ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1379 สามพันแดนเซียน
“ย่อมมีผลกระทบ” เกาหานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จอมยุทธ์เส้นทางนอกรีตที่บรรลุถึงระดับหนึ่ง เริ่มใช้พลังศรัทธาได้คนหนึ่ง ถ้าหากว่าทำลายพลังศรัทธาที่เขาใช้ทิ้ง ถึงเขาจะไม่ตกระดับ แต่ระดับปัจจุบันก็จะเริ่มอ่อนแอลง”
“จะอ่อนแอถึงระดับไหน ก็แตกต่างไปตามแต่ละคน แต่ไม่มีผู้ใดไม่ได้รับผลกระทบ ถ้าหากบอกว่ามี…” เขาเว้นครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ “เช่นนั้นก็เป็นอัจฉริยะที่ไม่เดินบนเส้นทางนอกรีต หากพรสวรรค์และพลังแฝงของตัวเองมีโอกาสเลื่อนสู่ระดับที่เท่ากัน”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงต่างเข้าใจ “คนอย่างโอวหยางสือมารกระบี่”
เกาหานพยักหน้า “มิผิด เป็นเช่นนี้เอง”
“จะว่าไปแล้วตอนนั้นข้าได้เจอจักรพรรรดิเส้นทางนอกรีตจากโถงเซียนคนหนึ่ง เป็นศัตรู ถึงพรสวรรค์ขีดความสามารถจะสู้มารกระบี่ไม่ได้ แต่ก็โดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “นางบอกว่าตนเองใช้ความศรัทธาจากห้าแดน”
“นั่นเป็นบุคคลที่ค่อนข้างโดดเด่นในหมู่เซียนจริงแท้เส้นทางนอกรีตแล้ว” เกาหานว่า “สามพันแดนเซียนของเส้นทางนอกรีต ตามปกติแล้ว เซียนจริงแท้ทุกคนสามารถใช้พลังศรัทธาได้ประมาณสี่ถึงห้าแดน”
บนใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มที่เหมือนกับยิ้มเยาะอยู่บ้าง “จอมยุทธ์เส้นทางนอกรีตที่ยิ่งไปด้านบน ยิ่งสัมผัสความจริง แท้จริงแล้วล้วนเริ่มเข้าใจว่า เส้นทางนี้ของพวกเขาไม่ได้ยุติธรรมเท่าเทียนกันอย่างที่พวกเขาบอกคนอื่น ได้แต่ต้องเชื่อมั่นจึงค่อยมีโอกาส แบ่งเป็นสามหกเก้าระดับเช่นกัน ”
เซียนจริงแท้ที่ค่อนข้างโดดเด่นสามารถใช้พลังศรัทธาจากห้าเขต เซียนจริงแท้เส้นทางนอกรีตที่ค่อนข้างธรรมดาใช้ได้แค่สี่เขต
เยี่ยนจ้าวเกอลูบคาง “ขอไม่ปิดบัง ข้าเคยซ่อนร่องรอยเคลื่อนไหวบนพื้นที่ของโถงเซียนเส้นทางนอกรีตอยู่หลายวัน เพียงแต่ได้สัมผัสยอดฝีมือเส้นทางนอกรีตค่อนข้างน้อย จึงเข้าใจข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างจำกัด”
“ตอนนั้นแดนเซียนมีกษัตริย์ขนนกถูกราชันพระอังคารสังหาร บอกว่าตัวเขาใช้ความศรัทธาจากสิบสองเขต นี่อยู่ระดับประมาณไหน?”
