ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1346 กระบี่เปลี่ยนทวิลักษณ์
“อาจารย์อาหลงหล่อเลี้ยงกระบี่มาหลายพันปี พอออกจากการกักตัว ก็สาดแสงทั่วจักรวาล” ในตำหนักโอสถ กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยถอนใจชมเชย
เยี่ยนจ้าวเกอร่างจริงทางหนึ่งควบคุมตำหนักโอสถ ทางหนึ่งเอ่ย “ถูกต้อง อาจารย์อารุ่นปู่หลงเปิดคม กระบี่แรกหลังจากเลื่อนสู่เซียนลี้ลับ เซียนกำเนิดสุญญตาส่วนใหญ่ยังต้องหลบ ไม่อย่างนั้นถ้าไม่ได้รับบาดเจ็บก็ต้องถูกเล่นงงานจนหน้าหงาย”
ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่สนใจเรื่องที่หลงซิงเฉวียนด้อยกว่าเกาชิงเสวียนที่เป็นภรรยา ถึงขั้นแอบพูดกันเป็นเรื่องตลก
หลงซิงเฉวียนไม่สนใจ และเพราะปกติมักเกียจคร้านทำอะไรตามใจ เก็บตัวไม่ได้ออกไปไหน ยิ่งทำให้คนดูถูกมากกว่าเดิม
แต่ขอแค่ไตร่ตรองดูก็จะทราบทันทีว่า คนที่ไม่มีความกล้าไม่มีความสามารถ ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ ครั้งกระโน้นไฉนจึงกระทำเรื่องอย่างการบุกมาดวลกระบี่ที่มรกตท่องฟ้า?
บอกว่าคนไม่รู้ไร้ความเกรงกลัวยังพอว่า ปัญหาคือตอนนั้นหลงซิงเฉวียนใช้วิชากระบี่สยบมรกตท่องฟ้า ทำให้พวกจางปู้ซวีกับอวิ๋นเจิงเต้าหยินยอดฝีมือสายเหนือพิสุทธิ์หลายคนต้องเสียหน้า จนกระทั่งเกาชิงเสวียนลงมือ เขาจึงค่อยพ่ายแพ้
ตามคำกล่าวของเยว่เจิ้่นเป่ย ปกติแล้วหลงซิงเฉวียนเกียจคร้าน แต่ว่าตอนที่เขามีกระบี่อยู่ในมือ ต่อสู้กับผู้คน ความบ้าคลั่งและการยึดติดต่อชัยชนะ ยังมีมากกว่าเยี่ยนซิงถางเสียอีก
แลกเปลี่ยนกระบวนท่ายังพอว่า แต่ถ้าสู้กับศัตรู ใต้กระบี่ถ้าไม่ตายก็บาดเจ็บ ไม่เคยปรานี
ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอยังไม่ค่อยเห็นภาพ
ทว่าวันนี้พอได้เห็นจุดจบของเสวียนชางไท่จื่อ ทุกอย่างก็ไม่จำเป็นต้องพูดมากแล้ว
พลังของหลงซิงเฉวียน ในอดีตตอนที่ออกตามหาตำหนักโอสถ เยี่ยนจ้าวเกอได้เจอจักรพรรดิอวิ๋นเจิงเป็นครั้งแรก เคยชมเชยอีกฝ่ายว่า ในหมู่ยอดฝีมือระดับเซียนจริงแท้ที่ตนรู้จักในตอนนั้น อีกฝ่ายติดสามอันดับแรกได้
ในขณะนั้น ยอดฝีมือเซียนจริงแท้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ใช่เฉินกานหวาที่เพิ่งเลื่อนสู่ระดับเซียน ไม่ใช่หลงเสวี่ยจี้ที่เผยความคมกล้า และไม่ใช่จักรพรรดินีเจี่ยงหมิงคงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง สร้างความตกตะลึงในยามลืมตา
เป็นอาจารย์อารุ่นปู่ที่หล่อเลี้ยงกระบี่มาหลายพันปีอย่างเงียบๆ และเป็นตัวตลกในสายตาของคนไม่กี่คน
หลงซิงเฉวียน หลงจักรพรรดิน้ำพุในตอนนั้น!
