ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1593 เหล่าวีรบุรุษรวมตัว
หลังเข้าไปในสายน้ำธารสวรรค์ ตรงหน้าก็เป็นน้ำธารสวรรค์ไร้สิ้นสุดซึ่งไหลเชี่ยวไม่หยุดพัก
สายน้ำเหล่านี้ไม่มีทางแข็งตัว ไม่มีทางระเหย ต่อให้จะอยู่กลางจักรวาล ชิดกับหมู่ดาว อุณหภูมิน้ำก็ไม่เปลี่ยนแปลง ยากจะใช้น้ำตามความหมายธรรมดามาบรรยาย
น้ำในธารยืดยาวไม่ขาดห้วง ทอดตัวชั่วนิรันดร์ ดูเหมือนธรรมดา หากหนักอึ้งสุดขีด
มีคำโบราณกล่าวว่า ‘ฟ้ามีธารเหล็ก ดินมีธารหนัก’
ว่ากันว่าก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่มีธารน้ำชื่อว่าธารหนัก ดูจากความหมาย น้ำในธารหนักสุดขีด ถึงจะเป็นแค่หยดเดียวก็มีน้ำหนักนับหมื่นจวิน
พื้นดินรองรับไม่ไหว เพียงไหลอยู่ใต้ดิน มีชื่อว่าธารหนัก
แต่ว่าน้ำของธารเงินบนฟ้า ยังหนักยิ่งกว่าน้ำในธารหนักอีก
ถ้าไม่ใช่เช่นนี้ คงไม่อาจรองรับดวงดาวที่เมื่อมองอยู่ห่างๆ เล็กจ้อย แต่ความจริงมโหฬารมากมายได้
พลังของพวกเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้มากพอจะทำลายดวงดาว ขณะเดินอยู่ระหว่างธารสวรรค์จึงไร้อุปสรรค
แต่ว่าขณะเดินอยู่ด้านใน เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกายเล็กน้อย เหมือนนึกอะไรได้
เขาไปตามการนำทางของยันต์ ฝีเท้าค่อยๆ ผ่อนช้าลง รู้สึกว่าตนยิ่งมายิ่งใกล้เป้าหมาย
ในที่สุดพวกเยี่ยนจ้าวเกอก็แยกน้ำในธาร มองไกลออกไป เห็นน้ำในธารสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่เชี่ยวกราก ตรงกลางถึงกับเป็นช่องว่างช่องหนึ่ง
ช่องว่างอยู่ห่างจากหมู่ดาว น้ำในธารวนอ้อม
ณ ที่แห่งนั้น กระบี่โบราณเล่มหนึ่งอยู่กลางอากาศ ดูเหมือนธรรมดาไม่พิเศษ
แต่ว่าขอแค่ดวงดาวกับสายน้ำมีแนวโน้มเข้าใกล้ บนกระบี่จะมีปราณสีขาวหลายสายกระจายออกมา จางจนเหมือนกับโปร่งใส แต่ว่าปราณสีขาวนี้กอปรเป็นอาณาเขตบริเวณหนึ่ง ทำให้วัตถุเรื่องราวที่เข้าใกล้มันกำลังพังทลาย
เป็นกระบี่สังหารเซียน หนึ่งในสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน!
ของล้ำค่าสายเหนือพิสุทธิ์แหง่สำนักเต๋า หลังสงครามสถาปนาเทพยุคโบราณตอนต้นได้ตกไปอยู่ในการควบคุมของเทวกษัตริย์ประพฤติเต๋าผู้ยิ่งใหญ่แห่งหยกพิสุทธิ์ จนกระทั่งหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ยุคสมัยนี้ถึงค่อยหายไป
เทวกษัตริย์ประพฤติเต๋าเสียชีวิตไปนานแล้ว วันนี้กระบี่เล่มนี้ในที่สุดก็โผล่ขึ้นตรงหน้าชนชาวโลก
พวกเยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้น ต่างกลั้นหายใจ
ด้วยเงื่อนไงที่ทราบเรื่องอยู่แล้ว ความแตกตื่นยินดีไม่มีอยู่ อีกเดี๋ยวเป็นไปได้ว่าอาจเผชิญอุปสรรคที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ขณะมองกระบี่โบราณในตำนานเล่มนั้น กระบี่เล่มสุดท้ายในสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนปรากฏตรงหน้า การเดินทางหมื่นลี้ขาดเพียงก้าวสุดท้ายนี้ พวกเยี่ยนจ้าวเกออดตื่นเต้นไม่ได้
ทุกคนมองหน้ากัน ต่างพยักหน้า เดินขึ้นหน้าอย่างแช่มช้า
กระบี่ลวงเซียนในมือเยี่ยนจ้าวเกอกับกระบี่ลงทัณฑ์เซียนในมือเกาชิงเสวียนล้วนสั่นไหวเบาๆ
กระบี่ลวงเซียนตรงหน้าสั่นไหวน้อยๆ เช่นกัน
แต่ในวินาทีนี้ ไม่รอพวกเยี่ยนจ้าวเกอเข้าใกล้ สถานการณ์พลันเปลี่ยนแปลงกะทันหัน!
