ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1502 สายสืบทอดที่แข็งแกร่งที่สุด
ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส ระดับพลังฝึกปรือยังสู้เกาหานไม่ได้ แต่เมื่อมีกระบี่ผนึกเซียนติดตัว การดำรงอยู่ของเกาชิงเสวียนก็ไม่อาจมองข้าม
เกาหานมองเกาชิงเสวียน จากนั้นหันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอพลางพูดว่า “เส้นทางนอกรีตสองเส้นทางต่อสู้กัน โถงเซียนเดิมทีอยู่ในสภาพเลวร้าย ปัจจุบันประสบความเสียหาย สมดุลถูกทำลาย เกรงว่ายากจะต้านต่อไปได้”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็ไม่ได้พูดอะไร สีหน้าไร้การเปลี่ยนแปลง
เขายังยอมรับการแยกแยะของเกาหาน
ราชาบันดาลใจถูกตนสังหาร โถงเซียนมีเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลหายไปอีกหนึ่งคน
ถึงจำนวนมหาชาลของโถงเซียนดูเหมือนจะเปลี่ยนจากเก้าเป็นแปด ทว่าความเสียหายของโถงเซียนไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้
นอกจากราชาบันดาลใจระดับมหาชาลแล้ว เมื่อรวมจ้าวสวรรค์อัสนีเขียวด้วย ครั้งนี้ทางโถงเซียนมีเซียนกำเนิดสุญญตามากกว่าสิบคนตกตาย
นี่เป็นความเสียหายใหญ่หลวง ยากจะชดเชยในระยะเวลาอันสั้น
เซียนลี้ลับ เซียนจริงแท้คนอื่นๆ ไปจนถึงจอมยุทธ์ที่มีระดับพลังฝึกปรือต่ำกว่า นั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึงแล้ว
มิหนำซ้ำ ปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งอยู่ที่ วังสวรรค์โถงเซียนถูกมหาเทวะเสมอฟ้าที่แปลงจากเยี่ยนจ้าวเกอถล่มไปเกือบครึ่ง
นอกจากสมาชิกโดยตรงจะบาดเจ็บล้มตาย สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าอยู่ที่ความเสียหายต่อบารมีของโถงเซียน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพลังศรัทธา
แม้ตำหนักวังเซียนจะอยู่บนสวรรค์ ทว่าพลังทำลายล้างที่เยี่ยนจ้าวเกอสร้างขึ้นยังคงปรากฏต่อหน้าสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนในโลกจำนวนนับไม่ถ้วนของแดนเซียนนับร้อยนับพัน
ถึงจะไม่เห็นละเอียด แต่การที่โถงเซียนเสียท่าครั้งใหญ่แต่รั้งเยี่ยนจ้าวเกอไว้ไม่ได้ กลับแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน
ถ้าหากจับกุมหรือสังหารเยี่ยนจ้าวเกอได้ เช่นนั้นภายหลังยังมีความเป็นไปได้ที่จะปกปิดความผิดพลาดของตัวเอง
อย่างไรคน ‘บนดิน’ ก็ยากจะมา ‘บนสวรรค์’ แล้วเห็นวังเซียนที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง
แต่ว่าผลลัพธ์สุดท้ายคือหลังจากเยี่ยนจ้าวเกอทำลายวังเทพแล้ว ก็สะบัดก้นจากไปอย่างผ่าเผย
นี่ทำให้ยอดฝีมือโถงเซียนลำบากแล้ว
ต่อจากนั้น แค่พวกเขาต้องปลอบประโลมคนในระดับกลางถึงล่างที่อยู่บนพื้นดิน เพื่อรักษาการบูชาให้แข็งแกร่งต่อไป ก็ทำให้พวกเขาปวดหัวมากพอแล้ว
การศึกในวันนี้ เป็นไปได้ถึงขีดสุดว่าจะโยกคลอนรากฐานการปกครองของพวกเขา
นอกจากการลดลงของยอดฝีมือระดับสุดยอดแล้ว ตั้งแต่บนลงไปด้านล่าง โถงเซียนจะเจอกับความอ่อนแอและความไม่มั่นคง
