ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1294 เทพยุทธ์ตัดนภา
แสงดาวยิ่งใหญ่หกสายหุบลงเป็นเส้นเดียว ครอบคลุมร่างของสั่วหมิงจาง
เมฆมงคลหลายก้อนกระจายบนท้องฟ้า แสงสีทองสายแล้วสายเล่าสาดลง สานกันเป็นถ้อยคำวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วน กระจายทั่วมิติจักรวาล
เมื่อครู่เป็นแค่การสะกดจากลมปราณ แต่ตอนนี้ในที่สุดจักรพรรดิโกวเฉินก็ลงมือด้วยตัวเอง
การลงมือของจักรพรรดิโกวเฉิน แม้จะมิได้เล็งที่กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ทั้งสองก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันยิ่งใหญ่
กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยยังดีอยู่ เพียงแต่ว่าถูกหยุดการโคจรของวายุเซียน ร่างกายแข็งทื่อ ยากขยับเคลื่อนไหว
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอยังอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน พอเผชิญกับความแตกต่างระหว่างเซียนและมนุษย์ที่แท้จริงของจักรพรรดิโกวเฉิน ก็เหมือนกับเศษฝุ่น ตอนนี้แม้แต่ความคิดจิตใจก็ยังไม่ทำงาน
ร่างแยกร่างนี้ของเขาถึงกับกำลังถูกจักรพรรดิโกวเฉินหลอมเปลี่ยน ไม่ใช่ของเขาเองอีก
ถึงจักรพรรดิโกวเฉินจะมิได้คิดทำแบบนี้โดยสิ้นเชิง เป็นเพียงแค่ลูกหลงเท่านั้น
ยังดีที่เยี่ยนจ้าวเกอเตรียมตัวแต่แรก ร่างจริงลอบโคจรคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต จึงค่อยฝืนสร้างการเชื่อมต่อกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกขึ้นใหม่ มิได้เสียร่างแยกของตัวเองไปอย่างเลอะเลือนเช่นนี้
เยี่ยนจ้าวเกอมิได้ประเมิณความแข็งแกร่งของจักรพรรดิราชันฟ้าตำหนักสวรรค์โกวเฉินต่ำไปแม้แต่น้อย
เซียนสวรรค์ไร้สิ้นสุดที่มาจากสำนักเต๋าดั้งเดิม มีทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอ จักรพรรดิราชันฟ้าตำหนักสวรรค์โกวเฉินที่ถูกจัดอยู่ในสี่เทวราช ก็สุดที่คนทั่วไปจะเทียบเคียงได้!
ไม่ปรากฏกลิ่นอายของการฆ่าฟันอันน่าสะพรึง แต่ก็ลึกลับน่าพิศวง ยากจะทำความเข้าใจ ยากจะไปให้ถึง เหมือนมีเสียงเซียนดังจากสวรรค์ชั้นเก้า
ร่างของสั่วหมิงจางที่ถูกแสงดาวครอบคลุม ถึงกับเหมือนกับมิได้อยู่นอกฟ้าดินนี้เพียงคนเดียวอีก
เขาเหมือนกับถูกดึงเข้ามาในฟ้าดิน มิหนำซ้ำยังร่วงหล่นสู่โลกมนุษย์ ได้แต่ก้มหน้าฟังคำบัญชาจากเทพเซียนไม่ว่าเป็นสายฝนหรือสายฟ้าล้วนเป็นบุญคุณของสวรรค์
‘จักรพรรดิโกวเฉินผู้ควบคุมสงครามในโลกมนุษย์ ขณะลงมือไม่แสดงจิตสังหาร ดูเหมือนไม่ได้คิดจะฆ่าราชันพระอังคาร’
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวในใจ ‘เขาคิดสะกดราชันพระอังคารแล้วพาตัวไป?’
