ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1429 การตัดสินใจของกษัตริย์เถา
นิสัยของมารร้ายส่วนใหญ่แสดงออกมาสองลักษณะ ถ้าไม่คลุ้มคลั่งไร้สติก็กลอกกลิ้งเจ้าเล่ห์
พญามารดาวโลหิตนี้ไม่ว่าปกติจะแสดงออกแบบไหน ตอนนี้กลับเผยให้เห็นความบ้าคลั่งโดยทั่วไปของมารร้ายนพยมโลก
กษัตริย์เถาคิดทำลายการสะกดของมันจากภายใน ส่วนเยว่เจิ้นเป่ย เนี่ยจิงเสิน อวี่เยี่ยโจมตีจากภายนอก
จอมมารตนนี้หลังจากอาศัยพิธีกรรมซึ่งเป็นพลังภายนอก ฟื้นฟูการควบคุมตัวเองก็หมายสังหารกษัตริย์เถาทันที
เยว่เจิ้นเป่ยแบ่งประกายกระบี่จากหนึ่งเป็นหมื่นในพริบตา จ้วงแทงใส่ดวงดาวห้าแสงสิบสีตรงหน้าจากทั่วทุกทิศทุกทางพร้อมกัน
หลังจากประกายกระบี่แทงเข้าไปในร่างของอีกฝ่าย พลันทำให้พลังทั้งหมดของพญามารดาวโลหิตเชื่องช้าลงถึงขั้นที่หยุดนิ่งอีกครั้ง
เนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยพุ่งเคียงไหล่ไปด้านหน้า ออกสองกระบี่ทิ่มแทงใส่กลางดวงดาว คิดประสานในนอกเพื่อช่วยเหลือกษัตริย์เถา
จอมมารส่งเสียงคำรามสะท้านฟ้า หลังจากความคลุ้มคลั่ง อารมณ์ที่เผยออกมากลับค่อยๆ กลายเป็นความสงบนิ่ง
เพียงแต่ สงบนิ่งจนเย็นเยียบ เย็นยะเยือกจนทำให้ร่างสั่นระริก
“ตายด้วยกันเถอะ” ในเสียงที่น่าสะพรึง ลำแสงที่เต็มไปด้วยสีสันรอบๆ ดวงดาวพากันเคลื่อนไหวย้อนกลับ เริ่มพวยพุ่งไปทั่วสี่ทิศแปดทาง
ลำแสงนับไม่ถ้วนเหมือนกับเกาทัณฑ์แหลมหลายดอก ยิงใส่พวกเยว่เจิ้นเป่ย
ในวินาทีนี้ จอมมารที่ได้รับบาดเจ็บเพราะพลังของดินแดนพันเกล็ด ถึงกับเหมือนฟื้นฟูอานุภาพของพญามารระดับสุญญตากลับมาได้แล้ว
เสียงมหามรรคาถึงขั้นดังขึ้นข้างหูของทุกคน
เยว่เจิ้นเป่ยสูดหายใจลึก เก็บประกายกระบี่นับหมื่นนับพัน ผนึกไว้กับตัวเองหมดสิ้น จากนั้นเขาก็ฟันออกไปหนึ่งกระบี่
พร้อมกับการฟันนี้ เยว่เจิ้นเป่ยร่างเปลี่ยนเป็นล่องลอยไม่แน่นอน เหมือนกับคงอยู่ในมิติเวลาไร้สิ้นสุดและสถานที่ทุกสถานที่
เยว่เจิ้นเป่ยที่ใช้กระบี่ลวงเซียนสายเหนือพิสุทธิ์ไม่ได้ ขณะนี้ใช้กระบี่หยกเบิกนภาเปิดผ่าฟ้าดิน ปราณเปลี่ยนกฎเกณฑ์ สามารถเลียนแบบเซียนลี้ลับสายเหนือพิสุทธิ์คนหนึ่งได้โดยสมบูรณ์ ไปถึงระดับสูงสุดของกระบี่ลวงเซียน
ลำแสงห้าสีที่ถี่ยิบราวสายฝน ถูกเยว่เจิ้นเป่ยที่เหมือนคงอยู่ทุกที่ขวางกระบี่กันไว้ ทำให้พวกมันไม่ส่งผลคุกคามคนอื่นๆ
การโจมตีด้วยชีวิตของพญามารดาวโลหิตถูกเยว่เจิ้นเป่ยรวมการโจมตีและการป้องกันเป็นหนึ่งทำลายทิ้งอย่างต่อเนื่อง แก้ไขจนหายไป
ทว่าหลังจากลำแสงเวียนว่อนห้าแสงสิบสีสลายไปหมดสิ้น ตำแหน่งเดิมของดวงดาวก็เป็นความมืดมิดผืนหนึ่ง
ความมืดนั้นขยายออกโดยไร้เสียง กลายเป็นหลุมขมุกขมัว กลืนกินทุกสิ่งรอบๆ
พลังม่านป้องกันเขตแดนของมิติเวลาที่บิดเบี้ยวซึ่งดวงดาวยากจะต้านทาน ทำลายวัตถุที่อยู่รอบๆ
