ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1607 มือยกกระบี่ลง!
สายพิณที่เหลืออยู่บนพิณฝูซีขาดลงตามลำดับ จนสายสุดท้ายก็ไม่เหลือ
แสงสว่างกะพริบ รูปยันต์แปดทิศรูปหนึ่งสว่างขึ้นอีกครั้ง ปกคลุมท้องฟ้าและดวงตะวัน ครอบคลุมท้องนภา
บัวเขียวกลับคืนสู่ความสงบ ทว่าสงครามตรงหน้ายังคงดำเนินต่อ
พอเห็นว่าสายพิณเส้นสุดท้ายขาดลง ไม่ว่าจะเป็นคนในศาสนาพุทธ หรือเหล่าปีศาจจากเขาทะเลล้วนรู้สึกได้ว่า ตอนนี้เหลือเวลาช่วงสุดท้ายแล้ว
อีกสักพัก ที่นี่จะต้อนรับการมาถึงของอามิตาภพุทธเจ้า
สงครามของทั้งสองฝั่งโกลาหลกว่าเดิม และดุเดือดกว่าเดิม
มหาเทวะเสมอฟ้า มหาวิทยราชมยุรี ทีปังกรพุทธะ สั่วหมิงจาง เฟิงอวิ๋นเซิง หยวนหง หยางเจี่ยน เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ยุทธวิชัยพุทธะ มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ เยี่ยนตี๋ กุศลวิจิตรพุทธะ…ทุกคนล้วนสู้กันอย่างรุนแรง
ลู่ยาเต้าจวินที่ก่อนหน้าถูกมหาเทวะเสมอฟ้าทำร้าย ตอนนี้ไม่สนใจว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส กัดฟันเข้าสู่สนามรบ เตรียมตัวลงมือ
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กับจักรพรรดิโกวเฉินเพิ่งหลุดจากแสงศักดิ์สิทธิห้าสี ไม่มีเวลากล่าวมากความ รีบขัดขวางลู่ยาเต้าจวิน ทั้งต่อสู้กับบุญกุศลพุทธะ เซียนหัวมังกร และหนอนเก้าเศียร
ด้านในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน เวลานี้เจ้าแม่อู๋ตังฝืนนั่งขัดสมาธิ ลมปราณยังคงอ่อนแรงสุดขีด เหมือนกับใกล้จะสิ้นชีวิต
เกาชิงเสวียนร่างจริงอาศัยพลังทั้งหมดในกระบี่แหนเขียว เร่งการหลอมเปลี่ยนแสงหยกจุดสุดท้ายบนกระบี่สังหารเซียน
เยี่ยนจ้าวเกอร่างจริงควบคุมค่ายกลลงทัณฑ์เซียนกับร่างแยกของเกาชิงเสวียน
เวลานี้กลับเห็นนักพรตชุดดำคนหนึ่ง ทางหนึ่งมองมหาเทวะเสมอฟ้ากับมหาวิทยราชมยุรีในศึกดุเดือดอย่างระมัดระวัง ทางหนึ่งเข้ามาในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
เป็นเซียนเมฆดำไปแล้วกลับมา!
เมื่อครู่เขาหลบหลีกเพราะมหาวิทยราชมยุรี ไม่กล้าปะทะกับอีกฝ่าย
แต่ตอนนี้มหาวิทยราชมยุรีถูกมหาเทวะเสมอฟ้าขัดขวาง สองฝ่ายกำลังสู้รบกันดุเดือด ความคิดของเซียนเมฆดำเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นอีกครั้ง
ลู่ยาเต้าจสวินแม้ได้รับบาดเจ็บ ก็ยังทำให้จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋และจักรพรรดิโกวเฉินไม่อาจดูแคลน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุญกุศลพุทธะอยู่ด้วย
ตอนนี้เซียนเมฆดำถึงกับเป็นอิสระ คว้าโอกาสไว้ พุ่งเข้ามาในค่ายกลลงทัณฑ์เซียนใหม่ หมายจะใช้ช่องโหว่ว
เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในค่ายกลเห็นดังนั้น กลับหัวเราะฮ่าๆ
“เซียนเมฆดำ ปรโลกไร้เส้นทาง ท่านกลับทะลวงเข้ามาแล้ว!”
