ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1611 มีคนยินดีมีคนกังวล
สวรรค์หลีเฮิ่น
วังดุสิต
ขณะมองดูแดนเซียนอันน่าอัศจรรย์แห่งนั้นแต่ไกล คนในค่ายกลลงทัณฑ์เซียนแม้จะไม่เคยมายังที่แห่งนี้ ตอนนี้จิตใจมีชื่อของวังดุสิตโผล่มาโดยไม่รู้ตัว
จากนั้นในห้วงสมองก็มีชื่ออีกชื่อหนึ่งโผล่มา
ไท่ซ่างเหล่าจวิน(ผู้เฒ่าสูงส่ง)
ในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ประตูหยกกับบัวขาวไม่อาจชิงกระบี่แหนเขียวที่เป็นหางเสือ ไม่อาจขัดขวางไม่ให้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนเคลื่อนที่ไปด้านหน้าต่อ
หลังจากมาถึงสวรรค์หลีเฮิ่น ในที่สุดพวกเขาก็ยังออกจากค่ายกลลงทัณฑ์เซียน มิได้เข้าไปด้านในพร้อมกับค่ายกลและพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
ประตูหยกกับบัวขาวลอยอยู่ด้านนอกฟากฟ้า เห็นค่ายกลลงทัณฑ์เซียนค่อยๆ หายไป แสงสีทองกับหมอกสีเหลืองกระจายตัว กระบี่โบราณสี่เล่มร่วงลง ร่องรอยสูญหาย
ประตูของวังดุสิตที่มองภายนอกดูธรรมดาเปิดออก พวกเยี่ยนจ้าวเกอเข้าไปด้านในตำหนักโดยมีพระอาจารย์เสวียนตูนำทาง
ขณะนี้ ในสายตาของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์ เพียงหวั่นเกรงต่อการดำรงอยู่อย่างหนึ่ง
ด้านข้างเตาโอสถขนาดมหึมาใบหนึ่งด้านในวังดุสิต มีชายชราสวมเสื้อนักพรต กำลังนอนเอียงข้างงีบหลับ เหมือนไม่รู้สึกถึงทุกสิ่งที่บังเกิดในโลกภายนอก
ระฆังโบราณกับบัวเขียวได้รับผลกระทบจากธงหกวิญญาณ ถูกลากถ่วงฝีเท้า หลังเห็นค่ายกลลงทัณฑ์เซียนเข้าไปในสวรรค์หลีเฮิ่น ก็ไม่ไปต่ออีก หมุนรอบหนึ่ง จากไปทางใครทางมัน แยกกันกลับสู่เขาดาราทะเลดวงดาวและแดนสุขาวดีตะวันตก
ปัทมาสน์สีขาวผละจากประตูหยก กลับแดนสุขาวดีบัวขาวเช่นกัน
ประตูหยกบานนั้นหลังจากเงียบงันชั่วขณะ ก็มิได้ไล่ตามบัวขาว ดำเนินการต่อสู้ที่ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเพราะเศษศิลามนุษย์กำเนิดต่อ
ประตูหยกขาวกลับสู่โถงเซียนเช่นนี้
ในที่สุดสงครามก็ค่อยๆ ปิดม่านลง
ในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน พวกลู่ยาเต้าจวิน ทีปังกรพุทธะ เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ จิตใจล้วนค่อนข้างหนักอึ้ง
ผลกระทบจากสงครามในวันนี้ต้องล้ำลึกสุดขีด ไม่ว่าจะเป็นแดนสุขาวดีตะวันตกก็ดี หรือเผ่าปีศาจก็ดี ผลลัพธ์ล้วนไม่เป็นตามไปที่คาดหวัง สำหรับแดนสุขาวดีบัวขาวกับโถงเซียน ผลกระทบยิ่งเลวร้ายกว่า
‘ขนาดนี้ยังถูกพวกมันเล่นงานจนได้!’ เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ‘ธงหกวิญญาณ ธงหกวิญญาณ…’
มหาเทวะเผ่าปีศาจที่รู้สึกว่าถูกเยาะเย้ยคับข้องใจเป็นอย่างมาก กลับทำอะไรไม่ได้
เหล่าจวินลงมือด้วยตัวเองหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนอื่นบุกสวรรค์หลีเฮิ่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
ยังไม่เอ่ยถึงว่าพลังของเหล่าจวินเป็นแบบไหน ต่อให้เจ้ามรรคาทั้งหลายร่วมมือกัน ผู้ใดทราบบ้างว่าจะดึงดูดสามพิสุทธิ์สำนักเต๋าที่หลุดพ้นไปแล้วกลับมาหรือไม่?
