ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1635 สะกดทั้งหมด!
เยี่ยนจ้าวเกอน้ำเสียงผ่อนคลาย นักบวชศาสนาพุทธตรงหน้าไม่ผ่อนคลายแม้แต่นิดเดียว
“ขออภัยที่พวกเรายากทำตามคำพูดของสหายร่วมเส้นทางเยี่ยน” มู่จาพูดจบ ก็ไม่กล่าวมากความ ตบใส่ฝักกระบี่ด้านหลัง กระบี่คู่อู๋โกวลอยออกจากฝัก กลายเป็นประกายกระบี่สองสาย ฟันใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
นักบวชศาสนาพุทธท่านอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ต่างเคลื่อนไหวของใครของมัน
ผู้ที่ต่ำกว่าระดับสุญญตาไม่ได้ขึ้นหน้ามาหาความอัปยศ แยกกันหลบหนีไปรอบๆ ต่างคนต่างคิดหาวิธีทำลายอุปสรรคที่สายฟ้าอนัตตาสร้างขึ้นนั้น
พระโพธิสัตว์ศาสนาพุทธอีกสองคนที่อยู่ในระดับสุญญตาเหมือนเยี่ยนจ้าเวกอและมู่จา ต่างสำแดงความสามารถ โจมตีมาใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ กล่าวอย่างราบเรียบ “ไฉนต้องลำบากเช่นนี้?”
พร้อมกับที่เขาเอ่ยขึ้น เสียงมหามรรคาที่ไพเราะไม่อาจหยั่งคาดก็ดังขึ้นโดยอัตโนมัติ
เสียงของเขาไม่ได้ดัง แต่ว่าคำและประโยคทั่วไปทำให้คนที่ได้ยินเกิดความรู้สึกลี้ลับ ยากจะทำความเข้าใจ
เสียงพอดัง นักบวชศาสนาพุทธที่อยู่ต่ำกว่าระดับสุญญตา ต่างรู้สึกว่าความคิดของตัวเองเคลื่อนไหวช้าลง
คนที่อยู่ในระดับไร้ช่องโหว่วตกสู่สภาพเหม่อลอยไร้ความรู้สึกโดยตรง
ไม่คิด ไม่ตรอง ไม่นึก ไม่จำ
ทุกสิ่งว่างเปล่า เหมือนกับว่าคนได้ถูกเสียงของมหามรรคานี้หลอมเป็นหนึ่งเดียว
คนในระดับสงบนิ่งแม้นไม่ใช่เช่นนี้ แต่รู้สึกว่าการตอบสนองของตัวเองเชื่องช้าลง มีความรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน
“นะโมอมิตาพุทธ!” พระโพธิสัตว์ศาสนาพุทธระดับสุญญตาสามคนอย่างพวกมู่จา ยามนี้เปล่งเสียงสรรเสริญคุณ
ถึงแม้ว่าจะต่างกับเสียงมหามรรคาของสำนักเต๋า ทว่าเสียงมนตราของศาสนาพุทธก็มีความมหัศจรรย์ของตัวเอง ทำให้นักบวชศาสนาพุทธที่อยู่ต่ำกว่าระดับสุญญตา กลับคืนสู่สภาพปกติ
แต่ว่าในตอนนี้เอง พลันมีบุปผาแสงรวมตัวเหนือศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ
‘เวลาแค่ร้อยปี ถึงกับมีหนึ่งบุปผาบนกระหม่อมแล้ว?’ พวกมู่จาจิตใจล้วนหนักอึ้ง ‘เร็วเกินไปแล้ว!’
แต่ว่าติดๆ กันนั้น เรื่องราวที่สร้างความตะลึงพรึงเพริดให้แก่พวกเขายิ่งกว่าก็บังเกิดขึ้นตรงหน้า
บุปผาจิตปรากฏบนศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ เสียงมหามรรคาที่เขาปล่อยออกมา ถึงกับเกิดผลขึ้นอีกครั้ง
นักบวชศาสนาพุทธที่ต่ำกว่าระดับสุญญตา จิตใจมีแนวโน้มว่างเปล่าอีกครั้ง สายตาและการเคลื่อนไหวล้วนติดขัด
เสียงมนตราบทสวดมนต์ของพวกเขาถึงกับไม่อาจตอบโต้เสียงมหามรรคาของเยี่ยนจ้าวเกอได้!
