ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1344 เลือกวันมิสู้เจอโดยบังเอิญ
ผ่านไปยี่สิบปี ถึงแม้เยี่ยนจ้าวเกอจะยังไม่ได้หลอมเปลี่ยนควบคุมตำหนักโอสถโดยสมบูรณ์ แต่ว่าตอนนี้ชายหนุ่มก็เข้าใจการเปลี่ยนแปลงมากมายของตำหนักโอสถดี
ตำหนักโอสถที่ก่อนหน้านี้ขอบเขตภายนอกพร่าเลือน ขยายออกไปด้านนอกอย่างต่อเนื่อง เริ่มสร้างจักรวาลแห่งหนึ่ง ไม่นานมานี้ ได้หุบเข้าด้านในอีกครั้ง แสดงรูปลักษณะของตำหนักโอสถ
และโลกจำนวนมากที่ถูกบรรจุอยุ่ในจักรวาลตำหนักโอสถ ขณะที่เขตแดนมิติเวลาทับซ้อนกัน ส่วนใหญ่เบียดใส่กัน แต่ว่ายังมั่นคงอยู่
ตำหนักโอสถที่ไม่ได้มีทิวทัศน์เป็นจักราวล มีรูปร่างเป็นตำหนักวังเซียนในตอนแรก อีกครั้ง ร่องรอยยิ่งเร้นลับกว่าเดิม สามารถเข้าสู่จักรวาลสำนักเต๋าได้อย่างสะดวก ‘กำแพง’ ระหว่างจักรวาลทั้งสองไม่เบียดใส่กัน และไม่สร้างความตกใจให้แก่พวกปีศาจกวางขาวที่ก่อนหน้านี้จับตาดูที่นี่
ตอนนี้ตำหนักโอสถซ่อนร่องรอย ลอยล่องอยู่ในจักรวาลสำนักเต๋า อยู่ห่างจากมรกตท่องฟ้าไม่ไกล
การเตรียมการในมรกตท่องฟ้า เยี่ยนจ้าวเกอได้จัดการไว้คร่าวๆ แล้ว ตอนแรกคิดจะลงมือในเร็ววัน
วันนี้ศัตรูนำทัพมากดดันอย่างเหนือความคาดหมาย ทำให้แผนการเกิดความพลิกผัน โอกาสสำเร็จลดน้อยลงอย่างมิต้องสงสัย
ทว่าพวกจ้าวปีศาจร้อยตาก็ไม่ได้เข้าใจสถานการณ์ทางด้านพวกเยี่ยนจ้าวเกอดีนักเช่นกัน
นี่เป็นโอกาสสำหรับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
“อาจารย์ลุงเกา อาจารย์ลุงหลง แจ้งพวกอาจารย์อารุ่นปู่หลงกับใต้เท้ากษัตริย์ลี้ลับว่า พวกเราจะลงมือแล้ว” ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมองพวกเกาเสวี่ยโพและหลงเสวี่ยจี้ “อีกฝ่ายเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะไม่ได้มาแค่แก้แค้น”
“ถ้าไม่ใช่มาแก้แค้นอย่างเดียว เช่นนั้นก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องมียอดฝีมือคนอื่นกำลังซ่อนตัวคอยลงมืออยู่ใกล้ๆ” เกาเสวี่ยโพสีหน้าเคร่งขรึม
นอกจากจ้าวปีศาจร้อยตากับราชามังกรหวนเฉินถ้ายังมีจอมปีศาจระดับนี้รออยู่อีก เช่นนั้นหากมรกตท่องฟ้าเอาแต่ป้องกัน ก็ใช่ว่าจะเอาชนะศัตรูได้
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “มิผิด เลือกวันมิสู้เจอโดยบังเอิญ พวกเราจะถือโอกาสลงมือในตอนนี้ เล่นงานอีกฝ่ายให้รับมือไม่ทัน”
“เย่เอ๋อร์ ไปแจ้งตากับยายเจ้า ยังมีพวกจักรพรรดิเมฆ” เกาเสวี่ยโพพยักหน้า หันไปพูดกับอวี่เย่ที่อยู่ด้านข้าง
“ค่ะท่านลุงใหญ่” อวี่เย่ที่กำลังชมดูการลงมือของกษัตริย์เถาได้สติ หลังจากรับคำ ก็กลายเป็นประกายกระบี่บินไป
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกตวาดขึ้น “ขึ้น!”