ยิ่งไปกว่านั้น เซียนสวรรค์มหาชาลอย่างเซียนหูยาวติ้งกวงกับนางเซียนอวิ๋นเซียวกราบกรานธงหกวิญญาณ กับผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคากราบกรานธงหกวิญญาณ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นผลลัพธ์สองอย่างเช่นกัน
ระหว่างพวกเจ้ามรรคามิได้อยู่รวมกันเป็นแผ่นเหล็ก ตรงกันข้ามระหว่างกันเกิดความแค้นและการแก่งแยงมากมาย
หากด้านหนึ่งได้รับความเสียหายใหญ่หลวง ผลประโยชน์ที่ได้มาไม่พอจะชดเชย ต่อจากนั้นจะถูกคนอื่นๆ เอาเปรียบทันที
เมื่อจัดการค่ายกลลงทัณฑ์เซียนมิได้ในทันที ก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่อาจไล่ตามเข้าไปในสวรรค์หลีเฮิ่น
โดยเฉพาะการปรากฏขึ้นของธงหกวิญญาณในครั้งนี้ รวมถึงชื่อสามชื่อที่เขียนอยู่ด้านบน ยังทำให้ทุกคนเกิดความสงสัยมากกว่าเดิม
‘สุดท้ายก็กลายเป็นมอบชุดแต่งงานให้แก่คนอื่น[1] การผงาดขึ้นอีกครั้งของสำนักเต๋าสายหลัก สุดท้ายก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดูเหมือนชะตาจะเป็นเช่นนี้’ ลู่ยาเต้าจวินส่ายหน้าพลางถอนใจ
เขากลับไม่คับข้องโมโหแต่อย่างใด
โดยส่วนตัวแล้ว ในวินาทีที่ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนบดขยี้ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งเป็นผุยผง กำหนดความสำเร็จ สงครามในวันนี้ ก็มีผลแพ้ชนะแล้ว
ในสงครามนี้ นอกจากมหาวิทยรามยุรีเกือบแสดงสภาวะกวาดทำลายล้างทุกอย่างในตอนเพิ่งปรากฏตัวขึ้นแล้ว ระหว่างเผ่าปีศาจกับศาสนาพุทธสายหลักแทบไม่มีการกระทบกระทั่งกัน
เพื่อช่วงชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียนให้เร็วที่สุด พลังของทั้งสองฝ่ายต่างใช้ไปกับการทำลายแนวป้องกันของสำนักเต๋าสายหลัก
ในทางตรงกันข้าม เป็นฝั่งสำนักเต๋าสายหลักฝืนป้องกันการโจมตีของพวกเขาสองฝ่าย อดทนจนกระบี่สังหารเซียนได้รับการหลอมเปลี่ยนสำเร็จ ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนถูกกางขึ้นโดยสมบูรณ์
ถึงจะให้เวลาพวกเขามากกว่านี้ ผลแพ้ชนะบางทีก็ยากคิดถึง
ไม่ว่าอย่างไรเวลาที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอใช้ร่างแท้จริงของมหาเทวะเสมอฟ้าก็มีจำกัด
เกิดว่าลากถ่วงเวลาช่วงนี้ได้ สถานการณ์เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งกว่าเดิม
ทว่าโลกใบนี้ไม่มีคำว่าถ้า ผลลัพธ์เป็นสำนักเต๋าสายหลักทำสำเร็จแล้ว
ส่วนคนอื่นๆ แทบล้วนต้องชดใช้ด้วยฮูหยินและขุนศึก[2]
ยังไม่เอ่ยถึงว่าตัวลู่ยาเต้าจวินได้รับบาดเจ็บ ยังเสียมีดบินสังหารเซียน น้ำเต้าใบนั้นถูกหยกหรูอี้ไตรรัตนะผนึก หล่นลงไปในธารสวรรค์ ภายใต้การทำงานของค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ธารสวรรค์พลิกม้วน หายไปไร้ร่องรอยด้วยกัน
พิณฝูซีชำรุด เดิมเป็นหนึ่งในไพ่ตายของลู่ยาเต้าจวินที่ใช้รักษาชีวิตหากเผชิญเจ้ามรรคา
แม้แลกกับสำนักเต๋าสายหลัก เขาก็ได้ของที่มีประโยชน์มา เอาไว้ใช้ต้านเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับอามิตภพุทธเจ้าในสงครามนี้ สอดคล้องกับความต้องการของเขา เพียงเสียดายตรงนี้ไม่ได้มามากกว่านี้
ส่วนคัมภีร์เข็มตะปูเจ็ดเกาฑัณฑ์ที่ใช้ได้ครั้งเดียวในหนึ่งยุคสมัย กล่าวได้ว่าขาดตะกร้าดินอีกใบก็จะสำเร็จ[3] สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์
สงครามพอจบลง ลู่ยาเต้าจวินรู้สึกขาดทุนถึงขีดสุด