“หือ?” เซียนเมฆดำที่เพิ่งเข้ามาในค่ายกล รู้สึกได้ว่ามีปราณสังหารคุกคามคน แม้ว่าเขาจะรู้จักผังค่ายกลลงทัณฑ์เซียน จิตใจก็เกิดเงาแห่งความตาย
ความรู้สึกนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับตอนที่เขาทะลวงเข้ามาในค่ายกลเมื่อครั้งก่อน
การเข้ามาในครั้งก่อน เขาไม่ใช่ผู้คุมค่ายกล แม้จะลำบาก แต่ว่าสามารถเคลื่อนไหวไปด้านหน้า มิได้มีความรู้สึกอันตรายเหมือนจิตสังหารกรายถึงศีรษะเช่นตอนนี้
ขณะนี้กลับเหมือนเป็นอย่างที่เยี่ยนจ้าวเกอพูด คล้ายกับว่าตนทะลวงเข้ามาในดินแดนอันตรายที่มีแต่ความตายรออยู่
เซียนเมฆดำแตกตื่น เห็นขณะที่แสงทองและหมอกเหลืองแผ่พุ่งในค่ายกล ประตูที่ตั้งอยู่บนแท่นสี่แท่น ก็เสถียรมั่นคงแล้ว
บนคานประตูของประตูสามบาน ลอยไว้ด้วยกระบี่ลงทัณฑ์เซียน ลวงเซียน และผนึกเซียน ประกายเย็นเยียบหนาวเหน็บ
นอกจากนี้ยังมีบนคานของประตูอีกบาน ก็ปรากฏเงามายาของกระบี่สังหารเซียนแขวนลอยอยู่
ตอนนี้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนเริ่มทำงาน สำแดงอานุภาพ ไหนเลยยังมีลักษณะไม่มั่นคงเช่นก่อนหน้า?
‘ก่อนหน้านี้ยังวัดกำลังกับค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งอยู่แท้ๆ…’ เซียนเมฆดำพลันนึกอะไรได้ สีหน้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เห็นลมโรคาสีดำสนิทที่ก่อนหน้านี้กระจายทั่วธารสวรรค์ สลายหายไปมากแล้ว
น้ำในธารสวรรค์มิได้ขุ่นเท่ากับก่อนหน้า กระจ่างใส่กว่าเดิมไม่น้อย
ดวงดาวหลายจุดลอยจมกลางน้ำในธารสวรรค์อีกครั้ง บัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฏ
ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนยิ่งมายิ่งมั่นคง ยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง
ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งกลับตรงกันข้าม ยิ่งมายิ่งอ่อนแอ!
คนอื่นๆ ที่กำลังทำศึกใหญ่ในธารสวรรค์ ต่างพบการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงนี้
ทุกคนมองมหาเทวะเสมอและฟ้ามหาวิทยราชมยุรีที่สู้กันไม่สนใจคนรอบข้างอีกครั้ง ไหนเลยยังมีเหตุผลที่ไม่เข้าใจ?
ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนอาศัยสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนกับผังค่ายกลกางค่ายกลขึ้นมา แตกต่างกับค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งที่การกางค่ายกลต้องใช้ชัยภูมิอย่างสายน้ำในธารสวรรค์แห่งนี้
จากนั้นผู้เข้มแข็งในระดับมหาชาลสองคนต่อสู้กัน ไร้ข้อกริ่งเกรงใด ปะทะกันอย่างหักโหม จนธารสวรรค์ขาด ความว่างเปล่าถูกทำลายติดต่อกัน
ถึงจะเป็นฝีมือของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งระดับมรรคา แต่ว่าตัวเทวกษัตริย์ไร้ประมาณถึงอย่างไรก็ยังมาไม่ถึง
รากฐานของค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลร้ายแรงต่อการแสดงความสามารถของมัน
พอมีด้านหนึ่งลดด้านหนึ่งเพิ่ม อีกด้านหนึ่งในการวัดกำลังกันของค่ายกลสองค่าย ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนย่อมเป็นเรือลอยตามน้ำขึ้น สุดท้ายสะกดค่ายกลลงแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง!
สองฝ่ายต่อสู้กันมาโดยตลอด ด้านหนึ่งแข็งแกร่งขึ้น ย่อมสะกดอีกฝ่ายอีกขั้น เหมือนตีเมืองยึดพื้นที่ไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งคว่ำอีกฝ่ายได้โดยสมบูรณ์
ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนยิ่งแข็งแกร่ง ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งก็ยิ่งอ่อนแอ
ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งยิ่งอ่อนแอ ค่ายลลงทัณฑ์เซียนก็ยิ่งได้เปรียบ ข้อได้เปรียบยิ่งมายิ่งมาก จนกระทั่งเกิดสภาวะที่ต้านไม่อยู่!
ต่อให้ขาดกระบี่สังหารเซียนไปเล่มหนึ่ง การคุกคามของค่ายกลลงทัณฑ์เซียนต่อศัตรูที่อยู่ต่ำกว่าระดับมรรคา ยังคงยิ่งใหญ่
เซียนเมฆดำรีบร้อนถลันไปด้านหน้า ผลลัพธ์กับเหยียบเข้าไปในค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่ยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง!
