ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 147 มังกรสู้เสือ!
แสงสว่างสีเขียวและสีม่วงเหล่านั้น ก็คืออาวุธวิญญาณระดับล่างสองชิ้น อย่างกระบี่วิญญาณมังกรมรกตและกระบี่อัสนีทองคำม่วง
พลังฝึกปรือระดับปรมาจารย์ของเยี่ยนจ้าวเกอไม่สามารถขับเคลื่อนอาวุธวิญญาณสองชิ้นพร้อมกันได้ ทว่าเขาเลือกวิธีการที่เด็ดขาดมากยิ่งกว่า
ขณะที่ขับเคลื่อนกระบี่วิญญาณมังกรมรกตของตน เขาก็ปล่อยกระบี่อัสนีทองคำม่วงไปโดยตรง!
ตัดความสัมพันธ์ระหว่างตนกับอาวุธวิญญาณ อาศัยแรงปะทุชั่วพริบตาสุดท้าย ทำให้กระบี่ทั้งสองเหินบินอย่างพร้อมเพรียง ตรงเข้าไปฟันหลินโจว!
“กระบี่อัสนีทองคำม่วงของเยี่ยนซ่าน”
ระยะทางที่ใกล้เช่นนี้ ไม่ว่าหลินโจวจะต่อต้านหรือหลบหลีก ก็ล้วนแล้วแต่รับมือไม่ทัน ถึงขั้นขับเคลื่อนอาวุธวิญญาณของตนไม่ทันกาลเลยทีเดียว
เขาทำได้แค่เพียงพยายามหลีกหนีอย่างสุดกำลัง ในขณะที่เส้นยาแดงผ่าแปด ก็ยังไม่ได้ถูกเป้าจุดสำคัญ
ถึงกระนั้นของล้ำค่าที่ยื่นออกมาจากบนหัวไหล่ของเขา ปีกสายฟ้าสองปีก ก็ถูกอาวุธวิญญาณสองชิ้นแยกกันแทงทะลุ!
ระหว่างที่ร่างกายเยี่ยนจ้าวเกอกระโจน วิชาวายุเคลื่อนกายในคัมภีร์วายุจิตราที่สืบทอดกันในเขากว่างเฉิง ไปจนถึงวิชาวายุกระโจนตัวของหมัดพยัคฆ์คำราม ต่างก็ร่วมกันสำแดงอิทธิฤทธิ์!
สามวิชารวมเป็นหนึ่ง ร่างกายเยี่ยนจ้าวเกอรวดเร็วประหนึ่งลมกรดและสายฟ้าแลบ พริบตาเดียวก็พุ่งแทงไปถึงเบื้องหน้าหลินโจว
ต่อให้หลินโจวมีระดับการฝึกปรือเป็นปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะกลาง และใช้วิชาเคลื่อนไหวกายฉับไวอันเป็นวิชาสืบทอดของตำหนักอัสนีสวรรค์ แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็เข้าใกล้เขาได้ในพริบตาเดียว!
ถึงแม้ว่าเขาจะมีอุปนิสัยหม่นหมองอยู่บ้าง แต่หลินโจวก็ไม่ขาดจิตใจฮึกเหิมกล้าหาญของจอมยุทธ์
ครั้นเห็นว่าอาหู่ถูกเศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าพันหยุดเอาไว้ เขาก็ร้องตะโกนเสียงดัง ราวกับเสียงฟ้าผ่าก็ไม่ปาน
บนมือหลินโจวพลันเกิดแสงฟ้าแลบเจิดจ้าทันใด ดาบยาวสีฟ้าแกมเขียวเล่มหนึ่งปรากฏอยู่กลางฝ่ามือ นั่นเป็นอาวุธวิญญาณระดับล่างชิ้นหนึ่ง!
