ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1348 สู้เหล่ามาร
ขณะมองรอยร้าวที่เกิดจากการถูกฟันบนตะขอในมือตนเอง มหาเซียนหรูอี้สูดลมหายใจเย็นเยียบเฮือกหนึ่ง
เมื่อครู่อาวุธของสองฝ่ายปะทะกัน เขาจึงรู้สึกได้ว่าเฟิงอวิ๋นเซิงจงใจควบคุมพลังของตัวเอง
แค่การปะทะกันครั้งนี้ มหาเซียนหรูอี้ก็รู้สึกตื่นตระหนกแล้ว ‘แค่ติดกลิ่นอายของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม ถึงกับน่ากลัวปานนี้แล้ว?’
พอคิดถึงเรื่องนี้ เขาชักตะขอกลับ ไม่ได้พุ่งไปหาตำหนักโอสถอีก แต่พุ่งไปยังลำแสงหลายสายที่เชื่อมต่อตำหนักโอสถกับมรกตท่องฟ้า
ถึงเป้าหมายจะมีแต่ตำหนักโอสถ แต่ถ้าทำลายลำแสงนี้ ทำให้มรกตท่องฟ้าอยู่ในจักรวาลสำนักเต๋าต่อได้ ตำหนักโอสถอาจจะถอยไปเอง ทว่ามหาเซียนหรูอี้เชื่อว่า พวกเยี่ยนจ้าวเกอไม่มีทางรามือเท่านี้
ครั้งนี้หากพลาดโอกาสไป ครั้งหน้าทุกฝ่ายทราบว่าพวกเขาหมายจะเอามรกตท่องฟ้าไปด้วย จึงเตรียมการซุ่มจู่โจม เช่นนั้นก็กลายเป็นการเฝ้าต้นไม้รอกระต่ายของจริง โอกาสที่เยี่ยนจ้าวเกอจะทำสำเร็จ จะเหลือน้อยสุดเปรียบปาน
ในเมื่อลงมือแล้ว จำเป็นต้องให้รู้ผลในวันนี้
ถึงแม้ร่างเดิมของมหาเซียนหรูอี้จะเป็นกระทิง แต่เขากลับปราดเปรียวเหนือธรรมดา ทะยานร่างมาถึงใกล้ๆ พวกราชามังกรหวนเฉิน หนึ่งตะขอกระจายไปทั่ว เกี่ยวทำลายลำแสงสายหนึ่งก่อน
ทว่าเฟิงอวิ่นเซิงเอียงชี้ดาบดำขลับในมือ ติดตามมาทันที
‘ตัวไร้ประโยชน์’ จ้าวปีศาจร้อยตาลอบด่าทอในใจ พุ่งเข้าหาเฟิงอวิ่นเซิง จากนั้นกางสองแขน แสงสีทองกับหมอกสีเหลือใต้สีข้างพรั่งพรูออกมาพร้อมกัน แล้วครอบคลุมเข้าใส่เฟิงอวิ๋นเซิง
เกาชิงเสวียนที่หลบเลี่ยงหมอกแสงก่อนหน้าเห็นดังนั้น ก็หมุนท่าร่าง โจมตีใส่พวกมหาเซียนหรูอี้และราชามังกรหวนเฉิน
“ล้วนอย่าคิดไป” ในเสียงหัวเราะเย็นชาของจ้าวปีศาจร้อยตา หมอกแสงนั้นแผ่พุ่งมา ครอบคลุมจักรวาลสำนักเต๋าบริเวณหนึ่ง
บริเวณที่หมอกแสงไปถึง มิติเวลาเหมือนกับต่างถูกผนึกไว้
หมอกแสงสีเหลืองหนาแน่นม้วนลอยไปทั่ว กลืนกินเฟิงอวิ๋นเซิงกับเกาชิงเสวียน
เฟิงอวิ๋นเซิงเห็นดังนั้นสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ใช้มือซ้ายกำด้ามดาบเทพอาทิตย์ยะเยือก
นางถือดาบด้วยสองมือ จากนั้นก็ชูขึ้นเหนือศีรษะ
“ฮ่าห์!” เฟิงอวิ๋นเซิงเปล่งเสียงที่ความหมายไม่ชัดเจนคำหนึ่ง
คมดาบที่ชูสูงฟันลงด้านล่าง ประกายดาบกระจัดกระจาย สรรพวัตถุมลาย มุ่งสู่ความสิ้นสูญที่จุดจบ
หมอกแสงสีเหลืองหนาแน่นนั้นเผชิญกับประกายดาบสีดำอันดุร้าย วินาทีนี้หายไปอย่างต่อเนื่อง
จ้าวปีศาจร้อยตาถลึงตา หมอกแสงสีเหลืองเข้มใต้สีข้างพรั่งพรูไม่หยุด เติมเต็มต่อเนื่องไม่ขาดสาย ยื้อยันกับเฟิงอวิ๋นเซิง
เพียงแต่เมื่อเป็นแบบนี้ ขณะนี้หมอกแสงที่ครอบฟ้าคลุมดินวนตอนแรกพลันไม่อาจแผ่ม้วนออกไปต่อ
เกาชิงเสวียนไม่กล่าวมากความ ร่างจริงกับร่างแยกแยกเป็นซ้ายขวา จู่โจมใส่มหาเซียนหรูอี้กับราชามังกรหวนเฉิน!
