ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1614 สิ่งของอุดมสมบูรณ์
หยกหรูอี้ไตรรัตนะ เป็นของวิเศษที่เทวกษัตริย์บรรพกำเนิดเคยพกติดตัว
หลังจากเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดหลุดพ้นไป ก็ได้รับการเก็บรักษาในมือผู้สืบทอดหยกพิสุทธิ์ ภายหลังเกิดมหาภัยพิบัติ สำนักเต๋าเสื่อมโทรม โลกต่างไปจากเดิม
ภายใต้การค้นหาของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ ทำให้หยกหรูอี้ไตรรัตนะปรากฏขึ้นบนโลกอีกครั้ง
การบุกเบิกโลกซ้อนโลกในเวลาต่อมา ก็อาศัยของวิเศษชิ้นนี้
เพียงแต่เป็นเพราะแรงกดดันที่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับโถงเซียนนำมา ทำให้สุดท้ายแล้วของวิเศษชิ้นนี้ตกไปอยู่ในมือจักรพรรดิโกวเฉินมาถึงวันนี้
ตัวจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ รวมถึงเกาหานและหลิงชิงที่ติดตามเขาออกจากโลกซ้อนโลก ต่างวางแผนชิงของวิเศษชิ้นนี้กลับมา
ก่อนหน้านี้ตอนที่สั่วหมิงจางเลื่อนขึ้นมหาชาล เยี่ยนจ้าวเกอแยกโลกซ้อนโลกจากหนึ่งเป็นสอง เกาหานกับหลิงชิงต่างลงมือ คิดจะช่วยจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋นำหยกหรูอี้ไตรรัตนะกลับมา น่าเสียดายสุดท้ายไม่สำเร็จ
ปัจจุบันในที่สุดจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ก็มีโอกาสนำหยกหรูอี้ไตรรัตนะกลับมา ย่อมไม่พลาด
ทว่าสงครามในวันนี้เขาไม่ใช่ผู้นำ ของสำคัญมากมาย เขาไม่อาจตัดสินด้วยคำพูดเดียวได้ ถึงแม้ว่าไม่ถึงกับทำให้คนอื่นพลิกหน้า ทว่าตอนนี้เป็นเวลาที่สำนักเต๋าต้องร่วมแรงร่วมใจ ความขัดแย้งที่อาจหลีกเลี่ยงได้ ย่อมต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
เกาหานลอบเข้าไปรอคอยในธารสวรรค์ ค้นหาของวิเศษในที่ลับ ไม่มีความตรงไปตรงมาแม้แต่น้อย
เจ้าแม่อู๋ตังรับบาดเจ็บสาหัส เยี่ยนจ้าวเกอกับเกาชิงเสวียนกลายเป็นผู้ควบคุมค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ณ เวลานั้น ค่ายกลพลิกคว่ำธารสวรรค์ ถ้าไม่มีเกาหาน มีดบินสังหารเซียนกับหยกหรูอี้ไตรรัตนะ ย่อมตกไปอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอและเกาชิงเสวียน
ถึงแม้หากดูจากความเกี่ยวข้องด้านสายสืบทอดของเซ่าจวินหวงและเสวี่ยชูชิง กับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ เยี่ยนจ้าวเกอใช่ว่าจะยึดหยกหรูอี้ไตรรัตนะไว้ แต่ว่าจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กับเกาหานเห็นได้ชัดว่า หวังจะได้ของวิเศษชิ้นนี้ไป ดังนั้นจึงลงมือด้วยตัวเอง
ในฐานะการแลกเปลี่ยน จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ต้องมีคำว่ากล่าวให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ กับพวกเฟิงอวิ๋นเซิง เยี่ยนตี๋ และสวีเฟยที่อยู่ด้านหลังเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สามารถแบกรับความจริงจังของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งได้
มุกค้ำทะเลเป็นการชดเชยและการขอโทษของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋
ขณะเดียวกัน มีดบินสังหารเซียนเขาก็ไม่ได้จะเก็บไว้เอง แต่ส่งมอบให้หยางเจี่ยน
นี่ตรงกับความคาดหมายของทุกผู้คน
แม้จะไม่มีวิชาลับของลู่ยาเต้าจวิน ทุกคนไม่อาจกระตุ้นมีดบินสังหารเซียน ต่อให้ได้มา ก็ไม่ทราบว่าจะศึกษาวิธีใช้ได้ตอนไหน ทว่าของชิ้นนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็ต้องการ
ถึงความจริงจะได้พิสูจน์แล้วว่า ปัจจุบันของวิเศษชิ้นนี้ไม่ใช่ดาวข่มอันเด็ดขาดของหยางเจี่ยนอีกต่อไป กระนั้นก็มีการคุกคามอยู่ไม่มากก็น้อย
สมมติว่ามีคนกระวนกระวาย แสดงความปรารถนาต่อมีดบินสังหารเซียนอย่งแน่วแน่ จะให้หยางเจี่ยนคิดอย่างไร?