ผู้ใช้กระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ที่ได้ผลักเปิดประตูเซียน แตกฉานการเปลี่ยนแปลงมิติเวลาของกระบี่ลวงเซียนอย่างกษัตริย์เถาและอวี่เยี่ย ตอนนี้ก็ต้านรับไม่ไหว
เนี่ยจิงเสิน อวี่เยี่ย และกษัตริย์เถาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างพุ่งเข้าไปในหลุมขมุกขมัวสีดำอย่างไม่อาจควบคุมตัวเอง
“จิงเสินพวกเจ้าหลุดเข้าไปด้านใน ถึงแม้ยากจะคาดเดาที่หมาย แต่เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็น…” เยว่เจิ้นเป่ยมองรอบๆ ‘หลี่เถาม่วงบาดเจ็บสาหัสเกินไป หากหลุดเข้าไปด้านในไม่มีคนคุ้มครอง ชีวิตต้องดับสิ้นแน่’
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เยว่เจิ้นเป่ยกล่าวเสียงทุ้ม “จิงเสินพวกเจ้าสองคนช่วยเหลือกันและกัน อย่าได้พลัดหลง รับมือด้วยความระวัง”
ส่วนตัวเขาพุ่งเข้าหากษัตริย์เถาหลี่อิง คมกระบี่ในมือขวาผ่าริมขอบหลุมขมุกขมัว ทำลายการเปลี่ยนแปลงจากการบิดเบี้ยวมิติเวลา คว้ามือซ้ายเข้าหาหลี่อิง
อวี่เยี่ยที่ได้แต่ฝืนควบคุมตัวเอง ไม่อาจเข้าใกล้กษัตริย์เถาเห็นฉากนี้ พลันผ่อนคลายลมหายใจ
เนี่ยจิงเสินที่อยู่กับนางกล่าวขึ้นเช่นกันว่า “ท่านอาจารย์วางใจ ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา…”
ทว่าทันใดนั้น กษัตริย์เถาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับถลึงสองตามองเยว่เจิ้นเป่ย “เยว่เจิ้นเป่ย! ข้ายอมตายไม่ยอมรับบุญคุณจากเจ้า!”
นางสีหน้าซีดขาวกว่าเดิม พ่นเลือดออกมาคำหนึ่ง ทั่วทั้งร่างเกิดบาดแผลมากมาย
ทว่าพลังที่เหลืออยู่รวมกันเป็นครั้งสุดท้าย ผนึกเป็นจุดเดียว กษัตริย์เถาโบกมือ ปะทะกับมือซ้ายที่เยว่เจิ้นเป่ยยื่นมา สองฝ่ายปะทะกันเกิดเสียงดังเปรี้ยงกลางอากาศ!
สองฝ่ามือปะทะกัน พลังเกิดการสะท้อนกลับ กษัตริย์เถาพุ่งเข้าไปในหลุมขมุกขมัวสีดำเร็วกว่าเดิม
เยว่เจิ้นเป่ยร่างชะงักกลางอากาศ คิดจับตัวกษัตริย์เถาไว้ แต่กลับทำไม่ได้
“ท่านยายบูรพาจารย์?!” อวี่เยี่ยแตกตื่นหน้าถอดสี คิดดิ้นรนไปด้านหน้า ร่างกายกลับถูกดูดเข้าไปในอาณาเขตอีกมุมหนึ่งของหลุมดำ
เนี่ยจิงเสินแตกตื่นเช่นกัน แต่ก็ถูกมิติเวลาหลุมดำดูดเข้าไป หายไปพร้อมกับอวี่เยี่ย
ยามนี้เยว่เจิ้นเป่ยไม่อาจดูแลผู้เยาว์ทั้งสอง
เขามีจิตใจแน่วแน่ไม่เคยท้อถอย ถึงจะล้มเหลว แต่ยังคงเร่งความเร็วพุ่งไปยังอาณาเขตหลุมดำที่กษัตริย์เถาลอยเข้าไป
น่าเสียดายที่กษัตริย์เถาบาดเจ็บสาหัสเกินไป เพิ่งลอยเข้าไปในหลุมขมุกขมัวสีดำ ร่างกายก็ถูกพลังของม่านป้องกันเขตแดนที่ทับซ้อนฉีกกระชาก!
ใบหน้านางปรากฏความเจ็บปวด แต่ไร้แววเสียใจ เพียงถลึงสองตามองเยว่เจิ้นเป่ย
จากนั้นร่างนางก็แยกเป็นชิ้นๆ ถูกหลุมขมุกขมัวสีดำกลืนกิน ก่อนถูกบดขยี้อีกขั้นในมิติเวลาที่บิดเบี้ยว ไม่มีศพหลงเหลือ!
