ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1583 อุทานว่าปาฏิหาริย์
ไม่เพียงแต่ทั่วทั้งฟ้าเหนือฟ้า แสงห้าสีถึงขั้นพุ่งออกจากเขตแดน กระจายไปทั่วความว่างเปล่าในจักรวาลฟ้าฟื้น
โลกเบื้องล่างจำนวนมากอย่างโลกแปดพิภพกับโลกผืนสมุทรที่เชื่อมกับฟ้าเหนือฟ้า วินาทีนี้สั่นไหว เหมือนกับฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
คนในโลกเบื้องล่างยังไม่ทันมีปฏิกิริยา คนบนฟ้าเหนือฟ้าหลังจากความงุนงงชั่วขณะ พอมองแหล่งที่มาของแสงอัสดง แล้วจับได้ว่าเป็นทิศทางของเขากว่างเฉิง ก็เข้าใจขึ้นมา
บนเขานครหยกในเทือกเขากว่างเฉิง ใบหน้าของเยว่เจิ้นเป่ยซึ่งที่แล้วมาจริงจังเคร่งขรึมปรากฏรอยยิ้มที่หาได้ยาก ประสานมือคารวะไปทางยอดเขาหลักของเทือกเขากว่างเฉิง
หวังผู่ศิษย์ของเขาที่ก่อนหน้านี้หลายปีเลื่อนขึ้นสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ คารวะทิศทางยอดเขาหลักของเขากว่างเฉิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเช่นกัน
ถึงแม้กับเยี่ยนจ้าวเกอในยามปกติจะเรียกกันเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้อง แต่ว่าเวลาที่พิเศษเช่นนี้ พวกหวังผู่และชิวเจียล้วนพูดขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน
“ยินดีกับใต้เท้ากษัตริย์เยี่ยนเลื่อนสู่ระดับเซียนกำเนิดสุญญตา ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด!”
…
บนเขาโถงทอง เฉาเจี๋ยเป็นผู้นำ ด้านหลังยืนไว้ด้วยพวกถังหย่งฮ่าว หลงฮั่นหวา มู่จวิน และแม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์
พวกเขามองแสงรุ้งทั่วฟ้า จิตใจอาจซับซ้อนกว่าคนอื่นๆ บนฟ้าเหนือฟ้าเล็กน้อย
ในฐานะคนที่ได้สัมผัสกับเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิงเร็วกว่าใคร พวกเขาแทบนับได้ว่าเห็นการผงาดขึ้นของเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงด้วยตาตัวเอง
เป็นสักขีพยานให้แก่การกำเนิดของตำนาน จากไม่มีเป็นมี
ขณะนี้ ทุกๆ คนบนยอดเขาโถงทองต่างจับกระบี่ไว้ในมือ คารวะไปยังทิศทางยอดเขาหลักของเขากว่างเฉิงด้วยสีหน้าจริงจัง
“ยินดีกับใต้เท้ากษัตริย์เยี่ยนที่เลื่อนสู่ระดับเซียนกำเนิดสุญญตา ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด!”
…
แคว้นทักษิณในฟ้าเหนือฟ้า บนเนินต้นจักรพรรดิที่สร้างขึ้นใหม่ เหมาหยวนเซิง ‘หงส์์กู่ร้องแดนใต้’ เจ้าสำนักคนปัจจุบัน มองฟากฟ้าทิศเหนือด้วยความหวาดหวั่นอยู่บ้าง
ตอนนี้แสงอัสดงแผ่กระจายทั่วฟ้าดิน แทบมิอาจแยกแยะทิศทาง
แต่เหมาหยวนเซิงย่อมจดจำที่มาของแสงอัสดงได้ว่า มาจากทิศทางยอดเขาหลักของเทือกเขากว่างเฉิง ในดินแดนศูนย์กลางของฟ้าเหนือฟ้าทางทิศเหนือ
พิจารณาถึงคนที่สามารถก่อความเคลื่อนไหวใหญ่โตท่ามกลางยอดฝีมือบนเขากว่างเฉิงในปัจจุบัน ไม่ต้องกล่าวก็ทราบ
คนที่สร้างภัยพิบัติให้แก่เนินต้นจักรพรรดิด้วยมือข้างเดียวผู้นั้น
คนที่สร้างตำแหน่งในปัจจุบันของเขากว่างเฉิงด้วยมือเดียวผู้นั้น
สามารถกล่าวได้ในระดับหนึ่งว่า เป็นคนที่สร้างคุณูปการยิ่งใหญ่เพื่อการพัฒนาของฟ้าเหนือฟ้าในปัจจุบัน เพื่อความรุ่งเรืองอีกครั้งของสำนักเต๋า
เป็นเพราะการปรับปรุงสภาพแวดล้อมโดยรวม น้ำขึ้นเรือลอยตาม เนินต้นจักรพรรดิที่เจอภัยพิบัติมาหลายครั้งก็ฟื้นฟูพลังขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ถึงขั้นที่มีสภาวะเหนือกว่าอดีต
บุญคุณความแค้นที่เกาะเกี่ยวกันในนี้ ยากทำให้คนแยกแยะเข้าใจได้
แต่สิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยก็คือ สองฝ่ายไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันมานานแล้ว
ถึงแม้จะมีคำโบราณกล่าวว่า ดอกไม้มิได้แดงร้อยวัน ฝั่งที่แข็งแกร่งในวันนี้ หนึ่งพันปีหมื่นปีแสนปีให้หลังหากมาดูอีกรอบ บางทีอาจถูกกาลเวลากลบฝัง
ทว่าวันนี้ เหมาหยวนเซิงได้แต่ถอนใจเบาๆ ก้มหน้าลง
“ยินดีกับใต้เท้ากษัตริย์เยี่ยนที่เลื่อนสู่ระดับเซียนกำเนิดสุญญตา ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด!”