ราชามังกรได้เห็นภาพที่เกาชิงเสวียนสู้กับจ้าวปีศาจร้อยตา จึงไม่กล้าชักช้า หมุนกายไปรับมือกับเกาชิงเสวียนที่ไม่ทราบว่าเป็นร่างจริงหรือร่างปลอม
อีกฝ่ายใช้สี่กระบี่ล้ำค่าอันเป็นการสืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์ วิชากระบี่เหี้ยมหาญ เข่นฆ่าจนราชามังกรหวนเชิงรับมือไม่ทัน เหงื่ออาบเต็มหลัง
อีกด้านหนึ่ง มหาเซียนหรูอี้ที่สองบุปผารวมบนกระหม่อมต้องรับมือกับเกาชิงเสวียนอีกคน ผ่อนคลายมากกว่า
แต่ยามรับมือกับมหาเซียนหรูอี้ เกาชิงเซียนไม่ได้หักหาญเหมือนตอนสู้กับจ้าวปีศาจร้อยตาเมื่อครู่แล้ว
นางไม่ได้ใช้วิชากระบี่ทั้งหมด เพียงใช้คัมภีร์กระบี่ลวงเซียนอย่างเดียว
เห็นแสงสีแดงบัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฏในความว่างเปล่า เปลี่ยนแปลงยากหยั่งคาด แม้เป็นมหาเซียนหรูอี้ที่มีฝีมือปราดเปรียว ในระยะเวลอันสั้นยังยากจะตรวจจับร่องรอยของอีกฝ่าย
‘ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงวิชากระบี่แต่ละชนิดได้ดั่งใจ หลังจากเปลี่ยนมาใช้วิชากระบี่ชนิดเดียว ยิ่งลึกล้ำจนบรรลุถึงแก่นแท้ด้านใน อัศจรรย์ล้ำเลิศนัก!’ มหาเซียนหรูอี้ปวดศีรษะเล็กน้อย ‘สายสืบทอดของเจ้าแม่อู๋ตัง ให้กำเนิดคนรุ่นหลังที่สุดยอดคนหนึ่ง’
เขามีการสั่งสมรากฐานเต็มเปี่ยมยิ่งกว่าเกาชิงเสวียนในตอนนี้ จึงได้เปรียบมากกว่า
มหาเซียนหรูอี้คิดจู่โจมตำหนักโอสถ หรือพวกหลงซิงเฉวียนกับกษัตริย์เถา ทว่าความเร็วและความคล่องแคล่วในการเหาะเหินเคลื่อนย้ายของเกาชิงเสวียนตรงหน้าไม่ด้อยไปกว่าเขา ทำให้เขายากจะสลัดหลุด
อีกด้านหนึ่ง หลงซิงเฉวียน กษัตริย์เถา เยว่เจิ้่นเป่ย อวิ๋นเจิงเต้าหยิน ต่อสู้กับเผ่าปีศาจตนอื่น
ประกายกระบี่สี่สายพาดขวางจักรวาล ใช้น้อยสู้มาก ไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นติดตามโจมตีพวกจอมปีศาจเหล่านั้นอย่างบ้าคลั่ง กดดันให้พวกเขาอยู่ให้ห่างจากลำแสงที่เชื่อมระหว่างมรกตท่องฟ้ากับตำหนักโอสถ
สี่คนนี้ล้วนเป็นผู้ฝึกกระบี่ สังหารได้เด็ดขาด โจมตีได้ดุดัน แค่ไม่กี่กระบวนท่า อีกฝ่ายก็เริ่มปรากฏคนบาดเจ็บล้มตายแล้ว
ตอนนี้ตำหนักหยกขาวที่ถูกขับเน้นด้วยควันม่วงและแสงสีทองตั้งนิ่ง เริ่มชักนำมรกตท่องฟ้าให้เข้าใกล้ตนเองผ่านทางลำแสงที่เหมือนกับเชือกหลายเส้นนั้น
ประตูตำหนักเปิดออก ด้านในด้านนอกล้วนเป็นจักรวาลชั้นหนึ่ง
ขณะนี้มรกตท่องฟ้าเริ่มกลายเป็นแสง!
