ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1497 อาละวาดบนโถงเซียน!
ตำหนักแดนเซียนที่กอปรด้วยปรากฎการณ์นับหมื่นนับพัน พลันปรากฏภาพน่ากลัว
ในเสียงร้องคำรามสะท้านสวรรค์ วานรคลั่งตัวหนึ่งจับราชาบันดาลใจ ทะลวงหมู่เมฆ จากนั้นก็กระแทกเข้าไปในกลุ่มตำหนักดังโครมคราม
ปรากฏแสงสว่างขึ้นพร้อมกันบนตำหนักจำนวนมาก แสงสีทองพรั่งพรู คุ้มครองกลุ่มอาคารที่มีควันวนเวียน
ทว่าวานรดันราชาบันดาลใจเหมือนกับผลักรถตีเมือง กระแทกเข้าไปอย่างไม่เกรงใจ
แสงสีทองส่ายวูบหนึ่ง เกิดช่องว่างขึ้น วานรไม่มีความคิดหยุดเคลื่อนไหวโดยสิ้นเชิง งอศอกวูบหนึ่ง จากนั้นก็จับราชาบันดาลใจ ใช้แรงกระแทกอีกครั้ง
เสียงตูมดังขึ้น เมื่อตำหนักขนาดมโหฬารตำหนักหนึ่งถูกกระแทกกำแพงด้านหนึ่ง!
ราชาบันดาลใจหน้าคลุกฝุ่น ตะโกนขึ้นอย่างดุร้าย ขณะเดียวกันนั้นตำหนักโถงเซียนรอบๆ ต่างสั่นไหวพร้อกมัน
จากนั้นก็เป็นด้านบนพลับพลาศาลาและห้องหอที่ยิ่งใหญ่หลายแห่ง ต่างมีค่ายกลค่ายหนึ่งปรากฏขึ้นด้านบนแล้วหมุนวน
แสงสีทองเปลี่ยนแปลง ระลอกแสงสีทองบนคลื่นแสงหลายสายหายไป กลายเป็นสีสันที่คล้ายกับหยกศิลา
แสงหยกพอบังเกิด จักรวาลพลันเปลี่ยนแปลงรูปร่าง กลายเป็นพร่ามัวไม่ชัดเจน
ลวงจริงแปรเปลี่ยน เจดีย์สูงเก้าองค์โผล่ขึ้นมาพร้อมกัน หนึ่งสูงแปดต่ำ เจดีย์สูงลอยู่ตรงกลาง เจดีย์ต่ำแยกกันอยู่แปดด้าน
ภายใต้การครอบคลุมของเจดีย์สูงเก้าองค์ ธารเงินในจักรวาลเหมือนกับเคลื่อนไหวพร้อมกัน พากันเปลี่ยนตำแหน่งแล้วพุ่งเข้าไปด้านใน
วานรพลันรู้สึกว่าบนร่างเหมือนกับถูกกดด้วยน้ำหนักนับไม่ถ้วน เคลื่อนไหวลำบาก
แต่ภายใต้การเสริมพลังจากความน่าอัศจรรย์นี้ ราชาบันดาลใจพลันเปลี่ยนสภาวะอ่อนโทรม กลุ่มดาวเคลื่อนตัว เขาเหมือนปลาได้น้ำ โต้ตอบวานร
สิ่งนี้หายสิ่งนั้นเพิ่ม สภาวะจู่โจมป้องกันของสองฝ่ายถึงกับกลับตาลปัตรในพริบตานี้
“เด็กน้อยไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ตอนนี้จะให้เจ้าได้ทราบถึงความร้ายกาจ!” ราชาบันดาลใจในที่สุดก็โล่งอก “การต่อสู้กับแดนสุขาวดีบัวขาวกำลังคับขัน ข้าถอนตัวออกมาก็เพื่อรอเจ้าส่งตัวเองเข้าหาตาข่ายโดยเฉพาะ ถึงไม่ทราบว่าเจ้าไปได้ความสามารถของวานรตัวนั้นจากที่ใด ทว่าเจ้าหลอกคนอื่นได้ ไหนเลยหลอกบรรพบุรุษมรรคาไร้ประมาณได้? มีวิธีสยบความสามารถกระจ้อยร่อยของเจ้ามาแต่แรกแล้ว!”