เขากระทืบเท้าใส่พื้น ลวดลายค่ายกลหลายสายปรากฏขึ้น ก่อนจะขยายออกไปรอบๆโดยมีขุนเขาใต้เท้าเป็นศูนย์กลาง
ขุนเขาลำธารของทั้งเก้าแคว้น โลกในรัศมีล้านล้านลี้บนมรกตท่องฟ้า ตอนนี้มีแสงสว่างสาดขึ้นมาพร้อมกัน
ค่ายกลค่ายแล้วค่ายเล่า ลอยขึ้นมาอยู่เหนือแต่ละพื้นที่ในมรกตท่องฟ้า จากนั้นก็ประสานกัน ค่อยๆ กลายเป็นค่ายกลใหญ่ที่ครอบคลุมมรกตท่องฟ้าทั้งหมด
ลำแสงหลายสายพุ่งขึ้นสู่ท้องนภา ออกจากมรกตท่องฟ้า ตัดสลับกัน เคลื่อนไหวอยู่กลางจักรวาลสำนักเต๋าเหมือนกับตอนย้ายโลกซ้อนโลกเมื่อครั้งนั้น
ภายใต้การบังคับของกษัตริย์เถา ปราณกระบี่หนาแน่นทั่วมรกตท่องฟ้าไม่ได้รับผลกระทบ ยังคงทำงานด้วยตัวมันเอง
สองสิ่งเหมือนไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทำงานของใครของมัน
แสงสว่างสาดขึ้นในความว่างเปล่ากลางจักรวาลภายนอกมรกตท่องฟ้า ควันสีม่วงไร้สิ้นสุดปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน แล้วแผ่ขยายไปทั่วจักรวาล
ตรงทะเลเมฆควันม่วง ตำหนักหยกขาวที่เรืองแสงสีทองนับหมื่นสายโผล่ขึ้นบนจักรวาลสำนักเต๋า ใกล้กับมรกตท่องฟ้า
จ้าวปีศาจร้อยตาที่ตอนแรกกดดันมรกตท่องฟ้าอย่างไม่สะทกสะท้าน กับราชามังกรหวนเฉินที่ช่วยสะกดทัพอยู่ด้านข้างเห็นดังนั้น ต่างแตกตื่นในทันใด
“นี่…” จ้าวปีศาจร้อยตาหันไปมองราชามังกรหวนเฉินโดยสัญชาตญาณ “นี่หรือว่าเป็นตำหนักโอสถแห่งวังเทพนั่น?”
ราชามังกรหวนเฉินมองตำหนักโอสถหยกขาว พึมพำตอบ “สมควรไม่ผิด”
ผู้มีประสบการณ์ยากจะไม่คิดมาก
หลังจากความตกตะลึงในตอนแรกสุด ปฏิกิริยาแรกของสองปีศาจคือ ต่างสงสัยว่าที่นี่มีหลุพรางอะไรวางอยู่ เพื่อรอให้พวกเขากระโดดเข้าไปหรือไม่
เหล่าเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลของสำนักเต๋าใช่รออยู่ที่นี่หมดแล้วหรือไม่?
แต่พอลองคิดดูเล็กน้อย ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้
ปัจจุบันสำนักเต๋าสายหลักฟื้นฟูกำลัง หากไม่มีความจำเป็น สมควรไม่ขุดหลุมสร้างกับดักเช่นนี้
เพียงแต่ว่าตำหนักโอสถที่ตามหามาโดยตลอด ถึบกับซ่อนอยู่ใต้หนังตาของตน เห็นดังนั้น พวกจ้าวปีศาจร้อยตาก็ยากจะไม่รู้สึกเหลือเชื่อ เต็มไปด้วยความสงสัย
ทว่าหลังจากเห็นเสาแสงหลายสายที่เชื่อมต่อระหว่างมรกตท่องฟ้ากับตำหนักโอสถ พวกเขาก็สั่นสะท้านพร้อมกัน “นี่คือ…กำลังจะเอาโลกใบนี้ออกไปด้วยหรือ?”
