ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1329 แดนสุขาวดีตะวันตกและแดนสุขาวดีอภิรดี
หลังจากสั่งจอมปีศาจตนอื่นให้ผละไปแล้ว เจ้าของนิวาสสถานก็นั่งใคร่ครวญอยู่ในนิวาสถาน
ครู่ต่อมา เขาเรียกเด็กที่รับใช้ตนเองคนหนึ่งมาถึงตรงหน้า กำชับว่า “เจ้าไปยังนิวาสสถานของสหายร่วมเส้นทางร้อยตา บอกกับน้องชายที่ปฏิบัติหน้าที่แทนเขาว่า หลังจากหลอมโอสถเซียนเสร็จแล้ว ให้มาร่ำสุรารื้อฟื้นความหลังที่นิวาสสถานของข้า”
ทารกรับใช้โน้มกายรับคำสั่ง ล่าถอยออกไป เจ้าของนิวาสสถานแห่งนี้เงยหน้ามองฟ้า ซึมเซาเหม่อลอย “ตำหนักโอสถ เฮ้อ…”
สงครามที่เป็นไปตามความคาดหมายของคนจำนวนมาก ปะทุขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
แม้ว่าสั่วหมิงจางไม่โผล่หน้าออกมาอีก แต่มีข่าวบอกว่า สุดท้ายเขาก็ไม่ได้เสียชีวิตด้วยมือของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
เวลาที่พระศรีอาริย์มอบให้แก่โถงเซียนความจริงไม่สั้น แต่ก็ไม่มีทางรอโดยไม่มีขอบเขต
สำหรับยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับพวกเขาแล้ว เวลาหมื่นปีดุจดั่งชั่วครู่ชั่วยาม แต่เวลาชั่วครู่ก็มากพอจะทำเรื่องราวมากมาย สุดที่คนธรรมดาจะจินตนาการออก
ดังนั้นไม่ทันไร บนพื้นที่ของโถงเซียนก็ประสบกับกองทัพของศัตรูจำนวนมหาศาล
ถึงแม้ว่าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณจะล้มเลิกการไล่ตาม กลับมาเฝ้าโถงเซียนใหม่ แต่ว่าก็มีพระศรีอาริย์คอยตรึงเขาไว้
นอกจากการต่อสู้ของผู้มีอำนาจบัญชาการสองคนนี้แล้ว สงครามก็กำหนดทิศทางได้อย่างรวดเร็ว
เทียบกับสงครามที่ก่อนหน้านี้อาจมีการแบ่งเป็นเข้มแข็งอ่อนแอ ชนะแพ้ แต่โดยรวมยังนับว่าเป็นการตั้งป้อมสู้ สงครามี่ปะทุขึ้นในคร้งนี้เริ่มแสดงให้เห็นถึงสภาพที่เสียสมดุล
โถงเซียนที่ก่อนหน้าจะต่อสู้ พลังได้รับความเสียหายไม่เบา ตอนนีเก็บพลังต่อสู้ทั้งหมด รักษาป้องกันอย่างเต็มที่ ทว่ายังคงถูกกดดันให้ถอยร่นทีละก้าว
เพราะสถานการณ์ที่เสียสมดุลอย่างชัดเจน ต่างจากในอดีต นอกจากสองฝ่ายที่สู้กันแล้ว ขุมกำลังอื่นๆ ในที่สุดก็โผล่พ้นน้ำ เข้าร่วมสงครามใหญ่
โถงเซียนได้ติดต่อหาผู้ช่วยไว้แต่ต้นจริงๆ แต่ว่าศัตรูก็ได้เชิญคนมาช่วยเช่นกัน
สงครามที่มีความเกี่ยวพันกว้างขวางยิ่งดำเนินยิ่งรุนแรงขึ้น
การต่อสู้ระหว่างเส้นทางนอกรีตในอดีต ปกติแล้วจะดำเนินไปหลายปีหรือสิบกว่าปี ตอนนี้ก็เป็นเหมือนกัน จนกระทั่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ผลการรบที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด หรือว่าสองฝ่ายไม่อาจสู้ต่อได้จึงจะหยุดลง
สถานการณ์แบบนี้ไม่ว่าจะเป็นจักรวาลสำนักเต๋า หรือว่าพวกเยี่ยนจาวเกอที่อยู่ในมิติต่างแดน ต่างก็ยากจะหาโอกาส
พร้อมกับเวลาที่ผ่านไป กลิ่นโอสถในจักรวาลตำหนักเซียนยิ่งมายิ่งน้อยลง โครงร่างเขตแดนของโลกแต่ละใบและกฎเกณฑ์ของมิติเวลาด้านใน มั่นคงและถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม
ถึงแม้จักรวาลโดยรวมยังไม่เสถียร แต่ว่าคนที่อาศัยอยู่ในโลกแต่ละใบก็ยิ่งมายิ่งสะดวกสบายแล้ว
ทุกอย่างเหมือนกับค่อยๆ กลับคืนสู่ลักษณะตอนที่ยังอยู่ในจักรวาลสำนักเต๋า
