ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1484 ใช้สี่กระบี่พร้อมกัน
ขณะนี้เนี่ยจิงเสินออกหนึ่งกระบี่ กระบี่แปลงเป็นโกลาหลครอบคลุมเขากับอวี่เยี่ย บังประกายกระบี่ของจางปู้ซวี
กระบี่เทพสายเหนือพิสุทธิ์ที่ดุร้ายล้ำเลิศฟันลงบนความโกลาหลอันขมุกขมัว เกิดระลอกคลื่นขึ้นส่วนหนึ่ง
วินาทีต่อมาระลอกคลื่นสลาย ทุกอย่างเป็นอย่างเดิม
สี่กระบี่รัตนา ส่งธรรมชาติสู่การดับสูญ เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนจากมีเป็นไม่มี
แต่ว่าถ้าตอนแรกเป็นความว่างเปล่า จะกล่าวถึงการดับสูญได้อย่างไร
‘กระบี่…หยก...ไร้ขอบเขตหรือ’ จางปู้ซวีรู้สึกเลวร้ายถึงขีดสุด ‘เยี่ยนซิงถางอีกคนหนึ่ง ถึงขั้นยังเหนือกว่าด้วย…’
ตอนที่เยี่ยนซิงถางกับหลงซิงเฉวียนศิษย์พี่ศิษย์น้องใช้กระบี่สยบมรกตท่องฟ้า เขาเป็นผู้ประสบเหตุการณ์ด้วยตัวเอง
เวลาล่วงเลยถึงบัดนี้ ทุกอย่างในอดีตยังคงจำได้เป็นอย่างดี กระนั้นตอนนี้เหมือนกับอดีตปรากฏขึ้นใหม่
จางปู้ซวีสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง บนใบหน้าเปลี่ยนเป็นไร้ความรู้สึก สายตาสงบนิ่ง ไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว ออกกระบี่จู่โจมอย่างดุดันติดต่อกันไม่ขาดสาย แข็งแกร่งไม่ย่อหย่อน
สองฝ่ายท่านมาข้าไป สู้กันอีกหลายเพลง เนี่ยจิงเสินครางเสียงหนักๆ คำหนึ่ง บนใบหน้าที่ซีดขาวปรากฏสีแดงฝาดที่ผิดปกติ
อาการบาดเจ็บก่อนหน้าถูกกระตุ้นให้กำเริบ เนี่ยจิงเสินพลันออกกระบี่ช้าลง สภาพความโกลาหลหายไป ไม่ได้มีความพิสดารของการไร้หน้าไร้หลังในการไร้ขอบเขตแรกเริ่มเหมือนเมื่อครู่อีก
ประกายกระบี่ของจางปู้ซวีพลันอาศัยสภาวะทำลายวงล้อม
แต่ว่าทันใดนั้นเอง อวี่เยี่ยที่ถูกเนี่ยจิงเสินบังไว้ด้านหลัง กลับหมุนตัวมาฟันกระบี่หนึ่งใส่จางปู้ซวี
ก่อนหน้านี้เนี่ยจิงเสินใช้การตั้งรับแทนการโจมตี ตอนนี้หลังจากเขาถอนหลัง อวี่เยี่ยก็รับช่วงต่อ ใช้การโจมตีแทนการป้องกัน
ป้องกันตั้งรับสลับกัน ราวเมฆเคลื่อนน้ำไหล รวมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติ
การผสานกระบี่คู่ของสองฝ่ายถูกทำลาย เจตจำนงกระบี่ของคนทั้งสองไม่ได้หลอมรวมประสานเสียงกันอีก ทว่าขณะนี้บรรลุถึงการร่วมมือกันอันสมบูรณ์แบบที่เป็นรูปเป็นร่างอย่างหนึ่ง
กระนั้นจางปู้ซวีไม่ได้สนใจการร่วมมือกันนี้ เพียงผลักดันสภาวะโจมตีของตัวเอง ประกายกระบี่พาดขวาง จากนั้นเสียงหงส์มังกรประสานเสียงก็ดังขึ้น ครอบคลุมจักรวาล
ทว่าในวินาทีต่อมา สีหน้าของเขาพลันจริงจังขึ้นมาก เป็นเพราะกระบี่นี้ของอวี่เยี่ยเกิดจากการผสานกันของปราณกระบี่หลายสาย ปราณสีขาวกระจายไปทั่ว สรรพวัตถุพังทลาย ไม่คงเหลืออยู่อีก
ปราณอันดุร้ายผนึกตัวเป็นกระบี่ แต่ว่าในปราณกระบี่สีขาวชุบด้วยแสงสีแดงก่ำชั้นหนึ่ง แสงสีแดงกะพริบ เคลื่อนย้ายมิติ ยากจะกะประมาณ
ทว่าทันใดนั้นเอง ปราณกระบี่สีดำหลายสายปรากฏ วนเวียนอยู่บนกระบี่สีขาวประกายแดงอย่างถี่ยิบราวกับเส้นด้าย
เส้นด้ายสายหนึ่งตัดผ่านความว่างเปล่า เหมือนกับชีวิตของสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนถูกสะบั้นทิ้ง
ขณะเส้นสายสีดำไร้สิ้นสุดพาดขวางตัดสลับ ปราณความตายเต็มเปี่ยม
สุดท้ายบนกระบี่สีขาว นอกจากเส้นสายสีดำกับแสงสีแดงแล้ว ยังมีประกายกระบี่สีเขียวปรากฏ สามารถทำลายทุกความแข็งแกร่ง ไม่ว่าไปที่ใดล้วนสะดวกราบรื่น
ประกายสีเขียวหั่นเฉือนหลักการมากมายของโลกเหมือนกับพ่อครัวแล่วัว ทำให้มันไม่คงอยู่อีก
“ใช้สี่กระบี่พร้อมกัน!?” จางปู้ซวีโพล่งออกมา
ในกระบี่นี้ของอวี่เยี่ยแฝงความน่าอัศจรรย์ของสี่สุดยอดกระบี่ กระบี่ลงทัณฑ์เซียน กระบี่ผนึกเซียน กระบี่ลวงเซียน กระบี่สังหารเซียนไว้พร้อมกัน!