ราชาบันดาลใจเมื่อครู่ทิ้งค้อนสำริดเก้ากลีบ วินาทีนี้ผนึกสายน้ำในธารสวรรค์ กลายเป็นค้อนอันหนึ่งที่ถืออยู่ในมือ อานุภาพกลับเหนือกว่าเมื่อครู่
วานรอยู่ในเจดีย์เก้าองค์ พลังกลับถูกสะกด
เวลานี้ราชาบันดาลใจยกค้อนฟาดมา อานุภาพสั่นสะท้าน
“ท่านมารอข้าโดยเฉพาะหรือ” วานรยักษ์ที่แปลงมาจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยกกระบองขวางออก ป้องกันค้อนของราชาบันดาลใจ
ครั้งกระโน้นเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลสี่คนของโถงเซียนตกตายด้วยมือของสั่วหมิงจาง มาถึงวันนี้ยังเติมตำแหน่งไม่ได้
เดิมทีจำนวนมหาชาลก็ด้อยกว่าแดนสุขาวดีบัวขาวอยู่แล้ว ตอนนี้จึงจับคอเสื้อเห็นข้อศอก
ยามนี้ยังส่งราชาบันดาลใจมา เพื่อป้องกันการมาของพวกเยี่ยนจ้าวเกอโดยเฉพาะ
อีกฝ่ายวางกับดัก รอตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอหรือคนอื่นๆ ในสำนักเต๋ามาตามหาเฮ่อเหมี่ยนแล้วหาวิธีฆ่าทิ้ง!
เจดีย์สูงเก้าองค์นั้นพอครอบลง พลันกอปรเป็นสภาวะสะกด
เยี่ยนจ้าวเกอทอดสายตามองไป พบว่าไม่เพียงแต่มีแค่เซียนสวรรค์เส้นทางนอกรีตอย่างราชาบันดาลใจอยู่ที่นี่เท่านั้น เจดีย์วิเศษเก้าองค์ แต่ละองค์ต่างเห็นเงาคนมากมายอยู่รำไร
ในเจดีย์วิเศษองค์หนึ่งมีเซียนกำเนิดเส้นทางนอกรีตคนหนึ่ง กับเซียนลี้ลับและเซียนจริงแท้ที่จำนวนไม่เท่ากันเฝ้าอยู่ด้านใน
เซียนลี้ลับและเซียนจริงแท้ยังพอทำเนา สำหรับเโถงเซียนแล้ว เซียนกำเนิดมีจำนวนคนไม่มากเท่าไร
พวกเขาที่ยังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการต่อสู้กับแดนสุขาวดีบัวขาว ครั้งนี้ถึงกับโยกคนจำนวนมากมาที่นี่ เพื่อกลุ้มรุมซุ่มสังหารเยี่ยนจ้าวเกอ!
“เจ้ายังไม่รู้ว่าสิ่งที่รอเจ้าอยู่คืออะไรกระมัง” ราชาบันดาลใจหัวเราะเสียงประหลาด กล่าว “ตอนนี้ขอดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะหนีไปที่ไหนได้!”