บนกระบี่ลงทัณฑ์เซียนสาดแสงหยกที่สั่นสะท้านขวัญวิญญาณผู้คนสายหนึ่งออกมาทันที
สายน้ำธารสวรรค์ที่ทุกคนอยู่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ยันต์ที่เกิดจากแสงหยกหลายสายปรากฏขึ้นกลางสายน้ำในทันใด โผล่ขึ้นบนดวงดาวแต่ละดวง
กระบี่สังหารเซียนที่ลอยอยู่ในธารน้ำ ภายใต้การส่องสะท้อนของแสงหยก ขณะที่เลอะเลือนถึงกับค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเงามายา เลือนหายไป
สิ่งที่มาแทนที่เป็นประตูหยกขาวบานหนึ่ง เดี๋ยวสูญหายเดี๋ยวปรากฏกลางธารสวรรค์แห่งนี้
กลิ่นอายยิ่งใหญ่สูงไกล อานุภาพแผ่ไพศาลสะท้อนออกมา กดทับจนพวกเยี่ยนจ้าวเกอจนความคิดเนิบช้า แทบขยับเขยื้อนไม่ได้
‘เทวกษัตริย์ไร้ประมาณ!’ ทุกคนรู้ดี
นอกในประตูหยก มิติเวลาเหมือนกับเลอะเลือน
พวกเยี่ยนจ้าวเกอจิตใจเลอะเลือนเล็กน้อย เพียงรู้สึกว่าตนที่ยืนอยู่นอกประตู คล้ายกับเข้าไปในประตูโดยไม่ทราบว่าตั้งแต่ตอนไหน
อานุภาพระดับมรรคาแสดงออกมาอย่างหมดจดในวินาทีนี้
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณถึงขั้นไม่ได้ลงมายังธารสวรรค์แห่งนี้อย่างแท้จริง แต่กระบี่สังหารเซียนที่ถูกวิชาลับของเขาหลอมเปลี่ยนและพิธีกรรมที่ได้วางไว้ เกิดการกลับตาลปัตร ต้องการจับพวกเยี่ยนจ้าวเกอไปอยู่ด้านข้างเขา
ทว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอเตรียมตัวไว้แต่แรกแล้ว
น้ำในธารสวรรค์แหวกออก ขณะความว่างเปล่าสั่นสะเทือน ตัวตนที่แข็งแกร่งมากมายมาถึง
มีร้อนแรงดุจเพลิง มีเย็นเยือกดุจกระบี่ มีคำรามครืนครันดุจสายฟ้า มีหนักอึ้งเหมือนพื้นดิน
พอถูกแสงหยกในธารสวรรค์สาดใส่ ภาพที่น่าอัศจรรย์เหล่านี้แยกกันถอดความอัศจรรย์ทิ้งหลายส่วน แสดงร่างที่แท้จริงออกมา
คนหนึ่งในนี้เดินนำหน้า รูปร่างสูงใหญ่ ไว้ผมสั้นเกรียนที่แตกต่างกับธรรมเนียมบนโลก เส้นผมตั้งขึ้นเป็นเส้นๆ ใบหน้าองคาพยพทรหดแน่วแน่ ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยความรู้สึกร้อนแรง
สั่วหมิงจาง ราชันพระอังคารที่ไม่ได้พบกันนาน!
“ตัด!” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น บุรุษผมสั้นตั้งฝ่ามือเหมือนดาบ แล้วฟันใส่อากาศ
แสงหยกหลายสายในธารสวรรค์หลุดร่วงออกไปรอบๆ เหมือนกับแถบแสงที่แตกสลาย
การจับพวกเยี่ยนจ้าวเกอของประตูหยกถูกขัดขวางกลางคัน
ขณะเดียวกัน เจ้าแม่อู๋ตังที่สวมอาภรณ์สีขาว สภาวะยอดเขาเดี่ยวกระบี่คมทำให้คนเหมือนเงยหน้ามองเขาสูง สืบเท้ามาถึงใกล้ๆ ก้าวหนึ่ง ยื่นมืออกมาคว้าใส่กระบี่สังหารเซียนที่เหมือนลวงเหมือนมายา และกำลังจะหายไปเล่มนั้น
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ที่สวมมงกุฎกับมารดาแห่งแผ่นดินที่ใส่อาภรณ์งดงาม ปรากฏกายขึ้นพร้อมกัน
เทวกษัตริย์สำนักเต๋าทั้งหลายที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันมาถึงอย่างพร้อมเพรียง!