ต่อให้มอบให้หยางเจี่ยน เขาก็มีความสามารถเทียมฟ้าอยู่แล้ว คู่ต่อสู้ที่ตัวเขาทำอะไรไม่ได้ มีดบินสังหารเซียนก็สมควรทำอะไรไม่ได้เช่นกัน
“ของวิเศษของลู่ยาชิ้นนี้ มีวาสนาส่วนหนึ่งกับข้า” ปัจจุบันหยางเจี่ยนพอมีประสบการณ์กับมีดบินสังหารเซียนอยู่บ้าง ยิ่งผ่านไปนานยิ่งไม่กลัว ทว่าเขาก็มิได้ปฏิเสธ ยิ้มพลางรับน้ำเต้าไว้
จากนั้นหยางเจี่ยนก็แบมือ หยิบมุกค้ำทะเลที่สาดเส้นแสงห้าสี ทำให้คนมองไม่เห็นลักษณะที่แท้จริงชิ้นหนึ่งออกมา
“บางครั้งข้าก็อยู่ในวังดุสิต บางครั้งก็ออกพเนจร ยังไม่มีความคิดสร้างนิวาสสถาน มุกค้ำทะเลนี้ไม่มีประโยชน์กับข้า ยังคงมอบให้สหายร่วมเส้นทางที่จำเป็นต้องใช้เถอะ” หยางเจี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
เขาหันไปทางเจ้าแม่อู๋ตัง “ครั้งนี้เจ้าแม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียนเพื่อสำนักเต๋าของพวกเรา ต้องสงบใจฟื้นฟู ไม่ว่าจะเป็นการสร้างจักรวาลขึ้นมาหล่อเลี่ยงพลัง หรือว่าสั่งสอนคนรุ่นหลังสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่เหนือพิสุทธิ์อีกขั้น ของวิเศษชิ้นนี้สมควรได้ใช้”
ทีปังกรพุทธะเสียมุกค้ำทะเลหกชิ้นไปในธารสวรรค์บนสงครามในวันนี้
มุกค้ำทะเลเหล่านี้มิได้ถูกดูดเข้าไปในค่ายกลลงทัณฑ์เซียนพร้อมกับการพลิกคว่ำของธารสวรรค์
ก่อนหน้านี้ หยางเจี่ยน จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ เฟิงอวิ๋นเซิง สั่วหมิงจาง พระอาจารย์เสวียนตู จักรพรรดิโกวเฉิน เทวกษัตริย์สำนักเต๋าหกคนที่อยู่รอบๆ แต่ละคนได้ไปคนละชิ้น แยกกันเก็บมุกค้ำทะเลเหล่านี้ไว้
คราครั้งนี้จักรพรรดิโกวเฉินละวางความแค้นเก่าก่อน รุดมาช่วยเหลือ จัดการปัญหาร่วมกัน กลับเสียหยกหรูอี้ไตรรัตนะไป ทั้งไม่ใช่เสียให้คู่ต่อสู้ แต่ตกไปอยู่ในมือของพวกเดียวกัน หลีกเลี่ยงความคับข้องใจไม่ได้
กระนั้นตอนแรกเขาได้หยกหรูอี้ไตรรัตนะ กับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ ถือเป็นบัญชีที่คลุมเครือ
เขาในปัจจุบันเหมือนกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ในครั้งกระโน้น
การเกาะเกี่ยวบุญคุณความแค้นระหว่างกัน คนอื่นๆ เกรงว่ายากแยกแยะได้ชัดเจน
สำหรับเขาแล้ว การได้มุกค้ำทะเลมาชิ้นนึก ถือว่าเป็นการปลอบประโลม
สำนักเต๋าได้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนมา ส่วนรวมได้รับผลประโยชน์ จักรพรรดิโกวเฉินก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
“มุกค้ำทะเลนี้ ข้าย่อมไม่ได้ใช้” พระอาจารย์เสวียนตูเห็นเจ้าแม่อู๋ตังเก็บมุกค้ำทะเลของหยางเจี่ยนและกล่าวขอบคุณเสร็จ ก็นำมุกค้ำทะเลที่ตัวเองได้มาออกมา กล่าวกับนางเซียนอวิ๋นเซียวว่า “สหายร่วมเส้นทางสามารถใช้สร้างเกาะสามเซียนอีกครั้ง นำไปเป็นพื้นฐาน”
นางเซียนอวิ๋นเซียวก็ไม่ลีลา รับมุกชิ้นนั้นมา เหม่อลอยเล็กน้อยใต้การส่องแสงของเส้นแสงห้าสี