ในสถานการณ์เช่นนี้ โถงเซียนที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่แล้ว เมื่อเผชิญกับแดนสุขาวดีบัวขาวที่แข็งแกร่งกว่า สถานการณ์จะต้องยากมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ก่อนหน้านี้โถงเซียนเดิมทีตั้งหลักได้แล้ว ยิ่งหมายช่วงชิงแดนเซียนทั้งแปดร้อยแดนเซียนที่ถูกแดนสุขาวดีบัวขาวแย่งไปกลับมาอย่างต่อเนื่อง
ทว่าในตอนนี้ พวกเขาเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะต้องเจอกับการพังทลายของสถานการณ์อีกครั้ง ถูกแดนสุขาวดีบัวขาวบุกเมืองยึดครองดินแดน ถึงขั้นที่อาจจะแพ้ราบคาบด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยนจ้าวเกอ เกาชิงเสวียน หรือว่าเกาหาน พอเห็นความโชคร้ายของโถงเซียนเส้นทางนอกรีตจะต้องรู้สึกสมน้ำหน้าทั้งนั้น
แต่ว่าด้วยสายตาของพวกเขา ย่อมมองออกเช่นกันว่าถ้าหากโถงเซียนถูกแดนสุขาวดีบัวขาวล้มจนแพ้ราบคาบ ทำให้แดนสุขาวดีบัวขาวกับเผ่าปีศาจแข็งแกร่งขึ้น สำหรับผู้สืบทอดของสามพิสุทธิ์สายหลักเช่นพวกเขาแล้ว สถานการณ์ใช่ว่าจะดีกว่าตอนนี้
บางทีอีกฝ่ายก็ไม่คิดว่าจะเข่นฆ่าสำนักเต๋าสายหลักให้หมดสิ้นเช่นกัน
แต่ถ้าหากคิดสะกดความเจริญของพวกเขา ทำลายสภาวะของพวกเขา กลับง่ายดายกว่าเดิม
แดนสุขาวดีบัวขาวกับโถงเซียนตรึงกำลังกันและกัน พวกเยี่ยนจ้าวเกอเคลื่อนไหวได้สบายกว่า แต่ถ้าในนี้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ ก็สามารถรวบรวมสมาธิเล็งเป้าหมายมาที่พวกเขาได้ แรงกดดันของพวกเขาย่อมมากขึ้นตาม
“เทวกษัตริย์น้อยเกือบแสดงอานุภาพของมหาเทวะเสมอฟ้าในอดีตออกมาได้อีกครั้ง ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนในที่สุดก็โผล่ขึ้นมาใหม่ ต่างน่ายินดี แต่ว่าพวกเราสหายร่วมเส้นทางยังคงมีภาระหนัก เส้นทางยังเหลือยาวไกล” เกาหานเอ่ยอย่างราบเรียบ
“วาจาของราชันพระอาทิตย์มีเหตุผล ข้าผู้แซ่เยี่ยนจะทบทวนตัวเองตลอดเวลา” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างราบเรียบ “แต่มีเรื่องบางเรื่องต้องทำ มีคนบางคนต้องตาย ไม่อย่างนั้น ข้าคงกลับโถงเซียนไปเดินบนเส้นทางเดียวกันกับราชันพระเสาร์ ฟังคำสั่งของจักรพรรดิโกวเฉินให้รู้แล้วรู้รอด”
เกาหานฝืนยิ้ม “วาจาของเทวกษัตริย์น้อยเป็นการเปิดเผยแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “มิกล้ารับ ราชันพระอาทิตย์มีการพิจารณาของตัวเอง ข้าเข้าใจได้ เพียงแต่เวลาท่านทำอะไร อย่าทำให้ทุกคนเข้าใจผิด”
“ข้าผู้แซ่เกาย่อมหวังว่าจะผนึกกำลังร่วมมือกับสหายร่วมเส้นทางทุกท่านได้” เกาหานยิ้มกล่าว “ถึงอย่างไรทุกคนก็มีเป้าหมายเดียวกัน”
เกาชิงเสวียนกล่าวอย่างราบเรียบ “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น เมื่อเป็นแบบนี้ ข้าผู้แซ่เกาขอตัวก่อน สหายร่วมเส้นทางสองท่านส่งแค่นี้พอ” เขาประสานมือ “อาจมีสถานการณ์ใหญ่มาเยือน พวกเราจำเป็นต้องวางแผนให้ดี”
ว่าแล้วเขาก็พลิ้วกายจากไป กลายเป็นแสงอาทิตย์ หายไปในความว่างเปล่าอันมืดมิด
เยี่ยนจ้าวเกอใช้สายตาส่งเกาหานจากไป เอ่ยเสียงเบา “มีแวบหนึ่งที่ข้าคิดกำจัดเขาทิ้ง”
เกาชิงเสวียนที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าหนักแน่น “คนที่รู้จักเขาล้วนเคยมีประสบการณ์คล้ายกัน อาจไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้ง”
