ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1471 ผู้ยิ่งใหญ่สิ้นชีพ
เฉินเฉียนหัวไม่อาจพกของวิเศษที่เก็บรวบรวมมาหลายปีติดตัวได้ทั้งหมด แน่นอนว่าส่วนใหญ่ในนี้ถูกเขาใช้ไปแล้ว ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอค่อนข้างเสียดาย
สินสงครามที่เยี่ยนจ้าวเกอยึดมาจากเขามีแค่ส่วนหนึ่ง ส่วนสิ่งของที่เหลืออยู่ถูกเก็บอยู่ในนิวาสถานแต่ละที่ที่เฉินเฉียนหัวสร้างขึ้น
เขาถูกทำลายพลังฝึกปรือ ในตอนนี้ความต่างของระดับพลังฝึกปรือระหว่างสองฝ่ายห่างกันราวฟ้ากับเหว เยี่ยนจ้าวเกออาศัยคัมภีร์นภาทันใจ สามารถดแยกะแยะความจริงความลวงในวาจาของเขาได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าอีกฝ่ายจะโกหก วางหลุมพรางล่อให้เขาไปติดกับ
ทว่าสิ่งเหล่านั้นค่อยๆ วางแผนได้ ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอไม่มีเวลาว่างไปนึกถึง
สวีเฟยไม่เป็นไร สือจวินแม่ลูกปลอดภัย ขณะนี้สิ่งที่เยี่ยนจ้าวเกอคิดถึงมากที่สุดก็คือพวกเยี่ยนตี๋ที่พลัดหลงไปก่อนหน้า
การพังทลายของค่ายกลลงทัณฑ์เซียน บดขยี้มิติเวลาตรงนั้น เป็นเหตุให้ทุกคนแตกกลุ่มกัน
เยี่ยนจ้าวเกอ อวี่เยี่ย หลงเสวี่ยจี้ กับนักพรตอวิ๋นเจิ้งควบคุมค่ายกล เนื่องจากได้รับการเสริมพลังจากค่ายกล หลังจากร่วงเข้าไปในกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาก็ควบคุมสถานการณ์ได้ค่อนข้างง่าย
เกาชิงเสวียนยิ่งต้านสภาวะได้ ถือกระบี่ผนึกเซียน กดดันยุทธวิชัยพุทธะที่ได้รับบาดเจ็บ
ทว่าพวกเยี่ยนตี๋ หลงซิงเฉวียน เยว่เจิ้นเป่ย เนี่ยจิงเสิน และหลิงชิงมีความลำบากมากกว่า
กระแสปั่นป่วนของมิติเวลาที่ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนกระตุ้นขึ้น มีความแข็งแกร่งด้านระดับความวุ่นวายและพลังทำลายล้างเหนือธรรมดา มนุษย์เซียนยากจะทนทานได้ทั้งหมด
โชคดีที่ในตอนค่ายกลถูกทำลาย เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ว่าคนที่สถานการณ์ค่อนข้างดีอย่างอวี่เยี่ย หลงเสวี่ยจี้ กับนักพรตอวิ๋นเจิ้งต่างกำลังวางแผนช่วยเหลือคนอื่น
เมื่อเป็นแบบนี้ เชื่อว่าสมควรไม่มีปัญหาใหญ่ เพียงแต่ทุกคนพลัดหลงกันแล้ว คิดจะกลับสู่จักรวาลฟ้าฟื้นยังยากลำบากยิ่ง
ปัจจุบันเยี่ยนจ้าวเกอเพียงหวังให้คนปลอดภัยและรวมตัวกันได้โดยเร็วที่สุด อย่าให้เหมือนกับเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยเมื่อก่อนหน้า
หลังจากแน่ใจแล้วว่าเบื้องหลังไม่มีคนสะกดรอย เยี่ยนจ้าวเกอก็ให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพาสวีเฟย พ่านพ่าน และเฟิงอวิ๋นเซิงกลับไปพักผ่อนที่จักรวาลฟ้าฟื้น
“พวกท่านกลับสำนักก่อน ข้าจะรอประสานงานและค้นหาพวกบิดาด้านนอก”
เพิ่งก่อเรื่องบนแดนสุขาวดีบัวขาว ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก สวีเฟย พ่านพ่านต้องหลบมรสุมก่อน
เฟิงอวิ๋นเซิงจำเป็นต้องสงบใจฟื้นฟู ไม่เหมาะจะไปผจญคลื่นลมต่อ หากสายธนูตึงเกินไปก็มีความเสี่ยงที่จะขาดได้
“ท่านระวังตัวด้วย” เฟิงอวิ๋นเซิงทราบสภาพของตัวเองจึงไม่ดื้อดึง “หลังข้ากลับไป พวกทวนพระอังคารสามารถออกมาช่วยท่านตามหา”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “วางใจ ไม่ต้องเป็นห่วงข้า”