จ้าวกงหมิงผู้ยิ่งใหญ่นิกายเจี๋ยสายเหนือพิสุทธิ์ เจ้าของในตอนแรกสุดของมุกค้ำทะเลยี่สิบสี่ชิ้น ที่แล้วมาเรียกนางเซียนอวิ๋นเซียวเป็นศิษย์น้อง
หลังจากจ้าวกงหมิงเสียชีวิต มุกค้ำทะเลยี่ยี่สิบสี่ชิ้นตกไปอยู่ในมือของหรานเติงเต้าหยิน ณ ตอนนั้น หรือก็คือทีปังกรพุทธะในปัจจุบัน
เห็นวัตถุนึกถึงคน ขณะมองมุกค้ำทะเล นางเซียนอวิ๋นเซียวยากจะไม่นึกถึงผู้เป็นศิษย์พี่ในตอนนั้น
นางถอนใจเบาๆ เอ่ยว่า “เกาะสามเซียนเหลือข้าคนเดียว ศิษย์พี่อู๋ตังรักษาอาการบาดเจ็บ ข้าจะนำค่ายกลลงทัณฑ์เซียนเข้าไปในความว่างเปล่าก่อน รอหลังจากศิษย์พี่อู๋ตังผลัดเวรกับข้า ค่อยมาพิจารณาเรื่องสร้างเกาะสามเซียนอีกครั้ง”
ได้ยินนางกล่าวเช่นนี้ ทุกคนล้วนรู้สึกเสียดาย
เจ้าแม่อวิ๋นเซียว ฉยงเซียว และปี้เซียวแห่งเกาะสามเซียน ปัจจุบันเหลือนางเซียนอวิ๋นเซียวเพียงคนเดียว
ตอนเกิดมหาภัยพิบัติ วังเทพถล่ม มีคนได้รับอิสระ แต่ว่าก็มีคนที่เสียชีวิตโดยสมบูรณ์เช่นกัน
นางเซียนฉยงเซียวกับนางเซียนปี้เซียว ต่างเสียชีวิตตอนเกิดมหาภัยพิบัติ
เจ้าแม่ฟ้าทั้งสามใกล้ชิดจนเหมือนคนคนเดียว ตอนนี้นางเซียนอวิ๋นเซียวคิดถึงน้องสาวสองคนที่ตายไป ย่อมปวดใจ
“เรื่องค่ายกลลงทัณฑ์เซียนจะช้าไม่ได้ หลังจากข้าเตรียมการสักเล็กน้อย จะออกเดินทางทันที ถ้ามีเรื่องราวอื่น ยังต้องให้สหายร่วมเส้นทางทุกท่านช่วยเหลือ” นางเซียนอวิ๋นเซียนปรับจิตใจอย่างรวดเร็ว
ทุกคนกล่าวพร้อมกัน “รบกวนสหายร่วมเส้นทางด้วย”
เยี่ยนจ้าวเกอเก็บมุกค้ำทะเลของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ชิ้นนั้น
ไข่มุกตอนนี้ซ่อนความอัศจรรย์ คล้ายกับไม่สะดุดตา แต่ว่าพอมาอยู่ในมือ ยังคงรู้สึกหนักอึ้งสุดขีด
ถ้าหากว่ามุกค้ำทะเลปล่อยพลังออกมาโดยสมบูรณ์ เช่นนั้นจะหนักกว่าเดิมมาก
เทียบกับจำนวทั้งหมดที่มียี่สิบสี่ชิ้น มุกค้ำทะเลชิ้นเดียวไร้พลัง
แต่มันเป็นของล้ำค่า เส้นแสงห้าสีส่องใส่ตาคน ทำให้คนยากจะป้องกัน มุกค้ำทะเลชิ้นนี้เมื่อหล่นลงด้านล่าง ทำให้คนส่วนใหญ่ในใต้หล้าทานรับไม่ไหว
ที่ทำอะไรสั่วหมิงจางไม่ได้ เป็นเพราะว่าสั่วหมิงจางแกร่งเกินไป
ยิ่งไปกว่านั้นมุกค้ำทะเลชิ้นนี้ยังไม่ใช่ใช้ต่อสู้อย่างเดียว ถ้าหากว่าปล่อยมิติเวลาด้านในออกมา สร้างโลกสักใบ คำนวณแค่ขนาด ยังมหึมากว่าจักรวาลฟ้าฟื้นเสียอีก
ยิ่งไปกว่านั้นด้านในจะมีสรรพวัตถุเกิดใหม่ ทั้งสามารถผลิตทรัพยากรมากมาย หลังจากปรับปรุงจัดการแล้ว สามารถมอบความพอใจให้ตัวเองได้
ที่กล่าวกันว่าทีปังกรพุทธะมียี่สิบสี่ธรรมบาล ยี่สิบสี่แดนสุขาวดี มีที่มาเช่นนี้
เฟิงอวิ๋นเซิงได้มุกค้ำทะเลมาชิ้นหนึ่ง ทางเยี่ยนจ้าวเกอได้มาอีกชิ้นหนึ่ง มีความหมายสำคัญต่อจักรวาลฟ้าฟื้น
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เยี่ยนจ้าวเกอได้มาจากสงครามครั้งนี้ มิได้มีแค่เท่านี้