนคนใหม่”
เหอซีสิงกับเขากว่างเฉิงมีความสัมพันธ์ไม่เลว แต่ว่าเขตชางเทียนตะวันออกปัจจุบันเป็นกองบัญชาการของเขากว่างเฉิง หากมีคนจากภายนอกมาควบคุม ผู้ใดก็ไม่ยอมถูกยึดถือเป็นไม้ประดับเหมือนเนี่ยจิงเสิน
แน่นอนว่านี่ล้วนเป็นการคาดเดาของทุกคน
ตำแหน่งที่แท้จริงยังจำเป็นต้องให้สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิตัดสิน
เพียงแต่สถานการณ์ของโลกซ้อนโลกในตอนนี้…
“ข้าไม่ได้สนใจเรื่องนี้” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “ยิ่งไปกว่านั้น สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ ประมุขทั้งสิบ สถานการณ์ที่มั้่นคงในอดีตของโลกซ้อนโลกมิอาจย้อนคืนมาได้อีกแล้ว”
………………..