เขาหันไปถามเกาหาน
กษัตริย์ขนนก เป็นหนึ่งในสองเซียนลี้ลับเส้นทางนอกรีตที่ที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอได้เจอตอนเข้าไปตามหาเฟิงอวิ๋นเซิงในนพยมโลกพร้อมกับจักรพรรดิแพรและจักรพรรดิไร้จำกัด
ต่อมาเป็นเพราะพวกเขาทำร้ายทวนพระอังคาร กลายเป็นตอแยให้สั่วหมิงจางก่อเรื่องบนโถงเซียน
และเป็นเพราะครั้งนั้น สั่วหมิงจางได้จับยอดฝีมือโถงเซียนซึ่งเคยกลุ้มรุมราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวงโดยไม่ได้ตั้งใจคนหนึ่ง จึงค่อยทราบว่าสถานที่ที่เซ่าจวินหวงหายตัวไปเป็นครั้งสุดท้ายอยู่ในเมฆดาราปฐมกำเนิดก้อนนั้น
“สิบสองเขตนับว่าน้อย คาดว่าเป็นเซียนลี้ลับที่สอมปราณรวมเป็นวายุ” เกาหานตอบ “ตามปกติ เซียนลี้ลับเส้นทางนอกรีตจะใช้พลังศรัทธาจากสิบสองถึงสิบห้าเขต”
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุข ปกติใช้พลังศรัทธาจากโลกหลายใบไปจนถึงสิบกว่าใบในแดนเซียนสักแดนหนึ่ง
เหมือนเผยหวาประมุขตำหนักอาทิตย์ที่เยี่ยนจ้าวเกอเคยเจอ สามารถแบ่งใช้พลังศรัทธาในแดนเซียนปลดปลงได้
พลังศรัทธาที่เขากับคนในแดนเซียนปลดปลงมอบให้แก่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ก็อาจถูกจักรพรรดิในโถงเวียนสักคนใช้ก็ได้
พลังศรัทธาที่จักรพรรดิโถงเซียนผู้นี้สามารถใช้ คือโลกหลายสิบใบ หรืออาจจะเกือบหนึ่งร้อยใบในสี่ถึงห้าแดนเซียนที่รวมแดนเซียนปลดปลงไว้ด้านใน
เมื่ออนุมานเปรียบเทียบกันไปเรื่อยๆ พลังศรัทธาในโลกจำนวนมากที่อยู่ใต้การปกครองของแดนเซียนสิบกว่าใบซึ่งจักรพรรดิเซียนจริงแท้เส้นทางนอกรีตสามคนกับพวกเขาใช้ ก็มีเซียนลี้ลับเส้นทางนอกรีตสักคนใช้เช่นกัน
สาเหตุที่เรียกว่าใช้ ไม่ใช่แบ่งมา เป็นเพราะว่าพลังศรัทธาในโลกเหล่านี้หลักๆ แล้วยังเป็นของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
“โดยทั่วไปแล้ว เซียนกำเนิดเส้นทางนอกรีตคนหนึ่งจะใช้แดนเซียนสามสิบหกเขตถึงสี่สิบห้าเขต เกาหานอธิบายต่อ “เซียนสวรรค์เส้นทางนอกรีตคนหนึ่งอาจใช้แดนเซียนสองร้อยสิบหกเขตถึงสองร้อยเจ็ดสิบเขตโดยประมาณ สถานการณ์แตกต่างไปตามแต่ละคน”
“โถงเซียนเดิมทีมีสิบสองเทวกษัตริย์ ถ้านับรวมกันแล้ว จ้าวสวรรค์เซียนกำเนิดมีประมาณเจ็ดสิบสองคน?” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง
เกาหานว่า “มิผิด เซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลสิบสองคน จำนวนค่อนข้างแน่นอน นานๆ จะเสียชีวิต เป็นเพราะว่าเลื่อนระดับยากลำบาก การเปลี่ยนคนกับการเพิ่มคนจึงมีให้เห็นค่อนข้างน้อย” เป็นเพราะเกี่ยวกับการต่อสู้กับแดนสุขาวดีบัวขาว ตั้งแต่จ้าวสวรรค์เซียนกำเนิดขึ้นไป จำนวนจึงเริ่มไม่แน่นอน บางครั้งก็มีการสับเปลี่ยน บางครั้งก็ขาดคนไปชั่วขณะ จำเป็นต้องใช้เวลาฟื้นฟูกำลังเพื่อชดเชย
“ดังนั้นแม้ว่าเซียนลี้ลับกับเซียนจริงแท้จะมีจำนวนมากที่สุด แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยที่สุดด้วย บางครั้งก็มีคนที่ตายในการต่อสู้กับศาสนาพุทธเส้นทางนอกรีต แต่ว่าชดเชยได้ง่ายกว่า”
เขาทางหนึ่งพูด ทางหนึ่งกวาดมองรอบๆ “ครั้งนี้เป็นเพราะทัพพิเศษอย่างสหายร่วมเส้นทางสั่วจู่โจมกะทันหัน จึงทำให้เส้นทางนอกรีตเสียท่าครั้งใหญ่”
เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ “เซียนสวรรค์ตายไปสี่คนก็เจ็บปวดรวดร้าวพอแล้ว แม้จะเป็นจ้าวสวรรค์เซียนกำเนิดก็หายไปในพริบตาเกินกว่ายี่สิบคน ยากจะชดเชยในระยะเวลาอันสั้นเช่นกัน”