การต่อสู้ระหว่างเซียนกำเนิดสุญญตา ต่อให้ด้านหนึ่งสู้พลังไม่ได้ ถึงขั้นถูกคู่ต่อสู้บดขยี้ แต่ถ้าหากตอนต่อสู้มีความตั้งใจ ยังสามารถลดทอนและตอบโต้เสียงมหามรรคาของคู่ต่อสู้ได้อย่างใหญ่หลวง
การที่เสียงมหามรรคาของเยี่ยนจ้าวเกอไม่สนใจเสียงมนตราบทสวดมนต์อันยิ่งใหญ่โดยสิ้นเชิงอย่างตอนนี้ เป็นเรื่องที่พวกมู่จาได้ยินยังไม่เคยได้ยินมาก่อน
ยิ่งอย่าว่าแต่ขณะนี้พลังฝึกปรือของมู่จาเทียบเท่ากับสองบุปผารวมบนกระหม่อมของจ้าวสวรรค์สำนักเต๋า ระดับสมควรสูงส่งกว่าเยี่ยนจ้าวเกอถึงจะถูก
ทว่าเสียงมหามรรคาที่เยี่ยนจ้าวเกอเปล่งออกมาขณะนี้สะท้อนทั่วจักรวาล กระเพื่อมไม่หยุดกลางอาณาบริเวณที่สายฟ้าอนัตตาครอบคลุมอยู่
นักบวชศาสนาพุทธที่อยู่ด้านใน พลังฝึกปรือต่ำกว่าระดับสุญญตา ล้วนเหมือนกับถูกวิชาหยุดร่าง ตัวแข็งกับที่
ถึงขั้นที่แม้แต่นักบวชศาสนาพุทธระดับสงบนิ่ง เหมือนกับตกสู่สภาพไร้ความคิดไร้สำนึก ขณะที่ห้วงสมองขาวโพลน การเคลื่อนไหวก็ติดขัด!
ไม่เพียงระดับไร้ช่องโหว่ว แม้แต่คนในระดับสงบนิ่ง ถึงกับถูกเสียงมหามรรคาของเยี่ยนจ้าวเกอสะกดไว้!
นี่พลิกคว่ำความรู้ในอดีตของคนทุกคนที่อยู่รอบๆ ทิ้งอีกครั้ง
กายทองศาสนาพุทธที่เสริมความทนทานสว่างเจิดจ้า ขณะนี้เหมือนกับคนธรรมดาตุ๊กตาโคลน เหมือนแสงเครื่องเคลือบถดถอยออกไป ปรากฏความรู้สึกเสื่อมโทรดั่งลมกัดเซาะ
ไฉนต้องลำบากเช่นนี้
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวถึงตอนท้าย เสียงไม่ได้สะท้านหูอย่างไร ทว่าพร้อมกับที่เสียงมหามรรคาดังขึ้น ก็มีเสียงสายฟ้าติดตาม
สายฟ้าอันยิ่งใหญ่ถั่งโถม นักบวชศาสนาพุทธที่ถูกเขาเปล่งเสียงสะกดเหล่านั้น ร่างกายสั่นไหวเล็กน้อย
คนในระดับไร้ช่องโหว่ว ร่างกายเหมือนกับเครื่องเคลือบที่พังทลาย กลายเป็นเศษซาก แตกสลายกลางความว่างเปล่าในจักรวาล
คนในระดับสงบนิ่งถูกกระแทกจนหลุดพ้นจากสภาพไร้ความคิดไร้สำนึกชั่วคราว ทว่ามุมปากมีเลือดซึม บนกายทองถึงกับปรากฏรอยแตก
ไม่รอพวกเขาขัดขืน เสียงมหามรรคาของเยี่ยนจ้าวเกอก็แสดงผลต่อ ยังคงสะกดจิตใจของพวกเขา
ดังนั้นนักบวชศาสนาพุทธเหล่านี้ได้แต่สับเปลี่ยนไปมาระหว่างความเซื่องซึมและความเจ็บปวดสุดบรรยาย หลีกหนีไม่พ้นทะเลทุกข์ครอบศีรษะ
พระโพธิสัตว์ศาสนาพุทธระดับสุญญตาสามคนเช่นพวกมู่จา สีหน้าเคร่งขรึมถึงขีดสุด
สภาวะโจมตีระลอกแล้วระลอกเล่าถั่งโถมใส่เยี่ยนจ้าวเกอชนิดมืดฟ้ามัวดิน
ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอเปล่งเสียงไม่หยุด ก็ยื่นมือข้างหนึ่งออกมาอย่างสะบายๆ แล้วงอนิ้วดีด
“เช้ง! เช้ง!” แว่วเสียงใสสองเสียง นิ้วของเขาดีดใส่ประกายกระบี่สองสายอย่างแม่นยำ กระแทกกระบี่คู่อู๋โกวของมู่จา
จากนั้นเยี่ยนจ้าวเกอไม่ถอยกลับโจมตี ย่างเท้าบรรลุถึงตรงหน้าพระโพธิสัตว์อีกสองคนในพริบตา
อีกฝ่ายหนึ่งถือวัชระปราบมาร หนึ่งทำดัชนีคีบบุปผา ล้วนเป็นวรยุทธศาสนาพุทธ แยกกันจู่โจมเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอมือซ้ายเป็นรอยตราพลิกฟ้า ตัดวัชระปราบมารหัก มือขวาคือธงเบิกนภา ทำลายดัชนีของอีกฝ่าย
จากนั้นก็ยื่นมือสองข้างไปด้านหน้าพร้อมกัน ห้านิ้วเป็นกรงเล็บ จับศีรษะของนักบวชศาสนาพุทธสองคนนั้นไว้
จากนั้นก็ออกแรงกระแทกเข้าหากันตรงกลาง!