“ที่นี่มอบให้จ้าวเกอเจ้า ข้าจะไปช่วยแล้ว” ถึงจะไม่ลงรอยกับพวกกษัตริย์เถาและอวิ๋นเจิงเต้าหยินยอดฝีมือของมรกตท่องฟ้า แต่ตอนนี้ต้องรับศึกศัตรู เยว่เจิ้นเป่ยยังคงละวางความแค้นส่วนตัวชั่วคราว ออกจากตำหนักโอสถ
ในความว่างเปล่าของจักรวาลด้านอกตำหนักโอสถ หลงซิงเฉวียนเผชิญกับราชามังกรหวนเฉินอนุเทวะเผ่าปีศาจที่เทียบได้กับจ้าวสวรรค์ของสำนักเต๋า
ราชามังกรหวนเฉินตอนนี้ไม่ใจร้อนอีก เคลื่อนไหวทีละก้าวอย่างมั่นคง คิดใช้ระดับกดดันคน
หลงซิงเฉวียนในตอนนี้แม้ดวงตาจะเผยให้เห็นถึงความฮึกเหิมต้องการชัยชนะ แต่ว่าขณะลงมือ ยังคงรักษาเยือกเย็น แบ่งลำดับขั้นตอนชัดเจน
เขาทางหนึ่งต้านทานการสะกดที่เกิดจากเสียงมหามรรคายามอีกฝ่ายลงมือ ทางหนึ่งเปลี่ยนประกายกระบี่จากแข็งเป็นอ่อน ต่อสู้กับศัตรู
อีกด้านหนึ่ง กษัตริย์เถากับอวิ๋นเจิงเต้าหยินที่ออกมาจากมรกตท่องฟ้า กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยที่ออกมาจากตำหนักโอสถ ต่อสู้กับเผ่าปีศาจที่เหลือเป็นพัลวัน
เผ่าปีศาจที่อยู่ที่นี่ นอกจากเสวียนชางไท่จื่อแล้ว ยังมีมืดดีไม่น้อย
แต่ว่าตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญความตกตะลึงอย่างฉับพลันหลังจากอวิ๋นเจิงเต้าหยินหล่อเลี้ยงกระบี่หลายพันปีเช่นกัน!
ถึงสภาวะจะด้อยกว่าหลงซิงเฉวียน ทว่ายามอวิ๋นเจิงเต้าหยินออกกระบี่ ผู้ขวางทางล้วนมอดม้วย!
เซียนปีศาจที่ผสานปราณเซียนเป็นวายุ เทียบได้กับระดับเซียนลี้ลับของสำนักเต๋า ถูกอวิ๋นเจิงเต้าหยินฟันขาดเป็นสองท่อน
ประกายกระบี่สภาวะไม่หยุดลง กอปรเป็นสภาวะทำลายล้าง พัดกระพือคลื่นคลั่งคาวโลหิตลูกหนึ่ง!
ราชามังกรหวนเฉินถูกกดันจนไร้หนทาง ผละจากหลงซิงเฉวียนชั่วคราว ถูกกดดันให้รับกระบี่นี้แทนเผ่าปีศาจตนอื่นอีกครั้ง
อีกด้านหนึ่ง หลงซิงเฉวียนพุ่งประกายกระบี่ถั่งโถมมา ฉวยโอกาสโต้ตอบราชามังกรหวนเฉิน
อวิ๋นเจิงเต้าหยินสาดประกายกระบี่ออก วางค่ายกลกระบี่หลายค่าย อาศัยสภาวะกักขังราชามังกรหวนเฉินกับหลงซิงเฉวียนไว้ด้านใน
เขาโบกมือวูบหนึ่ง ลำแสงสายหนึ่งห่อหุ้มหลงเสวี่ยจี้กับเกาเสวี่ยโพสองพี่น้องให้พุ่งเข้าหาเยว่เจิ้นเป่ยที่อยู่อีกด้าน จากนั้นเยว่เจิ้นเป่ยก็ส่งพวกเขาไปยังตำหนักโอสถ
ถึงแม้ว่าเสียงมหามรรคาที่อนุเทวะเผ่าปีศาจกระตุ้นขึ้นมาจะทำให้พวกหลงเสวี่ยจี้ที่อยู่ในระดับเซียนจริงแท้ได้รับการสะกด แต่การส่งนี้ยังพาพวกเขาเข้าไปในตำหนักโอสถได้อย่างปลอดภัย
เสียงมังกรที่เดือดดาลดังขึ้น ราชามังหวนเฉินใกล้จะฉีกค่ายกลกระบี่ทะลวงออกมาได้แล้ว
ภายใต้การบัญชาของเขา ยอดฝีมือเผ่าปีศาจที่หลงเหลือลงมือพร้อมกัน เริ่มต้นตอบโต้
พวกหลงซิงเฉวียน เยว่เจิ้นเป่ยสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน ต่างออกกระบวนท่า รับมือเหล่าปีศาจ
อีกด้านหนึ่ง จ้าวปีศาจร้อยตาเห็นมรกตท่องฟ้าเชื่อมต่อกับตำหนักโอสถ ก็ทั้งแตกตื่นทั้งโมโห
ในตอนนั้นเอง ประกายกระบี่จากข่ายกระบี่บนมรกตท่องฟ้าที่กำลังต้านเขาอยู่ก็ค่อยๆ อ่อนแอลง
ทว่าสตรีอาภรณ์เขียวนางหนึ่งเดินออกมาจากด้านใน
ยามนางก้าวย่าง เสียงมหามรรคาอันล่องลอยลี้ลับดังขึ้น มอบแรงกดดันให้แก่พวกจ้าวปีศาจร้อยตากับราชามังกรหวนเฉินอย่างต่อเนื่อง
มาถึงวันนี้ กษัตริย์ลี้ลับในอดีต ได้ก้าวเท้าก้าวนั้นออก ฝ่าภัยพิบัติปฐมพิศวงสำเร็จ ได้ร่างห้าปราณมุ่งสู่กำเนิด ก้าวสู่ระดับเซียนกำเนิดสุญญตา!