เจี่ยงเซิ่นกับหยางเซ่อยืนอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหว
แต่การแบ่งแยกของฟ้าดินทำให้พวกเขาเหมืนยืนอยู่บนเมฆ ก้มมองพวกสั่วหมิงจางที่อยู่ในดินโคลนบนโลกมนุษย์
“สหายร่วมเส้นทางสั่ว ใต้เท้ามีเมตตา ยอมช่วยเหลือท่าน ท่านอย่าพลาดโอกาส รีบติดตามใต้เท้าจากไปเถอะ” เจี่ยงเซิ่นเกลี้ยกล่อม
เสียงของเขาลึกล้ำล่องลอยภายใต้แสงดาวและเมฆมงคล เหมือนกับเป็นผู้นำสารของที่ประกาศคำบัญชาแทนสวรรค์
ร่างของสั่วหมิงจางยังคงตั้งตรง
แต่ก็เหมือนกับกำลังสั่นไหว
คล้ายต้นไม้สูงเสียดฟ้าต้นหนึ่งกำลังถูกคนถอนขึ้นทั้งโคน
“เจี่ยงเซิ่น ท่านลืมแล้ว ข้าไม่ลืม” สั่วหมิงจางดวงตาเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ “สหายน้อยเยี่ยนผู้นี้ กับมารดาของเขา เป็นลูกหลานของจวินหวง”
เขาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาไว้ด้านหน้าทรวงอก จากนั้นก็ฟันขวางออกไป!
พร้อมกับที่เขาฟันมือออก บริเวณที่ฟันผ่าน มิติเวลาปรากฏเส้นขวางเส้นหนึ่ง
เส้นขวางนี้อยู่เหนือกว่าการดำรงอยู่ทั้งหมด!
ขณะนี้ ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าสั่วหมิงจางล้วนเปลี่ยนจากปลอมเป็นจริง
ฟ้าดินที่จักรพรรดิโกวเฉินได้สร้างขึ้น เปลี่ยนเป็นแบนราบดุจภาพวาด มีได้เป็นรูปทรง มิได้น่าอัศจรรย์ มิได้ล้ำลึกอีก
สั่วหมิงจากกระโดดออกมาด้านนอกฟ้าดินแห่งนี้อีกครั้ง ร่างเปลี่ยนเป็นมั่นคงไม่ไม่อาจโยกคลอน
การฟันนี้ตัดฟ้าดิน ตัดจักรวาล ตัดการเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติ!
แสงดาวที่จักรพรรดิโกวเฉินใช้เพื่อจับตัวเขาถูกตัดทิ้ง!
“คัมภีร์ตัดนภา…” หยางเซ่อกษัตริย์เร้นลับพึมพำ
มรรคายุทธ์ช่วงแรกของราชันพระอังคารสั่วหมิงจาง มาจากคัมภีร์วรยุทธ์สำนักเต๋าที่ไม่สมบูรณ์เล่มหนึ่งในโลกมังกรอัคคีซึ่งอยู่ในเขาดาราทะเลดวงดาว
ถึงจะเป็นคัมภีร์นภาความว่างเปล่าในการสืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์ดั้งเดิม แต่ก็มีข้อบกพร่องมากเกินไป
สั่วหมิงจากทำการศึกษาไม่หยุดยั้ง ค่อยๆ ก้าวขึ้นบนเส้นทางที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่
เส้นทางที่มิอาจย้อนกลับในสายตาของคนจำนวนมาก
ตอนแรกเป็นแค่จุดเริ่มต้น แต่ว่าต่อมาสั่วหมิงจางได้วรยุทธ์ในการสืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์มามากกว่าเดิม จึงเดินบนเส้นทางนั้นลึกเข้าไปเรื่อยๆ
ฝึกฝนคัมภีร์นภาแรกเริ่มย้อนกลับ!
