ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1337 เขาแหนเขียว กระบี่แหนเขียว
กษัตริย์เถาผละไป กษัตริย์ลี้ลับเงียบงัน
สำหรับคนทั่วไป ผู้สืบทอดของกษัติรย์เถามีความสำเร็จสูงส่ง สามารถเรียกว่าตำนาน
อย่าว่าว่าแต่หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่หายาก แม้แต่ในยุคที่มรรคายุทธ์รุ่งเรืองอย่างก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ก็มีน้อยเหมือนขนหงส์เกล็ดกิเลน
เพียงแต่พอนึกถึงแสงสว่างนี้ในขณะปัจจุบัน ผู้คนกลับทอดถอนใจ
สำหรับกษัตริย์เถาแล้ว ศิษย์เอกทั้งหกเหลือเพียงแค่สอง คนหนึ่งในนี้ออกจากมรกตท่องฟ้า เดินตามเส้นทางของตัวเองไปแล้ว
คนหนึ่งที่เหลืออยู่ยอดเยี่ยมไปเสียทุกอย่าง เพียงแต่ว่าไม่ได้มีความคิดเดียวกันกับตนในเรื่องสายสืบทอดของเขานครหยก
เยี่ยนจ้าวเกอสำนึกตัวว่า หากเปลี่ยนให้เขาไปอยู่ในตำแหน่งของกษัตริย์เถา ก็ไม่อาจรู้สึกดี
นอกากนี้ กษัตริย์เถาเป็นคนที่อยู่มาก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เป็นคนรุ่นเดียวกันกับกษัตริย์ดินเจี่ยงเซิ่น อายุคก็ใกล้เคียงกัน
ถ้าไม่ได้ฝ่าภัยพิบัติปฐมลี้ลับ ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด สำเร็จเป็นเซียนกำเนิด พูดถึงด้อายุขยัยในตอนนี้ก็ได้ล่วงเข้าสู่วัยชราแล้ว
มิหนำซ้ำ กษัตริย์เถายังมีอาการบาดเจ็บเก่า ส่งผลถึงรากฐาน จะมากจะน้อยก็มีผลต่ออายุขัยของตัวเองในระดับหนึ่ง
แน่นอนว่า เซียนลี้ลับที่หลอมสี่ปราณเป็นวายุ จะมีอายุขัยตามปกติมากกว่าหมื่นปี การคำนวณอายุขยัยก็กะหยาบๆ ได้
แม้ว่าอายุขัยของกษัตริย์กำลังจะสิ้นสุด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องภายในร้อยกว่าปีนี้
แต่สิ่งที่ทำให้คนสนใจก็คือ สืบเนื่องจากอาการบาดเจ็บ กษัตริย์เถาจึงไม่เห็นความหวังในการฝ่าภัยพิบัติปฐมลี้ลับอย่างปลอดภัย
เยี่ยนจ้าวเกอมองกษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียน เห็นเกาชิงเสวียนไม่พูดอะไร
เขาลอบถอนใจ กลับเอ่ยอะไรอีก
สถานการณ์ของกษัตริย์เถาค่อนข้างมีความพิเศษ อาการบาดเจ็บยากรักษา
กระนั้นการควบคุมตำหนักโอสถของเขาในตอนนี้ก็ยิ่งมายิ่งคล่อง การหลอมเปลี่ยนยิ่งมายิ่งล้ำลึก มีวิธีการบางอย่างที่ยังไม่ได้ทดลองดู
เพียงแต่มองจากท่าทางของกษัตริย์เถา เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางรับไว้เด็ดขาด
“อีกเดี๋ยวข้าจะคุยกับท่านอาจารย์เอง” กษัตริย์ลี้ลับไม่ใช่คนธรรมดา หลังจากเงียบงันครู่หนึ่ง ก็ปรับอารมณ์ ย้ายความสนใจมาที่เรื่องการย้ายฟ้าองมรกตอีกครั้ง “จ้าวเกอเตรียมตัวทำอย่างไร?”