จากนั้นแดนสุขาวดีบัวขาวก็จู่โจมโถงเซียนทันที ฉวยโอกาสซ้ำเติม กดดันให้โถงเซียนตกสู่วัฏจักรเลวร้ายชนิดหนึ่ง
การขาดกำลังรบ ทำให้สูญเสียดินแดน จำเป็นต้องเร่งเสริมกำลังรบเพื่อดึงสถานการณ์กลับมา
แต่ว่าเป็นเพราะการเสียดินแดน จึงทำให้การเสริมกำลังรบเป็นไปอย่างยากลำบาก
เมื่อชดเชยกำลังรบไม่ทัน ก็ยังคงถูกคนกดดัน
แม้สุดท้ายมีเทวกษัตริย์ไร้ประมาณคอยควบคุม โถงเซียนยังมีศักยภาพเต็มเปี่ยมสุดขีด หลังจากเสียแดนเซียนไปทั้งหมดแปดร้อยเขต ในที่สุดก็ตั้งหลักได้ใหม่ ไม่ทำให้แดนสุขาวดีบัวขาวได้เปรียบเพิ่มขึ้นอีก
แต่ว่าการตอบโต้มีความยากมหาศาล
หลังจากแดนสุขาวดีบัวขาวยึดครองแปดร้อยแดนเซียน หรือโลกนับพันนับหมื่นใบ ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ทำอะไร
ผู้อาศัยดั้งเดิมถูกโถงเซียนโยกย้ายไปมากมาย ไม่เหลือไว้ให้แก่แดนสุขาวดีบัวขาว ทว่าแดนสุขาวดีบัวขาวสามารถย้ายคนจากพื้นที่ของตัวเองมาอยู่อาศัย ลงหลักปักฐาน
ปัจจุบันผ่านไปยี่สิบปี สำหรับอายุขัยของคนธรรมดา แทบจะทำให้คนรุ่นหนึ่งเติบโตได้แล้ว
หากยังคงขยายต่อไป การวัดพลังระหว่างแดนสุขาวดีบัวขาวกับโถงเซียนจะมีฝ่ายหนึ่งลดฝ่ายหนึ่งเพิ่มอีกขั้น
“ถ้าหากท่านเป็นคนในเส้นทางนอกรีต ตอนนี้เผชิญการคุกคามจากศาสนาพุทธเส้นทางนอกรีตและสภาพเลวร้ายของตัวเองจะวางแผนการและเปลี่ยนสถานการณ์อย่างไร?” เยี่ยนจ้าวเกอพลันถาม
เกาหานพอฟังก็ยิ้มขึ้น ตอบโดยไม่คิดว่า “ตามหาโอกาส ล่อลวงหรือฝืนชำระล้างเซียนกำเนิดและเซียนลี้ลับซึ่งเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสามพิสุทธิ์สายหลักเช่นพวกเรา หรือไม่งั้นก็เป็นอนุเทวะเผ่าปีศาจ”
“ถึงแม้จะมีความยากสูงเช่นกัน คิดจะหาความได้เปรียบในระยะเวลาอันสั้นจำเป็นต้องสิ้นเปลืองพลังสมาธิไม่น้อย หนำซ้ำใช่ว่าจะมีโอกาสลงมือทำเรื่องแบบนี้ในขณะที่เผชิญแรงกดดันของแดนสุขาวดีบัวขาว แต่คิดจะเสริมจุดอ่อนของตัวเองให้เร็วที่สุด พลิกสถานการณ์ที่คนไม่พอในตอนนี้ การซื้อขายโดยไม่มีทุนนี้เร็วมากที่สุด”
นอกจากนี้ขณะที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง ยังต้องโจมตีอีกฝ่ายหรือซ่อนตัวจากอีกฝ่ายด้วย
การฝืนชำระล้าง อีกฝ่ายจำเป็นต้องมีความแตกต่างด้านระดับขีดความสามารถค่อนข้างมากจึงจะกระทำได้
ดังนั้นจึงต้องล่อลวงเซียนกำเนิด กระตุ้นความปรารถนาส่วนตัวของอีกฝ่าย
กลับเป็นเซียนลี้ลับ ถ้าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณลงมือด้วยตัวเอง ก็จะมีโอกาสชำระล้าง
แน่นอนว่า ตราบใดที่ไม่เต็มใจ หลังจบเรื่องจะรักษาต่อไปได้นานหรือไม่ นั่นเป็นอีกปัญหาหนึ่งแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอเชื่อว่า ถ้าตนมีความเกี่ยวข้องกับไท่ซ่างเหล่าจวินจริงๆ ต่อให้เกาหานคิดเล่นงานเขา ก็ไม่ถึงกับขายเขาให้โถงเซียน
แต่ถ้าเปลี่ยนให้เขาไปอยู่บนจุดยืนของยอดฝีมือในโถงเซียน เกรงว่าจะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของแผนการนี้ ทั้งยังตั้งใจตามหาโอกาส
ไม่ว่าจะเป็นตน เฟิงอวิ๋นเซิง หรือพวกเกาหาน หลังจากนี้ไปจำเป็นต้องระวังแผนการนี้ของโถงเซียน
“กำลังเข้าใกล้อาณาเขตแห่งนั้นแล้ว” เกาหานยิ้มขึ้นพลางเอ่ยว่า “ข้าจะแนะนำเหล่าสหายร่วมเส้นทางให้พวกท่านสามีภรรยารู้จัก”
………………..