…
ศิษย์สำนักเขากว่างเฉิง หลังจากที่ผ่านความยินดีที่หยวนเจิ้งเฟิงเจ้าสำนักคนเก่าได้กลายเป็นเซียน ก็มีความประหลาดใจใหญ่กว่าเดิมมาถึง
ขณะมองแสงอัสดงทั่วฟ้าที่สั่นสะเทือนขวัญวิญญาณ ตอนแรกห้วงสมองของทุกคนขาวโพลน รอได้สติกลับมา ไม่ว่าเป็นชายหญิงเด็กชรา ล้วนส่งเสียงโห่ร้องขึ้น
ในตอนนี้เอง มีปราณสีม่วงมาถึงจากอีกทิศทางหนึ่ง
ปราณสีม่วงหมื่นลี้เหมือนกับทะเลเมฆ แต่ภายใต้การส่องสว่างจากแสงอัสดงห้าสี สีม่วงถดถอยไป ทะเลเมฆเหมือนกับเต็มไปด้วยสีสันต่างๆ
เมฆกระจายออก เผยให้เห็นเงาร่างของคนหลายคน คนนำหน้ามีบุคลิกเปิดเผย เป็นจักรพรรดิแพรในอดีต กษัตริย์แพรฟู่อวิ๋นฉือในปัจจุบัน
ด้านหลังเขาคือพวกฟู่ถิง เมิ่งหวาน และเหอซีสิง
ปัจจุบันผาบัวแดงก็มีสภาพไม่ธรรมดา
เหอซีสิงได้ผลักเปิดประตูเซียน สำเร็จระดับเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่วเร็วกว่าหยวนเจิ้งเฟิง
ส่วนฟู่ถิง ‘บัวแดงสูงส่ง’ ร้องเพลงแห่งชัยชนะ เลื่อนสู่ระดับเซียนเร็วกว่าเขา
สิ่งที่ทำให้ชนชาวโลกต้องอุทานคือ เมิ่งหวานที่ถูกขนานนามว่าเป็นสองสตรีแห่งผาบัวแดงเคียงคู่ฟู่ถิง เลื่อนสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทะมาแต่แรก ทำให้ผู้คนอิจฉาฟู่อวิ๋นฉือที่บุตรีทั้งสองล้วนกอปรด้วยความสามารถและรูปลักษณ์ ดึงดูดให้ผู้สู่ขอจำนวนมากมา จนแทบเหยียบย่ำยอดเขาอัศจรรย์จมลงไปหลายจั้ง
แต่ว่าตอนนี้ ภายใต้การนำของฟู่อวิ๋นฉือ คนบนผาบัวแดงลงจากก้อนเมฆ สีหน้าจริงจัง พากันคารวะเขากว่างเฉิงที่ถูกแสงอัสดงครอบคลุมอยู่
“ยินดีกับใต้เท้ากษัตริย์เยี่ยนที่เลื่อนสู่ระดับเซียนกำเนิดสุญญตา ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด!”