แม้จะเป็นกษัตริย์เถาก็ต้องยอมรับว่า นี่เป็นเรื่องใหญ่ในอนาคตของมรกตท่องฟ้า
“เหมือนที่ปรึกษากันก่อนหน้า ข้าขอเตรียมการบางอย่างบนมรกตท่องฟ้าก่อน” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ข้าแม้จะเป็นร่างแยกร่างหนึ่ง แต่ว่าแผนการที่ได้เตรียมเอาไว้ก็สามารถทำให้สำเร็จได้ เพียงแต่ยังจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากใต้เท้ากษัตริย์ลี้ลับกับผู้อาวุโสสายเหนือพิสุทธิ์ทุกท่าน จะได้สำเร็จในระยะเวลาอันสั้น”
“หลังจากการเตรียมการทางมรกตท่องฟ้าเรียบร้อยดีแล้ว พวกใต้เท้ากษัตริย์ดาราจะเคลื่อนไหวในบริเวณอื่น ส่งเสียงบูรพาตีประจิม ล่อเสือออกจากถ้ำ”
ฝ่ายเหนือพิสุทธิ์ได้ยินดังนั้น ต่างพยักหน้าเห็นด้วย
คนที่หาตำหนักโอสถไม่เจอ ส่วนใหญ่จับจ้องโลกซ้อนโลกและมรกตท่องฟ้า ให้ความสนใจจักรวาลสำนักเต๋า เพื่อตามหาร่องรอยและที่อยู่ของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
เรื่องย้ายมรกตท่องฟ้าจะต้องมีการเคลื่อนไหวใหญ่โต ไม่จำเป็นต้องคิดจะปิดบังผู้คน
ดังนั้นจำเป็นต้องดึงดูดความสนใจของคนที่คอยจับตามองอยู่รอบๆ ไปก่อน จากนั้นค่อยอาศัยโอกาสสั้นๆ จัดการให้สำเร็จในคราวเดียว
“ไม่ต้องดึงดูดคนไปทั้งหมด ขอแค่ดึงดูดคนส่วนหนึ่งไปได้ โอกาสสำเร็จของพวกเราจะเพิ่มขึ้นมาก” เยี่ยนจ้าวเกออธิบาย “ถึงเวลานั้นข้าจะบังคับตำหนักโอสถกลับจักรวาลสำนักเต๋า ประสานในนอกกับมรกตท่องฟ้า เมื่อสำเร็จแล้ว จะจากไปทันที หลบซ่อนในมิตินอกเขตแดนไร้สิ้นสุดอีกครั้ง”
กษัตริย์ลี้ลับว่า “เจ้าจัดการได้เต็มที่ ข้าจะสั่งให้คนร่วมมือกับเจ้า ก่อนจะสำเร็จ อย่าได้กระทำใหญ่โต หลีกเลี่ยงไม่เผยร่องรอย”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “นี่ย่อมแน่นอน ดังนั้นครั้งนี้ข้าถึงขอให้ใต้เท้าจักรพรรดิแพรมาด้วย”
ฟู่อวิ๋นฉือจักรพรรดิแพรสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน ก่อนจะมาถึงที่นี่ได้วางแผนไว้แล้ว ครั้งนี้ที่เขามาก็เพื่อเป็นตัวล่อ เพื่อปกปิดให้เยี่ยนจ้าวเกอ
“เสวี่ยพอ เจ้ากับเย่เอ๋อร์ ให้สลับกันพาพวกจ้าวเกอเคลื่อนไหวด้านนอก” กษัตริย์ลี้ลับมองบุตรคนโตของตัวเอง เกาเสวี่ยโพพยักหน้า “ขอรับ เสวี่ยพอทราบแล้ว”
กษัตริย์ลี้ลับมองเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง “หลังจากคุยกับท่านอาจารย์อีกครั้ง ช่วงเวลาต่อจากนี้ข้าจำเป็นต้องเข้าฌานอีกรอบ หากไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมาย เจ้าสามารถดำเนินตามแผนการทุกประการได้ ก็ไม่จำเป็นต้องนึกถึงข้า”
“ใต้เท้ากษัตริย์ลี้ลับ ท่านคิดจะฝ่าภัยพิบัติปฐมลี้ลับหรือ?” เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจสั่นไหว
เนื่องจากได้รับความช่วยเหลือจากกลิ่นโอสถในตำหนักโอสถ กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยปัจจุบันมุมานะหลอมเปลี่ยนปราณวายุสี่ชนิดให้กลายเป็นวายุเซียนของตัวเองสำเร็จแล้ว
เยว่เจิ้นเป่ยรวมสี่ปราณเป็นวายุ ขณะนี้ยืนอยู่ในระดับสูงสุดของระดับเซียนลี้ลับเหมือนกษัตริย์อนันต์จางปู้ซวี เฉินเสวียนจงกษัตร์ดารา และหยางเซ่ออดีตกษัตริย์เร้นลับ
เฉินเสวียนจงส่งข่าวดีมาเช่นกัน
ขอแค่วางแผนได้อย่างเหมาะสม รับประกันว่ามารน้ำกุ่นจะไม่ก่อความวุ่นวายในตอนฝ่าภัยพิบัติ เขาก็มีความมั่นใจว่าสามารถฝ่าภัยพิบัติปฐมลี้ลับ ก้าวสู่ขอบเขตห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดในร้อยปีได้