โลกใบใหญ่กลายเป็นลำแสง เข้าไปในจักรวาลด้านในตำหนักผ่านทางประตู
การเคลื่อนไหวที่ใหญ่โตเช่นนี้ สั่นสะเทือนจักรวาลสำนักเต๋าทั้งจักรวาล ไม่ว่าเป็นที่ใด ล้วนสัมผัสได้
ด้านนอกจักรวาลสำนักเต๋า ฝูลัวจื่อกับปีศาจกระต่ายหยกที่กำลังสู้กับขุมกำลังอื่น ต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาปรากฏความกังวลอย่างไม่อาจควบคุม
การเปลี่ยนแปลงของจักรวาลสำนักเต๋าตรงหน้าแสดงให้เห็นชัดเจนว่า แผนการนำมรกตท่องฟ้าไปของพวกเยี่ยนจ้าวเกอดำเนินไปยอย่างราบรื่น จอมปีศาจเช่นจ้าวปีศาจร้อยตากลับไม่อาจขัดขวางได้
ตอนนี้ตาข่ายแสงบนมือของฝู่ลัวจื่อที่ยื่นออกไป ทับซ้อนกันแน่นหนาโดยสมบูรณ์ กลายเป็นรังนกขนาดมหึมาที่รวบมิติเวลานับไม่ถ้วนไว้
ขณะนี้ด้านในรังนกมีแสงสีทองจำนวนหนึ่งส่องระยิบระยับอยู่
เป็นผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธผู้หนึ่งที่ได้รับข่าว เร่งรุดมาสนับสนุนจากแดนสุขาวดีตะวันตก
พวกท่านรีบมาถึงจักรวาลสำนักเต๋า เส้นมสงตรงหน้ากลับเชื่อมมาถึงในรังนก ยากทำลายได้ในระยะเวลาอันสั้น
ฝูลัวจื่อที่ขัดขวางกำลังสนับสนุนจากแดนสุขขาวดีตะวันตกไว้ เวลานี้กลับไม่อาจปลีกตัวไป ไม่อาจไม่รั้งอยู่ที่เดิม
เขาถอนใจคำหนึ่ง “นางเซียนไปช่วยเหลือเถอะ”
ขณะที่พูดบนศีรษะของเขามีแสงสว่างลอยขึ้น จากนั้นก็สลับกับปีศาจกระต่ายหยกขัดขวางพระโพธิสัตว์ศาสนาพุทธองค์นั้น
“รบกวนพี่ร่วมเส้นาทางด้วย” ปีศาจกระต่ายหยกไม่กล่าวมากความ ถือสากบดยา รีบพุ่งเข้าไปในจักรวาลสำนักเต๋า
ปีศาจกระต่ายหยกเข้ามาในจักรวาลสำนักเต๋า ไปถึงบริเวณใกล้ๆ มรกตท่องฟ้า กวาดมองสถานการณ์รอบๆ ตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ
สายตาของนางอยู่บนตำหนักโอสถ เห็นตอนนี้มรกตท่องฟ้ากลายเป็นลำแสง ค่อยๆ ถูกดึงเข้าไปในตำหนักโอสถ
เงาแสงลอยขึ้นในความว่างเปล่า โลกใบแล้วใบเล่าตอนนี้ขอบเขตแดนพื้นที่เริ่มเปลี่ยนเป็นชัดเจน
นั่นเป็นโลกแปดพิภพ โลกผืนสมุทร โลกลอยน้ำ และโลกเบื้องล่างมากมายที่อยู่ใต้การปกครองของมรกตท่องฟ้า
พวกเยี่ยนจ้าวเกอคิดย้ายมรกตท่องฟ้า ย่อมต้องนำโลกเบื้องล่างกับคนที่อยู่ด้านในไปด้วย
ปีศาจกระต่ายหยกเห็นดังนั้น รีบพุ่งเข้าหาตำหนักโอสถทันที
ร่างแยกของเกาชิงเสวียนที่กำลังสู้กับราชามังกรหวนเฉินขมวดคิ้ว ใช้หนึ่งกระบี่กดดันราชามังกรหวนเฉินให้ถอยหลัง จากนั้นก็มาขวางปีศาจกระต่ายหยก
ราชามังกรหวนเฉินแม้จะถูกกดดันให้ถอยไปชั่วขณะ แต่ไม่ทันไรก็มาถึงตรงหน้าอีกครั้ง
เกาชิงเสวียนร่างจริงกับร่างปลอมออกกระบี่ลวงเซียน ป้องกันไปทั่วทิศทาง
ทว่าอนุเทวะเผ่าปีศาจทั้งสามของอีกฝ่ายพุ่งเข้ามาพร้อมกัน ในที่สุดมหาเซียนหรูอี้มุดเข้าช่องว่าง สลัดหลุดจากเกาชิงเสวียน โถมเข้าหาตำหนักโอสถ
………………..