นักบวชศาสนาพุทธสองท่านพลันรับไม่ไหว กายทองแตกสลาย หัวแตกเลือดอาบ
ขณะเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอหยัดร่างตรงไม่ขยับ ร่างไร้ประมาณสสารกำเนิดกับกายกาลอวกาศจุดกำเนิดสองยอดวรยุทธ์โคจรพร้อมกัน ภายใต้กการหนุมเสริมจากสองกำเนิดก่อนเบิกฟ้า ใช้พลังป้องกันอันน่าตกตะลึง รับฝ่ามือของมู่จาโดยไม่หลบไม่หลีก
ร่างของเขาแม้แต่สั่นไหวยังไม่สั่นไหว เพิ่มแรงที่สองมือต่อ หลังบีบคอนักบวชศาสนาพุทธจนมรณะโดยสิ้นเชิง ก่อนจะโยนพวกท่านทิ้งไป
จากนั้นเยี่ยนจ้าวเกอมือหนึ่งตั้งนิ้วชี้นิ้วกลางดุจกระบี่ ประกายกระบี่สีเขียวหนาแน่นสาดขึ้นกลางความว่างเปล่า กระแทกกระบี่อู๋โกวที่ฟันมาอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน เขาก็ยื่นมืออีกข้างมาคว้าใส่มู่จา
มู่จาสูดหายใจลึกคำหนึ่ง ไม่ได้หลบหลีกเช่นกัน กลับใช้สภาวะตัดสินเด็ดขาด สืบเท้าไปด้านหน้า แทงนิ้วใส่หน้าอกของเยี่ยนจ้าวเกอ
นิ้วนี้ของเขาไม่เหมือนกับจิตที่เต็มไปด้วยปัญญาการตื่นรู้ กลับแฝงความใหญ่สุดขีดไว้ในความเล็กน้อยสุดขีด
บนนิ้วปรากฏอักขระ ‘卍’ สีทอง ขณะที่หมุนก็ยิ่งมายิ่งใหญ่
ภายใต้ผลกระทบจากการหมุนวนของอักขระ ‘卍’ นั้น ปราณสสารกำเนิดทั่วร่างเยี่ยนจ้าวเกอถึงกับมีสภาพกระจัดกระจาย
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็หัวเราะ ยังคงไม่หลบหลีก
จิตแห่งหกหลักการได้แก่หยินหยาง เวลา มิติช่องว่าง ชีวิต สสาร จิตใจปรากฏขึ้นพร้อมกันบนร่างเขา
พลังชีวิตอันแข็งแกร่งโชติช่วง
กาลเวลาดุจสายน้ำหมุนวน
มิติช่องว่างที่ตัดสลับเปลี่ยนแปลงเป็นมายา
หมื่นสภาพที่กว้างขวางพากันปรากฏ
หยินหยางที่สมดุลไหลเวียน
จิตใจที่แปรเปลี่ยนมากมายกระเพื่อม
ความมหัศจรรย์ของหกคัมภีร์หลังกำเนิดหยกพิสุทธิ์รวมตัว กลายเป็นฐานของโลกที่รองรับธรรมชาติ ขวางอักขระ ‘卍’ สีทองนั้น
มือขวาที่เยี่ยนจ้าวเกอยื่นไปด้านหน้า บีบไหล่ของมู่จา
แก่นเซียนอันยิ่งใหญ่ลี้ลับทะลักไหลลง กระเพื่อมต่อเนื่อง กระแทกสลายพลังวิชาพุทธหลายสายในร่างมู่จา
มู่จาที่เดิมทุ่มหมดหน้าตักดำเนินการโต้ตอบ ไร้พลังป้องกันตัวเอง ไม่สำเร็จก็เป็นศพ ตอนนี้ถูกเยี่ยนจ้าวเกอ กระแทก พลังสลายไปโดยสิ้นเชิง ถูกเยี่ยนจ้าวเกอจับไว้ กระดิกกระเดี้ยไม่ได้
“ข้าลองคิดดูแล้ว ใช้แปลกหน้ามิสู้ใช้คุ้นเคย” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดังนั้นยังรบกวนนักบวชฮุ่ยอั้นท่านแล้ว”