ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1419 ชิงความได้เปรียบกลับมา
หลังจากการจากลาในวันนั้นก็ผ่านมาเป็นพันปีแล้ว วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่เฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลีได้เจอกัน
กระนั้นแม้อาจารย์ที่นางคิดถึงทั้งกลางวันกลางคืนจะอยู่ตรงหน้านาง ฉู่หลีหลีกลับไม่ได้สติ เหมือนกับหลับลึกอย่างไรอย่างนั้น
เฉินเสวียนจงมองลูกศิษย์ของตัวเอง ตรงหน้าปรากฏภาพที่อีกฝ่ายเพิ่งกราบเข้าสำนักของตัวเองในวันนั้น
เด็กหญิงคนหนึ่งที่อายุไม่เกินสี่ห้าปี ไร้เดียงสา นางไม่รู้ว่าตัวเองเป็นร่างสถิตที่เหมาะกับมารน้ำกุ่ย ไม่รู้ว่าบิดาของนางและอาจารย์ของนางก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน และไม่รู้ว่าฉู่หวน บิดาของตัวเองถูกเฉินเสวียนจงอาจารย์ของนางสังหารหลังจากกลายเป็นร่างแปลงของมารน้ำกุ่ย
บุญคุณความแค้นผสมกัน เช่นนี้จึงเป็นชีวิต
“เหตุของวันก่อน ผลของวันนี้” เฉินเสวียนจงสีหน้าสงบนิ่ง “ขอให้ทุกอย่างจบลงในครั้งนี้”
เขาหลับตา บนหน้าผากมีร่องแยกค่อยๆ เปิดออก แสงมารสีฟ้าพรั่งพรูออกมาจากด้านใน ชั่วร้ายเปล่าเปลี่ยว มืดมนไม่เป็นมงคล
ฉู่หลีหลีที่นั่งอยู่อีกด้านของเขา ร่องแยกลวดลายมารบนหน้าผากก็เปิดออกเช่นกัน
แสงสว่างสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากบนหน้าผากของคนทั้งสอง มีแนวโน้มผสมผสานหลอมรวมกันอย่างเลือนราง
แต่ว่าในตอนนั้นเอง เฉินเสวียนจงพลันเปลี่ยนมุทราด้วยสองมือ
ขณะเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอที่ยืนนิ่งอยู่ด้านข้างได้ทำการเคลื่อนไหวหนึ่ง สองมือประสานมุทรา จากนั้นก็ประกบไว้หน้าทรวงอก
ในมิติช่องว่างที่เดิมทีมืดทะมึนด้านในลูกกลมโลหะพลันปรากฏแสงสว่างหลายสาย เปลวเพลิงแปดสิบเอ็ดกลุ่มโผล่ขึ้นในความว่างเปล่าพร้อมกัน ห้อมล้อมเฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลีไว้ตรงกลางด้วยสภาวะการจัดเรียงที่เป็นเอกลักษณ์
ลิ้นเพลิงยาวๆ สายหนึ่งลามเลียออกมาจากในเปลวไฟแปดสิบเอ็ดกลุ่ม จากนั้นก็ผสมกันตรงกลางความว่างเปล่า พุ่งใส่ร่างของพวกเฉินเสวียนจง
แสงเพลิงพอปรากฏ ร่างที่นั่งตรงของพวกเฉินเสวียนจงสั่นไหวเล็กน้อย แสงสีฟ้าบนหน้าผากของพวกเขากำลังจะดับลง
เฉินเสวียนจงยื่นนิ้วออกมาอีกครั้ง แยกกันทิ่มใส่ตำแหน่งหน้าผากของตนเองและฉู่หลีหลี จากนั้นเขาก็เริ่มประกบมือสองข้างเข้าหาตรงกลางช้าๆ
พร้อมกับการเคลื่อนไหวนิ้วของเขา แสงสีฟ้าในลวดลายมารบนหน้าผากของคนทั้งสองส่องสว่างพร่างพราว เหมือนกับได้รับการชักนำจากมือสองข้างของเฉินเสวียนจงเริ่มผุดออกมาจากในร่างของคนทั้งสองไม่หยุด ก่อนจะรวมตัวกันในความว่างเปล่าที่แสงสีฟ้าผสานกัน
กลางอากาศระหว่างคนทั้งสองที่หันหน้าเข้าหากันมีแสงมารสีฟ้าเริ่มรวมตัว เกิดรอยตรายันต์อาคมขนาดเท่ากำปั้นชิ้นหนึ่งอย่างเลือนราง ตราอาคมยิ่งมายิ่งกระจ่างชั้น สำนึกมารที่ไหลออกมาจากด้านในยิ่งมายิ่งรุนแรง
