ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1573 แลกเปลี่ยนวาสนา
พอฟังวาจาของสตรีอาภรณ์งดงาม ชายชราเสื้อคลุมแดงก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “สหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่อายุยืนยาว ต้องเปลี่ยนจากร้ายเป็นดีได้”
“ถ้าหากว่าลู่ยาเต้าจวินกับคนในเขาดาราทะเลดวงดาวไม่ออกเขา พวกเราอาจจจะมีสหายร่วมเส้นทางมากกว่าเดิมเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีได้” สตรีอาภรณ์งดงามกล่าวอย่างเย็นชายอยู่บ้าง
ชายชราเสื้อคลุมแดงตรงหน้านาง คือลู่ยาเต้าจวิน บุคคลในตำนานที่เคยมีชื่อเสียงมาหลายยุคสมัย หนึ่งในตัวตนที่เก่าแก่ที่สุดบนโลกใบนี้ เกิดมาก่อนฟากฟ้า มีรากฐานล้ำลึก
เขามีชื่อเสียงตั้งแต่ยุคบุพกาล แปลงกลายเป็นนกทองพระอาทิตย์ ส่องแสงให้แก่โลก
เจ้าแม่หนี่ว์วาสร้างสรรพสิ่ง เผ่าอีกาทองเลียนแบบรูปลักษณ์และจิตแห่งอิทธิปาฏิหาริย์ของเขา ถือกำเนิดขึ้นมา
ในยุคโบราณตอนต้น เขาแปลงเป็นนักพรตคนหนึ่ง ซึ่งก็คือรูปลักษณ์ในปัจจุบันนี้ เข้าร่วมสงครามสถาปนาเทพ มีชื่อเสียงเกรียงไกร
จนถึงยุคโบราณตอนกลาง ลู่ยาเต้าจวินเข้าสู่แดนอภิรดีศูนย์กลาง แปลงเป็นไวโรจนพุทธะ ผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธไม่กี่คนของแดนสุขาวดีอภิรดีศูนย์กลาง
หลังยุคโบราณตอนกลาง อริยเมตไตรยพุทธะเปลี่ยนแดนสุขาวดีอภิรดีเป็นแดนสุขาวดีบัวขาว ขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้ามรรคา ทำให้เหล่าพุทธะบนแดนอภิรดีออกไป ไวโรจนพุทธะก็อยู่ในนี้ด้วย
แต่ว่าจากไม่ได้เข้ากับแดนสุขาวดีตะวันตก ออกจากศาสนาพุทธ กลายเป็นลู่ยาเต้าจวิน เข้าสู่เขาดาราทะเลดวงดาวใหม่
นอกจากขณะที่มหาจักราวลปั่นป่วนตอนเกิดมหาภัยพิบัติ เผ่าปีศาจแห่งเขาดาราทะเลดวงดาวโผล่ขึ้นมาเพียงแวบเดียว ในยุคสมัยนี้ลู่ยาเต้าจวินกับเผ่าปีศาจเร้ากายเป็นส่วนใหญ่
จนกระทั่งหลายปีมานี้ เผ่าปีศาจในที่สุดก็ออกเขาอีกครั้ง เหยียบย่างขึ้นสู่โลกอย่างเป็นทางการ
กษัตริย์บูรพาไท่อี้สนใจเรื่องราวทั่วไปน้อยครั้ง ปัจจุบันภารกิจทั่วไปบนเขาดาราทะเลดวงดาว ความจริงล้วนเป็นลู่ยาเต้าจวินจัดการ บุคคลอันดับสองแห่งเขาดาราทะเลดวงดาวที่มีชื่อสมกับความจริง และหมายเลขสองแห่งเผ่าปีศาจในตอนนี้
ตามปกติแล้ว เขาเข้าร่วมสงครามไม่กี่ครั้ง ส่วนใหญ่มอบให้จอมปีศาจตนอื่นๆ อย่างเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ และปีศาจลมเหลืองบัญชากการรบ
สภาพที่ออกจากสวรรค์ไท่ซู่ ผละจากเขาดาราทะเลดวงดาวอย่างเช่นตอนนี้ สำหรับลู่ยาเต้าหยินแล้วเห็นได้น้อยยิ่ง
แต่ว่าขณะนี้สตรีอาภรณ์งดงามซึ่งที่แล้วมาอบอุ่นใจกว้าง ไม่เกรงอกเกรงใจต่อยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ที่เก่าแก่ซึ่งเคยอยู่มาทั้งเผ่าปีศาจ เต๋า และพุทธผู้นี้
ลู่ยาเต้าจวินไม่ถือสาคำกล่าวที่เย็นชาอยู่บ้างของสตรีอาภรณ์งดงาม ยังคงกล่าวด้วยรอยยิ้มเรียบเฉย “เรื่องราวมากมายมีปัจจัยคงที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือสหายร่วมเส้นางคนอื่น ต่างก็กระทำตามที่ฟ้าลิขิต”
“สหายโฮ่วถู่รอดพ้นภัยพิบัติ ถือว่าน่ายินดี ท่านกับคนในสำนักเต๋าที่เหลือถ้าหากว่าตามหาพวกข้าเพื่อแก้แค้น ก็ถือว่าสมเหตุสมผล แต่ว่าพวกเราไม่มีทางงอมือรอความตาย ทุกคนก็แค่ต่อสู้กันอีกรอบเท่านั้น”
“เหมือนกับที่ข้าเพิ่งได้ข่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานสหายร่วมเส้นทางเซียนงาวิญญาณได้ตกตายด้วยน้ำมือของสหายร่วมเส้นทางซึ่งเป็นผู้สืบทอดสำนักเต๋า ชดใช้ด้วยชีวิต”
เขาหยีตาพลางเอ่ย “แน่นอนว่า ถ้าต้องการสะสางเหตุและผลจริงๆ ก็ไม่ส่งผลต่อต่อการจัดการผลดีและผลชั่วอื่นๆ ของพวกเรา มิใช่หรือ?”
