ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1541 พัฒนาอย่างเงียบๆ
“หลังจากที่ผู้อาวุโสหลิวแห่งตำหนักขุยสายฟ้าเขานภาเขียว กับเยี่ยนฮูหยินผู้ครองหุบเขาเจิดจรัส อาจารย์ท่านคือประมุขในหมู่คนที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนเป็นคนที่สามในรอบหลายปีมานี้” เมิ่งหวานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากความวุ่นวายจากมารทองแก ดินโบ่ว และน้ำกุ่ย การอาละวาดบนโถงเซียนของเยี่ยนจ้าวเกอ และการกลับมายังสามพิสุทธิ์สายหลักของกระบี่ลวงเซียนกับผนึกเซียน ถึงแม้ว่าจักรวาลฟ้าฟื้นจะมิได้ตัดขาดข่าวสารกับโลกภายนอก แต่ว่าโดยรวมแล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ในเวลาเกือบห้าสิบปีมานี้ ฟ้าเหนือฟ้ามีการขึ้นการลง ความทุกข์ความยินดีและการพรากจาก
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุด ยังเป็นการปรากฏขึ้นของยอดฝีมือระดับสุดยอด
โดยเฉพาะยอดฝีมือที่เลื่อนสู่ระดับเซียน ผลักเปิดประตูเซียน
คนคนแรกที่ก้าวเท้าก้าวนี้ คือหลิวเจิงกู่ผู้ครองตำหนักขุยสายฟ้าเขานภาเขียว อดีตประมุขอีสานของโลกซ้อนโลก
ปัจจุบันบนฟ้าเหนือฟ้า ตำหนักขุยสายฟ้าแห่งเขานภาเขียวเป็นขุมกำลังกล้าแข็งระดับสุดยอดที่ยึดครองแคว้นอุดร
หลิวเจิงกู่ผู้ครองตำหนักตอนอยู่บนโลกซ้อนโลก เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับประมุขที่อาวุโสที่สุด พูดถึงวัยวุฒิ ในหมู่ประมุขสิบทิศบนโลกซ้อนโลกเมื่อครั้งนั้น มีแค่หวังเจิ้งเฉิงประมุขปฐวีที่แก่กว่าเขา
พูดถึงด้านอายุ ความจริงหลิวเจิงกู่เข้าสู่ช่วงปลายของชีวิตแล้ว ถึงอย่างไรจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่อายุยืนอย่างหวังเจิ้งเฉิงก็เป็นกรณีพิเศษที่หาได้ยากมาตั้งแต่อดีต
โดยเฉพาะวรยุทธ์สายตำหนักขุยสายฟ้ายังรุนแรงบ้าคลั่ง อีกด้านหนึ่งของอานุภาพอันกล้าแข็งคือเมื่อแข็งเกินไปก็หักงอได้ง่าย อายุขัยโดยธรรมชาติของหลิวเจิงกู่ ความจริงยังสั้นกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขทั่วไป
เพียงแต่ว่าหลิวเจิงกู่เป็นขิงแก่ร้อนแรง มีนิสัยแข็งกร้าว จิตใจกระตือรือร้น มักทำให้คนมองข้ามอายุของเขาโดยไม่รู้ตัว
ทว่าการย่างเข้าสู่บั้นปลายชีวิตของชายชราผู้นี้ ก็เป็นความจริงที่ไม่อาจโต้แย้ง
ถ้าหากเลื่อนระดับไม่ได้ วันที่อายุขัยสิ้นสุดก็ห่างไปอีกไม่ไกล อยู่ในเวลารร้อยปีเศษ
เทียบกับผู้เข้มแข็งระดับเซียนแล้ว ชีวิตของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ หรือแม้แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขเปราะบางยิ่งกว่า
หลายๆ ครั้งมิใช่แค่ความแตกต่างด้านพลังเท่านั้น ยังมีความแตกต่างมหาศาลด้านอายุขัยด้วย
ทว่าหลังออกจากโลกซ้อนโลก หลิวเจิงกู่ก็พักผ่อนตั้งใจฝึกฝนเป็นประจำ
สามสำนักที่รับสืบทอดวิชาจากจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋อย่างตำหนักขุยสายฟ้าแห่งเขานภาเขียว อารามสูงส่งแห่งเขาเมฆเลือน และหุบเขาเจิดจรัสค่อยๆ มีการติดต่อกัน ภายใต้การช่วยเหลือของเยี่ยนจ้าวเกอและเสวี่ยชูชิง