แม้ว่าจะเป็นจางปู้ซวีที่อยู่ในระดับเซียนลี้ลับสงบนิ่ง ปัจจุบันก็ทำได้แค่ใช้สามกระบี่พร้อมกัน
กระบี่เจ็ดสายแห่งเหนือพิสุทธิ์ของเขาถึงแม้จะสามารถปล่อยประกายกระบี่สี่สีออกมาพร้อมกันได้ แต่อย่างมากผสมกันได้แค่กลุ่มละสามสี
อย่าว่าแต่เขา แม้แต่เกาชิงเสวียน ยายของอวี่เยี่ยที่แข็งแกร่งที่สุดในเจ็ดปราชญ์ท่องมรกต ในตอนที่ยังอยู่บนระดับเซียนจริงแท้นั้น อย่างมากสุดทำได้แค่ใช้สามกระบี่พร้อมกัน
พวกหลงเสวี่ยจี้ นักพรตอวิ๋นเจิ้ง และเฮ่อเหมี่ยนก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน
ในบรรดายอดฝีมือที่ผงาดขึ้นหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ คนที่สามารถออกสี่กระบี่พร้อมกันในระดับเซียนจริงแท้ก่อนหน้านี้มีอยู่คนเดียว ก็คือตี๋ชิงเหลียนจักรพรรดิกระบี่ ย่าของเยี่ยนจ้าวเกอ
ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนที่ทำเรื่องนี้ได้สามารถงอนิ้วนับได้
วันนี้ปาฏิหาริย์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
สี่กระบี่ลงทัณฑ์ ผนึก ลวง และสังหารถูกใช้ออกพร้อมกัน ประกายคมที่ดุร้ายไร้สิ้นสุดปรากฏ ถึงกับมีสภาวะโกลาหลสูญอยู่หลายส่วน รุนแรงล้ำเลิศ!
จางปู้ซวีรับมือไม่ทัน ประกายกระบี่หลายสายของตนฟันถูกฟันทิ้ง
เขาเองก็ไม่ได้อาศัยประโยชน์จากการที่เซียนจริงแท้ยากร้ายความสงบนิ่งของเซียนลี้ลับรับกระบี่นี้ของอวี่เยี่ย แต่ว่าควบคุมประกายกระบี่ของตนให้เปลี่ยนแปลง โจมตีประกายกระบี่ของอวี่เยี่ย ลดพลังอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็พลิกการตั้งรับเป็นการโจมตี
ทว่าทันใดนั้น สภาวะกระบี่ของอวี่เยี่ยก็เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ในสองตาของนาง พลันมีสภาวะโกลาหลสูญปรากฏขึ้นมา!
เจตจำนงกระบี่อันดุร้ายจากการออกสี่กระบี่ยกระดับขึ้นอีกครั้ง กำเนิดการเปลี่ยนแปลงด้านคุณสมบัติ!
การสิ้นสุดของความโกลาหลที่แท้จริงบังเกิดขึ้น!
ครั้งนี้สีหน้าของจางปู้ซวีเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้เขาป้องกันท่าโกลาหลสูญของอวี่เยี่ย ถึงอย่างไรวรยุทธ์นี้ก็ก้าวข้ามการขวางกั้นของสัจพิศวง ทำให้อวี่เยี่ยที่อยู่ในระดับเซียนจริงแท้เข่นฆ่าทำร้ายเขาที่อยู่ในระดับเซียนลี้ลับได้
แต่ว่าการใช้ท่าโกลาหลสูญของอวี่เยี่ยในตอนที่เพิ่งเจอกัน เป็นเพราะว่าบาดเจ็บเกินไป จึงยากจะคงสภาพไว้ได้
ภายหลังอวี่เยี่ยร่วมมือกับเนี่ยจิงเสิน สู้กันถึงห้วงความเป็นความตาย ใช้สี่กระบี่ออกพร้อมกันเลียนแบบท่าโกลาหลสูญ ทำให้จางปู้ซวีเกิดความรู้สึกไปเองว่าพวกเขาใช้ความสามารถทั้งหมด กำลังดิ้นรนสุดชีวิตอยู่
ภายใต้การยืนยันเรื่องสองเรื่อง ทำให้จางปู้ซวีเริ่มทิ้งความคิดป้องกันไป
ผู้ใดหาทราบไม่ว่า ท่าไม้ตายสุดท้ายของอวี่เยี่ยยังคงเป็นโกลาหลสูญ!