สตรีอาภรณ์งดงามเงียบงันไม่พูดจา
ลู่ยาเต้าจวินว่า “ก่อนหน้านี้วังหยกปรากฏขึ้นบนโลกอีกครั้ง ไม่ทันไรก็หายไป ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของสหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่ท่านหรือไม่? ถ้าหากบอกว่าโลกนี้ยังมีคนที่สามารถหาวังหยกจนเจอ เช่นนั้นไม่มีใครนอกจากเหล่าจวินแล้ว สหายร่วมเส้นทางออกมาจากวังดุสิต คงจะได้รับคำชี้แนะของเหล่าจวินกระมัง?”
“มิผิด” สตรีอาภรณ์งดงามกล่าวอย่างสงบนิ่ง
นางมองลู่ยาเต้าหยินปราดหนึ่ง “ข้าทราบว่าสิ่งที่เต้าจวินต้องการคืออะไร ตะเกียงเคลือบหยกมายาใบนั้นอยู่ในวังหยกจริงๆ เป็นข้าส่งกลับวังดุสิต”
ลู่ยาเต้าจวินถอนใจ “น่าละอายนัก ทำให้สหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่หัวเราะเยาะแล้ว”
เขาสบตากับสตรีอาภรณ์งดงาม “ไม่ทราบว่าสหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่จะขอตะเกียงเคลือบหยกมายาออกมาให้ข้าชมดูได้หรือไม่?”
“ทำได้” สตรีอาภรณ์งดงามไม่หลบเลี่ยง มองดูดวงตาของเขาตรงๆ กล่าวอย่างผ่าเผย “แต่ต้องให้เต้าจวินนำของสิ่งหนึ่งมาแลกเปลี่ยน”
ลู่ยาเต้าจวินถาม “ไม่ทราบว่าสหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่ต้องการของอันใด?”
“ข้าต้องการพิณชำรุดคันหนึ่ง เต้าจวินยินดีแลกเปลี่ยนหรือไม่?” สตรีอาภรณ์งดงามกล่าวอย่างราบเรียบ
สายตาของลู่ยาเต้าจวินพลันคมกริบ
รอยยิ้มหายไปจากใบหน้า เงียบงันไม่พูดจา
“เต้าจวินถ้าหากรู้สึกว่าเป็นการบังคับกัน จะปฏิเสธก็ได้” สตรีอาภรณ์งดงามกล่าว “ท่านใช่ว่าจำเป็นต้องใช้ตะเกียงเคลือบหยกมายาเท่านั้น แต่ว่านี่เป็นเส้นทางที่ง่ายดายที่สุด เหมาะสมที่สุดมิใช่หรือ? การเก็บพิณคันนั้นไว้ในมือ ก็มิได้รับประกันจะว่าจะสามารถเดินบนเส้นทางเส้นอื่นได้”
ลู่ยาเต้าจวินจ้องมองสตรีอาภรณ์งดงามอยู่นาน พลันถามว่า “สหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่ หรือสหายร่วมเส้นทางอื่นๆ ที่เป็นผู้สืบทอดสำนักเต๋า ทราบที่อยู่ของกระบี่เล่มสุดท้ายในสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนแล้วหรือ?”
“มิผิด” สตรีอาภรณ์งดงามมิได้ปิดบัง ตอบอย่างตรงไปตรงมา
ลู่ยาเต้าจวินได้ยิน สีหน้าผ่อนคลาย ไม่ได้ถามต่อว่ากระบี่สังหารเซียนที่แท้อยู่ที่ใด อีกฝ่ายทราบได้อย่างไร
เขาพยักหน้าแช่มช้า “ขอแค่ข้าได้ของที่ต้องการจากในตะเกียงเคลือบหยกมายา พิณคันนั้นจะเป็นของสหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่ท่าน”
“เช่นนี้ก็ประเสริฐ” สตรีอาภรณ์งดงามพยักหน้าเรียบเฉย หมุนกายจากไป
…
กลางพุทธเกษตรแห่งหนึ่งในแดนสุขาวดีตะวันตก อินเจียวที่ก่อนหน้านี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เวลานี้พาอินทรเกตุธวัชราชาพุทธะที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่าปรากฏตัวขึ้น
นักบวชไป๋ซยงรีบนำพวกเขาเข้าไปในวัด พบทีปังกรพุทธะ
ทีปังกรพุทธะยื่นมือออกมาทิ่มเบาๆ แสงพุทธสมบูรณ์ในอาณาเขตการส่องแสงของตะเกียงโบราณบนศีรษะขยายไปรอบๆ ครอบคลุมอินทรเกตุธวัชราชาพุทธะไว้ด้านใน
อินทรเกตุธวัชราชาพุทธะที่ได้รับบาดเจ็บนั่งขัดสมาธิประนมมือ ถึงแม้ลมปราณจะยังคงอ่อนแอ แต่ว่าค่อยๆ รอดพ้นจากความเป็นความตาย ไม่ถึงกับมรณะลงเพราะอาการบาดเจ็บที่มหาเทวะเสมอฟ้าสร้างขึ้น
จากนั้นทีปังกรพุทธะก็เรียกนักบวชไป๋ซยงให้นำบาตรทองใบหนึ่งมา ในบาตรบรรจุยาลูกกลอน มอบให้อินเจียว
หลังจากอินเจียวขอบคุณทีปังกรพุทธ ก็กลืนยาลูกกลอน นั่งลงกับพื้น ทางหนึ่งรักษาอาการบาดเจ็บ ทางหนึ่งบอกเล่าเรื่องราวรอบหนึ่ง
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การสะสางเหตุและผลรอบนี้ดูเหมือนจะอยู่ที่กระบี่เล่มสุดท้ายแล้ว” ทีปังกรพุทธะฟังเสร็จ ก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “โยมกลับไปพักฟื้นที่โถงเซียน โปรดทักทายเจ้ามรรคาไร้ประมาณแทนอาตมาด้วย”
อินเจียวบอกลา ออกจากพุทธเกษตร
“อาจารย์ วังหยกปรากฏขึ้นบนโลก ไม่สำคัญหรือ?” นักบวชไป๋ซยงออกไปส่งอินเจียวเสร็จ ก็กลับมาถามในวัด
ทีปังกรพุทธะหลับตาครุ่นคิด “เทวกษัตริย์บรรพกำเนิดหลุดพ้น วังหยกก็หายไป ด้านในสมควรไม่เหลือของวิเศษใดแล้ว พวกเขาต้องการได้อะไรจากในวังหยกกัน?”
…
หลังจากเฟิงอวิ๋นเซิงกับเยี่ยนจ้าวเกอบอกลาหยางเจี่ยน ก็กลับจักรวาลฟ้าฟื้น
ระหว่างทาง เยี่ยนจ้าวเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย ใคร่ครวญไม่เอ่ยอะไร
การสนทนากับหยางเจี่ยน จริงปลอมยังไม่ต้องพูดถึง อย่างน้อยทำให้เขามีข้อมูลส่วนหนึ่งเพิ่มมา
พอรวมกับทุกสิ่งที่รู้มาก่อนหน้า เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าม้วนภาพที่ค่อยๆ ชัดเจน แผ่ออกมาตรงหน้าตัวเอง
เพียงแต่มิอาจยืนยันว่านี่เป็นความจริงหรือไม่
“ข้าไปค้นหาร่องรอยที่กระจัดกระจายของนิวาสสถานบูรพาจารย์เทวกษัตริย์ประพฤติเต๋าตามคำชี้แนะของท่าน ได้รับผลลัพธ์ส่วนหนึ่งจริงๆ” เฟิงอวิ๋นเซิงที่ซ่อนอยู่ในตาขวาของเขาเอ่ยขึ้น “น่าเสียดายเรื่องราวบนโลกยากหยั่งคาด บูรพาจารย์เทวกษัตริย์รประพฤติเต๋าประสบความลำบากตั้งแต่ครั้งนั้นเช่นกัน กระบี่สังหารเซียนตกไปอยู่ในมือเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