ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1374 เจอกันเป็นครั้งแรก
“มีเริ่มต้นมีจุดสิ้นสุด สมเหตุสมผลแล้ว” ได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอพูดถึงจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ เฟิงอวิ๋นเซิงก็เอ่ยขึ้น
ระหว่างสองฝ่ายไม่ได้มีความเชื่อใจกันมากนัก ราชันพระจันทร์หลิงชิงทราบเรื่องนี้ดีแก่ใจ ไม่ได้ขอวิธีการติดต่อกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ แต่มอบวิธีติดต่อนางไว้ให้
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงทางหนึ่งเคลื่อนไหวในมิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน ทางหนึ่งใช้วิชาติดต่อหลิงชิง
หลังจากส่งเวลาและสถานที่นัดพบกันอีกครั้งของสองฝ่าย พวกเยี่ยนจ้าวเกอก็เดินทางอีกครั้ง
เมื่อไปถึงสถานที่ที่นัดกันไว้ก่อนเวลา พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงยังคงซ่อนร่องรอย รอคอยอีกฝ่ายมาอย่างสงบ เพราะการพิจารณาอย่างระมัดระวัง
เยี่ยนจ้าวเกอถนัดการซ่อนกลิ่นอายของตัวเองอยู่แล้ว ทางเฟิงอวิ๋นเซิงหลังจากได้หลอมรวมความวิเศษในวรยุทธ์ส่วนหนึ่งของเจี่ยนซุ่นหวาราชันพระราหูก็ถนัดทางด้านนี้เช่นกัน
ในอดีตเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ ที่แล้วมาเจี่ยนซุ่นหวาราชันพระราหูเชี่ยวชาญการลอบสังหาร ย่อมถนัดการซ่อนตัวซุ่มจู่โจม ถึงแม้เวลาออกดาบจะรุนแรงสุดเปรียบปาน ทว่าหลังจากเก็บดาบก็จะสงบนิ่งลึกล้ำ เก่งกาจในการล่อหลอกสายตาผู้คนเป็นพิเศษ
สองคนอดทนรอคอย เนิ่นนานให้หลัง พลันมีลำแสงสายหนึ่งกะพริบขึ้นจากที่ไกล
เพียงแต่แสงนี้เหมือนกับดวงอาทิตย์แรกขึ้น ไม่ได้กระจ่างใสเย็นเยียบเหมือนแสงจันทร์ของหลิงชิง
เห็นดังนั้นพวกเยี่ยนจ้าวเกอก็สบตากัน ‘…เกาหาน?’
ผู้มาคือเกาหาน ราชันพระอาทิตย์ มิช่ราชันพระจันทร์หลิงชิง!
คนที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอลอบระวังตัวมาโดยตลอดผู้นั้น
แสงอาทิตย์หยุดลงเมื่อมาถึงไกล้ๆ แสงสว่างสีทองอร่ามสลาย เผยให้เห็นเงาร่างของบุรุษอาภรณ์ขาว เป็นเกาหานนั่นเอง
เขามีสีหน้าผ่อนคลาย ไพล่สองมือไว้ด้านหลัง กวาดมองรอบๆ มองดูมิติจักรวาลที่ว่างเปล่าโดยไม่รีบร้อน รอคอยอย่างอดทน
สายตาของเฟิงอวิ๋นเซิงมองมา เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง
ก่อนหน้านี้ที่หลิงชิงเป็นคนติดต่อ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
เกาหานรู้ตัวเองอยู่บ้าง ทราบว่าภาพประทับใจที่เขามอบให้แก่พวกเยี่ยนจ้าวเกอ เฉินเสวียนจง และเยว่เจิ้นเป่ยย่ำแย่ถึงระดับหนึ่ง
เมื่อเขามา ย่อมทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอระวังตัวขึ้นมาก ถึงขั้นปฏิเสธการติดต่อ
ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาจึงไม่ยุ่งเกี่ยว ให้หลิงชิงติดต่อกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
หากแต่ตอนนี้ เขากลับออกโรงด้วยตัวเอง
เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าฉงนฉงาน ครู่ต่อมาค่อยกล่าว “พวกเราใจกว้างหน่อยแล้วกัน ในเมื่อมาแล้ว เช่นนั้นก็เจอกันสักครั้งเถอะ”
ว่าแล้ว คนทั้งสองก็โผล่ขึ้นในความว่างเปล่า ปรากฏตัวต่อหน้าเกาหาน
เกาหานสัมผัสได้ทันที สายตามองมา พอเห็นเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิง บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้ม “ได้ยินมาร้อยครั้งมิสู้ได้พบพานครั้งหนึ่ง สามีภรรยาเป็นหงส์มังกรในหมู่คน”