ยิ่งอย่าว่าแต่ ในสงครามนี้ ฝั่งเผ่าปีศาจเสียมหาเทวะเผ่าปีศาจที่มีพลังไม่ธรรมดาสองตนอย่างปีศาจลมเหลืองและเซียนเมฆดำ ตนอื่นๆ ได้รับบาดเจ็บแทบหมดสิ้น
เขาดาราทะเลดวงดาวปราณกำเนิดได้รับความเสียหาย
‘ต้องดูสถานการณ์ต่อจากนี้ น่าเสียดายเพิ่มคนเดินหมากมากมาย’ ลู่ยาเต้าจวินถอนใจ ถอยไปพร้อมกับมหาเทวะอย่างเผิงท่องเมฆหมื่นลี้
นักบวชศาสนาพุทธตอนนี้ไม่มีกะใจจะสู้ต่อ
ผลกระทบที่เกิดจากเรื่องราวในวันนี้ เพิ่มตัวแปรมากมายให้แก่อนาคต จำเป็นต้องรีบวางแผน ปรับกลยุทธ์
“รบกวนสหายร่วมเส้นทางแล้ว” ทีปังกรพุทธะพนมมือไหว้มหาวิทยราชมยุรี “น่าเสียดายค่ายกลลงทัณฑ์เซียนเร็วกว่าขั้นหนึ่ง ไม่อย่างนั้นหากดำเนินต่อไป ยังเป็นสหายร่วมเส้นทางมีโอกาสชนะมากกว่า”
“มหาเทวะเสมอฟ้าสมกับเป็นมหาเทวะเสมอฟ้า” มหาวิทยราชมยุรีพูด “ต่อให้ไม่มีกายปีศาจอมตะ การตัดสินผลแพ้ชนะกับอาตมายังเป็นห้าสิบห้าสิบ”
เขาส่ายหน้า ร่างกลายเป็นแสงพุทธจากไป
ทีปังกรพุทธะมองยุทธิวิชัยพุทธะที่เงียบงัน ไม่มีวาจาจะเอ่ย
ถึงจะมีธงวิเศษบัวเขียวคอยปกป้อง ทว่าแดนสุขาวดีตะวันตกเกิดการสูญเสียไม่น้อย สูญเสียกุศลวิจิตรพุทธะและบุญกุศลพุทธะติดต่อกัน
ทีปังกรพุทธะยังเสียมุกค้ำทะเลไปหกชิ้น ตั้งแต่วันนี้ไปยี่สิบสี่ธรรมบาลอยู่ไม่ครบแล้ว
นอกจากนี้ยังไม่อาจไม่พิจารณาถึงปัญหาอีกข้อหนึ่ง
เทียบกับสำนักเต๋าสายหลัก แม้เผ่าปีศาจจะได้รับบาดเจ็บที่เอ็นส่งผลถึงกระดูก แต่ว่าสงครามในวันนี้ แดนสุขาวดีบัวขาวที่เป็นพวกเดียวกันกับพวกเขากลับมิได้มีการสูญเสียใหญ่โต
ตรงกันข้าม ในที่สุดพระศรีอริยเมตไตรยเจอโอกาสสลัดหลุดจากเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ สามารถหลอมเปลี่ยนเศษศิลามนุษย์กำเนิดชิ้นนั้นได้แล้ว
ปัจจุบันโถงเซียนที่เป็นพันธมิตรกับแดนสุขาวดีตะวันตก กลับสูญเสียกระบี่สังหารเซียนซึ่งเดิมทีเก็บรักษาไว้ในมือของตัวเอง ทำให้สำนักเต๋าสยหลักรวบรวมสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนได้ครบ
หนำซ้ำ พวกเขาซึ่งเดิมทีมีจำนวนเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลด้อยกว่าแดนสุขาวดีบัวขาวอยู่แล้ว ยังต้องชดใช้ด้วย เทวกษัตริย์เภรี เคราะห์ซ้ำกรรมซัด
หลังจับเรื่องราว เทวกษัตริย์ไร้ประมาณยังจำเป็นต้องระวังตัว
สำนักเต๋าสายหลักครอบครองค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ผู้ที่ได้รับการคุกคามที่สุดคือเส้นทางนอกรีตสองเส้นทาง และหลายปีมานี้โถงเซียนกับสำนักเต๋าสายหลักยังมีบุญคุณความแค้นเกาะเกี่ยวกันมากกว่า
ถ้าหากนับโถงเซียนกับแดนสุขาวดีตะวันตกเป็นพวกเดียวกัน นับแดนสุขาวดีบัวขาวกับเผ่าปีศาจเป็นฝ่ายเดียวกัน เช่นนั้นต่อจากสงครามในวันนี้ ผู้ใดจะได้รับผลกระทบมากกว่า ตอนนี้ยังไม่อาจบอกกล่าวจริงๆ
กระนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า สำนักเต๋าสายหลักได้ประโยชน์มากที่สุด
‘ที่ตอนแรกต้องการชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียน เป็นเพราะการวางหมากครั้งถัดไป วันนี้พ่ายแพ้ ต่อจากนี้จะมีตัวแปรมากกว่าเดิมแล้ว’ ทีปังกรพุทธะหลับตา ถอนใจเบาๆ
………………..
[1] มอบชุดแต่งงาน หมายถึง ตนเองพยายามแทบตาย สุดท้ายกลายเป็นคนอื่นได้ประโยชน์
[2] ชดใช้ด้วยฮูหยินและขุนศึก หรือเสียฮูหยินเสียขุนศึก หมายถึง สูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า
[3] ขาดตะกร้าดินอีกใบก็จะสำเร็จ หมายถึง อีกก้าวเดียวก็จะสำเร็จ