ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1535 จากที่ไหนไปที่ไหน
เกาชิงเสวียนกล่าวเช่นนี้ ความจริงกลับไม่เป็นห่วงพวกตัวเอง
สายตาของนางมองไปยังโลกน้ำพุหยก
โจมตีจนฉวีซูกับหวังก่วนถอยไปได้แล้ว พวกเยี่ยนจ้าวเกอต้องฉวยโอกาสถอยหนี ไม่ได้ลำบาก
เพียงแต่โลกน้ำพุหยกที่อยู่ที่นี่กลับต้องประสบภัยพิบัติ
โลกใบนี้เหมือนกับโลกซ้อนโลกและมรกตท่องฟ้าในตอนนั้น ตอนที่ตำแหน่งไม่ได้ถูกเปิดเผย คนอื่นๆ ไม่ทราบตำแหน่งอย่างเป็นรูปธรรมยังพอทำเนา ตอนนี้ตำแหน่งถูกเปิดเผยแล้ว สำหรับคนที่มีจุดประสงค์ร้าย สถานที่เป็นสิ่งที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง คิดสร้างความลำบากง่ายดายยิ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอสะบัดแขน ในมือเพิ่มกระบี่เล่มหนึ่ง คมกระบี่แทงทะลุร่างของนักพรตชราผู้หนึ่ง
“เหตุของวันก่อน ผลของวันนี้” นักพรตชิงจางถอนใจคำหนึ่ง “ชีวิตข้าวางวายด้วยมือของสหายร่วมเส้นทางทุกท่าน ขอให้ทุกท่านอย่าได้สร้างความลำบากให้แก่คนในสำนักข้า”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างสงบนิ่ง “เช่นนั้นก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา เหมือนคำพูดเมื่อครู่ของท่าน ปลูกแตงได้แตง ปลูกถั่วได้ถั่ว”
พูดจบเขาก็สะบัดกระบี่ในมือ ร่างของนักพรตชิงจางกระจายเป็นส่วนๆ ชีวิตดับสิ้นไป
จากนั้นพวกเขาก็ลงไปยังโลกน้ำพุหยกอีกครั้ง
พวกถงซินหลินกับกว่างทงจื่อมาต้อนรับ พอไม่เห็นนักพรตชิงจาง นักพรตจ้าวเจิน และเหยาอวิ๋นเฉิงสามคนต่างลอบถอนใจ แต่ก็ไม่กล่าวอะไรมาก เพียงแต่คำนับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ “โชคดีที่สหายร่วมเส้นทางทุกท่านเอาชนะเส้นทางนอกรีตได้ โลกน้ำพุหยกของพวกเราค่อยปลอดภัยอีกครั้ง”
“ทุกท่านเกรงใจแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอพูดขึ้น “เอาชนะอีกฝ่ายได้ และสังหารกระบี่พุทธะ แก้แค้นให้แก่ท่านปู่ท่านย่า ดีที่มีการช่วยเหลือจากซากสังขารของบูรพาจารย์อวี้ติ่ง”
ซากสังขารของอวี้ติ่งจินหยินตอนนี้ลอยอยู่ด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกอ กลับคืนสู่ความสงบนิ่ง หลับตาลงแล้ว
กลิ่นอายที่แฝงอยู่ด้านใน กับระดับความเจิดจ้าของแสงรอบๆ ตัวกลับคืนสู่ระดับมหาชาลในตอนแรกสุดเช่นกัน
คมกระบี่ของกระบี่หยกครึ่งท่อนนั้นตอนนี้กลับมาอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง
“ผู้อาวุโสสูงส่ง ประคับประคองคนรุ่นหลังเช่นพวกเรา ทำให้การสืบทอดกระแสตรงสายสามพิสุทธิ์สายหลักไม่ขาดลง” เยี่ยนจ้าวเกอคำนับซากสังขารอวี้ติ่งด้วยใจจริง
เฟิงอวิ๋นเซิงกับเกาชิงเสวียนก็เคลื่อนไหวเหมือนกัน
ครั้งนี้สามารถเข่นฆ่าอีกฝ่ายถอยไปได้ ทั้งสังหารกระบี่พุทธะตายคาที่ แก้แค้นให้แก่เยี่ยนซิงถางกับเยี่ยนตี๋ ซากสังขารอวี้ติ่งผลักดันกระบี่ลวงเซียน มีความดีความชอบ
พวกถงซินหลินเห็นดังนั้นต่างกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “บูรพาจารย์คอยปกป้อง พวกเราไม่กล้าลืมเลือนปณิธานก่อนตายของท่านแม้แต่วินาทีเดียว”