“ผู้อาวุโสเกา พวกเราไปเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจ “เฮ่อเหมี่ยนกับจ้าวสวรรค์อัสนีเขียวถูกลงทัณฑ์แล้ว ในที่สุดก็มีคำกล่าวให้แก่ศิษย์พี่เนี่ยและศิษย์พี่อวี่ แต่ทุกสิ่งนี้เป็นแค่การเริ่มต้น” ดวงตาเขาเปลี่ยนแปลงคมกริบอีกรอบ
เกาชิงเสวียนพยักหน้าช้าๆ ไม่ได้กล่าวอะไรมาก เพียงเอ่ยว่า “พวกเราไป”
นางยื่นมือออกมาช่วยเยี่ยนจ้าวเกอยกกระบองเทพท่อนนั้น จากนั้นพากันกลายเป็นประกายกระบี่สีแดงก่ำ แล้วหายไปในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด
พวกเขาเคลื่อนไหว พลางซ่อนร่องรอยเพื่อป้องกันความลับรั่วไหล กลับจักรวาลฟ้าฟื้น
รายงานและข่าวจากสถานที่อื่นๆ ด้านนอกส่งมาไม่ขาดสาย
พวกสั่วหมิงจาง เจ้าแม่อู๋ตัง จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ตอนแรกคุมเชิงกับพวกจอมปีศาจเช่นเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ต่อมาหลังทราบข่าวที่เยี่ยนจ้าวเกอกับกายทองมหาเทวะปรากฏตัวบนโถงเซียน เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ก็ต้องการไปยังโถงเซียนแทบจะในทันที
พวกผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าอย่างสั่วหมิงจางลงมือขัดขวาง ดังนั้นสงครามที่เดิมสะกิดเพียงนิดเดียวก็พร้อมเกิดจึงระเบิดอย่างเป็นทางการ
สองฝ่ายสู้รบดุเดือด จนถึงตอนนี้ยังไม่แบ่งผลแพ้ชนะโดยสิ้นเชิง แต่มีข่าวบอกว่า ยอดฝีมือศาสนาพุทธแดนสุขาวดีตะวันตกคอยมองดูอยู่ด้านข้าง
เมื่อมีแรงกดดันที่ฝ่ายที่สามนำมาก สองฝ่ายจึงยากจะสู้ถึงที่สุด แบ่งสูงต่ำอย่างแท้จริง พวกเยี่ยนจ้าวเกอจึงวางใจเล็กน้อย
การทำสงครามติดต่อกันทำให้พวกเขาสิ้นเปลืองพลังมหาชาล ต้องรีบฟื้นฟูกำลัง
หลังกลับจักรวาลฟ้าฟื้น ความคิดของเยี่ยนจ้าวเกอนอกจากการฟื้นฟูตัวเองแล้ว ส่วนใหญ่อยู่ที่อวี่เยี่ยซึ่งได้รับบาดเจ็บหนัก
สถานการ์ณของนางในตอนนี้หนักกว่าอิ๋งอวี่เจินในตอนนั้น เยี่ยนจ้าวเกอต้องพิจารณาอย่างละเอียด ใคร่ครวญมาตรการรับมือ
พวกเกาชิงเสวียนกับหลงซิงเฉวียนแม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บไม่เบา แต่ยังคงวินิจฉัยรักษาอวี่เยี่ยพร้อมกับเยี่ยนจ้าวเกอ
ในที่สุดทุกอย่างในจักรวาลฟ้าฟื้นก็ค่อยๆ สงบลง แต่ว่าในสถานที่อื่น ผลกระทบจากการอาละวาดบนโถงเซียนของเยี่ยนจ้าวเกอเริ่มส่งผลแล้ว
ประโยคแรกตอนที่ราชันพระจันทร์หลิงชิงซึ่งยังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่เห็นเกาหานก็คือ “ครั้งนี้โถงเซียนรับการสวามิภักดิ์ของคนทรยศเฮ่อเหมี่ยนนั่น หรือไม่มีการเตรียมตัวจนทำให้เทวกษัตริย์น้อยบุกถึงที่”
“เซียนสวรรค์มหาชาลคนหนึ่ง พาเซียนกำเนิดสุญญตาเก้าคนกลับมาเฝ้าวังสวรรค์โถงเซียนโดยเฉพาะ อาศัยชัยภูมิซุ่มโจมตี ระหว่างนั้นยังมีสองพระพุทธเจ้าที่เป็นศิษย์อาจารย์อย่างยุทธวิชัยพุทธะกับบุญกุศลพุทธะมาด้วย” เกาหานจุ๊ปากชมเชย
หลิงชิงพอฟัง เนิ่นนานให้หลังค่อยกล่าวเสียงเบา “ในสำนักเต๋าสายหลักของพวกเราในวันนี้ พวกเขาเป็นสายสืบทอดที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว”