ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1385 โอกาสและเวลาที่เหมาะแก่การลงมือ
พร้อมกับที่หลิงชิงลดความเร็วลง แสงจันทร์เย็นเยียบบนร่างนางก็ค่อยๆ สลายไป ที่มาแทนที่คือความมืดชั้นหนึ่ง
ขณะที่อาคมพระราหูปรากฏ ยังมีผลป้องกันตัว ทั้งยังมีผลซ่อนร่องรอย เก็บกลิ่นอาย
พวกเยี่ยนจ้าวเกอติดตามอยู่ด้านหลังนาง ต่างเลียนแบบ เคลื่อนไหวคล้ายๆ กัน
หลี่ซิ่งป้ากับชื่อหลานเต้าหยินมองเยี่ยนจ้าวเกอ เห็นว่าไม่ต้องให้เฟิงอวิ๋นเซิงที่อยู่ด้านข้างคอยช่วย เยี่ยนจ้าวเกอก็เก็บกลิ่นอายจนแทบอยู่ในสภาวะตรวจจับไม่ได้
พวกเขาตกใจอยู่บ้าง ในด้านการซ่อนกลิ่นอายของตัวเอง เยี่ยนจ้าวเกอถึงกับยังเหนือกว่าพวกเขาสองคน มิน่าถึงได้กล้าใช้ร่างเซียนจริงแท้มายังที่นี่อย่างเปิดเผย
“ค่อยๆ เข้าใกล้ก่อน ที่นี่จะต้องมีตัวตนระดับสวรรค์มหาชาลอยู่แน่” หลิงชิงเอ่ย “พวกเราอดทนคอยสังเกตสถานการณ์เงียบๆ เถอะ”
พวกเยี่ยนจ้าวเกอต่างพยักหน้า
ทุกคนซ่อนตัวอยู่ในความว่างเปล่าอันมืดมิดอย่างสงบนิ่ง ทอดตามองไกล
ณ ที่แห่งนั้น ขณะที่ลำแสงหลายสายสาดสว่างขึ้น ก็มีกลิ่นอายของยอดฝีมือปะทะกันจนมีระลอกคลื่นกระจายออกมาต่อเนื่อง
อาณาเขตที่นักบวชฮุ่ยอั้นกับยอดฝีมือคนอื่นๆ เคลื่อนไหวต่อสู้กัน สมควรอยู่ที่นั่น
สองฝ่ายอยู่ห่างกันเกินไป ดังนั้นอาศัยพลังสายตาของพวกเยี่ยนจ้าวเกอและเฟิงอวิ๋นเซิง ยังไม่อาจมองเห็นสภาพการณ์ที่อยู่อีกฝั่งได้ชัด
กระนั้นพวกเขาก็ไม่กังวล ถ้าหากว่ามียอดฝีมือระดับมหาชาลเข้าร่วมจริงๆ เช่นนั้นต่อให้ห่างกันไกลขนาดไหน การเคลื่อนไหวสะท้านฟ้าดินก็ยังคงทำให้เขาสัมผัสได้
เวลานั้นจึงเป็นโอกาสของพวกเยี่ยนจ้าวเกอมาถึง ก่อนหน้านี้ ต่อให้สถานการณ์รบที่อยู่ไกลออกไปดูเหมาะสมกับการลงมือของพวกเขามากกว่านี้ ก็เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
สิ่งที่ทำให้คนปลาบปลื้มก็คือ พวกเขาไม่ต้องรออยู่นานเกินไป
ทันใดนั้น ในมิติอาณาเขตที่ทุกคนอยู่ก็มีพายุที่คลุ้มคลั่งพัดขึ้น
ลำแสงหลายสายมืดฟ้ามัวดิน วาดผ่านในชั่วพริบตาเหมือนกับพายุ มาถึงที่แห่งนี้ด้วยความเร็วที่ทำให้คนรับมือไม่ทัน
ลำแสงมาถึงอย่างปัจจุบันทันด่วน หยุดนิ่งไปชั่วอึดใจ ขณะที่แสงสว่างกะพริบ ก็กลายเป็นเงามายาขนาดยักษ์สายหนึ่ง กางปีกออกปกคลุมจักรวาล
‘เผิงท่องเมฆหมื่นลี้!’ พวกเยี่ยนจ้าวเกอต่างทราบ
ที่ไม่เหนือความคาดหมายก็คือ ขณะที่พายุแสงสีทองที่น่ากลัวนี้ปรากฏขึ้นมา ทั่วสี่ทิศแปดทางก็มีเสียงสวดมนต์ที่ยิ่งใหญ่ดังขึ้นเช่นกัน
แสงสีเคลือบที่สว่างไสวบริสุทธิ์หลายสาย ครอบคลุมฟ้าดินที่กว้างใหญ่ไพศาลยิ่งกว่า กำลังจะกักขังจอมปีศาจสะท้านโลกที่อยู่ตรงหน้าไว้ที่นี่
อาณาเขตที่แสงพุทธปกคลุมกว้างใหญ่สุดเปรียบปาน สถานที่ที่พวกเยี่ยนจ้าวเกออยู่ถูกมันครอบคลุมไว้ด้านในเช่นกัน