คำกล่าวของเยี่ยนจ้าวเกอแสดงถึงท่าทีของตัวเอง
เรื่องราวเร่งด่วนได้แต่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ เพียงอาศัยพลังของซากสังขารอวี้ติ่งสู้ศัตรู ไม่ได้มีความคิดไม่เคารพบรรพบุรุษ และไม่อาจหลอมซากสังขารของอวี้ติ่งจินหยินกลายเป็นร่างแยกของตัวเอง
กลับไม่ใช่นึกถึงความคิดของคนในโลกน้ำพุหยก แต่ว่าอวี้ติ่งจินหยินเป็นผู้ยิ่งใหญ่สายหยกพิสุทธิ์ดั้งเดิม เป็นบูรพาจารย์รุ่นก่อน นี่เป็นความเคารพที่สมควรมีแล้ว
แม้นการสืบทอดของตัวเยี่ยนจ้าวเกอจะไม่ใช่อวี้ติ่งจินหยินถ่ายทอดให้ แต่ว่าเยี่ยนซิงถางผู้เป็นปู่ของเขาคือผู้สืบทอดกระแสตรงของอวี้ติ่งอย่างแท้จริง การบูชาและปกป้องซากสังขารของอวี้ติ่งจินหยินสอดคล้องกับคุณธรรมให้ความเคารพต่อผู้เป็นอาจารย์
แน่นอนว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะต้องนำเอากระบี่ลวงเซียนไป ไม่คิดจะปรึกษากับใคร
พวกถงซินหลินประสบเรื่องราวเมื่อครู่ ก็ไม่ได้หวังจะเก็บกระบี่ลวงเซียนไว้ การเคารพซากสังขารอวี้ติ่งของเยี่ยนจ้าวเกอทำให้จิตใจของพวกเขารู้สึกปลอบประโลมแล้ว
“แต่ว่าอีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือชั้นมหาชาลสองคนถอยไป ตำแหน่งของโลกน้ำพุหยกใบนี้ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป” เยี่ยนจ้าวเกอพูดขึ้น “แม้ไม่ทราบว่าเป็นเวลาไหน แต่ว่าอีกฝ่ายจะต้องมีวันที่กลับมาแน่นอน ไม่ทราบสหายร่วมเส้นทางทุกท่านมีความคิดใด”
“จากที่ไหนไปที่ไหน ค่อยๆ คุยกันได้” ถงซินหลินไม่จำเป็นต้องมองคนอื่น กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “แต่เป็นอย่างที่สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนกล่าวเมื่อครู่ ศาสนาพุทธกับเส้นทางนอกรีตจะต้องกลับมาใหม่ อีกฝ่ายมีมหาชาล พวกเราป้องกันไม่ไหว ถ้าไม่คิดจะทรยศต่อหลักการ เช่นนั้นก็มีแต่ต้องออกจากโลกน้ำพุหยกใบนี้แล้ว”
นางยิ้มเล็กน้อย “ถึงมีคำพูดว่าบ้านเกิดยากแยกจาก อาศัยอยู่ที่นี่เติบโตขึ้นที่นี่ แต่ว่าโลกน้ำพุหยกแห่งนี้เก่าแก่เกินไป อยู่ริมขอบความเสื่อมสลายหลังความรุ่งเรืองสุดขีดแล้ว แม้ไม่มีศัตรูภายนอก ก็คาดเดาออกว่ามันกำลังมุ่งสู่ความพินาศ”
คนอื่นๆ บนโลกน้ำพุหยกเช่นพวกกว่างทงจื่อที่อยู่สองฟากข้างล้วนพยักหน้าแช่มช้า
“ก่อนหน้านี้โลกน้ำดุหยกถูกผนึก พวกเราได้แต่นั่งอมทุกข์ มองดูฟ้าอัสดงมาถึง ทำอะไรไม่ได้สักอย่างเดียว วันนี้ตราผนึกในเมื่อได้รับการแก้ไข แสงอรุณปรากฏขึ้นใหม่ ถ้าหากว่ามีตัวเลือกมากกว่าเดิม ไฉนการละทิ้งโลกน้ำพุหยกใบนี้จะเป็นไปไม่ได้”
ถงซินหลินพูดพลางยิ้มหนักใจ “หลังจากผ่านสงครามเมื่อครู่ แม้จะได้รับการปกป้องจากประกายกระบี่ลวงเซียน ทำให้เขตแดนของฟ้าดินแห่งนี้มั่นคงขึ้นใหม่ แต่โลกน้ำพุหยกที่ย่างเข้าสู่ช่วงสุดท้าย ตอนนี้มาถึงขั้นเหลือเวลาไม่มากแล้ว ไม่อาจรับความอาลัยอาวรณ์ของพวกเราได้อีกต่อไป”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอให้ทุกท่านเตรียมตัวโดยไว”