กษัตริย์เถาหลี่อิง ผู้ที่อยู่มาก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ สร้างมรกตท่องฟ้าขึ้นมาด้วยมือ วันนี้เสียชีวิตลงที่นี่
เยว่เจิ้นเป่ยไล่ตามไม่ทัน มองดูฉากเหตุการณ์นี้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
วินาทีต่อมา ร่างของเขาก็ถูกฉุดรั้งเข้าไปด้านใน หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หลุมดำขนาดมหึมากลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ อย่างบ้าคลั่ง
เนิ่นนานให้หลัง หลุมขมุกขมัวสีดำนี้ค่อยๆ หดเล็กลง จนกระทั่งหายไปในท้ายที่สุด
ทุกอย่างคล้ายกลับคืนสู่สภาพปกติ ไม่เหลือร่องรอยมากเท่าไร เป็นการบอกทุกคนว่าที่นี่เพิ่งเกิดการต่อสู้ที่กินเวลาสั้นๆ หากแต่รุนแรงขึ้นครั้งหนึ่ง
อีกด้านหนึ่งของมิติ ในจักรวาลที่ดินแดนพันเกล็ดอยู่ สงครามดำเนินสู่ขั้นดุเดือดเช่นกัน
นพยมโลกคิดใช้กษัตริย์เถาโยกคลอนจิตใจของผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ แต่ว่าเกาชิงเสวียนกับนักพรตอวิ๋นเจิ้งที่ก่อนหน้านี้ทราบถึงแผนการของเยี่ยนจ้าวเกออยู่แล้ว ไม่หวั่นไหวตั้งแต่ต้นจนจบ
ถึงแม้ว่าในใจไม่ใช่ไร้ความกังวลโดยสิ้นเชิง แต่ต่อหน้าศัตรู พวกเขาที่ผ่านมาร้อยสมรภูมิย่อมรักษาความมั่นคงทางจิตใจได้ จัดการศัตรูตรงหน้าก่อน
ดังนั้นพอเยี่ยนจ้าวเกอใช้หน้าไม้ยิงดาวส่งพญามารดาวโลหิตกับกษัตริย์เถาไป ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายที่พวกเยี่ยนตี๋กางขึ้นก็ไม่มีความปั่นป่วนใดๆ ปกคลุมดินแดนพันเกล็ดอย่างแน่นหนา ไม่ให้มารร้ายข้ามเข้ามาได้
‘ยันไว้อีกหน่อยก็ใช้ได้แล้ว!’ เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งระวังคู่ต่อสู้ตรงหน้า ทางหนึ่งจับตาดูเฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลีในพิธีผสมฟ้าขับไล่มารอย่างลับๆ
เขาคาดคำนวณเวลาตามสถานการณ์ของทั้งสองคนในใจ แสงแรกแห่งความสำเร็จค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าแล้ว
แต่ว่าทันใดนั้นเอง พลันมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งสายหนึ่งปรากฏขึ้นบนจักรวาลแห่งนี้
พลังอันน่ากลัวถึงกับฉีกเขตมารที่เทพมารรดับมหาชาลตนนั้นสร้างขึ้น
เฟิงอวิ๋นเซิงกับเทพมารตนนั้นต่างรู้สึกถึงการมาของกองทัพที่สาม
ปราณปีศาจกระจายไปทั่วฟ้า
กลับเป็นมหาเทวะเผ่าปีศาจตนหนึ่งมาแล้ว!
นอกจากนี้แล้ว ยังมียอดฝีมือเผ่าปีศาจตนอื่นๆ ด้วย
เสียงร้องที่ลี้ลับและดุร้ายสะท้อนทั่วจักรวาล เสียงที่ยากจะให้คำนิยามสั่นสะเทือน พลังอันเกรี้ยวกราดถึงกับครอบคลุมเฟิงอวิ๋นเซิงกับเทพมารตนนั้นไว้พร้อมกัน
“เก้าเศียร เจ้าก็คิดทำลายแผนการของนพยมโลกเช่นกันหรือ” เทพมารคำรามด้วยเสียงโกรธ
เขตมารอันมืดมิดแยกเป็นร่อง ตรงกันข้ามกับปราณมารที่ชั่วร้าย เป็นควันปีศาจยิ่งใหญ่มุดเข้ามาจากในร่องแยก
จอมปีศาจแต่ละตนพุ่งเข้ามา
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามอง จิตใจพลันหนึกอึ้ง ล้วนคุ้นหน้าทั้งหมด
ปีศาจกระต่ายหยก ปีศาจกวางขาว ราชามังกรหวนเฉิน…
ถึงนพยมโลกจะเป็นศัตรูร่วมกัน แต่ว่าเหล่าจอมปีศาจที่โผล่ขึ้นด้านหน้าในตอนนี้ ทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจมองโลกในแง่ดีได้จริงๆ!