หลี่ซิ่งป้ากับชื่อหลานเต้าหยินต่างมองดูเกาหาน เกาหานกับหลินชิงส่ายหน้าให้พวกเขา บอกว่าให้ใจเย็นๆ อย่าวู่วาม
เป็นอย่างที่คาด วินาทีถัดมามีปราณปีศาจอันยิ่งใหญ่ของจอมปีศาจตนอื่นลอยขึ้นจากสถานที่ที่อยู่ไกลออกไปรอบนอก ปกคลุมมายังตรงกลาง หนีบเหล่าสมณะจากศาสนาพุทธที่อยู่ในข่ายอาคมของแสงพุทธไว้ตรงกลาง
ส่วนเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ที่อยู่ตรงกลางสุดก็พลันกระพือปีก เริ่มการจู่โจมไปยังด้านนอก
เขากับเหล่าปีศาจที่อยู่รอบนอกสร้างสภาวะประสานในนอก คิดฉีกทำลายวงล้อมซุ่มจู่โจมที่ศาสนาพุทธวางเอาไว้
‘นักบวชฮุ่ยอั้นที่เล็งเล่นงานพวกนกเผิงเป็นตัวล่อจริงๆ ด้วย เผิงท่องเมฆหมื่นลี้กลับเผ่าปีศาจตนอื่นๆ เห็นได้ชัดว่ามองออก ใช้แผนซ้อนแผน ถือโอกาสทำสงครามกับศาสนาพุทธที่นี่’ พวกเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ใช้สายตามองดูสองฝ่ายที่สู้กันอยู่
แต่ด้วยระยะห่างที่ใกล้ขนาดนี้ แค่สัมผัสการปะทะกันระหว่างปราณวิญญาณกับปราณปีศาจของสองฝ่าย ก็ทำให้พวกเขาทราบถึงสถานการณ์การต่อสู้คร่าวๆ แล้ว
สองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรงตั้งแต่เริ่ม สู้กันจนฟ้าดินพลิกคว่ำ
ค่ายกลที่ศานาพุทธวางไว้ถูกเผ่าปีศาจผนึกกำลังจู่โจมทั้งในและนอก แม้ว่าไม่ได้ถูกตีแตกในทันที แต่แรงกดดันยังมหาศาล
เพื่อแก้ไขแรงกดดันที่สภาวะโจมตีของอีกฝ่ายนำมา ค่ายกลแสงพุทธเปลี่ยนแปลงไม่หยุด เคลื่อนย้ายอยู่ในความว่างเปล่า
ช่องว่างที่เผยออกมาขณะที่เคลื่อนย้ายทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอออกจากอาณาเขตที่ค่ายกลควมคุมอย่างไร้สุ้มเสียง
ถึงจะมียอดฝีมือในศาสนาพุทธเกิดความสงสัย ตอนนี้ก็ไม่อาจใส่ใจทางพวกเขา
ถึงจะถูกกระหนาบตีจากในนอก แม้ว่าค่ายกลจะเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้าย ทว่ายอดฝีมือของศาสนาพุทธก็ยังคงหน่วงเหนี่ยวเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ไว้ในค่ายกล
‘ยอดเยี่ยมนัก นี่หรือว่าจะไม่สนใจการล้มตายของฝ่ายตัวเอง ต้องการสังหารอินทรีเผิงปีกทองตัวนี้ทิ้งที่นี่ให้ได้’ เยี่ยนจ้าวเกอจุ๊ปากชมเชย ‘สมควรอยู่ ความเร็วของเผิงยักษ์มีความได้เปรียบชัดเจน ในสถานการณ์พิเศษ คนคนเดียวเหมือนกับคนหลายคน’
มิติเวลาของอาณาเขตตรงหน้าบิดเบี้ยวไม่หยุด เห็นเมฆดำที่เกิดจากปราณปีศาจซัดสาดกลุ่มหนึ่งค่อยๆ ม้วนค่ายกลพระพุทธที่เป็นสีทองอร่ามออกไปยังที่ไกล ในค่ายกลยังมีพายุลำแสงหลายสายโจมตีอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกับการออกห่างไปของยอดฝีมือชั้นมหาชาล อานุภาพอันน่ากลัวที่ทำให้คนต้องกลั้นหายใจ และวิญญาณแข็งทื่อก็เริ่มสลาย คนที่อยู่รอบๆ พากันถอนใจ