ทุกสิ่งก่อนหน้าเป็นการปูทางที่ทำให้เขาประมาท
ตอนนี้เหมือนกับคลี่แผนที่เสร็จ มีดสั้นก็ปรากฏ!
หนำซ้ำการโจมตีนี้ยังเป็นท่าไม้ตายที่เขาไม่อาจอาศัยความวิเศษแห่งความสงบนิ่งในระดับเซียนลี้ลับกัดฟันต้านได้
จางปู้ซวีจนปัญญา รีบร้อนหมุนตัว หลบการโจมตีนี้ของอวี่เยี่ย
เขาเชื่อว่าแม้ก่อนหน้านี้อวี่เยี่ยจะจงใจแสดงความอ่อนแอ ซ่อนกระบวนท่าสังหารไว้ แต่ด้วยร่างที่บาดเจ็บฉกรรจ์ของนาง อย่างมากสุดก็มีแรงแค่ฟันหนึ่งกระบี่ ขอแค่เขาหลบพ้นความคมกระบี่แรกสุด ต่อจากนั้นชัยชนะก็จะมาอยู่ในมือ
การแยกแยะของจางปู้ซวีไม่ผิดพลาด แต่ว่ากระบวนท่ากระบี่ของอวี่เยี่ยพลันเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ประกายกระบี่ที่พร่ามัวไม่ชัดเจน ดุร้ายล้ำเลิศกะพริบแวบหนึ่ง เปลี่ยนแปลงเป้าหมาย สุดท้ายฟันลงบนฝักกระบี่ในมือจางปู้ซวี!
จางปู้ซวีแตกตื่น รีบร้อนรับมือการเปลี่ยนแปลง แต่ช้าไปก้าวหนึ่ง
เจตจำนงกระบี่ทั้งหมดของเขาไหลเชี่ยว แผ่ลามจากมือไปถึงฝักกระบี่ เพิ่มการป้องกัน แต่พอถูกอวี่เยี่ยฟันใส่กระบี่หนึ่ง ฝักกระบี่ก็สั่นไหวอย่างรุนแรงโดยฉับพลัน
มีแสงเจิดจ้าสาดออกมาจากฝักกระบี่ที่ผุกร่อน แล้วขยายไปทั่วสี่ทิศแปดทาง ขวางระหว่างทุกฝ่าย
ภายหลังแสงเจิดจ้ามืดลง เห็นฝักกระบี่ผุพังมัวหม่นมากขึ้น บนผิวปรากฏรอยแตกหลายสาย แม้แต่กลิ่นอายความน่าอัศจรรย์ที่แฝงอยู่ด้านในก็อ่อนแอลงไป
มือขวาของอวี่เยี่ยตอนนี้เต็มไปด้วยรอยแตกที่ถี่ยิบราวใยแมงมุม ถึงขั้นเริ่มลามจากบนร่างนางไปยังส่วนอื่นๆ
กระนั้น เนี่ยจิงเสินที่อยู่อีกด้านก็ใช้กระบี่เปิดมิติ ใช้มือคว้าเอวของอวี่เยี่ยแล้วพากันหลบหนีไป
จางปู้ซวีถูกฝักกระบี่ในมือกลืนกินกลับ แสงสว่างขวางทาง ก้าวไปด้านหน้าไม่ได้ชั่วขณะ ได้แต่มองดูพวกเนี่ยจิงเสินหายไปในความว่างเปล่าตาปริบๆ
รอทุกอย่างจบลง เขาคิดไล่ตามก็ไม่ทันกาลแล้ว
ตอนแรกอาศัยการเชื่อมต่อระหว่างฝักกระบี่กับอวี่เยี่ย หาวิธีกำหนดตำแหน่งของอีกฝ่ายได้ หากว่าตอนนี้ฝักกระบี่ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกครั้ง กลับไม่อาจแสงผลก่อนหน้าออกมาได้อีก
จางปู้ซวีไม่ยอมแพ้ ยังคงวนเวียนตามหาในความว่างเปล่า
เนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยต่างบาดเจ็บสาหัส ต้องส่งผลต่อความเร็ว แต่เขาในฐานะเซียนลี้ลับสงบนิ่งไม่มีเหตุผลต้องยอมแพ้
เพียงแต่พร้อมกับการไหลผ่านของเวลา ยิ่งผ่านไปนานก็ยิ่งส่งผลเสียต่อเขา ดังนั้นเขาต้องรีบจัดการเผด็จศึก
ทางเนี่ยจิงเสินหลังจากพาอวี่เยี่ยหนีไปในมิติก็เหาะเหินไม่หยุดยั้ง เขาหันไปมองอย่างกังวล อีกฝ่ายหลับตา นั่งขัดสมาธิ สภาพร่างกายย่ำแย่ถึงขีดสุด