เขาสะบัดดาบยาวออกมา ก็เหมือนเช่นเยี่ยนจ้าวเกอเมื่อครู่ ปล่อยอาวุธวิญญาณของตนร่วงลงโดยตรง
ประกายดาบอันบ้าคลั่ง ทำกระบี่วิญญาณมังกรมรกตในฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอแยกออก
ระหว่างที่กระบี่วิญญาณมังกรมรกตสั่นไหว ส่งเสียงมังกรคำรามออกมา ประกายกระบี่ก็เจิดจ้า ราวกับว่ามีชีวิตเป็นตนเองอย่างไรอย่างนั้น ต่อสู้อยู่กับดาบอัสนีเหินฟ้าของหลินโจว
เวลาเดียวกับที่หลินโจวขว้างดาบ มืออีกข้างของเขาก็ตั้งฝ่ามือขึ้นประหนึ่งกับดาบ ชูขึ้นไปบนท้องฟ้า คล้ายกับทำท่าชูดาบ
ทั่วหล้าก็มีเสียงกระแสไฟฟ้า ‘เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ’ แสบแก้วหูดังขึ้นตามการเคลื่อนไหวนี้ของเขา
ปราณจิตราออกสู่ภายนอก คล้ายดั่งสายฟ้าแลบมากมาย รวมตัวกันอย่างดุร้ายกลายเป็นดาบแสงสายฟ้าแลบขนาดมหึมาด้ามหนึ่งที่ยาวกว่าสิบจั้งอยู่กลางอากาศ
แสงสายฟ้าสีม่วงแกมน้ำเงินอันบ้าคลั่ง ส่องสะท้อนกับสีหน้าเยี่ยนจ้าวเกอโดยตรงจนกลายเป็นสีม่วง!
วรยุทธ์สืบทอดของตำหนักอัสนีสวรรค์ คมดาบสายฟ้าคลั่ง!
ความเร็วของมันอาจจะสูสีกับกระบี่รุ้งสะท้านวิชชุม่วงของจอมยุทธ์ในระดับพลังเดียวกัน ทว่ามีแนวโน้มจะดุร้ายรุนแรงยิ่งกว่า!
ไม่เหมือนตอนที่จี้ฮั่นหรูประมือกับเยี่ยนจ้าวเกอบนเขาเมฆนิมิตในตอนแรก ยังยกยอตนเองว่าระดับพลังสูงกว่าได้ชัยชนะไม่สมเกียรติ
เมื่อหลินโจวลงมือในครานี้ เขาใช้พลังทั้งหมดออกมาทันที!
ดาบหนึ่งผ่าลงมา สายฟ้ามากมายทอประกายวาบวัย คล้ายกับกลายเป็นโลกลวงตา
ภายในโลกลวงตาที่กลายสภาพมาจากปราณจิตรามีเมฆสายฟ้ากระจายตัวอยู่อย่างหนาแน่น งูสายฟ้าอันน่าหวาดผวาหลายสายเที่ยวเล่นขวักไขว่อยู่ในพยับเมฆ ก่อนจะร่วงลงมาจากท้องฟ้า ทำให้ทั่วทั้งฟ้าดินคล้ายกับคุกสายฟ้า!
ปราณจิตราที่ถือกำเนิดสติปัญญา ผนึกเข้ากับวรยุทธ์ของตนเอง กลายสภาพเป็นโลกลวงตา ซึ่งก็คืออุบายของจอมยุทธ์ขั้นเคียงนภาระยะกลาง!
สีหน้าเยี่ยนจ้าวเกอไม่เปลี่ยนแปลง จุดลมปราณทั่วกายของเขาสั่นไหวพร้อมเพรียงกัน
ปราณจิตราร้อนรุ่มดุจมังกรเพลิง กับปราณจิตราหนาวเหน็บดุจมังกรน้ำแข็งเกี่ยวพันเข้าด้วยกัน ลอยขึ้นสูงไปพร้อมกัน
มือทั้งสองข้างซ้ายขวาของเยี่ยนจ้าวเกอปล่อยออกมาอย่างพร้อมเพรียง มือหนึ่งแสดงหมัดวิญญาณสยบคลื่น มือหนึ่งแสดงหมัดราชันงูสวรรค์ออกมา
หนึ่งเคลื่อนไหว หนึ่งสงบนิ่ง หนึ่งแข็งกร้าว หนึ่งอ่อนโยน การเปลี่ยนแปลงเชื่อมประสานหยินหยาง ยอดเยี่ยมจนไม่อาจมีคำใดเปรียบ
เต่าและงูโจมร่วมกันโจมตี สำแดงอิทธิฤทธิ์อย่างแท้จริง!
ปราณจิตราร้อนรุ่มและหนาวเหน็บทั้งสองสาย รวมประสานเชื่อมต่อถึงกัน พาให้อานุภาพแก่กล้าอย่างไม่เคยมีมาก่อน!
พลังที่ระเบิดปะทุโครมคราม ทำลายโลกลวงตาอันแปรสภาพมาจากปราณจิตรา และเจตจำนงดาบของหลินโจวอย่างเหี้ยมโหด!
แววตาหลินโจวแน่นิ่งเย็นยะเยือก หลังจากพลังดาบอันรุนแรงบ้าคลั่ง ท่วงท่าของเขาก็พลันเปลี่ยนไป!
ประกายกระบี่เปล่งแสงอันเจิดจ้าขึ้น ไม่รุนแรงเหมือนประกายดาบ แต่กลับรวดเร็วกว่าประกายดาบ!