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพาทุกคนผละไป เยี่ยนจ้าวเกอเคลื่อนไหวอยู่ในมิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน
ถึงตอนนี้มารน้ำกุ่ยกับมารดินโบ่วจะดับสูญ แต่ว่าสงครามใหญ่ยังไม่ปิดฉาก ยอดฝีมือจากแต่ละฝั่งรวมตัวกัน เยี่ยนจ้าวเกอจำเป็นต้องระวังตัว ไม่ให้ถูกคนอื่นเจอตัว ตัวเขาเป็นเป้าหมายของคนจำนวนไม่น้อย
มิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดนกว้างใหญ่ไพศาล คิดจะตามหาคนที่พลัดหลงในนี้ ยากยิ่งกว่ายาก
เพื่อรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ ทุกคนต่างกำลังคิดค้นวิธีการติดต่อแต่ละแบบอยู่ มีวิธีการและเครื่องมือติดต่อโดยตรง และมีตรายันต์สัญลักษณ์ที่เอาไว้ติดต่อทางอ้อม
เปรียบเทียบกันแล้ว เบาะแสสัญลักษณ์ทางอ้อมเร้นลับกว่า ไม่ถูกคนนอกพบและทำลายได้โดยง่าย ถึงจะค่อนข้างยุ่งยาก แต่ว่ามีความปลอดภัยสูงกว่า
พวกตนเองได้รับเบาะแสในการตามหาคน ผ่านการตามหาสัญลักษณ์ที่อีกฝ่ายทิ้งเอาไว้ได้
ขณะนี้เยี่ยนจ้าวเกอใช้วิธีการทุกอย่าง ไม่ปล่อยสิ่งที่มีค่าใดๆ ไม่ทันไรเขาก็ได้ผลลัพธ์แรก
“ผู้อาวุโสเกา ผู้อาวุโสอวิ๋นเจิ้ง” เยี่ยนจ้าวเกอมองสตรีอาภรณ์เขียวและชายชราสวมชุดนักพรตตรงหน้า พลางประสานมือคารวะ
กลับเป็นเกาชิงเสวียนและนักพรตอวิ๋นเจิ้ง
หลังจากฝ่ายแรกใช้กระบี่กดดันยุทธวิชัยพุทธะ ไม่ได้รีบร้อนผละมา พอยืนยันได้ว่าพระพุทธเจ้าองค์นั้นไปแล้ว ไม่ได้แสร้งทำเป็นถอยแต่ตั้งใจจับกุม จึงล่าถอยออกจากสนามรบ
เกาชิงเสวียนไม่ได้กลับมรกตท่องฟ้า หากแต่รั้งอยู่ในมิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน ตามหาคนอื่นๆ เหมือนกับเยี่ยนจ้าวเกอ นางตามหานักพรตอวิ๋นเจิ้งก่อน ทั้งสองคนไปค้นหาคนอื่นด้วยกัน น่าเสียดายที่ถึงตอนนี้ยังไม่มีผลลัพธ์ใด
“ทางคนในสำนักของเจ้าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง” เกาชิงเสวียนถามขึ้น
“เรื่องยาวยิ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “ทว่าไม่มีอุปสรรคใหญ่แล้ว ครั้งนี้ต้องขอบคุณผู้อาวุโสจากมรกตท่องฟ้าที่ช่วยเหลือ”
แม้เกาชิงเสวียนกับนักพรตอวิ๋นเจิ้งตรงหน้าจะมีสีหน้าเป็นปกรติ แต่ต่างก็อ่อนแรง เหมือนกับกระบี่จับฝุ่นไม่คมกล้าเหมือนเดิม แสดงให้เห็นว่าได้รับบาดเจ็บ หนำซ้ำอาการบาดเจ็บยังไม่เบา
ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนถูกทำลาย คนที่อยู่ในค่ายกลได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อย เกาชิงเสวียนยังมีสภาพค่อนข้างดี ทว่าหลังจากคุมเชิงกับยุทธวิชัยพุทะธหลังจากค่ายกลพังทลายก็สิ้นเปลืองพลังไม่น้อย ไม่อาจรักษาอาการบาดเจ็บ ดังนั้นส่งผลต่อปราณกำเนิดอยู่บ้าง
ทว่ามือกระบี่แห่งสายเหนือพิสุทธิ์ทั้งสองกลับไม่นำพา ต่างส่ายหน้าพูดว่า “กล่าวหนักไปแล้ว ในตอนที่ต้องรับมือศัตรูล้วนเป็นพวกเดียวกัน”
เรื่องแดนสุขาวดีบัวขาวจบลงแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอไม่ต้องเก็บเป็นความลับต่อไป จึงอธิบายให้สองคนฟังอย่างคร่าวๆ ในมุมมองหนึ่ง เท่ากับเป็นการแจ้งต่อเจ้าแม่อู๋ตัง
พวกเกาชิงเสวียนได้ยินเรื่องราวต่างถอนใจชมเชย “ในนี้ถึงกับมีการหักมุมมากมายขนาดนี้?”