ในวันเวลาต่อมา เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งเร่งการฝึกฝนของตัวเอง ทางหนึ่งหลอมเปลี่ยนตำหนักโอสถเพิ่ม สร้างความมั่นคงให้แก่จักรวาลที่เกิดจากตำหนักโอสถ
กระนั้นก็ไม่ได้ตัดขาดจากข่าวสารกับโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
เยี่ยนจ้าวเกอให้ความสนใจต่อสงครามในตอนนี้เป็นพิเศษ
ไม่ว่าอย่างไร ถึงพวกตนตอนนี้จะหลบอยู่ในมิตินอกเขตแดน แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ยังคงเกี่ยวข้องกับตัวเองอย่างแนบแน่น
คิดจะหาข่าวสารด้วยตัวเอง มีระดับความยากค่อนข้างสูง ไม่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอ กษัตริย์กระบี่ กษัตริย์ดิน หรือว่าเฟิงอวิ๋นเซิง ตอนนี้ก็ถูกอีกฝ่ายจับตามอง
เกิดว่าเผยโฉม จะต้องถูกให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด ถึงขั้นที่มีคนไล่ตามสังหารก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้
กระนั้นพวกเยี่ยนจ้าวเกอก็ได้รับข่าวล่าสุดของการเปลี่ยนแปลงจากทางมรกตท่องฟ้า ผ่านการติดต่อกัน
ถึงแม้โลกซ้อนโลกและมรกตท่องฟ้าล้วนอาจถูกจับตามอง แต่ว่าพร้อมกับที่สงครามยิ่งมายิ่งรุนแรง ความสนใจของเส้นทางนอกรีตสุดท้ายแล้วก็อยู่ที่สงครามเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้นนี่จึงมอบโอกาสให้แก่พวกเยี่ยนจ้าวเกอ
เพียงแต่ข่าวสารที่ส่งมามีจุดที่ทำให้คนประหลาดใจ
“แดนสุขาวดีตะวันตก…” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ
ฟู่อวิ๋นเซิงที่ได้รับการไหว้วานจากเยี่ยนจ้าวเกอให้ไปยังมรกตท่องฟ้าพยักหน้าแช่มช้า “มิผิด แดนสุขาวดีตะวันตก!”
คนอื่นๆ มองหน้ากัน
แดนสุขาวดีตะวันตก นานมาแล้วได้สั่นสะท้านโลกหล้า ถึงขั้นมีชื่อเสียงเหนือกว่าแดนสุขาวดีอภิรดี
ผู้ปกครองแดนสุขาวดีตะวันตก คือหนึ่งในยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดที่เก่าแก่ที่สุดบนโลก อมิตตาภพุทธเจ้า!
หลังจากเข้าสู่ยุคไซอิ๋ว ชื่อของแดนสุขาวดีตะวันตกก็เริ่มหายไป แดนสุขาวดีอภิรดีศูนย์กลางมาแทนที่ วัดลุ่ยอิมแห่งเขาหลิงซานกลายเป็นสัญลักษณ์ของฝั่งตะวันตก
รอหลังจากยุคไซอิ๋ว ศากยมุณีพุทธเจ้านิพพาน เมตไตรยพุทธเจ้าประสูติที่แดนสุขาวดีอภิรดี กลายเป็นผู้ครองของคนใหม่ ศาสนาพุทธเริ่มเปลี่ยนแปลง สาวกศาสนาพุทธเริ่มได้ยินแค่ชื่อของพระศรีอาริย์ มักท่องบทสวดว่า ‘นะโมพระศรีอริยะเมตไตรย’ ชื่อแดนสุขาวดีตะวันตกเริ่มหายไปตั้งแต่ตอนนี้
คนในโลกส่วนใหญ่คิดว่าเหล่าพระพุทธเจ้าของแดนสุขาวดีตะวันตกได้เข้าร่วมกับแดนสุขาวดีอภิรดี
ส่วนตัวตนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเช่นอมิตตาภพุทธเจ้า ไม่มีใครคาดเดาสถานการณ์อยางเป็นรูปธรรมออก
ว่ากันว่าพระอมิตตาพุทธเจ้านิพพานไปก่อนพระศากยมุณีพุทธเจ้า และว่ากันว่าพระอมิตตาพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ยังมีเรื่องเล่าว่าอมิตตาพุทธเจ้าได้ปิดผนึกแดนสุขาวดีตะวันตก ประทับในความว่างเปล่า ไม่ผละจากความบริสุทธิ์ ไม่ถามไถ่เรื่องทางโลก คนอื่นๆ ก็ตามหาท่านไม่เจอ
นอกจากนี้แล้ว ยังมีเรื่องราวมากมายสับสนวุ่นวาย ยากแยกแยะจริงปลอม