การออกจากจักรวาลสำนักเต๋า เข้าสู่จักรวาลฟ้าฟื้น ขณะที่ความปลอดภัยและความลับยกระดับขึ้น ฟ้าเหนือฟ้าก็มีการติดต่อกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋มากขึ้นเช่นกัน
แม้นโอกาสจะมีจำกัด แต่ว่าจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เพียงชี้แนะไม่กี่ประโยค สำหรับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ก็ถือว่าล้ำค่าเป็นอย่างยิ่งแล้ว
ดังนั้นคอขวดที่หลิวเจิงกู่ติดมาหลายปี ในที่สุดก็ขยายกว้างขึ้น
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับประมุขที่อาวุโสผู้นี้ก้าวเท้าก้าวสุดท้ายอย่างยินดี ผลักเปิดประตูเซียน ขึ้นสู่ระดับเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่ว
อีกด้านหนึ่ง เสวี่ยชูชิงมารดาของเยี่ยนจ้าวเกอ หลังจากสั่งสมมากพอ ไม่กี่ปีมานี้ก็เลื่อนสู่ระดับเซียนสำเร็จ
เทียบกับหลิวเจิงกู่ เสวี่ยชูชิงย่อมอายุน้อยกว่ามาก
เดิมทีนางก็มีพรสวรรค์มรรคายุทธ์สุดยอดอยู่แล้ว ตอนแข่งขันกับเยี่ยนตี๋บนโลกแปดพิภพ ก็มีแพ้มีชนะ เพียงแค่ด้อยกว่าเล็กน้อย ยังเหนือกว่าพวกฟางจุ่นเสียอีก
ถึงตอนนั้นเจตจำนงดาบของดาบแห่งกฎเกณฑ์ของเยี่ยนตี๋จะยังไม่แสดงออกมา แต่ว่าก็เห็นความสูงส่งด้านพรสวรรค์มรรคายุทธ์ของเสวี่ยชูชิงได้
เพียงแต่ว่านางมีงานอดิเรกหลายอย่าง สมาธิส่วนใหญ่ใช้ไปกับวิชาค่ายกลและศาสตร์อื่นๆ
ช่วงชีวิตก่อนหน้านี้ ในสิบปีมีเก้าปีกว่าๆ ที่อยู่ในสภาพระหกระเหินร่อนเร่ไปทั่ว ต้องซ่อนชื่อแซ่ ทรัพยากรในมือจึงค่อนข้างขาดแคลน
ดังนั้นเสวี่ยชูชิงยามฝึกยุทธ์ ความจริงเสียเวลาโดยอ้อม กลบฝังพรสวรรค์ของนางอย่างรุนแรง
ถึงขั้นที่อาจจะส่งผลต่อระดับความสำเร็จในตอนสุดท้ายของนาง
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ หลังจากสภาพแวดล้อมมั่นคงขึ้น มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง เมื่อเสวี่ยชูชิงตั้งใจฝึกยุทธ์ ก็พลันเปล่งประกายแสงที่น่าตกตะลึงจริงๆ
ตอนที่มรกตท่องฟ้าเข้าสู่ตำหนักโอสถ จักรวาลฟ้าฟื้นถูกบุกเบิกเป็นครั้งแรก เกิดการตั้งฟ้าเหนือฟ้า ห่างจากตอนแยกตัวจากโลกซ้อนโลกเพียงยี่สิบปี เสวี่ยชูชิงก็บรรลุถึงระดับประมุขในหมู่คน
ภายหลังผ่านการสั่งสมในหลายปีมานี้ สุดท้ายฝ่าภัยพิบัติมนุษย์กำเนิดได้อย่างปลอดภัย สำเร็จร่างเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่ว
การผลักเปิดประตูเซียนเมื่อก่อนหน้านี้ของหลิวเจิงกู่กับเสวี่ยชูชิงล้วนเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ของฟ้าเหนือฟ้า
วันนี้เฉาเจี๋ยแห่งเขาโถงทองก้าวเท้าก้าวนี้สำเร็จ ทุกคนย่อมเฉลิมฉลอง
“อาจารย์ก้าวเท้าก้าวนี้ออกได้ จะว่าไปก็เหมือนกับผู้ครองตำหนักผู้อาวุโสหลิวแห่งตำหนักขุยสายฟ้า ต่างได้รับประโยชน์เพราะสภาพแวดล้อมของฟ้าเหนือฟ้าในตอนนี้” ถังหย่งฮ่าวมองเมิ่งหวาน กล่าวเสียงเบา
เมิ่งหวานสีหน้าเป็นปรกติ พยักหน้า “ข้าได้ยินบิดาพูดถึงแล้ว”
ถังหย่งฮ่าวกระจ่างแจ้ง
บิดาของเมิ่งหว่านคือฟู่อวิ๋นฉือจักรพรรดิแพรงาม เซียนจริงแท้ซึ่งเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายเอกพิสุทธิ์