“แต่ว่าตัวตนที่ผนึกมหาเทวะเสมอฟ้าผู้นั้น เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นพระยูไลที่หลุดพ้นไปแล้ว” นักพรตอวิ๋นเจิ้งกล่าวอย่างใคร่ครวญ “การช่วยมหาเทวะเสมอฟ้าออกมาจะมีปัญหาตามมาหรือไม่”
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้พูดถึงการคาดเดาของตัวเองเกี่ยวกับเหล่าจวิน เพียงแค่พูดว่า “ความเสี่ยงบางอย่างก็คุ้มค่าแก่การลอง การได้กายทองมหาเทวะมาสามร่างเป็นประโยชน์มหาศาลต่อพวกเรา”
“นับว่าเป็นโชคชะตาอย่งหนึ่ง” นักพรตอวิ๋นเจิ้งพยักหน้า ไม่กล่าวอะไรอีก
“ถ้าหากว่าเป็นวาสนาโชคชะตา ครั้งนี้ต้องขอบคุณศิษย์พี่อวี่” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจพลางกล่าว “ถ้าหากไม่ใช่นางกับศิษย์พี่เนี่ยนำค่ายกลลงทัณฑ์เซียนกับกระบี่ผนึกเซียนกลับมา พวกเราเกรงว่าจะเอาชนะยุทธวิชัยพุทธะไม่ได้”
เกาชิงเสวียนพยักหน้า “มิผิด” นางขมวดคิ้วเล็กน้อย “แต่ว่าบรมครูเทวกษัตริย์วิเศษคณานับถึงกับเสียชีวิตลงแล้ว…”
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้พูดอะไร
คัมภีร์โกลาหลสูญคัมภีร์สุดท้ายในสิบคัมภีร์เหนือพิสุทธิ์ เป็นวรยุทธ์ระดับสุดยอดในสายเหนือพิสุทธิ์ ความน่ากลัวของอานุภาพและความแข็งแกร่งในด้านพลังโจมตีของโกลาหลสูญ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในวรยุทธ์การสืบทอดแห่งสำนักเต๋าทั้งหมด
ในช่วงเวลาหนึ่งวรยุทธิ์ชนิดนี้จะมีคนที่ฝึกฝนได้แค่คนเดียว เหมือนกับคัมภีร์นภาไรัขอบเขตคัมภีร์นภาแรกเริ่มม้วนแรกของเยี่ยนจ้าวเกอ ดังนั้นหลังจากที่บรมครูวิเศษรัตนาแห่งสายเหนือพิสุทธิ์ลหลุดพ้น ตำแหน่งก็ว่างลง มีคนที่สองรับช่วงต่อ
คนที่สองที่ฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญ มีเป็นความไปได้มากที่สุดว่าจะเป็นเทวกษัตริย์วิเศษคณานับ เป็นเพราะว่าเทวกษัตริย์วิเศษคณานับหายตัวไป จึงไม่ทราบว่าคัมภีร์โกลาหลสูญไปอยู่ที่ไหน มีการประกาศว่าสาบสูญไป
ปัจจุบันคัมภีร์โกลาหลสูญปรากฏขึ้นใหม่ อวี่เยี่ยกลายเป็นผู้รับช่วงต่อคนใหม่ นั่นหมายความว่าคนที่ฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญคนก่อนไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว
“ใช่เป็นเพราะในตอนนั้นบรมครูเทวกษัตริย์วิเศษคณานับไม่ได้ฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญหรือไม่” พอพูดถึงเรื่องนี้ นักพรตอวิ๋นเจิ้งสีหน้าเคร่งขรึมลง “ถึงจะหวังไม่ได้มาก แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีความเป็นไปได้โดยสิ้นเชิง”
“ข้าเองก็หวังเช่นนี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่” เกาชิงเสวียนหยิบกระบี่ผนึกเซียนออกมา มองดูประกายกระบี่สีดำสนิท ถอนใจคำหนึ่ง “กระบี่ผนึกเซียนให้คำตอบแก่พวกเราแล้ว”