ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1620 ปล่อยโซ่ทองมังกรหลุดไป
จักรวาลอันยิ่งใหญ่แห่งใหม่ถูกบุกเบิกขึ้นในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน
เยี่ยนจ้าวเกออยู่นอกเขตแดน ระบายลมหายใจออกยาวๆ มองดูจักรวาลที่เกิดขึ้นจากมุกค้ำทะเล ใบหน้าฉายแววหวนรำลึก มองพวกเฟิงอวิ๋นเซิง เยี่ยนตี๋ และสวีเฟยที่อยู่ด้านข้าง
“ตอนเกิดมหาภัยพิบัติ สวรรค์ทั้งหลายพังพินาศ ธรรมชาติพลิกคว่ำ ผู้สืบทอดสำนักเต๋าเช่นพวกเราประสบภัยพิบัติใหญ่หลวง จนกระทั่งถึงวันนี้ ในที่สุดก็ได้ต้อนรับการเริ่มต้นใหม่”
เขายิ้มเล็กน้อย “จุดเริ่มต้นใหม่นี้ ตั้งชื่อว่าสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียแล้วกัน”
คนอื่นๆ มองหน้ากัน ยิ้มขึ้นมาโดยมิได้นัดหมาย
เกาหชิงเสวียนรั้งอยู่ในวังดุสิตชั่วคราว คอยรับใช้อยู่ข้างกายเจ้าแม่อู๋ตังที่รักษาอาการบาดเจ็บ ตอนนี้คนที่อยู่รอบๆ ล้วนเป็นศิษย์เขากว่างเฉิง พอได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ ในห้วงสมองก็นึกย้อนเรื่องราวในอดีต
ครั้งกระโน้นตอนเขากว่างเฉิงเพิ่งหลุดจากโลกเบื้องล่างอย่างโลกแปดพิภพ ทดลองมุ่งหน้าไปยังโลกซ้อนโลก ที่พักเท้าแรกสุดบนโลกซ้อนโลก คือทะเลหวงเจีย
ชื่อของสถานที่แห่งนั้น มาจากสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย หนึ่งในสวรรค์สามสิบหกชั้นของสำนักเต๋า เป็นคนในโลกซ้อนโลกยืมมาจากบันทึกในคัมภีร์
สำหรับเขากว่างเฉิงแล้ว ทะเลหวงเจียเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ในตอนนั้น
ณ ที่แห่งนี้ในตอนนี้ เป็นจุดเริ่มต้นบทใหม่อีกจุดหนึ่ง
“อย่าได้กล่าวว่าปราการยิ่งใหญ่เหมือนเหล็กกล้า วันนี้เริ่มก้าวข้ามมันได้แล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสะท้อนใจ
มิติเวลาเปลี่ยนแปลง จักรวาลขนาดมหึมาอีกแห่งค่อยๆ ปรากฏขึ้น
เป็นจักรวาลฟ้าฟื้น
ตอนนี้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอออกไปก่อน กลับจักรวลฟ้าฟื้น ติดต่อกับพวกเสวี่ยชูชิง ย้ายจักรวาลฟ้าฟื้นมารวมกันที่นี่
“หลังขยายจักรวาลฟ้าฟื้นสำเร็จ บทบาทหน้าที่ของตำหนักโอสถเดิมเริ่มลดลงแล้ว ปัจจุบันมีสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียจัดหาที่อยู่ให้แก่โลกและประชากรจำนวนมากในฟ้าเหนือฟ้า ตำหนักโอสถผ่อนคลายลงได้มาก” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “แต่ว่ายังไม่ใช่เวลาเราเก็บศาสตราเข้าโกดังปล่อยม้าไว้ที่เขาทิศใต้[1] ไม่อาจหลงลำพองจนลืมตน ต้องรักษาความระมัดระวัง ยังให้ตำหนักโอสถล่องลอยอยู่ด้านนอกต่อไปก่อน”
เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าว “เมื่อมีค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ขุมกำลังอื่นไม่กล้าสะกดผู้สืบทอดสำนักเต๋าของพวกเราง่ายๆ พวกเรามีความมั่นใจต่อสู้กับพวกเขาหรือแลกเปลี่ยนสนทนาในระดับเดียวกัน ทว่าเทียบกันแล้ว ขุมกำลังอื่นๆ จะให้ความสนใจพวกเรามากกว่าเดิม ถึงขั้นอาจดึงดูดการเล็งเป้าหมายสุดกำลังของเจ้ามรรคามา ให้ตำหนักโอสถซ่อนอยู่ในความว่างเปล่า ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยโดยสมบูรณ์”
