ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1570 กระบี่เล่มสุดท้ายในสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน
พอฟังคำพูดของหยางเจี่ยน เยี่ยนจ้าวเกอก็หวนนึกถึงภาพการแสดงจักรวาลเมื่อครู่
ประกายแสงสีเหลืองหม่นเหยียดออกไปรอบนอก ยังคงอยู่ เหมือนกับซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจักรวาล ในความจริงแล้วครอบคลุมหยางเจี่ยนที่แสดงร่างจริงจากรอบนอก
“มิน่าพี่ร่วมเส้นทางท่านถึงแม้แสดงร่างที่แท้จริง ยังคงมีการจัดเตรียมเช่นนี้ เพื่ออำพรางสถานะเพิ่มนี่เอง” เยี่ยนจ้าวเกอกระจ่างแจ้ง “เพียงแต่ไม่ทราบว่าเป็นความลับใด ต้องทำให้ท่านระวังตัวขนาดนี้”
หยางเจี่ยนยิ้ม “กล่าวไปแล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสหายน้อยเจ้า”
เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้ว “เกี่ยวข้องกับข้า?”
“มิผิด” หยางเจี่ยนเอ่ย “สมควรพูดว่า มีความเกี่ยวข้องกับพวกเจ้ามากกว่า สำหรับข้า แค่ผ่านทางเท่านั้น”
เยี่ยนจ้าวเกอแตะนิ้วกับริมฝีปาก “พี่ร่วมเส้นทางก่อนหน้านี้มีคนเคยพูดกับท่านหรือไม่ว่า นิสัยอมพะนำของท่านนี้ออกจะ…”
หบางเจี่ยนทอดถอนใจกล่าว “ย่อมมีมาก่อน เพียงแต่ตอนนี้ส่วนใหญ่ไม่อยู่แล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินอดถอนใจไม่ได้ “พี่ร่วมเส้นทาง…”
หยางเจี่ยนถอนใจเช่นกัน หลังจากส่ายหน้า ก็กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เรื่องราวเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่พวกเจ้ากำลังวางแผนอยู่ในตอนนี้อย่างแนบแน่นจริงๆ”
“เรื่องที่พวกข้ากำลังทำอยู่ตอนนี้?” เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงดวงตาคมกริบ “สี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน?”
หยางเจี่ยนพยักหน้า “มิผิด ตอนนี้พวกเจ้ามีกระบี่ลงทัณฑ์เซียน ผนึกเซียน ลวงเซียนแล้ว ขาดเพียงกระบี่สังหารเซียนที่อาจารย์ลุงเต้าเหิง เคยถือเมื่อครั้งอดีตเป็นเล่มสุดท้าย”
“แต่ว่า…ตอนเกิดมหาภัยพิบัติ อาจารย์ลุงเต้าเหิงโชคร้ายประสบความลำบาก พิทักษ์ธรรมถวายเป็นมงคลให้แก่สำนักเต๋า กระบี่สังหารเซียนนี้จึงเปลี่ยนเจ้าของคนใหม่”
หยางเจี่ยนกล่าวเสียงทุ้ม “ถ้าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลง เจ้าของคนใหม่ของกระบี่สังหารเซียนในปัจจุบัน ไม่เอ่ยถึงคนอื่น ก็คือเทวกษัตริย์ไร้ประมาณเส้นทางนอกรีตนั่น!”
เยี่ยนจ้าวเกอม่านตาหดตัวเล็กน้อย “กระบี่สังหารเซียนตกอยู่ในมือเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ?”