ต่อจากสั่วหมิงจาง ในจอมยุทธ์รุ่นใหม่ของสำนักเต๋าหลังจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ จ้าวสวรรค์คนที่สองได้มาจุติแล้ว
เกาชิงเสวียน ‘กระบี่เปลี่ยนทวิลักษณ์’ แห่งมรกตท่องฟ้า!
“เป็นลูกศิษย์หลานศิษย์ของชวนเหอเต้าหยิน” จ้าวปีศาจร้อยตาไม่เกรงใจแม้แต่น้อย ทิ่มนิ้วใส่ บังเกิดประกายกระบี่สีเหลืองเข้ม ทิ่มแทงใส่เกาชิงเสวียน
เกาชิงเสวียนก้าวไม่เท้าไม่หยุดยั้ง มุ่งหน้าต่อเนื่อง โต้อีกฝ่ายด้วยหนึ่งกระบี่
ประกายกระบี่สีเขียวที่ดุร้ายเด็ดขาดฟันใส่นภากาศ ทำลายประกายกระบี่สีเหลืองเข้มนั้น!
“ถึงจะเป็นกระบี่ลงทัณฑ์เซียน แต่ว่าระดับวิชากระบี่นี้ของนางก็สูงส่งยิ่ง…”
จ้าวปีศาจร้อยตาหัวคิ้วขมวด หยุดความคิดดูแคลน
จากนั้นก็เห็นบนศีรษะของเขาพลันมีแสงสว่างขึ้น!
จ้าวปีศาจร้อยตาเป็นเซียนปีศาจผู้ยิ่งยงที่บรรลุมรรควิถีในยุคไซอิ๋ว มาถึงวันนี้แม้ว่าไม่อาจก้าวข้ามภัยพิบัติฟ้ากำเนิด สำเร็จเป็นมหาเทวะเผ่าปีศาจ ทว่าความเหี้ยมหาญของพลัง ในหมู่ยอดฝีมือเผ่าปีศาจที่มายังจักรวาลสำนักเต๋าในครั้งนี้ นอกจากฝูลัวจื่อแล้ว ที่เหลือล้วนไม่ใช่คู่มือของเขา
บนศีรษะของเขาถึงกับมีแสงสว่างสองกลุ่มกะพริบอยู่!
สองบุปผาเมื่อรวมกระหม่อม พลังของจ้าวปีศาจร้อยตาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งในทันใด
ร่างของเขาเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งไม่อาจทำทำลาย กอปรด้วยพละกำลังไร้สิ้นสุด แก่นเซียนที่ห้าปราณรวมเป็นหนึ่งยิ่งแข็งแกร่งกว่าเดิม
เขาออกกระบี่อีกหนึ่งครั้ง ประกายกระบี่ดุจธารสวรรค์สีเหลืองเข้ม แทบกวาดล้างจักรวาลสำนักเต๋าทั้งจักรวาล ฟันเข้าหาเกาชิงเสวียน
แสงผสานบนศีรษะ ไม่เพียงบ่งบอกว่าเซียนกำเนิดสุญญตาก้าวสู่ระดับสูงกว่าเดิมอย่างต่อเนื่อง ยังบ่งบอกอีกด้วยว่า พลังได้เพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง!
ศัตรูที่เกาชิงเสวียนซึ่งเพิ่งเลื่อนสู่ระดับเซียนกำเนิดเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ ไม่เพียงแต่เป็นอนุเทวะเผ่าปีศาจประสบการณ์โชกโชนตนหนึ่ง ยิ่งเป็นยอดฝีมือที่มีสองบุปผารวมบนศีรษะ
“เร่ง!”
เกาชิงเสวียนเผชิญกับศัตรูร้ายกาจ สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เคลื่อนไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง
ด้านข้างนางพลันปรากฏเงาร่างสายหนึ่งอย่างไร้เค้าลาง
เกาชิงเสวียนอีกคนหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอายหรือหน้าตา ต่างเหมือนร่างจริงไม่ผิดเพี้ยน
คนที่ยืนอยู่ที่นี่ ก็คือเกาชิงเสวียนสองคน ไม่มีจริงมีปลอม ไม่แบ่งแยกซึ่งกันและกัน!
ทั้งสองเคลื่อนไหวเหมือนกัน ต่างก็พุ่งดิ่งไปด้านหน้า จากนั้นก็ออกกระบี่หนึ่ง
ทางซ้ายมือ เจตจำนงกระบี่ดุร้ายหมายขวัญ ทำลายทุกสิ่ง กำจัดสรรพวิชา แสดงให้เห็นถึงจุดจบของธรรมชาติ!
ทางขวามือ เจตจำนงกระบี่สูงส่ง ไม่มีสิ่งใดขัดขวาง ทำลายอุปสรรคขวากหนาม แสดงให้เห็นการเปิดฟ้าผ่าดิน!
………………..