“ความโลภบังตา หรือไม่ใช่ส่งชีวิตนี้ไป?” เซียนเมฆดำถอนใจจนปัญญา ได้แต่รีบถอยหลับ
เยี่ยนจ้าวเกอผลักดันวิชากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ในค่ายกล เจตจำนงกระบี่กลายเป็นแสงสายฟ้า กระแทกเข้ากับสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนที่ลอยอยู่เหนือประตูนั้น
สี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนถูกแสงสายฟ้าสั่นสะเทือน พลันเกิดแสงสายฟ้าขึ้น
เจตจำนงกระบี่อันน่าสะพรึงกวาดไปรอบๆ ประกายกระบี่ที่น่ากลัวตกลงเหมือนกับห่าฝน ฟันใส่เซียนเมฆดำที่อยู่ในค่ายกล!
เซียนเมฆดำตื่นตระหนก ได้แต่ปลุกปลอบจิตใจ อาศัยความเข้าใจที่มีต่อผังค่ายกลลงทัณฑ์เซียนของตัวเอง เคลื่อนย้ายในค่ายกล หลบหลีกประกายกระบี่
แม้เขาจะมาจากเหนือพิสุทธิ์ ทั้งยังเคยดูผังค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ตอนนี้ก็เกิดอันตรายรอบด้าน
ด้านในน้ำ นักพรตเสื้อคลุมดำหายไป ปลาเอ๋าหนวดทองขนาดมหึมาปรากฏ ลอยๆ จมๆ หลบซ้ายซ่อนขวา ยังคงถูกประกายกระบี่เสียดสีผ่าน เกล็ดหลุดออกมาอย่างต่อเนื่อง
ด้านนอกค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ไม่ว่าจะเป็นเหล่าพุทธแห่งแดนสุขาวดีหรือพวกปีศาจากเขาทะเล พอเห็นค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่เริ่มตั้งขึ้น ล้วนหนังศีรษะชา
ถึงจะขาดกระบี่สังหารเซียนไปเล่มหนึ่ง แต่รอจนค่ายกลทำงานโดยสมบูรณ์ มหาวิทยราชมยุรีก็ไม่มีความมั่นใจที่จะทะลวงเข้าไปเช่นกัน
ทีปังกรพุทธะส่งเสียงสรรเสริญคุณ แยกมุกค้ำทะเลหกชิ้น โปรยไปรอบๆ ซ่อมแซมธารสวรรค์ที่เสียหาย
หกชิ้นไม่พอ รีบแบ่งไปอีกหกชิ้น
ทว่าสภาวะโจมตีของสั่วหมิงจางพลันสูงขึ้น กดดันจนทีปังกรพุทธะแบ่งแยกสมาธิไม่ได้
ศาสนาพุทธกับเผ่าปีศาจได้แต่พยายามถ่วงเวลา คิดจะรั้งคนในสำนักเต๋าไว้ที่นี่
รูปยันต์แปดทิศที่เกิดจากสายพิณเส้นสุดท้ายของพิณฝูซี เปลี่ยนเป็นจางลง กำลังจะหายไป
ด้านในค่ายกล เยี่ยนจ้าวเกอยืดตัวลุกขึ้น หยิบกระบี่ลงทัณฑ์เซียนที่แขวนลอยอยู่บนประตูบานหนึ่ง เดินเข้าหาเซียนเมฆดำด้วยตัวเอง
บนประตูปรากฏเงามายาของกระบี่ลงทัณฑ์เซียน กระบี่วิเศษสี่เล่มสองจริงสองปลอมยังคงลอยสูงกลางค่ายกล ประกายกระบี่หลายสายผลัดกันตกลงมา พุ่งใส่เซียนเมฆดำจนต้องหนีเปิดเปิง คิดจะออกจากค่ายกลแต่ทำไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอวูบไหวร่าง พลันบรรลุถึงด้านข้างเซียนเมฆดำ มือถือลงทัณฑ์เซียน แล้วแทงกระบี่ลงใส่!
เซียนเมฆดำรีบร้อนหลบหลีก ท่าย่างก้าวที่เคลื่อนไหวในค่ายกลลงทัณฑ์เซียนจึงปั่นป่วน
แสงสีทองนับพันนับหมื่นส่องระยิบระยับในค่ายกล แทงทะลุร่างของเซียนเมฆดำ!
ปลาเอ๋าหนวดทองขนาดใหญ่โตเกือบถูกแยกศพ
เขาเจ็บจนร้องคำราม ปลุกปลอบความกล้าสุดท้าย คิดพุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอเอียงตัวหลบ ขณะเดียวกันก็ยกกระบี่ขึ้น ภายใต้ประกายกระบี่สีเขียว ฟันศีรษะของปลาเอ๋าขาดในกระบี่เดียว!