ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1285 มรสุมมาถึง
“มีความสามารถแต่กลับไม่ควบคุมตัวเอง รังแต่จะสร้างเพทภัย ทำร้ายคนอื่นๆ สั่วหมิงจางเป็นตัวอย่างของเขา” ราชันพระเสาร์เจี่ยงเซิ่นมองทะลุมิติเวลา เหมือนกับมองข้ามจักรวาล ไปยังโลกซ้อนโลกที่อยู่ไกลแสนไกล
หยางเซ่อว่า “ตอนนี้ได้แต่หวังให้ใต้เท้าโกวเฉินลงมือตัดสิน หลีกเลี่ยงไม่ให้เส้นทางนอกรีตเข้ามายุ่งเกี่ยว เมื่อเป็นแบบนี้ เรื่องของสหายร่วมเส้นทางสั่วจะสงบลง พี่ร่วมเส้นทางสามารถควบคุมความวุ่นวายได้”
เมื่อไม่มีสั่วหมิงจางสอดมือ เจี่ยงเซิ่นที่ปัจจุบันได้สำเร็จเป็นจ้าวสวรรค์เซียนกำเนิดย่อมมีความสามารถกำหนดสถานการณ์บนโลกซ้อนโลก
“ปัญหาที่สหายร่วมเส้นทางสั่วสร้างขึ้นในครั้งนี้ใหญ่เกินไป อาจจะเร่งให้โถงเซียนเส้นทางนอกรีตตัดสินใจยาตราทัพมายังจักรวาลสำนักเต๋าเรา ถึงเวลานั้นจะเป็นภัยพิบัติใหญ่แล้ว” เจี่ยงเซิ่นสายตาทอแววกังวล “หลังจากมรสุม จะสูญเสียมากเท่าไร?”
“ด่านนี้จะมีผลลัพธ์อย่างไร ข้าก็ไม่ทราบ เมื่ออยู่ในนี้ได้แต่ต้องช่วยเหลือสุดกำลัง”
หยางเซ่อพยักหน้าเงียบงัน ครุ่นคิดสักพักก่อนจะเอ่ยว่า “ไม่ทราบสหายร่วมเส้นทางเกากับสหายร่วมเส้นทางหลิงจะสอดมือหรือไม่?”
ย่อมหมายถึงเกาหานราชันพระอาทิตย์และหลิงชิงราชันพระจันทร์ที่ออกจากจักรวาลสำนักเต๋าไปยังมิติต่างแดนตามจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋
“ย่อมสอดมือแล้ว” ตอนนี้เจี่ยงเซิ่นสีหน้าราบเรียบยิ่ง
เขารู้จักเกาหานกับหลงชิงมานานกว่าหยางเซ่อ เข้าใจในตัวคนที่รอดจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่สองคนเหมือนตนมากกว่าคนอื่นๆ
“ตำหนักโอสถนั่นสุดท้ายตกไปอยู่ในมือของสหายร่วมเส้นทางสั่วหรือ? หรือว่าจะเป็น…” หยางเซ่อถาม
เจี่ยงเซิ่นว่า “ไม่ได้อยู่ในมือสหายร่วมเส้นทางสั่ว เพราะคนของเส้นทางนอกรีตเร่งรุดมา เขาต้องรีบไปรับมือ”
“ข่าวที่สหายร่วมเส้นทางจางสายเหนือพิสุทธิ์ส่งมาบอกว่า สุดท้ายตำหนักโอสถอาจจะตกอยุ่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก”
หยางเซ่อส่ายหน้า “น่าเสียดาย นี่บางทีอาจจะมีเรื่องพลิกผลันอีกรอบ หวังแต่เพียงสุดท้ายไม่ถูกเส้นทางนอกรีตแย่งไป”
“ถึงแม้อยู่คนละเส้นทางไม่วางแผนร่วมกัน แต่จำเป็นต้องกล่าวว่า สหายร่วมเส้นทางเซ่าร้ายกาจจริงๆ ถึงแม้จะมิได้ขึ้นชื่อเรื่องวรยุทธ์เหมือนอย่างสั่วมังกรอัคคี แต่ดูจากตอนนี้ กลับมีคุณค่ายิ่งกว่า นางเสียชีวิตไปแล้ว ช่างน่าเสียดายนัก”
เจี่ยงเซิ่นพอฟัง ไม่ได้พูดอะไร สายตาซึมเซา
ตรงหน้าเขาเหมือนปรากฏเงาร่างสายหนึ่ง
โฉมสะคราญผู้มีบุคลิกสูงส่ง ในความเกียจคร้านแฝงความแข็งกร้าวหลายส่วน ในความเอาแต่ใจแฝงความแน่วแน่เข้มแข็งหลายส่วนนางนั้น
ในอดีต นางเรียกเขาเป็นอาจารย์เจี่ยง เขาเองก็คิดว่านางเป็นคนรุ่นหลังที่เก่งกาจที่สุด และคบหาแบบสหายต่างวัย
ทว่าสุดท้ายก็ต้องเดินคนละเส้นทาง ถึงขั้นที่เพาะเป็นความแค้น
กาลเวลาอันยาวนานเลื่อนไหล ไม่เจอมาหลายพันปี ในตอนที่ทราบข่าวอีกครั้ง กลับเป็นข่าวการตายของอีกฝ่าย
ตอนนี้ตนจะต้องตัดสินกับผู้สืบทอดของนาง
เจี่ยงเซิ่นดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
“กระนั้น สหายร่วมเส้นทางสั่วถึงกับโมโหดเดือดดาลเพราะสหายร่วมเส้นทางเซ่าเสียชีวิต ก่อนหน้าข้านึกไม่ถึงจริงๆ” หยางเซ่อยามนี้พูดขึ้น
เจี่ยงเซิ่นกล่าวอย่างแช่มช้า “พวกเขาสองคนเคยเป็นคู่รัก เพียงแต่ว่าความต้องการไม่เหมือนกัน สุดท้ายจึงแยกทาง”
หยางเซ่อเอียงศีรษะเล็กน้อย “เช่นนั้นปัจจุบันสหายร่วมเส้นทางเซ่าเสียชีวิต สหายร่วมเส้นทางสั่วหรือจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง?”
“ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” เจี่ยงเซิ่นว่า “ดังนั้นเขาไม่เพียงแต่แก้แค้นให้จวินหวง หลังภัยพิบัติครั้งนี้ผ่านไป อาจจะเป็นแค่การเริ่มต้น จุดยืนอยู่เขาอาจจะไม่ได้อยู่ตรงกลาง แต่เอนเอียงไปทางพวกใต้เท้าอายุวัฒนาและสหายร่วมเส้นทางเกา”
หยางเซ่อส่ายหน้า “ไม่ใช่ข่าวดีจริงๆ”
“ก่อนหน้านี้เขาเข่นฆ่าออกจากวงล้อมของโถงเซียนเส้นทางนอกรีตอีกครั้ง ตอนนี้อาจจะกลับโลกซ้อนโลกแล้ว” เจี่ยงเซิ่นกล่าว ก้าวไปด้านหน้า “พวกเราต้องรีบกลับให้เร็วที่สุด”
หยางเซ่อร่วมทางกับเขา ถามคำถามขึ้น “ข่าวที่สหายร่วมเส้นทางเฉินเป็นอิสระ พี่ร่วมเส้นทางทราบแล้ว?”
“ได้ยินมาแล้ว สหายร่วมเส้นทางเฉินช่วยลูกหลานของสหายร่วมเส้นทางเยี่ยน เป็นเรื่องที่คาดไว้แล้ว” เจี่ยงเซิ่นกล่าวด้วยความเสียดาย “น่าเสียดายเขาไม่มองสถานการณ์โดยรวม ยังคงยึดติดกับน้ำใจส่วนตัว เหมือนเช่นวันวาน”
ชายชราก้าวข้ามความว่างเปล่าหลายชั้น เหลือไว้เพียงเสียงถอนหายใจ
“มรสุมมาถึง อยู่ด้านหน้าแล้ว”
หยางเซ่อกษัตริย์เร้นลับผงกศีรษะ “ถูกต้อง”
เงาร่างสองสายกลายเป็นลำแสง หายไปจากมิติต่างแดนอันกว้างใหญ่ เดินทางไปยังจักรวาลสำนักเต๋า
…
จักรวาลเผ่าปีศาจ เขาดาราทะเลดวงดาว
ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ โลกอันยิ่งใหญ่ใบหนึ่งเชื่อมต่อกับฟากฟ้า ครอบคลุมจักรวาล
แสงอัสดงและสายเมฆมากมายวนเวียนอยู่รอบๆ จักรวล ส่งผลให้ที่นี่เหมือนกับทิพยสถาน
ในความว่างเปล่ากลางจักรวาลด้านนอกโลก ลมสีดำหอบหนึ่งพุ่งลิ่ว มาถึงโลกอันยิ่งใหญ่ใบนี้ แล้วเข้าไปด้านใน
ลมสีดำถึงแม้จะเผยให้เห็นความโหดเหี้ยมอำมหิต แต่พอมาถึงโลกใบนี้ กลับเก็บกลับไป
พอเข้ามาด้านใน ก็มีคนมารับ
ในโลกเต็มไปด้วยเขาเซียน ปราณวิญญาณกระจายไปทั่ว พายุสีดำมาถึงบนเขาเซียนลูกหนึ่ง เข้าไปในนิวาสสถานแห่งหนึ่ง
ในนิวาสสถานมีคนรอเขาอยู่ที่นั่นแล้ว พอพบหน้าก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านไม่ใช่ได้รับคำสั่ง สมควรออกจากเขาดาราทะเลดวงดาวแล้วหรอกหรือ?”