จากนั้นพวกเขาก็มองไปยังทิศทางที่สนามรบเคยอยู่ สายตาเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้น
“ตอนนี้เป็นเวลาและโอกาสที่เหมาะให้พวกเราลงมือแล้ว” เกาหานกล่าวเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม
ว่าแล้ว เขาก็ก้าวเท้าออกไป พุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูง
พวกเยี่ยนจ้าวเกอเคลื่อนไหวอย่างเดียวกัน ก้าวข้ามมิติ พอเข้าใกล้ ก็เห็นมีสมณะศาสนาพุทธจำนวนมากปรากฏตัวในอีกทิศทางหนึ่งเช่นกัน
ที่นี่เดิมทีเป็นวงล้อมที่ใช้ซุ่มจู่โจม ขณะที่ยอดฝีมือศาสนาพุทธชั้นมหาชาลกับเหล่ามหาเทวะเผ่าปีศาจอย่างเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ต่อสู้กัน ก็มีสมณะศาสนาพุทธที่อยู่ต่ำกว่าชั้นมหาชาลคอยซุ่มจู่โจมอยู่ที่นี่ ป้องกันกำลังหนุนที่อกาจจะยังคงมีอยู่ของเผ่าปีศาจ
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เห็นกลางความว่างเปล่ายืนด้วยสมณะศาสนาพุทธที่ภายนอกดูหนุ่มแน่นผู้หนึ่ง ในมือถือกระบองเหล็กท่องหนึ่ง ด้านหลังกลับสะบายกระบี่วิเศษสองเล่ม ในมือรองน้ำเต้าสีแดงอันหนึ่ง มองไปแตกต่างจากสมณะในศาสนาพุทธคนอื่นๆ จึงเกิดความรู้สึกไม่เข้าพวกอยู่บ้าง
ทว่ารอบๆ คนผู้นี้มีปราณกำเนิดเต็มเปี่ยม แสงพุทธกระจ่างใส ทำให้คนไม่กล้าดูแคลน
ดูจากรูปร่างหน้าตา เป็นมู่จา นักบวชฮุ่ยอั้นในตำนาน
กระบี่สองเล่มด้านหลังท่าน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต้องเป็นกระบี่คู่อู๋โกวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
วัตถุที่บรรจุในน้ำเต้าสีแดงนั้น เป็นไปได้ที่สุดว่าจะเป็นวารีสามแสง
ตรงข้ามพวกเขามีเผ่าปีศาจกลุ่มหนึ่ง ตอนนี้กำลังรวมตัวกัน
เยี่ยนจ้าวเกอกวาดมองไป เห็นนกเผิงสองตัว ตัวหนึ่งเป็นกระเรียนขาว รวมถึง…ปีศาจวานรหนึ่งเขียวหนึ่งขาวสองตน
แม้บอกว่าเป็นวานร แต่ร่างยังใหญ่ยิ่งกว่าขุนเขาทอดยาว พอลุกขึ้นยืน เหมือนกับเทพขนาดมหึมา
พอเห็นพวกเขา เยี่ยนจ้าวเกอก็ตาเป็นประกาย สบตากับเฟิงอวิ๋นเซิง แลกเปลี่ยนสายตา ไม่จำเป็นต้องกล่าวมากความ ก็เข้าใจกันดี
พวกนักบวชฮุ่ยอั้นสัมผัสการมาถึงของพวกเยี่ยนจ้าวเกอและเกาหานได้ การต่อสู้ของสองฝ่ายจึงเริ่มเบาลง
“ที่แท้เป็นหลี่เต้าจ่าง?” นักบวชฮุ่ยอั้นกวาดมองหลี่ซิ่งป้า ยิ้มเล็กน้อย “เต้าจ่างสบายดี?”
หลี่ซิ่งป้าแค่นเสียง จับจ้องนักบวชฮุ่ยอั้นและกระบี่คู่อู่โกวที่ด้านหลังเขาเขม็ง
ในยุคโบราณตอนต้น เขาศีรษะหลุดออกจากตัวเพราะกระบี่อู๋โกวนั้น ประสบภัยพิบัติขึ้นทำเนียบเซียน
“เกาหาน หลิงชิง เยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิงกระมัง?” นักบวชฮุ่ยอั้นกวาดมองทุกคน “ยังมีอีกคนที่ไม่รู้จัก พวกโยมมาช่วยเหลือหลี่ซิ่งป้า หรือว่ามาเพื่อวารีสามแสง?”
………………..