ทว่าประตูใหญ่หยกขาวที่สั่นสะเทือนจักรวาล ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนจากลวงเป็นจริง
พร้อมกับที่พลังของอีกฝ่ายยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง สภาวะยิ่งมายิ่งชัดเจน ก็ขัดขวางการหยิบกระบี่ของเจ้าแม่อู๋ตัง
เทวกษัตริย์ไร้ประมารตัดสินใจว่าจะเอาร่างจริงมาที่นี่!
ในตอนนั้นเอง เสียงเซียนลอยอ้อยอิ่ง พระอาจารย์เสวียนตูที่นั่งบนบัวปัทมาสน์เก้าสี มีฉัตรกระเรียนสิบตัดขาดคลุม โผล่ขึ้นบนห้วงน้ำธารสวรรค์
เขาใช้สองมือประคองพิณโบราณคันหนึ่ง บนพิณมีสายพิณสี่เส้น
พระอาจารย์เสวียนตูไม่ได้ดีดสายพิณ แต่ประคองพิณโบราณพร้อมกับเดินเข้าไปในประตูหยก!
วินาทีนี้เหมือนกับมีพลังไร้รูปร่างดีดสายพิณ
เสียงเวิงดังขึ้น สายพิณที่เหลือบนพิณโบราณขาดไปเส้นหนึ่ง!
สายพิณเส้นนี้พอขาด พลันเห็นแสงสว่างสายหนึ่งลอยขึ้นมาจากบนพิณชำรุด กลายเป็นรูปยันต์แปดทิศก่อนกำเนิดขนาดมหึมาใบหนึ่ง หยุดการเปลี่ยนจากลวงเป็นจริงของประตูหยก
แสงหยกระหว่างจักรวาลเหมือนกับผนึกแข็ง
กระบี่ลงทัณฑ์เซียนที่ตอนแรกกำลังจะหายไป ถูกหยุดไว้กับที่
เจ้าแม่อู๋ตังลงมือทันที หยิบกระบี่ลงมา
สี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน ตอนนี้ในที่สุดก็กลับสู่มือผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์อีกครั้ง!
หลังมาอยู่ในมือเจ้าแม่อู๋ตัง กระบี่สังหารเซียนยังคงสั่นไหว ผิวของคมกระบี่มีแสงหยกไหลเวียน
กระบี่นี้ถูกเทวกษัตริย์หลอมเปลี่ยน วินาทีนี้นายของมันความจริงยังคงเป็นเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
แต่ว่าเจ้าแม่อู่ตังสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน พร้อมกับที่หยิบกระบี่สังหารเซียนลงมา กระบี่อีกเล่มก็โผล่ขึ้น
กลับเป็นกระบี่แหนเขียว!
หลังจากเทวกษัตริย์รัตนวิเศษสายเหนือพิสุทธิ์หลุดพ้น กระบี่เล่มนี้ตกมาอยู่ในมือเจ้าแม่อู๋ตัง ครั้งกระโน้นเหล่าเจ็ดปราชญ์ท่องมรกตเช่นพวกเกาชิงเสวียนสร้างมรกตท่องฟ้าก็เคยใช้พลังของกระบี่เล่มนี้
กระบี่แหนเขียวพิเศษเป็นอย่างยิ่ง แตกต่างกับสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน เจ้าแม่อู๋ตังยากจะใช้มันเป็นอาวุธต้านทานศัตรู
แต่กระบี่เล่มนี้มีความน่าอัศจรรย์ วินาทีนี้แสดงความสามารถ เจ้าแม่อู๋ตังวางมันไว้กับกระบี่สังหารเซียน
พอถูกประกายกระบี่ของกระบี่แหนเขียวสาดใส่ แสงหยกบนกระบี่สังหารเซียนพลันเริ่มหายไปอย่างช้าๆ!
“พิณฝูซีชำรุด”
เวลานี้ แว่วเสียงหนึ่งดังขึ้นกลางจักรวาล ล่องลอยห่างไกล ยากแยกแยะว่าเป็นหญิงชาย เหมือนดังมาจากประตูหยก คล้ายดังขึ้นข้างหูคนทุกคน น้ำเสียงสงบไร้ระลอกคลื่น ไม่มีการกระเพื่อมใดๆ
“ยังเหลือสามเส้น”
พร้อมกับที่เสียงดังขึ้น เห็นแสงหยกที่ผนึกแข็งเริ่มมีชีวิตชีวา รูปยันต์แปดทิศก่อนกำเนิดบนประตูหยกขาวบานนั้นเริ่มพร่ามัว
ประตูหยกค่อยๆ ชัดเจน
ขณะเดียวกัน พลันมีเสียงสวดมนต์ทั่วฟ้าดังขึ้น
น้ำในธารสวรรค์แยกออก แสงพุทธส่องสว่าง ไร้สิ้นสุดไร้ประมาณมาถึงที่นี่เช่นกัน