“ถูกต้อง กฎทุกอย่างต้องโยนทิ้งแล้วสร้งาใหม่” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ความระวังที่พึงมียังต้องมี แต่ว่าพวกเราสามารถก้าวเท้าไปด้านหน้าได้แล้ว”
จักรวาลฟ้าฟื้นกับสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียเข้าใกล้กัน ขอบเขตไร้รูปร่างของจักรวาลสองแห่งเริ่มสัมผัสกัน เบียดเสียดและกีดกันกันและกัน ทว่าค่อยๆ เกิดการดำรงอยู่ที่เหมือนกับประตูขึ้นมา เชื่อมไปด้านในของกันและกัน
โลกหลายใบในจักรวาลฟ้าฟื้น ค่อยๆ เกิดสภาพเคลื่อนไหว เคลื่อนย้ายเข้าไปในสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย
เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งควบคุม ทางหนึ่งจิตใจสั่นไหว
“เป็นพี่ร่วมเส้นทางโกวเฉิน” เฟิงอวิ๋นเซิงเอ่ยขึ้นด้านข้าง
พวกเยี่ยนจ้าวเกอหันไปมอง เห็นอีกด้นหนึ่งที่ไกลเกินคณานับในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน ถึงกับมีจักรวาลที่มีโลกมากมายแห่งใหม่กำลังถูกบุกเบิก
ที่มาเป็นมุกค้ำทะเลเหมือนกับสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียที่อยู่ตรงหน้า
นับตั้งแต่จักรวาลสำนักเต๋ากับโลกซ้อนโลกถูกแดนสุขาวดีตะวันตกกับโถงเซียนตีแตกยึดครอง ปัจจุบันจักรพรรดิโกวเฉินก็สร้างจักรวาลขึ้นมาอีกครั้ง
หนำซ้ำ จักรวาลแห่งนี้ ไม่เพียงใช้เพื่อชุบเลี้ยงอัจฉริยะสำนักเต๋ากลุ่มใหม่เท่านั้น ขณะเดียวกันก็กลายเป็นนิวาสสถานที่บำเพ็ญแห่งใหม่ของตัวจักรพรรดิโกวเฉินด้วย
เซียนสวรรค์สำนักเต๋าในวันนี้ สามารถอาศัยอยู่บนโลกได้ ไม่ต้องรวมตัวกับความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดนในสภาพกึ่งล่องลอยกึ่งหลับไหลอีก
เจ้าแม่อู๋ตังรออาการบาดเจ็บดีขึ้น ฟื้นฟูปราณกำเนิอได้ส่วนหนึ่ง ก็จะใช้มุกค้ำทะเลในมือบุกเบิกจักรวาลแห่งใหม่ และนิวาสสถานแห่งใหม่ นอกจากจะผลัดเปลี่ยนไปสนับสนุนค่ายกลลงทัณฑ์เซียนกับนางเซียนอวิ๋นเซียวแล้ว นางสามารถอยู่ในนิวาสสถานแห่งใหม่ของตัวเอง หรือเคลื่อนไหวบนโลกได้
นางเซียนอวิ๋นเซียวมีสภาพเหมือนกับเจ้าแม่อู๋ตัง และจักรพรรดิโกวเฉิน รอเจ้าแม่อู๋ตังมาเปลี่ยนเวรแทนที่นาง นางก็จะสร้างรากฐานของเกาะสามเซียนขึ้นอีกครั้ง
อย่างเฟิงอวิ๋นเซิง ถึงก่อนหน้าจะไม่ต้องซ่อนในความว่างเปล่า แต่จำเป็นต้องเก็บกลิ่นอายของตัวเอง ซ่อนในตาขวาของเยี่ยนจ้าวเกอ
ตอนนี้สามารถร่วมทางกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอได้อย่างเปิดเผย ล้วนไม่มีปัญหา
เยี่ยนจ้าวเกอหันไปสบตากับเฟิงอวิ๋นเซิง ยิ้มขึ้น
พวกเขาหันไปอีกทางหนึ่ง
กลางความว่างเปล่าตรงนั้นพลันมีแสงไฟสว่างขึ้น ทะเลเพลิงไร้สิ้นสุดเหมือนกับสาดส่องอาณาบริเวณรอบๆ แม้แต่สวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย จักรวาลฟ้าฟื้น จักรวาลที่จักรพรรดิโกวเฉินสร้างขึ้นใหม่ไกลออกไป ล้วนถูกส่องสะท้อนเป็นสีแดงฉาน
บุรุษผมสั้นร่างสูงใหญ่คนหนึ่งก้าวออกจากทะเลเพลิง มาถึงตรงหน้าทุกคน
ถึงกับเป็นสั่วหมิงจาง ราชันพระอังคาร
“ผู้อาวุโสสั่ว”