กระบี่รุ้งสะท้านวิชชุม่วง!
ครั้นกระบี่ออกจากฝัก ความเร็วของมันก็ถึงจุดสูงสุด!
หลินโจวที่ก้าวเหยียบเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะกลาง แสดงกระบี่รุ้งสะท้านวิชชุม่วงออกมา แข็งแกร่งรวดเร็วยิ่งกว่าเยี่ยนซ่านเสียอีก!
ผู้คนทั่วหล้าต่างรับรู้ว่า ‘อัสนีฟาดฟ้าคำรน’ แห่งตำหนักอัสนีสวรรค์ อัสนีฟาดเชี่ยวชาญกระบี่ ฟ้าคำรนเชี่ยวชาญดาบ!
กระนั้นขณะนี้เยี่ยนจ้าวเกอก็สามารถยืนยันได้ว่า หลินโจวบดขยี้เยี่ยนซ่านได้ทุกด้านแล้วจริงๆ!
ทลายภาพจำที่มีแต่เดิมของผู้อื่น กระบี่หนึ่งที่พลันเหนือความคาดหมายนี้ของหลินโจว คล้ายกับสายฟ้าฟาดผ่าลงมาฉับพลัน ทำให้ผู้คนไม่ทันได้ตั้งรับ!
แม้ว่าพลังฝึกปรือจะใกล้เคียงกัน กระนั้นอานุภาพก็ชนะเหนือเยี่ยนซ่านที่มีชื่อเสียงด้านกระบี่อยู่ไกลโข
กระบี่นี้รวดเร็วอย่างยิ่ง ถึงขั้นที่สายตาของเยี่ยนจ้าวเกอเกือบจะไม่สามารถจับทางกระบี่ของเขาได้
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ กระบี่นี้ของหลินโจวออกมาแล้ว ทว่ากระบี่สั้นยาวสองฉื่อที่อยู่ในฝ่ามือก็เปล่งรัศมีแสงส่องประกายไปทั้งสี่ทิศ ทำให้ผู้คนตื่นตระหนกตกใจ!
เป็นอาวุธวิญญาณระดับล่างอีกชิ้นหนึ่ง!
ถึงแม้ว่าด้วยภูมิหลังฐานะเดิมของหลินโจวและเยี่ยนจ้าวเกอ หรือไม่ก็เซียวเซิงในตอนแรก สำหรับพวกเขาที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ การที่มีอาวุธวิญญาณติดกายสองชิ้นนับเป็นเรื่องที่เหนือปกติ!
แต่เยี่ยนจ้าวเกอป้องกันหลินโจวเผยแผนการเหนือชั้นฉับพลันอยู่ก่อนแล้ว
เหนือศีรษะของเขามีแสงสีทองเจิดจ้าลอยขึ้นสูง ราวกับตะวันรุ่งอรุณขึ้นทางทิศตะวันออก!
คล้ายกับกรงจักรเพลิงสุริยะที่เหมือนกับอาทิตย์ร้อนแผดเผา แสงเจิดจ้า ชนเข้ากับกระบี่ละอองเมฆของหลินโจว!
“กรงจักรเพลิงสุริยะของเซียวเซิง…เปลี่ยนสิ่งต่างๆ ไปมากมายยิ่งดังคาด!” แววตาหลินโจวเย็นเยียบ ขณะที่กระบี่รุ้งสะท้านวิชชุม่วงไปถึงก่อน หลังจากมันก็มีหมัดหนึ่งต่อยออกมา!
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!
การรุกโจมตีครั้งนี้ของหลินโจว ชั่วพริบตาเดียวบนกำปั้นและแขนก็มีตาข่ายสายฟ้าถี่ยิบกระจายอยู่ชั้นหนึ่ง ทั้งยังส่องแสงระยิบระยับ เหมือนกับผีสางเทพเซียน!
หมัดสายฟ้ามรกต วิชาลับสืบทอดในตำหนักอัสนีสวรรค์อีกวิชาหนึ่ง!
กงจักรเพลิงสุริยะกับกระบี่ละอองเมฆของหลินโจวตรึงกำลังซึ่งกันและกันเอาไว้ แล้วแยกออกไปด้านนอกพร้อมกัน หมัดหนึ่งของเขาดุจสายฟ้าฟาด มาถึงเบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกอโดยพลัน
ครืน!