ในยุคโบราณอันยาวนาน ปรากฏอัจฉริยะบุคคล
เหมือนกับการฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกัน แนวคิดฝึกฝนคัมภีร์นภาแรกเริ่มย้อนกลับ เคยมีคนโบราณทดลอง
การฝึกฝนการสืบทอดจริงแท้สายหยกพิสุทธิ์และการสืบทอดจริงแท้สายเหนือพิสุทธิ์ย้อนกลับ ดูเหมือนมีจุดที่พิจารณาได้
แต่ว่าในนี้มีความแตกต่างอย่างใหญ่หลวง
เหล่าคนรุ่นก่อนที่ทดลองเส้นทางนี้ต่างก็ล้มเหลวในตอนสุดท้าย
ทว่าสั่วหมิงจางทำสำเร็จแล้ว!
คัมภีร์วรยุทธ์ที่เขาสร้างขึ้นมามีชื่อว่าคัมภีร์ย้อนนภา หรือทัศนะย้อนต้นกำเนิด ทั้งใช้คัมภีร์นี้ผลักเปิดประตูเซียน
หลังจากมาถึงจักรวาลสำนักเต๋า ได้สัมผัสกับการถ่ายทอดจริงแท้ของสำนักเต๋าที่มีความดั้งเดิมยิ่งกว่า สั่วหมิงจางมิได้แก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น สร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา ทว่าก็มิได้ยึดติดกับการสร้างของตัวเองจนหยุดพัฒนา โอหังทะนงตน
เขาสั่งสมคัมภีร์ย้อนนภาและวรยุทธ์ความสามารถมากมายดั้งเดิมของสำนักเต๋า กำจัดส่วนเกินทิ้งคงสิ่งที่ดีไว้ พัฒนาขึ้นอีกระดับ
กลายเป็นคัมภีร์ตัดนภา!
เบิกผ่าฟ้าดิน ธรรมชาติเปลี่ยนแปลง สรรพชีวิตสูญสิ้น กลับคืนสู่อนัตตา เป็นหลักการของมหามรรคา
ตอนนี้ มรรคาแห่งธรรมชาตินี้ กำลังถูกคนตัดทิ้งและหยุดไว้กลางคัน!
มิได้เสื่อมโทรมหลังจากความโชติช่วง
ต่อให้ท่านกำลังรุ่งเรือง อยู่ในจุดสูงสุด บอกให้หยุดก็ต้องหยุด เหมือนเมื่อเปล่งวาจา กฎเกณฑ์ก็บังเกิด สั่งแล้วต้องทำห้ามแล้วต้องหยุด!
สภาวะฟ้าดินเลื่อนไปด้านหน้า ผู้ที่กล้าขวางทาง ล้วนถูกบดขยี้ เหมือนกับตั๊กแตนกางแขนบังรถเกวียน
ภายใต้การตัดฟ้า ขุนเขาขวางเส้นทาง ท่านกล้าปะทะ ก็เหมือนเกวียนพังทลายผู้คนตกตาย!
สั่วหมิงจางในปัจจุบันย่อมยังมิได้มีอานุภาพหยุดยุคสมัย ทวนกระแสธรรมชาติ
ทว่าการลงมือของจักรพรรดิโกวเฉินเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลสำนักเต๋า อยู่ในตำแหน่งเทวกษัตริย์ ก็ถูกเขาตัดทิ้ง!
“คัมภีร์ตัดนภาของเขาพัฒนาขึ้นกว่าเดิมแล้ว…”
สั่วหมิงจางลงมือหนึ่งกระบวนท่า มิได้หยุดมือ วูบไหวท่าร่าง บรรลุถึงด้านหน้าเจี่ยงเซิ่นกับหยางเซ่อในทันใด!
เขาต่อยหมัดหนึ่งออก กำปั้นคล้ายขวานไม่คล้ายขวาน คล้ายธงไม่คล้ายธง ทำลายฟ้าดิน ปรากฏเปลวเพลิงสีแดงฉาน
ภายใต้การครอบคลุมของพลังงานอันน่ากลัว หยางเซ่อร่างแข็งทื่อ แทบจะมิอาจเคลื่อนไหว ความมืดที่ป้องกันร่างถูกสั่นไหวชั่วขณะ
เจี่ยงเซิ่นสีหน้าเคร่งขรึม ต่อยหมัดใส่เปลวเพลิง ปรากฏฟ้าดินหนักอึ้ง หนักเหมือนกับธรรมชาติ หนากเหมือนกับชีวิต
สั่วหมิงจางเหลือบแลยังไม่เหลือบแล ต่อยออกไปด้านหน้า
เปลวเพลิงกลายเป็นดวงดาว
เปลวเพลิงน่ากลัวไม่ได้ระเบิดออกด้านนอก แต่กลับยุบตัวเข้าด้านในไม่หยุด!