หลายปีมานี้ผาบัวแดงแห่งยอดเขาอัศจรรย์ไปมาหาสู่กับเยี่ยนจ้าวเกอแห่งเขากว่างเฉิง และเฉาเจี๋ยแห่งเขาโถงทองที่เป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายเอกพิสุทธิ์เช่นกัน
ระหว่างสามฝ่ายมีการแลกเปลี่ยน ขุดค้น และฟื้นฟูวรยุทธ์สายเอกพิสุทธิ์อย่างล้ำลึกสุดขีด
ตัวฟู่อวิ๋นฉือในอดีตเป็นเพราะว่าถูกโถงเซียนเส้นทางนอกรีตวางแผนเล่นงาน ทั้งประสบแผนร้ายของหยางเซ่อกษัตริย์เร้นลับแห่งโลกซ้อนโลก หรือก็คือเกาหานราชันพระอาทิตย์ จึงประสบกับภัยพิบัติ
มาวันนี้การต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแพรขาวดำมีผลแพ้ผลชนะมานานแล้ว ฟู่อวิ๋นฉือคิดเดินขึ้นครรลองที่ถูกต้องอีกครั้ง มุ่งหน้าต่อไป ยังต้องวางแผน
ด้านนี้ได้รับการช่วยเหลือจากเยี่ยนจ้าวเกอมากมาย สถานการณ์ในปัจจุบันยิ่งมายิ่งดี
เมิ่งหวานทราบสถานการณ์ในนี้คร่าวๆ ขณะเดียวกันก็ทราบว่า การสืบทอดในสายเขาโถงทองก็พลอยได้รับประโยชน์ไปด้วย
สายของเฉาเจี๋ยและเขาโถงทองโดยพื้นฐานถือกำเนิดจากวิชาครอบฟ้าและกระบี่จักรพรรดิสามกำแพงที่จักรพรรดิจื่อเวยสร้างขึ้น เป็นมรรคากระบี่ที่ถือกำเนิดขึ้นจากวิชามหาวิชาครอบฟ้าซึ่งเป็นหนึ่งในห้าสิ้นสุดหลังกำเนิดแห่งสายเอกพิสุทธิ์
ในฐานะวิชากระบี่ มีความล้ำเลิศโดดเด่น สามารถท้าสู้กับสี่กระบี่ล้ำค่าได้
เพียงแต่ว่ากระบี่จักรพรรดิสามกำแพงสายเขาโถงทองกลับไม่สมบูรณ์
ภายใต้การช่วยเหลือของเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิง หลายปีมานี้เขาโถงทองกำลังสร้างวิธีคืนฟื้นคืนกระบี่จักรพรรดิสามกำแพง ขณะเดียวกันก็อนุมานถึงมหาวิชาครอบฟ้า
มหาวิชาครอบฟ้ากลับไม่แข็งแกร่งเท่ากระบี่จักรพรรดิสามกำแพง แต่เป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นตอ เอาไว้ประกอบการพิจารณา มีส่วนช่วยต่อการฝึกฝนของเฉาเจี๋ยอย่างไม่ต้องสงสัย
การได้ประโยชน์จากในกระบวนการนี้ช่วยเฉาเจี๋ยทำลายคอขวดในอดีตสำเร็จ ฝ่าภัยพิบัติมนุษย์เซียนได้อย่างปลอดภัยเหมือนหลิวเจิงกู่
เมิ่งหวานมีความคิดปราดเปรียว เข้าใจความหมายของถังหย่งฮ่าว “เนินต้นจักรพรรดิไม่มีการเคลื่อนไหวใดเป็นพิเศษ”
ตอนอยู่บนโลกซ้อนโลก จวงเซินประมุขทักษิณในตอนนั้นตายด้วยดาบของเยี่ยนตี๋ หลังจากเขากว่างเฉิงก่อตั้งสำนักบนโลกซ้อนโลก ก็รุกคืบไปทางทิศตะวันตก เข้าสู่เขตเพลิงทักษิณ
เนินต้นจักรพรรดิบนเขาลีลาหงส์ผู้ปกครองเขตทักษิณในตอนแรกถูกกดดันให้อพยพไปอยู่ที่อื่น
ตอนแรกสายสืบทอดของเนินต้นจักรพรรดิคิดจะเคลื่อนย้ายไปยังเขตกระฟ้าประจิม แต่ว่าภายหลังในที่สุดก็ไม่ได้ออกจากทิศใต้
ภายใต้การนำของเหมาหยวนเฉิงผู้รับตำแหน่งเจ้าสำนักคนใหม่ เนินต้นจักรพรรดิก้มหัวให้แก่เขากว่างเฉิง เขากว่างเฉิงก็มิได้เข่นฆ่าจนหมดสิ้น
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะวางแผนอะไรอยู่ ในกาลเวลาหลังจากนั้น ก็สงบเสงี่ยมมาโดยตลอด
ในการแยกตัวจากโลกซ้อนโลก เขตเพลิงทักษิณก็ถูกเยี่ยนจ้าวเกอย้ายเข้ามาในตำหนักโอสถเช่นกัน ภายหลังกลายเป็นแคว้นทักษิณของฟ้าเหนือฟ้า สายสืบทอดของเนินต้นจักรพรรดิหยั่งรากที่นี่
เหมาหยวนเฉิงทำงานอย่างสงวนท่าที ภายใต้ความพยายาสมของเขา เนินต้นจักรพรรดิในปัจจุบันถึงกับมีสภาวะรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้ง