ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1588 บดขยี้กายทองศาสนาพุทธ!
ตอนนี้จิตใจของจ้าวปีศาจร้อยตาเต็มไปด้วยความท้อแท้
ความสามารถพรสวรรค์ของเขาน่าตกตะลึง มีดาวข่มน้อยนิด ดังนั้นเมื่ออยู่ในระดับเซียน บางครั้งก็สามารถประกอบวีรกรรมต่อสู้ข้ามระดับได้ โด่งดังมาเป็นหมื่นปี
แต่ว่าหลายปีมานี้ เขากลับเจอดาวข่มติดต่อกัน
ก่อนหน้านี้เป็นเฟิงอวิ๋นเซิง ภายหลังมีเยี่ยนตี๋
สองครั้งล้วนถูกคู่ต่อสู้ที่ระดับพลังฝึกปรือต่ำกว่าตนเองกดดันจนตกสู่ห้วงอันตราย
ตอนนี้เขาเผชิญกับตัวเลือกเหมือนตอนที่สู้กับเฟิงอวิ๋นเซิงอีกครั้ง
ถ้าไม่ทุ่มเทเสี่ยงตาย ก็ต้องมองดูตนเองก้าวสู่ความล้มเหลวทีละก้าวๆ โดยทำอะไรไม่ได้
คู่ต่อสู้คนละคน สถานการณ์คล้ายกัน ทำให้ปีศาจที่โด่งดังมาตั้งแต่ยุคโบราณตอนกลางตนนี้ อึดอัดจนอยากกระอักเลือด
“เยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนสองสหายร่วมเส้นทางสมกับเป็นผู้มากพรสวรรค์” เกาหานมองเยี่ยนตี๋พลางถอนใจชมเชย “แต่ว่าสุดท้ายยังเป็นประมุขเหยียบฟ้ายกระดับขึ้นไป เดินจากพื้นฐานที่สหายร่วมเส้นทางสองคนกำหนดไว้ไปไกลกว่าเดิม”
“ข้าผู้แซ่เยี่ยนขอรับคำชมเชยของสหายร่วมเส้นทางเกาแทนบิดา แต่ตอนนี้คล้ายมิใช่เวลากล่าวเรื่องเหล่านี้” เยี่ยนจ้าวเกอมองพระสรรวนิวรณวิษกัมภินโพธิสัตว์ที่อยู่ตรงข้าม ส่งกระแสเสียงถาม “ผลลัพธ์ของสหายร่วมเส้นทางเกาเป็นอย่างไร?”
เกาหานพยักหน้า ส่งกระแสเสียงตอบว่า “ทางข้าพอได้ สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนเล่า?”
“ทางข้าก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “เช่นนี้ รออีกหน่อยค่อยเคลื่อนไหวจะเป็นประโยชน์กว่า สามารถสลัดหลุดได้ในเวลาที่แน่นอน”
สาเหตุที่ไม่เสี่ยงอันตรายด้วยตัวเอง เป็นเพราะเยี่ยนจ้าวเกอต้องการทำลายการไล่ล่าของอีกฝ่ายก่อน เพื่อที่ว่าตอนไปชิงกระบี่สังหารเซียนซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่แท้จริงต่อจากนี้จะมีโอกาสำเร็จเพิ่มขึ้น
ที่ผู้มาเป็นเกาหานมิใช่หลิงชิง มีที่มาจากสาเหตุนี้
หลังจากบรรลุเป้าหมาย ต่อจากนี้สมควรคิดพิจารณาว่าจะถอนตัวอย่างปลอดภัยได้อย่างไร เยี่ยนจ้าวเกอถามว่า “หลังจากบิดาเก็บตะขาบตัวนั้นได้ คนที่เหลืออยู่พี่ร่วมเส้นาทงเกาไม่สะดวกลงมือหรือไม่?”
เกาหานยิ้ม “จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร?”
ขณะที่พูด เขาก็ยกฝ่ามือขึ้น แสงสว่างไร้สิ้นสุดรวมตัว
เพียงแต่เมื่อเทียบกับความบริสุทธิ์และความสว่างจากความสามารถของศาสนาพุทธแล้ว ขณะที่เกาหานยกมือขึ้น ประกายแสงเร่าร้อนกว่า รุนแรงกว่า หนักอึ้งกว่า!