ตรงกันข้าม ปราณมารที่ตอนแรกคลุ้มคลั่งบนตัวเฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลีเริ่มอ่อนแอลง
ในกระบวนการะทั้งหมด ไม่เห็นร่องรอยมารน้ำกุ่ยในร่องแยกบนหน้าผากของพวกเฉินเสวียนจง กลับกันเป็นบนรอยตรายันต์อาคมที่ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างชิ้นนั้น กะพริบแสงสีฟ้าที่ยิ่งมายิ่งแยงตา ในแสงสีฟ้าเหมือนกับมีดวงตาคู่หนึ่งค่อยๆ ลืมขึ้น
สำนึกน่ากลัวอันเย็นเยียบเปล่าเปลี่ยวลอยออกมาจากด้านใน
ทว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอเตรียมตัวไว้แต่แรก ในเปลวเพลิงแปดสิบเอ็ดกลุ่มมีแสงเจิดจ้าสาดออกมาพร้อมกัน แล้วรวมตัวบนรอยตรายันต์อาคมชิ้นนั้น
ลำแสงสีแดงชาดตัดกัน ผนึกลวดลายอาคมสีฟ้านั้นไว้แน่นหนา ดำเนินการสะกด ลูกกลมโลหะที่อยู่ด้านนอกก่อนหน้านี้สงบไม่มีความเคลื่อนไหว บัดนี้กลับหมุนวนอย่างรุนแรง
พร้อมกับการหมุนของลูกกลมโลหะ ดินแดนพันเกล็ดที่อยู่ห่างออกไปมากกว่ามีลำแสงหลายสายเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว
แผนการมากมายที่วางไว้ก่อนหน้า ตอนนี้เริ่มแสดงผลแล้ว เป้าหมายมีเพียงหนึ่งเดียว
ถอนทำลายสำนึกมารที่เกาะเกี่ยวบนตัวเฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลี สะกดเส้นทางคืนชีพของมารน้ำกุ่ย กำจัดมันทิ้งแล้วผนึกกลับไป!
แสงสีฟ้าบนตราคาถายันต์อาคมยิ่งมายิ่งสว่างไสว สำนึกที่ไหลออกมาจากด้านในดุร้ายและเย็นเยียบมากขึ้น
ด้านในแสงสว่างแห่งนั้นเหมือนกับมีจิตอันแข็งกล้าสายหนึ่งกำลังสั่นสะเทือนดินแดนพันเกล็ดอย่างต่อเนื่อง ทว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเฉินเสวียนจงกำลังพยายามจะผนึกมันไว้อย่างแน่นหนา!
ก่อนหน้านี้ถึงอย่างไรมารน้ำกุ่ยก็ดับสูญไปแล้ว ตอนนี้ต้องการคืนชีพกลับมา ไม่ใช่ยังอยู่บนโลกใบนี้จริงๆ
มารน้ำกุ่ย เฉินเสวียนจง และฉู่หลีหลีที่ถูกผนึกไว้ในลูกกลมโลหะและดินแดนพันเกล็ดแทบจะตัดขาดกับมารร้ายตนอื่นๆ ในโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ ยากจะติดต่อกันและกัน
แผนการในนี้ของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ อันดับแรกคือการโดดเดี่ยวมารน้ำกุ่ยให้ตกสู่สภาพไร้กำลังหนุน ขณะเดียวกันก็มีผลสะกดด้วย
ในเวลานี้ ในหุบเหวทะเลมาร ดินแดนใจกลางซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในนพยมโลกก็เกิดการสั่นสะเทือนเช่นกัน
“น้ำกุ่ยกำลังลำบาก เป็นฝีมือของคนเหล่านั้น”
“เบาะแสขาดไปแล้ว ตอนนี้หาพวกมันไม่เจอ”
“สามารถกำหนดอาณาเขตคร่าวๆ ได้ ส่งคนออกไปมากๆ เดี๋ยวก็เจอเอง”
“เวลามีจำกัด”
“ตอนนี้พวกเราช่วยน้ำกุ่ยไม่ได้ แต่ช่วยทางด้านดินโบ่วได้ ลงมือเถอะ”
เขตมารนพยมโลกสั่นสะเทือน ก่อนหน้านี้เพื่อไม่กระตุ้นความสนใจของขุมกำลังอื่นๆ จึงยังสะกดทัพไม่เคลื่อนไหว พอเรื่องนี้เริ่มต้น มรสุมก็พลันพัดโหมทันที!