ในเสียงหัวเราะ เห็นจุดที่ค้อนสำริดเก้าปลีบกับกระบองสีทองปะทะกัน ถึงกับมีแสงหยกชั้นหนึ่งแผ่พุ่ง ไหลตามกระบองสีทอง พุ่งใส่มือสองข้างของวานรอย่างรวดเร็ว
พอถูกแสงหยกนี้ย้อมใส่ สองมือของวานรก็เหมือนกลายเป็นหยกศิลา ไม่อาจขยับได้
สีหยกเริ่มยืดขยายต่อ หมายจะย้อมทั่วร่างของวานร
“หนี? ทำไมข้าต้องหนีด้วย” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างเย็นชา
ราชาบันดาลใจงงงัน เห็นในหูของวานรยักษ์ตรงหน้าพลันมีเงาร่างที่กลมปุกสายหนึ่งบินออกมา กลับเป็นปี่เซียะภูเขาตัวหนึ่ง
ยามนี้พ่านพ่านพ่านไหนเลยมีท่าทางเกียจคร้านเซื่องซึมเหมือนยามปกติ ดุมันร้ายหมายขวาน เงยหน้าร้องคำราม รอยสักบนหลังมีแสงสีทองลอยขึ้น
แสงสีทองผนึกรวมกันกลางอากาศ ปรากฏวานรทองอีกตนในพริบตา!
ราชาบันดาลใจเบิกตาโปน “เจ้า…”
วานรยักษ์ที่แปลงร่างมาจากพ่านพ่านร้องขึ้น จับกระบองสีทองควงเหมือนกังหัน แล้วฟาดใส่ศีรษะของราชาบันดาลใจ!
ราชาบันดาลใจเดิมนึกว่าเป็นภาพลวงเงาปลอม แต่พอสัมผัสได้ถึงพลังอันน่ากลัวชนิดพลิกคว่ำฟ้าดินนั้นพลันแตกตื่น ไม่มีเวลาสะกดวานรที่แปลงกายมาจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกต่อ รีบร้อนพลิกตัวหลบไปด้านข้าง
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสั่นสองแขน แสงหยกถดถอยไป วานรทองร้องคำราม ง้างกระบองขึ้นฟาดอีกที ภาวะดุร้ายเกรี้ยวกราดเข้มข้นขึ้น!
“ถึงกับมีสองตน? นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่” ราชาบันดาลใจอับอายกลายเป็นโทสะ “แต่สองตนแล้วอย่างไร
ในเสียงตะโกน เขาโยนค้อนที่เกิดจากสายน้ำในมือ แล้วกดสองมือลงด้านล่างพร้อมกัน
เจดีย์วิเศษเก้าองค์สั่นสะเทือนพร้อมกัน ส่งเสียงสะเทือนเลือนลั่น แสงทองกะพริบ อากาศที่เจดีย์วิเศษเก้าองค์นี้คลุมอยู่เหมือนกับผนึกแข็ง หยุดวานรยักษ์สองตัวที่เกิดจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกและพ่านพ่านไว้ตรงกลาง เหมือนกับอำพัน
ราชาบันดาลใจบินไปด้านนอก เหล่าเซียนเส้นทางนอกรีตในเจดีย์วิเศษเก้าองค์ก็ออกจากอาณาเขตที่แสงหยกของเจดีย์วิเศษครอบคลุมด้วยความหวาดหวั่นเช่นกัน
จากนั้นเจดีย์วิเศษเก้าองค์ที่เป็นหนึ่งเดียวกันนี้ ขณะที่จองจำวานรยักษ์สองตัวก็หล่นลงด้านล่าง!
การสะกดอันน่าอัศจรรย์ในตอนนี้พลังงานทำงานถึงขีดสุด ต้องการฉุดลากเยี่ยนจ้าวเกอออกไปจากตำหนักเซียน ‘บนสวรรค์’
ความสามารถของเฟิงอวิ๋นเซิงไม่นับว่าเป็นความลับสำหรับโถงเซียนในตอนนี้ ถึงแม้จะไม่แน่ใจว่าหลังจากนางสิ้นเปลืองพลังในสงครามกับหมู่มารจากนพยมโลก วันนี้สามารถมาโถงเซียนได้หรือไม่ แต่โถงเซียนได้คาดคำนวณการดำรงอยู่ของนางไว้ด้านในแล้วเช่นกัน
กับดักที่พวกราชาบันดาลใจวางไว้ เดิมทีเล็งเป้าที่เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิง
ขณะนี้เฟิงอวิ๋นเซิงยังไม่ปรากฏตัว กายทองมหาเทวะร่างที่สองของเยี่ยนจ้าวเกอกลับโผล่มาแล้ว
เวลานี้ราชาบันดาลใจได้แต่หยุดความคิดจับเป็นเยี่ยนจ้าวเกอ และลงมือด้วยกำลังทั้งหมด!