ตอนนี้แม้แต่ดวงอาทิตย์ของจริงก็ไม่ร้อนแรงแยงตาเท่ากับหมัดของเกาหาน
ประกายแสงเจิดจ้า พลังการระเบิดพุ่งใส่ศีรษะของพระสรรวนิวรณวิษกัมภินโพธิสัตว์
กลับเห็นถุงย่ามใบหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน พุ่งเข้าหากานหาน
ถุงย่ามเปิดออก เหมือนกับสามารถบรรจุเอกภพ ต้องการใส่ดวงอาทิตย์ที่ลุกโชนซึ่งเกาหานฟาดลงเข้าไป
นักบวชศาสนาพุทธสามคนไม่ได้เป็นฝ่ายบุกเหมือนจ้าวปีศาจร้อยตา ยามเผชิญกับเยี่ยนจ้าวเกอและเกาหาน ไม่รีบไม่ร้อน วางแผนรับมือด้วยความอดทน
ขอแค่รอมหาเทวะเก้าเศียรกับพระสรรวนิวรณวิษกัมภินโพธิสัตว์ทำลายวิชาลับของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ได้ ก็จะมียอดฝีมือจำนวนมากมาสนับสนุน
หากเจอสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนย่อมประเสริฐ แต่ในเมื่อพวกเยี่ยนจ้าวเกอกล้าเผยโฉม เช่นนั้นก็หาวิธีจับกุมสังหาร ผลลัพธ์ใช่ว่าจะต่ำกว่าสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอโหดเหี้ยมมากกว่าที่พวกท่านคิดไว้มาก
“สิบแปดอรหันต์ สมคำร่ำลือ พระอาจารญ์อิงคท นับถือมานานแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอมองอรหันต์ถุงผ้าที่พุ่งเข้าหาเกาหาน ถอนใจชมเชย “ในอดีตแอนอภิรดีศูนย์กลางเกิดการแบ่งแยก สามสิบห้าพุทธะ ห้าร้อยอรหันต์ สามพันคะเตไม่ทราบสูญเสียเพราะพระศรีอริยเมตไตรยเท่าไหร่ ถึงแม้ศาสนาพุทธจะรักษาพลังไว้ได้ แต่ก็เทียบกับช่วงรุ่งเรืองในยุคโบราณตอนกลางไม่ได้”
เขาทางหนึ่งพูด ทางหนึ่งเดินเข้าหาพระสรรวนิวรณวิษกัมภินโพธิสัตว์และอรหันต์แคะหู
“ได้ยินมานานว่าเหล่าพุทธะล้วนเมตตา ถ้าเป็นเช่นนี้ เมื่อเอาใจเขามาใส่ใจเรา ตอนมหาภัยพิบัติไฉนจึงสร้างความลำบากแก่สำนักเต๋าเรา”
พระสรรวนิวรณวิษกัมภินโพธิสัตว์ยกดอกบัวขึ้นพลางยิ้ม “เพราะเส้นทางไม่เหมือนกัน การบำเพ็ญของพวกเรายังน้อยไป ความทุกข์ที่ทำลายไม่ได้ก็มีมากมาย ทำให้สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนหัวเราะเยาะแล้ว”
“ข้าไม่หัวเราะเยาะ ในเมื่อเส้นทางไม่เหมือนกัน เช่นนั้นสุดท้ายได้แต่ลงมือแสดงความสามารถที่แท้จริงแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอพูดจบ ร่างเหมือนกับขยายใหญ่ขึ้น ในสายตาของนักบวชศาสนาพุทธ ใหญ่จนถมเต็มจักรวาล
เขาก้าวเท้าก้าวหนึ่งออก บรรลุถึงด้านหน้าพระสรรวนิวรณวิษกัมภินโพธิสัตว์ในพริบตาเดียว
ในคลองจักษุของพระสรรวนิวรณวิษกัมภินโพธิสัตว์ อีกฝ่ายใหญ่ขึ้นสุดเปรียบปานกระทันหัน วินาทีนี้ยังเข้าใกล้อย่างฉับพลัน ประสาทรับรู้เหมือนกับท้องฟ้าพลิกคว่ำ ตกลงมาใส่ตัวเอง
ปราณห้ามุ่งสู่ต้นกำเนิด ขึ้นสู่ระดับสุญญตา การฝึกฝนคัมภีร์พลิกฟ้าของเยี่ยนจ้าวเกอเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่จำเป็นต้องยกมือยกเท้า เพียงยืนอยู่เฉยๆ อานุภาพความน่ากลัวของรอยตราพลิกฟ้าก็สำแดงออกมาได้อย่างไร้รูปร่าง กดดันจนความวิเศษของฝ่ายตรงข้ามหายไป
พระสรรวนิวรณวิษกัมภินโพธิสัตว์มีการบำเพ็ญเหนือกว่ายอดฝีมือระดับเดียวกัน ได้สติอย่างรวดเร็ว
ใต้เท้าท่านเกิดอกบัว พลิ้วกายถอยหลัง ออกจากอาณาเขตการสะกดจากรอยตราพลิกฟ้าของเยี่ยนจ้าวเกอ
แต่ในตอนนั้นเอง เยี่ยนจ้าวเกอพลันยื่นฝ่ามือข้างหนึ่งออกมา
การยื่นมือนี่ครอบคลุมร่างทิพย์ของพระสรรวนิวรณวิษกัมภินโพธิสัตว์ไว้ใต้ฝ่ามือตัวเอง!