“พี่ร่วมเส้นทางสั่ว”
พวกเยี่ยนจ้าวเกอพากันคารวะเขา สั่วหมิงจางคารวะตอบแต่ละคน ก่อนจะกล่าวว่า “ข้ามารับจวินหวง”
“ผู้อาวุโสสั่วโปรดตามข้ามา” เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางพาสั่วหมิงจางเข้าไปในสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจียพร้อมกับคนอื่นๆ
ทุกคนเคลื่อนไหวในจักรวาลของสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย มาถึงฟ้าเหนือฟ้า
พอไปถึงกลางหุบเขาเจิดจรัสบนเทือกเขากว่างเฉิง ก็เห็นต้นผมขาวหนึ่งสูงหนึ่งต่ำสองต้นตั้งอยู่ระหว่างฟ้าดิน เหมือนกับดันฟากฟ้า
ในวินาทีที่สั่วหมิงจางเข้ามาในฟ้าเหนือฟ้า ต้นไม้ผมขาวที่สูงกว่า มีกิ่งใบสีเขียวครามพลันเกิดดอกสีขาวบริสุทธิ์บานออกอย่างไร้เค้าลางเหมือนกับหิมะอีกครั้ง
ขณะที่ไม้ดอกสั่นไหวโดยไร้ลม ในหุบเขาเจิดจรัสเหมือนกับแว่วเสียงกระดิ่งลมที่ไพเราะ
สั่วหมิงจางปรากฏตัวขึ้นใต้ต้นไม้ แบมือพลางมองต้นผมขาวตรงหน้า กลีบดอกที่เหมือนหิมะหล่นลงกลางฝ่ามือของเขา
บุรุษผมสั้นนิ่งเงียบ ยืนกับที่ ไม่ขยับเนิ่นนาน
พวกเยี่ยนจ้าวเกอ กับเสวี่ยชูชิงที่รีบรุดมารวมตัวจากยอดเขาหลักบนเขากว่างเฉิง ต่างยืนเงียบด้านข้าง มองดูต้นผมขาวสูงเสียดฟ้าสองต้นอยางเงียบๆ
เนิ่นนานให้หลัง สั่วหมิงจางหมุนตัวมาพยักหน้าให้กับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็โบกมือ รัศมีแสงห้อมล้อมต้นผมขาวที่สูงกว่า นำมันไป สูญหายจากฟ้าเหนือฟ้า
เขาออกจากฟ้าเหนือฟ้า สวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย มาถึงความว่างเปล่านอกเขตแดน หยิบมุกค้ำทะเลของตัวเองออกมา
จากนั้นมุกค้ำทะเลชิ้นนี้ก็ตั้งอยู่เคียงกับสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย ยังมีจักรวาลที่จักรพรรดิโกวเฉินสร้างขึ้น กลายเป็นจักรวาลใหม่แห่งที่สาม ตั้งอยู่ในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน
สั่วหมิงจางเข้าไปด้านใน ทิ่มนิ้วใส่ฟองอากาศที่ยังไม่มั่นคงดีฟองหนึ่ง
ฟองอากาศเปิดออก ปราณพิสุทธิ์ลอยขึ้นเป็นฟ้า ปราณขุ่นจมลงเป็นดิน กลายเป็นโลกใหม่ใบหนึ่ง
ต้นผมขาวสูงใหญ่หยั่งรากอีกครั้ง
สั่วหมิงจางนั่งขัดสมาธิใต้ต้นไม้ เงยหน้ามองต้นไม้ที่กิ่งใบสั่นไหวเบาๆ ประกายตาเปล่าเปลี่ยวทอดไกล
จักรวาลสามแห่งของสำนักเต๋าถูกบุกเบิกขึ้นมาพร้อมกัน พาดขวางอยู่ในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน เห็นได้แต่ไกล
การเคลื่อนขนาดใหญ่โต ย่อมดึงดูดความสนใจของแต่ละฝ่าย
กลิ่นอายที่แข็งแกร่งสายแล้วสายเล่าปรากฏขึ้นบนที่ไกล มองดูอยางเงียบงัน
แต่ว่าไม่มีคนหยุดยั้งก้าวก่าย ถึงขั้นไม่มีใครเข้าใกล้
“ครั้งนี้เสียค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ยากจะเหมือนกับก่อนหน้าแล้ว” บนต้นชบาศักดิ์สิทธิ์ในสวรรค์ไท่ซู่ที่เขาดาราทะเลดวงดาว ลู่ยาเต้าจวินได้รับข่าวแล้ว ร่างไม่ขยับ เพียงส่ายหน้า “ปล่อยโซ่ทองมังกรหลุดไปแล้ว…”
เหล่าจอมปีศาจตรงหน้าเขาล้วนเงียบเสียง
………………..
[1] เก็บศาสตราเข้าโกดังปล่อยม้าไว้ที่เขาทิศใต้ หมายถึง หยุดทำสงคราม ใช้ชีวิตสงบสุข