“ข้าผู้เป็นราชาอยู่ที่นี่ ไม่อนุญาตให้เจ้าอาละวาด! แค่ลิงกังสองตัว ไสหัวลงไปเสีย!” ราชาบันดาลใจตวาด
วานรยักษ์เงยหน้าส่งเสียงคำราม “ตัวไร้ประโยชน์เช่นพวกท่านมีสิทธิ์อะไร”
พร้อมกับเสียงคำรามนี้ เงาร่างของสวีเฟยก็ปรากฏกลางอากาศ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง เคลื่อนไหวเหมือนร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ขณะที่โน้มตัว รอยสักบนไหล่ขวาก็สาดแสงสีทองออกมา
คนในโถงเซียนอ้าปากตาค้าง วานรยักษ์ตัวที่สามโผล่มาแล้ว!
ปีศาจวานรที่ดุร้ายเกรี้ยวกราดเหมือนกันทั้งสามตนต่างง้างกระบองทองขึ้น หยุดการเคลื่อนไหวพร้อมกันก่อน!
เหมือนกับเสาค้ำฟ้าสามต้นหยุดโลกที่ร่วงหล่น จากนั้นกระบองทองสามท่อนก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน ฟาดใส่พันธนาการจากเจดีย์เก้าองค์!
เหมือนกับโลกทั้งใบถูกพลิกคว่ำ แสงหยกสลายไป
ปีศาจวานรสามตนง้างกระบองทองพลางเหาะเหิน ฟาดหวดจนฟ้าดินพลิกเอียง!
บูรพาหนึ่งกระบอง ราชาบันดาลใจถูกฟาดจนเหมือนกับน้ำเต้าหมุน
ประจิมหนึ่งกระบอง เซียนลี้ลับและเซียนจริงแท้เส้นทางนอกรีตกลุ่มหนึ่งถูกฟาดกลายเป็นเนื้อบด
จากนั้นฟาดใส่ตรงกลางหลายครั้ง มีเซียนกำเนิดเส้นทางนอกรีตหลายคนวิญญาณสลาย
วานรกยักษ์ร้องขึ้น ฟาดกระบองใส่จ้าวสวรรค์โถงเซียนคนหนึ่ง จนเขากระแทกกับตำหนักเซียน
จากนั้นกระบองอีกสองท่อนก็ฟาดลงพร้อมกัน แม้แต่ศพของเจ้าสวรรค์คนนั้นก็ถูกทุบจนกลายเป็นซากไปพร้อมกับตำหนักใหญ่
“คนทรยศเพื่อนพ้อง เจ้าคิดว่าจะหลบได้หรือ”
วานรยักษ์ยกขาแล้วเตะใส่ ตำหนักที่พังทลายกระเด็นไปด้านหลัง ทำให้ศาลาและหอที่อยู่ด้านหลังล้มลงตามลำดับ แหลกสลายพร้อมกัน!
พังทลายไปถึงด้านหลัง ทว่าในที่สุดก็หยุดลง แสงหยกพลันเปลี่ยนเป็นเจิดจ้า คุ้มครองตำหนักหลังหนึ่งไม่ให้ถูกบดขยี้
ทว่าสุดท้ายแล้วกำแพงด้านหนึ่งก็พังลง เผยให้เห็นเงาร่างสายหนึ่งในตำหนักใหญ่ หันมามองอย่างอ้าปากตาค้าง
เป็นเฮ่อเหมี่ยน