“อีกเดี๋ยวจะออกเดินทางแล้ว” ลมสีดำสลาย เผยให้เห็นเงาร่างสายหนึ่ง นั่งลงบนเบาะที่พื้นอย่างคุ้นเคย “ก่อนไป มีเรื่องนี้ที่ต้องแจ้งให้ท่านทราบ”
เจ้าของนิวาสสถานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เรื่องอันใดทำให้ท่านต้องมา?”
“กวางขาวตัวนั้นเกือบตายแล้ว ไม้เท้าหัวมังกรของเทพโซ่วซิงก็หักไปแล้ว เขาโชคดีหนีเอาชีวิตรอดได้” ปีศาจลมดำกล่าว
“อ้อ? ผู้ใดทำ?” เจ้าของนิวาสสถานคล้ายกับไม่ได้นำพา ถามขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
ปีศาจลมดำกล่าว “ตำหนักฟ้าฟื้นที่เก็บโอสถวิญญาณยาวิเศษของวังเทพ มิได้พินาศเพราะวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ยังคงตั้งอยู่ กวางขาวตัวนั้นได้รับเบาะแสจึงออกตามมา สุดท้ายเสียท่าครั้งใหญ่”
“ตำหนักฟ้าฟื้นยังอยู่?” เจ้าของนิวาสสถานสนใจ “ผลลัพธ์เล่า?”
“ผลลัพธ์? กวางขาวตัวนั้นเกือบถูกคนฆ่าตายคาที่ ไหนเลยยังสนใจตำหนักฟ้าฟื้น?” ปีศาจลมดำแค่นหัวเราะ “คนที่ไล่เขามา เป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสามพิสุทธิ์สายหลัก”
เจ้าของนิวาสสถานกล่าวด้วยความเสียดาย “กวางตัวนั้นมิสู้ถูกคนสังหาร เกิดความโลภคิดจะฮุบไว้คนเดียวกลับไม่ดูความสามารถของตัวเอง สุดท้ายอำนวยความสะดวกให้คนอื่นเปล่าๆ ปลี้ๆ”
เขามองไปยังปีศาจลมดำ “หรือท่านคิดไปยังจักรวาลสำนักเต๋า แย่งชิงตำหนักฟ้าฟื้นกับผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์? ท่านยังมีภารกิจติดตัวอยู่”
“ดังนั้นจึงมาหาท่าน ลองดูว่าท่านยอมลงมือหรือไม่?” ปีศาจลมดำว่า “หลังสำเร็จ อย่าลืมแบ่งผลประโยชน์ให้แก่ข้าส่วนหนึ่ง”
เจ้าของนิวาสสถานพิจารณาอย่างจริงจังเล็กน้อย ก่อนจะตอบ “รอดูไปก่อนเถอะ ลงมือตอนนี้เท่ากับช่วยโถงเซียนนั่น ไม่ส่งผลดีต่อแผนการใหญ่ของใต้เท้าและพวกเรา หลังจากจบเรื่องสามารถหาโอกาสได้”
“ท่านพะว้าพวงเกินไป” ปีศาจลมดำยิ้ม
เจ้าของนิวาสสถานกล่าวด้วยรอยยิ้มเรียบเฉย “รอมานานหลายปี ไฉนต้องรีบตอนนี้ กลับเป็นท่าน ครั้งนี้รับภารกิจสำคัญ อย่าชะล่าใจไป ถึงเวลาเสียการใหญ่”
ปีศาจลมดำกล่าวอย่างจริงจัง “การใหญ่ไม่เสียแน่ แค่เรื่องหยุมหยิม เลินเล่อไปบ้างก็ไม่เป็นอะไร พวกคนโกนหัวของแดนสุขาวดีอภิรดีได้สิ่งที่ต้องการจนเคยชิน ปัจจุบันได้ใจเกินไป ให้พวกเขาได้รับบทเรียนเสียบ้างจะเป็นอะไรไป”
“เอาเป็นว่าอย่าให้เสียการเสียงานเป็นพอ ข้าไม่คิดจะรออีกพันปีหมื่นปี” เจ้าของนิวาสสถานกล่าวอย่างราบเรียบ
“ข้าก็เช่นกัน พวกเรารอมานานเกินไปแล้ว” ปีศาจลมดำผุดลุกขึ้น กลายเป็นพายุสีดำอีกครั้ง ออกจากเขาเซียนนิวาสถาน ผละจากโลกที่เหมือนทิพยสถานใบนี้ ออกเดินทางไกล ไปจากเขาดาราทะเลดวงดาวที่เผ่าปีศาจอยู่อาศัย
………………..