“มิผิด” หยางเจี่ยนพยักหน้าแช่มช้า “ครั้งกระโน้นอาจารย์ลุงเต้าเหิงตายด้วยน้ำมือของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ข้าได้เห็นด้วยตาตัวเอง ช่วยเหลือไม่ทัน ภายหลังข้าถูกเทวกษัตริย์ไร้ประมาณตามฆ่า หลังจากหนีรอดด้วยอาการบาดเจ็บหนัก ก็ได้อาจารย์อาเสวียนตูแห่งเอกพิสุทธิ์รับตัว สร้างร่องรอยการตายของตัวเอง จากนั้นก็พักฟื้นในวังดุสิต”
ความตกตะลึงบนใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอหายไป พยักหน้าเบาๆ
ระดับเจ้ามรรคา กับต่ำกว่าระดับมรรคา สมควรนับว่าเป็นชั้นที่ใหญ่ที่สุดในความแตกต่างของระดับทั้งหมด
หากบอกว่าต่ำกว่าระดับมรรคาล้วนเป็นมดปลวก บางทีออกจะเกินเลยไปบ้าง
แต่ว่าตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา ยังไม่เคยมีตัวอย่างที่เซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลสามารถปะทะกับเจ้ามรรคาซึ่งหน้าได้อย่างแท้จริง
เทวกษัตริย์วิเศษคณานับที่ฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญ ก็ตายเพราะมารสวรรค์ไร้พันธนา
แต่ว่ายอดฝีมือชั้นหมาชาลระดับสุดยอดที่มีจำนวนน้อยสุดขีด ยามเผชิญกับเจ้ามรรคาก็มิใช่ว่าไร้ความสามารถโต้ตอบโดยสมบูรณ์ เจ้ามรรคาต้องการโจมตีสังหารอีกฝ่าย ก็ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อย
นอกเสียจากว่ามีคู่ต่อสู้ที่ระดับใกล้เคียงกันสะกดเซียนสวรรค์มหาชาลผู้นี้
เหมือนกับตอนที่มหาเทวะเสมอฟ้าท้าสู้เทพเอ้อร์หลางหยางเจี่ยน ถูกเหล่าจวินใช้ห่วงวัชระกระแทกกดกับพื้น ตอนมหาเทวะเสมอฟ้าสู้รบกับมหาเทวกษัตริย์แห่งหยกอย่างดุเดือด ก็ถูกพระยูไลยื่นฝ่ามือออกมาสะกด
ถ้าหากว่าตอนนั้นมหาวิทยราชมยุรีไม่ต้องปะทะกับจุ่นถีเต้าหยินตรงๆ เช่นนั้นย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง บทเรียนของนางก็ได้เตือนผู้มาภายหลังนับไม่ถ้วน
พลังของเทพเอ้อร์หลางหยางเจี่ยนอาจด้อยกว่ามหาเทวะเสมอฟ้ากับมหาเทวกษัตริย์แห่งหยก แต่ว่าเป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดจำนวนไม่กี่คนในระดับมรรคา แตกฉานการเปลี่ยนแปลง ในสถานการณ์ที่สับสนระหว่างมหาภัยพิบัติ เทวกษัตริย์ไร้ประมาณจัดการเขาไม่ได้ ก็ไม่ทำให้คนประหลาดใจนัก
“นอกจากพี่ร่วมเส้นทางกับวังดุสิตแล้ว ไม่มีคนอื่นรู้ว่าเจ้าแม่โฮ่วถู่เสียชีวิตไปแล้วเลยหรือ?” เยี่ยนจ้าวเกอถาม
หยางเจี่ยนพยักหน้า “มิผิด คนที่สังหารสหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่ในตอนนั้น ถูกข้าเชือดทิ้ง ศพของนาง ตอนแรกข้าคิดจะฝังให้ สุดท้ายเจอภัยพิบัติจากเทวกษัตริย์ไร้ประมาณก่อน”
“หลังจากข้าติดตามอาจารย์อาเสวียนตูไปยังวังดุสิต ก็ได้ฝังซากสังขารของสหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่ไว้ในวังดุสิต”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “เช่นนั้นกลับไม่ต้องกลัวว่าจะถูกคนมองออกว่า เจ้าแม่โฮ่วถูที่โผล่ขึ้นมาในวันนี้เป็นพี่ร่วมเส้นทางท่านปลอมตัว”
เขาเงยหน้าเล็กน้อย นวดขมับตัวเองเบาๆ “กระบี่สังหารเซียนถึงกับอยู่ในมือของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ นี่ยุ่งยากแล้ว”
เฟิงอวิ๋นเซิงขมวดคิ้ว “หลังมหาภัยพิบัติ กระบี่สังหารเซียนไม่เคยมีการเคลื่อนไหว ไม่เห็นคนในโถงเซียนเส้นทางนอกรีตใช้ ถ้าหากว่ายังอยู่ที่โถงเซียน เช่นนั้นก็เป็นเทวกษัตริย์ไร้ประมาณเก็บรักษาด้วยตัวเองมาโดยตลอด เขา…กำลังรอให้คนที่ตามหากระบี่เช่นพวกเราบุกไป”
“พวกเราไม่ไป เขาก็ไม่เสียหาย” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำกับตัวเอง “มิน่าก่อนหน้านี้ข้ารู้สึกประหลาดอยู่บ้าง ที่แท้เป็นเหตุผลเช่นนี้เอง”
เขามองเฟิงอวิ๋นเซิง “ครั้งนี้ที่ตามหากระบี่ลงทัณฑ์เซียน เจ้าไม่คิดว่าระดับการให้ความสำคัญของเผ่าปีศาจกับแดนสุขาวดีบัวขาวเหนือกว่าโถงเซียนกับแดนสุขาวดีตะวันตกหรอกหรือ?”