วินาทีนี้มารร้ายจำนวนมากพุ่งออกจากนพยมโลก เข้าสู่มิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน มุ่งหาสถานที่ที่ฉู่หลีหลีหายไป เหล่ามารที่ซุ่มอยู่ในมิตินอกเขตแดนอยู่แล้วก็พากันเคลื่อนไหวเช่นกัน
เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงสัมผัสได้ พวกมันจึงไม่ได้สะกดรอยใกล้เกินไป ดังนั้นตอนนี้จึงสูญเสียร่องรอยของพวกเยี่ยนจ้าวเกอและฉู่หลีหลี
ทว่าอาณาเขตมิติเวลาที่กว้างใหญ่ประมาณหนึ่งยังถูกพวกมันแยกออกมา ดินแดนพลันเกล็ดอยู่ในนี้
ขณะเดียวกัน ในจักรวาลฟ้าฟื้น ที่ฟ้าเหนือฟ้า ตำหนักโอสถบนยอดเขากว่างเฉิงที่เหมือนไม่ข้องเกี่ยวกับที่นี่โดยสมบูรณ์ก็เกิดความผิดปกติขึ้นเช่นกัน
ในห้องโอสถแกนกลาง สือจวินที่ตอนแรกกำลังสงบใจฝึกฝนด้วยตัวเองพลันครางหนักๆ คำหนึ่ง บนหน้าผากของเขาปรากฏร่องแยกที่ตั้งตรงสายหนึ่งอย่างไร้วี่แวว แสงสว่างสีเหลืองสาดออกมาจากในร่องแยก หนาหนักและรกร้าง
บนหน้าผากของอิ๋งอวี่เจินที่เหมือนหลับใหลไม่เคลื่อนไหวมาโดยตลอดด้านในโลงศพน้ำแข็งที่อยู่ข้างเขาปรากฏลวดลายมารเช่นกัน มีประกายแสงสีเหลืองพรั่งพรูออกมาจากด้านใน เหมือนกับลวดลายมารที่อยู่บนหน้าผากของสือจวิน แต่ว่าอันตรายและน่ากลัวยิ่งกว่า!
ทว่าแทบจะเป็นในเวลาเดียวกัน บนเพดาน พื้นดิน และกำแพงสี่ด้านของห้องโอสถแกนกลางที่ทั้งสองอยู่ก็มีลวดลายอาคมถี่ยิบโผล่ขึ้นมา
แสงสว่างหลายสายเกาะเกี่ยวกัน ติดอยู่บนร่างของสือจวินกับอิ๋งอวี่เจินเหมือนกับสายโซ่ บนหน้าผากของพวกเขาปรากฏค่ายกลอาคม ขณะที่โคจรก็สะกดลวดลายมารและแสงสีเหลืองที่อยู่ด้านในไม่หยุด
สวีเฟยคุ้มครองด้านนอกห้องโอสถแกนกลาง เห็นห้องโอสถแกนกลางเรืองแสงหลายสายก็พลันจิตใจสั่นไหว “มาแล้ว!”
ขณะที่สั่นไหว ด้านในห้องโอสถแกนกลางพลันเพิ่มไข่มุกวิเศษสีเหลืองชิ้นหนึ่ง เป็นมุกผ่าดิน
มุกผ่าดินกลายเป็นกลุ่มแสง ผสานเข้ากับห้องโอสถแกนกลางซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้าง จากนั้นลวดลายอาคมหลายสายบนกำแพงภายในห้องก็กลายเป็นสีเหลือง
ภายใต้การสะกดเช่นนี้ สำนึกมารที่พรั่งพรูออกมาบนร่างสือจวินสองแม่ลูกก็ถูกสะกดเพิ่มขึ้น
“เช่นนี้สามารถถ่วงเวลาได้นานยิ่ง!” สวีเฟยตาไม่กะพริบ มองดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
จอมมารเพิ่งคืนชีพ พลังแข็งแกร่งอ่อนแอไม่เท่ากัน ถึงขั้นที่อาจอ่อนแอยิ่ง จำเป็นต้องใช้เวลาฟื้นฟู
นพยมโลกย่อมต้องการให้สองสุดยอดมารกลับนพยมโลกได้อย่างปลอดภัย จึงทำให้มารสองตนคืนชีพพร้อมกัน เพื่อทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอรับมือไม่ทัน
เยี่ยนจ้าวเกอใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ขณะที่ลากถ่วงเวลาในการคืนชีพของมารดินโบ่ว ก็ล่อมารน้ำกุ่ยเข้าไปในดินแดนพันเกล็ด เพื่อหาวิธีจัดการมันก่อน จากนั้นค่อยจัดการภัยคุกคามจากมารดินโบ่ว
โอกาสและสถานที่ตอนนี้ล้วนถูกพวกเยี่ยนจ้าวเกอเกาะกุมไว้ในมือ
ระยะห่างครึ่งก้าวที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังมาโดยตลอด ในที่สุดก็ถูกไล่ทัน ถึงขั้นพลิกเป็นฝ่ายแซง!