ชั่วพริบตานั้น ความรู้สึกหนาหนักไร้ประมารปรากฏขึ้นโดยมีหมัดของสั่วหมิงจางเป็นศูนย์กลาง น้ำหนักที่มิอาจวัดได้ยุบตัวกลายเป็นจุดเดียว ยังหนาหนักยิ่งกว่าฟ้าดินที่เจี่ยงเซิ่นสร้างขึ้น!
เหมือนกับดวงดาวที่แท้จริงกำลังพังทลาย!
แผ่นดินแข็งแกร่งถูกต่อยแหลกอย่างสะเทือนเลือนลั่นด้วยหนึ่งหมัด!
หมัดนี้ของสั่วหมิงจางแทบทำลายโลกซ้อนโลกได้!
แสงดาวสาดลงมาจากท้องฟ้าอีกครั้ง คุ้มครองพวกเจี่ยงเซิ่น ต้านทานหมัดเพลิงที่มิอาจหนาหนักมากกว่านี้ได้อีก
“ตัด!”
ทว่าพร้อมกับที่คัมภีร์ตัดนภาของสั่วหมิงจางแสดงความน่าอัศจรรย์ แสงดาวนั่นก็ถูกเขาตัดทิ้งอีกครา ต่อยกำปั้นซึ่งไร้สิ่งใดต้านออกไปต่อ
ตอนนี้แสงดาวพลันคุกคามขึ้น
กลิ่นอายการเข่นฆ่าไร้สิ้นสุดระเบิดออกมา ขวางกั้นไม่ให้แสงดาวของสั่วหมิงจางรวมตัวกันใหม่ จากนั้นก็ทำลายให้หายไป!
พลังของสองฝ่ายปะทะกัน สั่วหมิงจางถอยร่างไปด้านหลัง หมัดสุดท้ายไม่ถูกใส่เจี่ยงเซิ่นกับหยางเซ่อ
ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิโกวเฉิน สุดที่เทวกษัตริย์เส้นทางนอกรีตจะเทียบเคียงได้
แต่ไม่ว่าใครล้วนเข้าใจว่า แม้จะเป็นยอดฝีมือระดับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล และเป็นหนึ่งในสี่เทวราชผู้นี้ ก็มิอาจจัดการสั่วหมิงจางที่อยู่ตรงหน้าได้
บุรุษผมสั้นร่างสูงใหญ่สีหน้าเยือกเย็น ยืนนิ่งอยู่กลางความว่างเปล่า สายตากลับหันไปมองทางโลกซ้อนโลก
เจี่ยงเซิ่นที่หลบรอดภัยพิบัติสีหน้าไร้ความยินดี กลับถอนใจเบาๆ “ไม่ทันกาลแล้ว”
เสียงยังไม่ทันขาด จักรวาลสำนักเต๋าก็สั่นไหวอีกครั้ง
กลิ่นอายที่แข็งแกร่งสายแล้วสายเล่าถมเต็มมิติเวลา เหยียบย่ำที่นี่
แสงวิเศษทั่วฟ้าส่องระยิบระยับต่อเนื่อง สภาวะแม้ว่าจะสู้แสงดาวของจักรพรรดิโกวเฉินไม่ได้ ทว่าเมื่อมีจำนวนมาก ก็กลายเป็นแหฟ้าตาข่ายดิน!
ยอดฝีมือโถงเซียนในที่สุดก็มาถึงจักรวาลสำนักเต๋า!
………………..