“โถงเซียนกับแดนสุขาวดีะตะวันตกสู้กันอย่างดุเดือด ด้านหนึ่งขาดอินเจียว ด้านหนึ่งขาดฉวีซู แดนสุขาวดีบัวขาวเสียเปรียบยิ่งกว่า” เฟิงอวิ๋นเซิงเข้าใจ “ทางเผ่าปีศาจยิ่งไม่ต้องพูดถึง อย่างน้อยก็มีมหาเทวะเผ่าปีศาจเคลื่อนไหวสามตน ทางด้านแดนสุขาวดีตะวันตกมีอินทรเกตุธวัชราชาพุทธะปรากฏตัว การต่อสู้ในปัจจุบันของสองฝ่าย พวกเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบส่วนหนึ่ง ถึงอย่างไรก็มีกระบี่สังหารเซียนอยู่ในมือแต่แรกแล้ว”
เสียงบดฟันดังมาจากในปากของเยี่ยนจ้าวเกอ “การลงมือเชิงสัญลักษณ์ในครั้งนี้เป็นแค่การอำพราง ทำให้พวกเราไม่เกิดความสงสัย สามารถชิงกระบี่ลงทัณฑ์เซียนมาได้ย่อมประเสริฐสุด ต่อให้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
“ทางโถงเซียนกับแดนสุขาวดีตะวันตกรอพวกเราส่งตัวเองเข้าหาตาข่ายตอนตามหากระบี่สังหารเซียนซึ่งเป็นเล่มที่สี่ แล้วค่อยล้อมพวกเราไว้ ถึงตอนนั้นนอกจากพวกเราแล้ว อาจจะช่วยให้พวกเขารวบรวมสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนกับผังค่ายกลได้ครบ”
เขาประสานมือให้หยางเจี่ยน “ขอบคุณพี่ร่วมเส้นทางที่บอกกล่าว”
หยางเจี่ยนยิ้ม “ล้วนเป็นศิษย์สำนักเต๋า สหายน้อยไม่จำเป็นต้องเกรงใจ”
“คนตายเพราะสมบัติ นกตายเพราะอาหารโดยแท้!” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะขื่นขมคำหนึ่ง “กระบี่สามเล่มกับกระบี่สี่เล่มแตกต่างกันเกินไปแล้ว ถึงแม้ว่าค่ายกลลงทัณฑ์เซียนอันสมบูรณ์จะทำอะไรเจ้ามรรคาไม่ได้ แต่ว่าหากไม่มีเจ้ามรรคาสี่คนก็ทำลายไม่ได้”
“ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่ไม่สมบูรณ์ เทวกษัตริย์ไร้ประมาณสามารถทำลายทิ้งได้แล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอตบหน้าผากของตัวเอง “ซึ่งความจริงก็มิใช่เรื่องที่มิอาจคาดถึง เพียงแต่ก่อนหน้านี้ราบรื่นเกินไป ทำให้พวกเราล้วนเกิดความเพ้อฝัน”
ของวิเศษที่ต้องมีสี่รวมเป็นหนึ่งถึงจะแสดงคุณค่าได้มากที่สุดอย่างสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน คนอื่นๆ ไหนเลยคิดไม่ถึง?
ถึงแม้ว่าในยุคโบราณตอนกลาง เป็นเพราะว่าชื่อจิงจื่อกับเทวกษัตริย์วิเศษคณานับเสียชีวิตติดต่อกัน กระบี่ผนึกเซียนหายไปไร้ที่อยู่ แต่กระบี่สามเล่มที่เหลือยังคงได้รับความสนใจ
ผู้ใดทราบว่ากระบี่ผนึกเซียนจะโผล่ขึ้นมา ณ เวลาใด?
ยังคงเป็นประโยคนั้น หากหาได้ครบล้วนประเสริฐสุด
แต่ถ้าหากตัวเองหามาไม่ครบ นั่นย่อมต้องกันไม่ให้คนอื่นทำสำเร็จ
ขอแค่ชิงมาได้เล่มหนึ่ง ก็เท่ากับทำลายค่ายกลลงทัณฑ์เซียนแล้ว ตนเองไม่ได้มา ก็ไม่ถึงกับกลายเป็นอาวุธในมือคนอื่น หันคมมาคุกคามตนเอง
ก่อนที่อวี้ติ่งจินหยินจะเสียชีวิตได้รักษากระบี่ลวงเซียนไว้ บางทีอาจเป็นความบังเอิญ
กระบี่ลงทัณฑ์เซียตกอยู่ในนพยมโลก กระบี่สังหารเซียนเข้าไปในโถงเซียน เป็นผลลัพธ์ปกติที่เกิดจากการช่วงชิงของทุกฝ่าย
“พี่ร่วมเส้นทางในเมื่อรักษาความลับนี้ไว้ ไม่เปิดโปงแผนการของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ หรือว่าคิดใช้แผนซ้อนแผน?” เยี่ยนจ้าวเกอดวงตาพลันเป็นประกาย มองไปยังหยางเจี่ยน