ถ้าหากคิดจะรับและจัดหาสถานที่ให้แก่คนบนโลกน้ำพุหยก สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ใช่ไม่ได้ แต่จำเป็นต้องวางแผนเตรียมตัวอย่างละเอียด
ถึงโลกน้ำพุหยกจะไม่ใหญ่โตเท่าโลกซ้อนโลกกับมรกตท่องฟ้า แต่ก็ยึดครองดินแดนไพศาล ประชากรยิ่งมีจำนวนมหาศาล
นำพาคนเหล่านี้ไปในช่วงระยะเวลาหนึ่งยังพอว่า แต่คิดจัดหาที่อยู่เพื่อให้อาศัยอยู่ระยะยาว ถ้าไม่มีสถานที่ที่เหมาะสมก็ไม่ได้
ไม่อย่างนั้นหากประชากรจำนวนมากมายขนาดนี้ทะลักเข้าไปในฟ้าเหนือฟ้าหรือมรกตท่องฟ้าจนหมดสิ้น จะเป็นภัยพิบัติอย่างหนึ่งสำหรับคนที่อาศัยอยู่ก่อน
ก่อนหน้านี้แดนเซียนทั้งสามพันของโถงเซียนถูกแดนสุขาวดีบัวขาวแย่งไปแปดร้อย จำนวนคนในนี้ส่วนใหญ่ถูกโถงเซียนเคลื่อนย้ายไปก่อน อพยพเข้าสู่แดนเซียนอีกสองพันสองร้อยที่หลงเหลือซึ่งตนยังเป็นผู้ปกครอง
ทว่าความบาดหมางและข้อพิพาทระหว่างผู้มาจากภายนอกกับคนที่อยู่อาศัยแต่เดิมถึงขั้นโยกคลอนการบูชาของโถงเซียน
หนำซ้ำกลุ่มจอมยุทธ์ขนาดใหญ่โตก็จำเป็นต้องการการชุบเลี้ยงจากทรัพยากรจำนวนมหาศาล ไม่อาจนำมาเฉยๆ
ยอดฝีมือที่ระดับยิ่งสูง ทรัพยากรที่ต้องใช้บนเส้นทางการเติบโตก็ยิ่งเป็นจำนวนน่ากลัวซึ่งทำให้คนธรรมดาปากอ้าตาค้าง
ดังนั้นถ้าจักรวาลฟ้าฟื้นคิดจะรับคนบนโลกน้ำพุหยก เช่นนั้นจะต้องสร้างโลกใบใหม่
สำหรับจักรวาลฟ้าฟื้นที่กำเนิดจากตำหนักโอสถ และยังไม่มั่นคงโดยสมบูรณ์ นี่เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องวางแผนให้เหมาะสม และตั้งใจเตรียมตัว
แน่นอนว่าการรับ ‘ผู้ลี้ภัย’ มีอุปสรรคอยู่มากมาย แต่ก็มีผลดีมากมายเช่นกัน ไม่ได้มีเพิ่มปากไว้รับประทานข้าวอย่างเดียว
ยังไม่เอ่ยถึงว่าที่นี่มีเซียนลี้ลับที่สี่ปราณรวมเป็นวายุอย่างถงซินหลิน และยอดฝีมือระดับเซียนซึ่งเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงของสำนักเต๋าคนอื่นๆ อย่างกว่างทงจื่ออยู่ด้วย
จำนวนคนที่มากมายเพียงนี้ มักหมายถึงการปรากฏขึ้นของอัจฉริยะจำนวนมาก
โถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวสองเส้นทางนอกรีตล้วนชุบเลี้ยงยอดฝีมือที่เทียบได้กับสำนักเต๋าและศาสนาพุทธสายหลักอย่างหวังก่วน อินสือหยาง และฉวีซู เพราะฐานประชากรที่เหนือกว่าสำนำเต๋าสายหลักในปัจจุบัน
ความรุ่งเรืองของสำนักเต๋าสายหลักเป็นภาระหนักและเป็นเส้นทางยาวไกล การชุบเลี้ยงพื้นฐานไม่อาจขาดไป
ปัจจุบันโลกซ้อนโลกประสบภัยพิบัติ สถานการณ์ไม่แน่ชัด หากมีคนในเส้นทางเดียวกันมากมายขนาดนี้และประชากรที่ได้รับการสั่งสอนและอิทธิพลจากสำนักเต๋าสายหลัก พวกเยี่ยนจ้าวเกอย่อมยินดีทีเดียว
“ไม่ทราบตอนนี้บิดาของท่าน...” เพราะมีคนในสำนักไปจัดการเรื่องอพยพ ถงซินหลินกับกว่างทงจื่อจึงอยู่คุยกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
“บิดาอยู่ที่นั่น” เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมองเกาชิงเสวียน ตอนนี้กระบี่ผนึกเซียนกับกระบี่ลวงเซียนอยู่ในมือของนาง
แสงสีแดงก่ำผนึกตัวกลายเป็นจุดแสงเล็กๆ จุดหนึ่งที่ปลายด้ามกระบี่ของกระบี่ลวงเซียน ล่องลอยไม่แน่นอน