เขาหลังของเขากว่างเฉิง ประตูนิวาสสถานแห่งหนึ่งเปิดออก เยี่ยนจ้าวเกอเดินออกมาจากด้านใน
เขาคารวะพวกเยี่ยนตี๋กับหยวนเจิ้งเฟิงที่มาแต่ไกลก่อน
ในช่วงเวลาพิเศษเช่นนี้ พวกเยี่ยนตี๋กับหยวนเจิ้งเฟิงต่างคารวะคืนเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความจริงใจและความยินดี
จากนั้นคนบนเขากว่างเฉิงก็ต้อนรับพวกฟู่อวิ๋นฉือ ฟู่ถิง และเมิ่งหวานเข้ามา
“ต้องแสดงความยินดีกับผู้อาวุโสฟู่ที่ฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวงสำเร็จ” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
ฟู่อวิ๋นฉือว่า “มีสหายร่วมเส้นทางเยี่ยนกับสหายร่วมเส้นทางเฉาคอยช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นข้ายังต้องติดอยู่ที่เดิมไม่รู้นานเท่าไหร่”
“ผู้อาวุโสฟู่ไม่ต้องเกรงใจ” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “การเพิ่มเซียนลี้ลับให้แก่สำนักเต๋าสายหลักของพวกเรา โดยเฉพาะสายเอกพิสุทธิ์ เป็นเรื่องน่ายินดีร่วมกัน”
ฟู่อวิ๋นฉือว่า “ข้าเดิมทีมินิสัยใจร้อน เมื่อก่อนเป็นเช่นนี้ ปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้ ไม่ได้เยือกเย็นอย่างสหายร่วมเส้นทางเกาแห่งมรกตท่องฟ้า เส้นทางต่อจากนี้ยังต้องคลำกันต่อ ไม่กล้าชักช้า กลับเป็นสหายร่วมเส้นทางเยี่ยนและบิดาของท่านมีการสั่งสมเพียบพร้อม ทุกอย่างเหมือนน้ำรวมตัวเป็นคลอง ระดับยังพุ่งทะยาน ทำให้คนตกตะลึงนัก”
ตอนนี้คนบนฟ้าเหนือฟ้า มรกตท่องฟ้า และฟ้าน้ำพุหยกในจักรวาลฟ้าฟื้นที่นับได้ว่าใกล้เคียงกับระดับเซียนลี้ลับมากที่สุด ก็คือฟู่อวิ๋นฉือ กับเกาเสวี่ยพอและหลงเสวี่ยจี้พี่น้องแห่งมรกตท่องฟ้า
หลงเสวี่ยจี้มีความสามารถล้ำเลิศ พรสวรรค์ด้านวิชากระบี่สูงส่ง คนที่มีพลังต่อสู้แข็งแกร่งเท่าในระดับเดียวกันหายากยิ่ง
แต่ว่าในด้านความเร็วการเพิ่มระดับ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว มิได้เร็วเท่าเยี่ยนตี๋ เนี่ยจิงเสิน อวี่เย่ และเฉินกานหวา
โดยเฉพาะพวกเขายังเป็นผู้ฝึกกระบี่ การพัฒนายากกว่าเดิม
ตอนนี้ถึงแม้จะอยู่ในขอบเขตสูงสุดของระดับเซียนจริงแท้ แต่ก็ยังต้องหล่อเลี้ยงกว่าจะถึงระดับเซียนลี้ลับ
เกาชิงเสวียนหล่อเลี้ยงกระบี่ตอนอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขเป็นพันกว่าปี การสั่งสมล้ำลึกถึงขีดสุด พอเปิดคมก็ข้ามภัยพิบัติมนุษย์เซียน ผลักเปิดประตูเซียน สำเร็จระดับเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่วในทันที
ขณะเดียวกัน เป็นเพราะการซ่อนคมหล่อเลี้ยงกระบี่ก่อนหน้านี้ เขาจึงใกล้เคียงกับระดับเซียนลี้ลับมากกว่าจักรพรรดิศานติ จักรพรรดิอุรุ ฟู่อวิ๋นฉือ กับหลงเสวี่ยจี้
ทว่าวันนี้เกาเสวี่ยพอที่อยู่ในระดับเซียนจริงแท้กำลังซ่อนคมหล่อเลี้ยงกระบี่ ไม่ได้ท้าสู้กับภัยพิบัติสัจพิศวง ดังนั้นจึงตกเป็นฝ่ายตามหลังฟู่อวิ๋นฉือ
ส่วนหลงซิงเฉวียนบิดาของเกาเสวี่ยพอและหลงเสวี่ยจี้ หลังแสดงประกายคมกล้าในอดีตของตัวเอง ก่อนหน้านี้ได้ฝ่าภัยพิบัติปฐมลี้ลับสำเร็จ ห้าปราณมุ่งสู่กำเนิด ขึ้นสู่ระดับเซียนสุญญตา พิสูจน์ว่าครั้งกระโน้นทำไมตนถึงสยบมรกตท่องฟ้า จนกระทั่งเกาชิงเสวียนลงมือค่อยพ่ายแพ้ได้
ต่อจากหลงซิงเฉวียนและเยี่ยนตี๋ ปัจจุบันเยี่ยนจ้าวเกอทำให้ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดสำเร็จ กลายเป็นจ้าวสวรรค์สำนักเต๋าคนที่สามที่กำเนิดขึ้นบนฟ้าเหนือฟ้าในเวลาหลายสิบปีมานี้
เทียบกับเกาชิงเสวียนและหลงซิงเฉวียนสามีภรรยา ความเร็วในการพัฒนาของเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก ย่อมทำให้คนอ้าปากตาข้าง ต้องอุทานว่าปาฏิหาริย์ขึ้นมา!