ดูจากตอนนี้ กษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียนมีความมั่นใจในการก้าวเท้าก้าวนั้นเช่นกัน ทั้งอาจเร็วยิ่งกว่าเฉินเสวียนจง
เยี่ยนจ้าวเกอนึกถึงการติดต่อกับมรกตท่องฟ้าในงครามเมื่อยี่สิบปีก่อน น่าเสียดายที่ข่าวที่ส่งมาในตอนนั้นก็คือ เกาชิงเสวียนเข้าฌานอยู่หลายปี ยังขาดการเจาะทะลวงขั้นสุดท้าย ไม่มีความมั่นใจมากพอที่จะเลื่อนระดับ สำเร็จเป็นเซียนกำเนิดสุญญตา
ผ่านมายี่สิบปี วันนี้โอกาสในที่สุดก็สุกงอม เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกยินดีแทนนาง
เกาหาน เจี่ยงเซิ่น หลิงชิง ล้วนเป็นคนที่ผงาดขึ้นขึ้นมาก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
ในผู้สืบทอดของสามพิสุทธิ์สายหลักที่ปรากฏขึ้นหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเกาชิงเสวียนจะเป็นบุคคลที่สองที่สำเร็จห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด เลื่อนสู่ระดับเซียนกำเนิดสุญญตาต่อจากสั่วหมิงจาง
พอนึกถึงว่าการพัฒนาของผู้ฝึกกระบี่ซึ่งที่แล้วมายากลำบากกว่าจอมยุทธ์คนอื่นๆ โดยเฉพาะการเลื่อนระดับยิ่งยากกว่าเป็นพิเศษ ปัจจุบันเกาชิงเสวียนมีความมั่นใจก้าวขึ้นไปชั้นที่สูงกว่าเดิม ช่างน่ายินดีจริงๆ
“สุดท้ายยังสายไปเล็กน้อย” เกาชิงเสวียนไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่ว่าไม่ได้ภาคภูมิใจ เพียงแต่พยักหน้าอย่างสงบ ยืนยันการคาดเดาของเยี่ยนจ้าวเกอ
คนที่อยู่ด้านข้าง นอกจากหลงจักรพรรดิน้ำพุแล้ว จักรพรรดิสัญญะเมฆ จักรพรรดิแพรงาม รวมถึงหลงเสวี่ยจี้และเกาเสวี่ยโพสองพี่น้อง ต่างประหลาดใจเล็กน้อย แสดงความยินดีกับเกาชิงเสวียนพร้อมกัน
“เช่นนั้นอาจารย์อารุ่นปู่หลงท่าน...” เยี่ยนจ้าวเกอมองไปยังหลงจักรพรรดิน้ำพุหลงซิงเฉวียน พร้อมกันนั้นก็กวาดมองจักรพรรดิสัญญะเมฆ
หลงซิงเฉวียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้ากับสหายร่วมเส้นทางอวิ๋นเจิงต่างหล่อเลี้ยงกระบี่ เจ้าไม่ต้องห่วงพวกเรา จัดการได้เต็มที่”
จักรพรรดิอวิ๋นเจิงยิ้มขึ้นเช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า กษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียนกล่าวเสริม “ข้าจะควบคุมสะกดรอยกระบี่ของกระบี่แหนเขียวไว้ เจ้าทำเรื่องของเจ้า ไม่ต้องกังวล”
“นั่นย่อมประเสริฐสุด” เยี่ยนจ้าวเกอว่า
มาถึงวันนี้ เขาทราบถึงตัวช่วยในการบุกเบิกมรกตท่องฟ้าของเจ็ดปราชญ์ท่องมรกต ภายใต้สนับสนุนอย่างลับๆ ของเจ้าแม่อู๋ตังแล้ว
เหมือนกับที่การบุกเบิกโลกซ้อนโลกอาศัยพลังของหยกหรูอี้ไตรรัตนะของวิเศษแห่งเทวกษัตริย์บรรพกำเนิด ครั้งการบุกเบิกมรกตท่องฟ้าก็อาศัยการช่วยเหลือจากของวิเศษชิ้นหนึ่งที่เทวกษัตริย์รัตนวิเศษแห่งสายเหนือพิสุทธิ์ได้ทิ้งเอาไว้เช่นกัน
เป็นกระบี่ที่เทวกษัตริย์รัตนะวิเศษเคยพกพา กระบี่แหนเขียว!
หลังจากเทวกษัตริย์รัตนวิเศษหลุดพ้น เจ้าแม่อู๋ตังก็เป็นผู้ควบคุมเรื่องมาถึงวันนี้
ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอได้มาถึงมรกตท่องฟ้าเป็นครั้งแรก แล้วสัมผัสได้ว่าการไหลเวียนของปราณวิญญาณในเขาแหนเขียวคมกล้ายากต้านทาน เทียบกับตอนปกติไม่ได้ ก็มีการคาดเดาอยู่ในใจบ้างแล้ว
ตอนนี้กลับเป็นการพิสูจน์ถึงเรื่องนี้
พูดถึงตรงนี้ ดวงตาที่เกาชิงเสวียนมองเยี่ยนจ้าวเกอก็อ่อนโยนลงหลายส่วน “วันนี้มีเรื่องให้ต้องกังวลมากมาย หลังจากทุกอย่างอยู่ในการควบคุม มั่นคงขึ้นเมื่อไหร่ ค่อยคุยกับพวกเจ้าสองพ่อลูกอีกครั้ง”
ไม่เพียงแต่หลงซิงเฉวียนเท่านั้น นางก็อยากจะพบลูกหลานของศิษย์น้องมากเช่นกัน
………………..