“แจ้งพวกฝู่ลัวจื่อทันที” ราชามังกรหวนเฉินที่นั่งอยู่บนเมฆมงคลสีทองมาโดยตลอดผุดกายขึ้น สั่งเจียวหลงสีแดงตนหนึ่งให้ไปแจ้งข่าว
เจียวหลงสีแดงตนนั้นรีบมุ่งหน้าไปยังนอกจักรวาลสำนักเต๋าอย่างรวดเร็ว
ขณะนี้พวกผู้ยิ่งใหญ่เผ่าปีศาจเช่นฝูลัวจื่อ มหาเซียนหรูอี้ และนางเซียนเสวียนซวง ต่างแตกตื่นเพราะการสั่นไหวจากการเชื่อมต่อของตำหนักโอสถกับมรกตท่องฟ้า ไม่เข้าใจสถานการณ์อย่างเป็นรูปธรรมอยู่ชั่วขณะ
หลังจากสั่งให้คนไปตรวจสอบ พอดีที่เจอเจียวหลงแดงตนนั้นกลางทาง รีบร้อนพากลับมา
หลังจากฟังเจียวหลงแดงเล่าเรื่อง สามปีศาจก็ตื่นตระหนก
“อันตรายยิ่ง อีกนิดเดียวพวกเขาก็จะหนีไปได้แล้ว!” มหาเซียนหรูอี้ถลึงตากล่าว
“พวกเรารีบไปช่วยสหายร่วมเส้นทางร้อยตากับสหายร่วมเส้นทางหวนเฉินโดยเร็วเถอะ ระวังคนอื่นๆ ที่จับตาดูที่นี่ด้วย” ฝูลัวจื่อเอ่ย
กลุ่มจอมปีศาจที่อยู่ในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดด้านนอกจักรวาลสำนักเต๋า ขณะนี้พากันเร่งรุดไปยังจักรวาลสำนักเต๋า
อีกด้านหนึ่ง คนจากขุมกำลังอื่นๆ ที่จับตาดูจักรวาลสำนักเต๋าอยู่ก็เริ่มสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหว ต่างแตกตื่นสับสน รีบมาตรวจสอบจักรวาลสำนักเต๋า
ชั่วขณะนี้ ที่นี่เกิดคลื่นมรสุมอีกครั้ง เหมือนกับกลุ่มวีรุบุรุษรวมตัวเมื่อยี่สิบปีก่อน มิติเวลาของจักรวาลสำนักเต๋าเริ่มสั่นไหว
ตอนนี้ไฟสงครามปะทุขึ้นอันเป็นครั้งแรกใกล้ๆ กับมรกตท่องฟ้า
“คิดหนี? ไหนเลยง่ายดายขนาดนั้น!” จ้าวปีศาจร้อยตาใบหน้าเหี้ยมเกรียม เพิ่มพลังที่ใต้ฝ่ามือ โจมตีใส่มรกตท่องฟ้า!
ราชามังกรหวนเฉินสั่งคนไปแจ้งข่าวเสร็จ ก็ลงจากเมฆมงคล มุ่งหน้าไปยังตำหนักโอสถทันที
แสงสีทองหลายชั้นพุ่งออกมาจากตำหนักโอสถ
ราชามังกรหวนเฉินแค่นเสียง ห้านิ้วกลายเป็นกรงเล็บ จับแสงสีทองเอาไว้ พร้อมกับพูดว่า “เสวียนชางเอ๋อร์ ตัดขาดการเชื่อมต่อของตำหนักโอสถกับโลกใบนั้น!”
ด้านข้างบุตรของเขารับคำ “น้อมรับคำสั่งเสด็จพ่อ”
เสวียนชางไท่จื่อ(รัชทายาท)ที่สวมเกราะหนักนำขบวนปีศาจ เข่นฆ่าออกมาจากในเมฆมงคลสีทอง ต่างคนต่างลงมือ จู่โจมใส่ลำแสงหลายสายที่เชื่อมต่อระหว่างมรกตท่องฟ้ากับตำหนักโอสถ
ทันใดนั้นเอง มีประกายกระบี่หลายสายสว่างขึ้นในมรกตท่องฟ้าพร้อมๆ กัน!
ปราณกระบี่ที่ช่วยเสริมกำลังให้ม่านกั้นเขตแดนของมิติเวลาในมรกตท่องฟ้าเปลี่ยนเป็นเต็มเปี่ยมถึงขีดสุด
จ้าวปีศาจร้อยตาเลิกคิ้วขึ้น สัมผัสได้ทันทีว่า คู่ต่อสู้ตรงหน้าไม่ใช่กษัตริย์เถาอีก
ยามนี้บนเขาอวี่อวี๋ยอดเขาหลักของเขาแหนเขียวในมรกตท่องฟ้า สตรีอาภรณ์เขียวคนหนึ่งสลับที่กับกษัตริย์เถา ควบคุมปราณกระบี่รอบๆ มรกตท่องฟ้าให้มุ่งสู่ฟากฟ้า
ด้านข้างสตรีอาภรณ์เขียวนางนี้ นอกจากกษัตริย์เถาแล้ว ยังยืนไว้ด้วยหลงซิงเฉวียนและจักรพรรดิสัญญะเมฆ
หลงซิงเฉวียนสีหน้ายังคงเกียจคร้าน ไม่ยี่หระเช่นวันวาน เพียงแต่ในมือเพิ่มกระบี่ยาวในฝักเล่มหนึ่ง
เขาฉวยโอกาสตอนที่ปราณกระบี่ของมรกตท่องฟ้ายังต้านทานจ้าวปีศาจร้อยตาอย่างเต็มกำลัง วูบไหวท่าร่าง บรรลุถึงด้านนอกมรกตท่องฟ้า
………………..