ที่อยู่และทิศทางของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดในโลกนี้ เดิมทีส่วนใหญ่เป็นปริศนา มีแต่ตำนานเล่าขาน
นอกจากบรมครูสามพิสุทธิ์กับพระพุทธเจ้าแห่งเขาหลิงซานซึ่งสามารถยืนยันว่าได้หลุดพ้น และมารสวรรค์ธรรมชาติที่ได้สิ้นชีวิตไปแล้ว ยากจะพูดถึงคนที่เหลือ
บางทีพวกเขาอาจตั้งใจสร้างภาพลวงตา ปิดบังคนอื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกัน เพราะแผนการบางอย่าง
ผู้ริเริ่มเรื่องเล่าส่วนหนึ่ง ถึงขั้นเป็นตัวพวกเขาเอง
พระศรีอาริย์ชำระคำสอนของแดนสุขาวดีอภิรดีใหม่ ทำให้ศาสนาพุทธรุ่งเรืองในหมู่มนุษย์มากขึ้น พร้อมกับเวลาที่ผ่านไป ตำแหน่งมั่นคงขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
แต่ว่ามาถึงวันนี้ ยอดฝีมือของแดนสุขาวดีตะวันตกได้ปรากฏตัวขึ้น ทำให้ทุกอย่างเกิดระลอกคลื่นขึ้นอีกครั้ง
“ล้วนเป็นคนที่ปรากฏตัวขึ้นมาใหม่ หรือว่ามีผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธในอดีตที่พวกเราคุ้นเคย?” กษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงมองฟู่อวิ๋นฉือพร้อมกับถามอย่างแช่มช้า
เขาถูกแช่แข็งในชายฝั่งยมโลกมาพันกว่าปี หูตาย่อมไม่ประเปรียวเท่าพวกเกาหาน หลิงชิง และเจี่ยงเซิ่นที่อยู่ด้านนอกมาโดยตลอด
“มี!” ฟู่อวิ๋นฉือพยักหน้า กล่าวเสียงทุ้มว่า “มีสมณะไป๋ซง”
เยี่ยนจ้าวเกอตากลายเป็นคมกริบ “ศิษย์ของพระทีปังกรพุทธเจ้า…อดีตยอดฝีมือศาสนาพุทธแห่งแดนสุขาวดีอภิรดี…”
ฟู่อวิ๋นฉือกล่าว “มิผิด นี่เป็นแค่ผู้สูงส่งของศาสนาพุทธในยุคสมัยก่อนที่สามารถยืนยันตัวได้ นอกจากนี้แล้วเกรงว่าจะยังมีตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าอยู่ด้วย”
มรกตท่องฟ้าคิดสืบข่าวไม่ง่ายดายเช่นกัน ไม่อาจเข้าใกล้อาณาเขตใจกลางการต่อสู้ของสองฝ่าย
“เรื่องที่ข้าสนใจมากที่สุดในตอนนี้มีสองประการ…” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างแผ่วเบา “เรื่องแรกอามิตตาภพุทธเจ้า ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
อามิตาภพุทธเจ้า คือศาสดาของนิกายปัจฉิมทิศในยุคสถาปนาเทพเจ้า มีชื่อว่าเจียอิ่นเต้าหยิน(นักพรตชักนำ)
ก่อนที่ยุคบุพกาลจะเริ่มต้น ได้กลายร่างเป็นมารสวรรค์ไร้รูป ยึดครองตำแหน่งบรรพมาร ทำลายพลังของวิถีมารก่อนจะถือกำเนิดขึ้น
หนึ่งในตัวตนที่เก่าแก่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นตัวตนที่เคยงัดข้อกับรมครูสามพิสุทธิ์สำนักเต๋า!
หลังยุคสถาปนาเทพเจ้า ท่านกับแดนสุขาวดีตะวันตกค่อยๆ หายไป หลังยุคไซอิ๋วก็ไม่มีข่าวสารอีก เดิมทีเป็นหนึ่งในกลุ่มก้อนปริศนาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน
แดนสุขาวดีตะวันตกปรากฏขึ้นอีกครั้ง ความรู้สึกของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ หากบอกว่าเป็นความตื่นตระหนก กลับมิสู้บอกว่าในขณะที่สงสัยใคร่รู้ ในใจก็เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย
เพียงแต่ยังไม่ผ่อนคลายโดยสิ้นเชิง
อามิตาภพุทธเจ้าอยู่กับไม่อยู่ เป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง
………………..