“ราชันพระอาทิตย์ชมเกินไปแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเป็นปรกติ ไม่มีความผิดปกติแม้แต่น้อย “จะว่าไปข้าต้องกล่าวขอบคุณกับท่าน ตราประทับที่ท่านเคยหลอมได้ช่วยข้าผ่านด่านยากจำนวนไม่น้อย”
นี่เป็นการเจอกันอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรกของสองฝ่าย
กระนั้นก็มีแต่ฟ้าเท่านั้นที่ทราบว่า ความเข้าใจระหว่างพวกเขา เกรงว่าจะเหนือกว่าคนที่คบหามานานที่อยู่รอบๆ ตัวเสียอีก
เกาหานยิ้ม “นี่เป็นการเสียดสีข้าผู้แซ่เกาแล้ว ครั้งกระโน้นใช้แผนต้นหลี่ตายแทนต้นทอ และแผนจั๊กจั่นลอกคราบในโลกเบื้องล่างใบนั้น ช่างน่าอายจริงๆ”
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ถามว่าทำไมเกาหานถึงได้มาที่นี่ไม่ใช่หลิงชิงเมื่อก่อนหน้า กล่าวรวบรัด “ข้าสองสามีภรรยาเข้าไปในแดนสุขาวดีบัวขาว ได้ไปยังแดนขวางกั้น พอดีที่ยอดฝีมือจากศาสนาพุทธสายหลักแดนสุขาวดีตะวันตกบุกมา ทำให้แดนสุขาวดีบัวขาวปั่นป่วน เวลามีมากขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย ดังนั้นพวกเราจึงรั้งอยู่อีกสักพัก ค่อยออกมา”
“เวลานี้ ใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋กับพวกเราล้วนทราบแล้วเช่นกัน” เกาหานพยักหน้า “ผู้มาเป็นนะโมยุทธวิชัยพุทธะนำทัพ เมตไตรยพุทธเจ้าแห่งแดนสุขาวดีบัวขาวไม่ลงมือ ไม่มีผู้ใดต้านไหว ภายหลังเป็นราชาปีศาจกระทิงมหาเทวะสยบฟ้าแห่งเผ่าปีศาจลงมือ จึงค่อนต้านความร้ายกาจของยุทธวิชัยพุทธะไว้ได้”
“ภายหลังแดนสุขาวดีบัวขาวได้รวบรวมกำลังคน เผ่าปีศาจมียอดฝีมือคนอื่นๆ มาถึง นะโมยุทธวิชัยพุทธะกับเหล่าสมณะจากแดนสุขาวดีตะวันตกเห็นท่าไม่ดี จึงได้ถอยออกจากแดนสุขาวดีบัวขาว”
เขายิ้มเล็กน้อย “นี่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของผู้คน แต่ผลลัพธ์กลับเป็นประโยชน์ต่อพวกเรา”
ก่อนหน้านี้เพื่ออำพรางให้เยี่ยนจ้าวเกอแอบเข้าไปในแดนขวางกั้นบนแดนสุขาวดีบัวขาว เขากับราชันพระจันทร์หลิงชิงก่อความเคลื่อนไหวส่วนหนึ่งบนแดนสุขาวดีบัวขาว หมายดึงดูดความสนใจและสายตาของศาสนาพุทธเส้นทางนอกรีต
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนาจี๋ถึงขั้นนเผยร่องรอยหลายส่วน ช่วยตรึงอีกฝ่ายไว้
ตามปกติแล้ว ถ้าไม่มีการอาละวาดอย่างกะทันหันของแดนสุขาวดีตะวันตก หลังจบเรื่องพวกจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กับเกาหานคิดจะถอนกำลังอย่างราบรื่น จำเป็นต้องเปลืองมือเปลืองเท้าบ้าง
แต่เมื่อมีการบุกรุกที่ยิ่งใหญ่กว่าของแดนสุขาวดีตะวันตก ทำให้ความสนใจของแดนสุขาวดีบัวขาวไปอยู่ทางด้านนั้น พวกเกาหานจึงออกมาง่ายดายกว่าเดิมมาก
“เป็นอย่างที่ใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋คาดเดาไว้ ใต้เขาเบญจคีรีสะกดคนผู้หนึ่งอยู่จริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอให้คำตอบอย่างสงบนิ่ง “ข้านับว่าโชคดีที่ทำภารกิจสำเร็จ ไปถึงก้นภูเขาเบญจคีรี สืบหาเงื่อนงำได้”
“ผู้ที่ถูกสะกดไว้ที่นั่น ก็คือราชาวานรโสภามหาเทวะเสมอฟ้า ซุนหงอคง”
เกาหานได้ยินคำตอบนี้ ดวงตาก็เป็นประกาย “มหาเทวะเสมอฟ้า? มีมหาเทวะเสมอฟ้าสองคน? ท่านสมควรทราบว่า นะโมยุทธวิชัยพุทธะความจริงเป็นมหาเทวะเสมอฟ้าแปลงกายมาหลังจากสำเร็จมรรคผลกระมัง?”
เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “หรือว่าระหว่างพวกเขาจะมีวานรหกหูที่สวมรอยในตำนานนั้น?”
“ผู้ที่ไปอัญเชิญพระคัมภีร์กลายเป็นพระพุทธเจ้าคือซุนเห้งเจีย วานรหกหูเกิดจากจิตมารของเขา” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างแช่มช้า “ส่วนมหาเทวะเสมอฟ้าหลังจากถูกสะกดใต้เขาเบญจคีรีในตอนแรกสุด ก็ไม่เคยได้ออกมา”
“มหาเทวะเสมอฟ้าเป็นซุนหงอคง ซุนเห้งเจียคือซุนหงอคง แต่ซุนเห้งเจียกลับไม่ใช่มหาเทวะเสมอฟ้า”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างลึกลับ แต่เกาหานเข้าใจทันที
“ครั้งโน้นในตอนที่พระถังซำจั๋งช่วยเหลือเขาให้ออกจากสะกด ซุนหงอคงได้แบ่งจากหนึ่งเป็นสองแล้ว?” เกาหานประหลาดใจอยู่บ้าง ใบหน้าฉายแววตื่นเต้น “มิน่าเล่าๆ…”
เขาก้มหน้าหัวเราะ “มหาเทวะเสมอฟ้าเกิดจากศิลาดินกำเนิด หนึ่งในศิลาวิเศษไตรภาคที่เหลืออยู่หลังจากเจ้าแม่หนี่ว์วาใช้ซ่อมแซมฟ้า สามารถสะกดการเปลี่ยนแปลงอันแสนพิสารของศิลามนุษย์กำเนิด ในอดีตเหล่าปีศาจในยุคโบราณตอนกลางได้วางค่ายกลขัดขวางการเข้าสู่ทิศตะวันออกของพุทธตะวันตก ผลลัพธ์กลับถูกมหาเทวะเสมอฟ้าที่เข้ากับศาสนาพุทธหันอาวุธใส่”
“เหล่าปีศาจต่างฮึกเหิม กลับได้แต่มองดูทำนบพันลี้พังทลายเพราะรังปลวก สุดท้ายรอยแตกเล็กๆ กลายเป็นร่องน้ำที่ยากซ่อมแซม จนกระทั่งทุกอย่างพังพินาศ”
เกาหานส่ายหน้าติดต่อกัน “มหาเทวะเสมอฟ้าซึ่งที่แล้วมามีอารมณ์ร้ายกลับไปเข้าร่วมแดนสุขาวดีอภิรดีศูนย์กลางโดยสมบูรณ์ ตอนนั้นนับว่าเป็นคดีที่แพร่หลายกว้างขวาง ทำให้คนจำนวนมากรู้สึกเหลือเชื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะมีเป็นผลลัพธ์เช่นนี้”
เขามองเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ขอไม่ปิดบัง ก่อนหน้านี้ข้านึกว่าเป็นหนึ่งในราชาวานรโสภาจริงปลอม ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม มีคนหนึ่งที่ถูกสะกดไว้ที่นี่”
“การกลับมาในครั้งนี้ ยังมีปริศนาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเรื่องหนึ่งที่ได้รับคำตอบจากมหาเทวะเสมอฟ้า” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
………………..