เมื่อเสียงหนึ่งคล้ายกับฟ้าผ่าดังขึ้น เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกเพียงว่าบัดนี้ฟ้าดินเหมือนกับทรุดลง กำปั้นขนาดยักษ์ข้างหนึ่งที่เกี่ยวพันสายฟ้าสีม่วงแกมเขียวไว้กำลังมุ่งโจมตีมาทางตน!
ใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอสงบนิ่งยิ่งนัก ภายในดวงตาทั้งสองทอประกายไปทั้งสี่ทิศจนหมดสิ้น
ครั้นปะทะหมัดเหล็กของหลินโจว เยี่ยนจ้าวเกอก็ต่อยหมัดหนึ่งออกไปเช่นกัน
กระนั้นเมื่อหมัดไปถึงครึ่งทาง ทันใดนั้นแขนเยี่ยนจ้าวเกอก็สั่นสะท้าน!
ราวกับมังกรสะบัดหางอย่างไรอย่างนั้น!
หวดครั้งหนึ่ง!
ดีดครั้งหนึ่ง!
ชัดเจนว่าเป็นเจตจำนงกระบี่ที่นำเพลงกระบี่มังกรเขียวในแขนเสื้อของตน กลายสภาพเข้าไปในเจตจำนงหมัด!
มังกรสะบัดหาง มังกรเขียวในแขนเสื้อ!
ระหว่างที่แขนเยี่ยนจ้าวเกอสั่นสะท้าน ร่างกายของเขาหมุนวน ใต้ฝ่าเท้าคล้ายกับเข็มทิศขนาดมหึมาอันหนึ่ง พลันพลิกบิดอย่างฉับพลัน!
พลังบิดหมุนอันบ้าระห่ำ ทำให้ความว่างเปล่าใต้เท้าเยี่ยนจ้าวเกอคล้ายกับเกิดกลิ่นไหม้ออกมาอย่างไรอย่างนั้น!
พลิกครั้งหนึ่งเช่นนี้ หมัดหนึ่งของเยี่ยนจ้าวทุบบนข้อมือหลินโจว ปัดเสหมัดสายฟ้ามรกตของเขา!
หลินโจวหวาดหวั่นพรั่นพรึง คิดอยากจะเปลี่ยนกระบวนท่า ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอว่องไวยิ่งกว่าเขา!
เยี่ยนจ้าวเกอหมุนกาย หมัดขวาของเขาทุบหมัดสายฟ้ามรกตของหลินโจวจนเสเอียง อาศัยพลังที่ชนเข้ากับหมัดของอีกฝ่าย พลิกตัวหมุนกลับไปอีกทางอีกครั้งด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ!
เขากวัดแกว่งหมัดซ้าย ราวกับมีมังกรยักษ์อีกตัวหนึ่งสะบัดหางของตน ทุบไปทางขมับของหลินโจวดังโครม!
สองมังกรสะบัดหาง!
หลินโจวเบิกตาโพลงร้องตะโกน ปราณจิตราทั่วกายพรั่งพรูอย่างบ้าคลั่ง โครงกระดูกเกิดเสียงระเบิด ‘ปึงปัง’ ระลอกหนึ่ง!
ร่างกายของเขาพลันสูงขึ้นมากกว่าหนึ่งชุ่นทันทีอย่างไม่น่าเชื่อ!
ในขณะเดียวกัน ร่างกายก็ถอยเอนไปด้านหลังด้วยความเร็วอย่างที่สุด
ทว่าความรุนแรงจากการปะทุของเยี่ยนจ้าวเกอนี้ ทั่วหล้าต้องตื่นตกใจ แม้ว่าปฏิกิริยาตอบรับของหลินโจวจะถือว่ารวดเร็วยิ่ง ก็ยังคงไม่สามารถหลบหลีกมังกรสะบัดหางที่สองนี้ได้พ้น!
ถึงแม้ว่าจะหลบจุดสำคัญที่ขมับไปได้ แต่พวงแก้มกลับถูกหมัดของเยี่ยนจ้าวเกอเฉียดแฉลบผ่านไป
หลินโจวเพียงรู้สึกสับสนมึนงง วิงเวียนศีรษะเล็กน้อย แก้มครึ่งซีกเจ็บปวดจนชา ฟันทั่วทั้งปากเหมือนกับจะถูกทำให้หลุดกระเด็นออกไปทั้งหมด!
เยี่ยนจ้าวเกอแกร่งกว่าที่คาด หลินโจวเองกลับต้องออกแรงเช่นกัน
“หืม?” เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้ว พบว่าหลินโจวไม่สนใจต่อยหมัดแล้ว ด้านล่างเตะเท้าหนึ่งลอยมาโดยตรง ถึงเวลาต้องตาต่อตาฟันต่อฟันแล้ว!
………………..