ทว่าอีกด้านหนึ่ง อรหันต์แคะหูวูบไหวท่าร่าง บรรลุถึงด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกอ จะใช้นิ้วแตะใส่ข้อมือของเยี่ยนจ้าวเกอ
การเปลี่ยนแปลงกระบวนท่านี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ เหมือนกับอยู่ในความคาดหมายของท่านทั้งหมด
ขณะนี้สองฝ่ายเหมือนกับศิษย์พี่ศิษย์น้องที่หักล้างกระบวนท่าอย่างรู้ไส้รู้พุงกันดี เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับจงใจส่งช่องโหว่วของตัวเองไปถึงตรงหน้าอรหันต์แคะหู
อรหันต์แคะหู เทศนาเรื่องใบหู มีชื่อเสียงทั่วพุทธเกษตรแดนสุขาวดี
ใบหูคือการรับรู้ที่เกิดขึ้นจากความตระหนัก เป็นหนึ่งในแหล่งที่มาหกชนิดที่คนใช้ทำความเข้าใจโลก
มีคำว่าหกรากบริสุทธิ์ ใบหูบริสุทธิ์เป็นหนึ่งในนี้
ในศาสนาพุทธนอกจากการไม่ฟังเสียงชั่วร้ายทุกชนิด ยังมีการไม่ฟังความลับของคนอื่น
พระนาคเสนศึกษาเรื่องใบหูจนแตกฉาน จึงมีฉายาว่าอรหันต์แคะหู เพื่อแสดงว่าใบหูบริสุทธิ์
แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากท่านไม่ต้องการให้ใบหูบริสุทธิ์ ฟังความลับของคนอื่น ก็เป็นยอดฝีมือไม่กี่ท่านในนักบวชศาสนาพุทธที่อยู่ในระดับเดียวกัน
แม้นไม่สำเร็จเป็นพุทธะ แต่ความสามารถที่เหมือนอ่านใจได้ของท่าน ก็โด่งดังไปทั่วใต้หล้า
ตอนนี้ท่านใช้ความสามารถปราบมารนี้ แยกแยะการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอล่วงหน้า จากนั้นก็ดำเนินการสะกด
แต่ว่าในตอนที่อรหันต์แคะหูแตะนิ้วใส่ข้อมือของเยี่ยนจ้าวเกอ กลับเห็นเยี่ยนจ้าวเกอพลิกฝ่ามือวูบหนึ่ง!
ความกระทันหันในการเคลื่อนไหวนั้นอยู่เหนือความคาดหมายของอรหันต์แคะหูโดยสมบูรณ์
มิได้หมายความว่างการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอรวดเร็วและสูงส่ง แต่เหมือนกับการเคลื่อนไหวนี้เป็นแผนการแต่เดิมของเยี่ยนจ้าวเกอ
มิใช่เป็นเยี่ยนจ้าวเกอส่งจุดอ่อนของตัวเองไปถึงตรงหน้าอรหันต์แคะหู กลับเหมือนอรหันต์แคะหูจงใจเหยียบหลุมพรางของเยี่ยนจ้าวเกอเอง!
เยี่ยนจ้าเกอกางห้านิ้ว จับนิ้วของอรหันต์แคะหู จากนั้นก็หัก!
เสียงกร๊อบดังขึ้น นักบวชศาสนาพุทธที่เทียบได้กับจ้าวสวรรค์สำนักเต๋าผู้นี้ นิ้วมือพลันหัก
สิ่งที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือ เสียงหักดังไม่ขาดหู ขยายขึ้นไปตามนิ้วของอรหันต์แคะหู จากข้อมือไปจนถึงแขน ไปจนถึงศอก ถึงขั้นที่ขึ้นไปต่อ
แสงสีเขียวสาดขึ้นในม่านตาสองข้างของเยี่ยนจ้าวเกอแล้วหายไปทันที
เขาครอบครองคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต เดิมทีไม่เห็นวรยุทธ์ความสามารถประเภทอ่านใจของศาสนาพุทธในสายตา
หลังจากฝึกฝนคัมภีร์เกิดนภาและคัมภีร์นภาทันใจ เขาถึงขั้นที่สร้างภาพลวง ทำให้อรหันต์แคะหูที่เดิมทียากคาดเดาเขาล่วงหน้า เกิดความผิดพลาดที่น่าขันขึ้น
ตอนนี้ภายใต้หนึ่งฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอ เหมือนกับซ้อนทับพลังของรอยตราพลิกฟ้านับไม่ถ้วน พลิกเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมา ทะลักเข้าไปในร่างของอรหันต์แคะหูทั้งหมด
ถึงแม้จะแค่จับนิ้วเดียวของท่านไว้ แต่ราวกับฟาดรอยตราพลิกฟ้านับไม่ถ้วนใส่ร่างของท่าน
แม้กายทองศาสนาพุทธจะทนทาน แต่พริบตาเดียวก็กลายเป็นเครื่องกระเบื้องที่แตกหักง่าย ถูกเยี่ยนจ้าวเกอบดขยี้เป็นเศษๆ!