ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1636 ข้าสังหารพวกท่านไม่ได้หรือ?
มู่จามองเยี่ยนจ้าวเกออย่างจนปัญญา “ท่านเป็นกรณีพิเศษจริงๆ ในสามพิสุทธิ์สายหลักของพวกท่านมีคนเรียกท่านว่าเทวกษัตริย์น้อย ดูจากวันนี้ถือว่าไม่ยกยอเกินไปจริงๆ”
“ข้าก็คิดว่ายังพอไหว ถึงข้าจะชอบฉายาสองพยางค์เพราะเรียบง่ายตรงไปตรงมา ดังสนั่นมีพลังมากกว่าก็ตาม” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเหอะๆ
มู่จากลับไม่คิดว่าเขาหน้าหนา ส่ายหน้า “พลังอย่างท่านจะชื่นชมอย่างไรล้วนไม่เกินเลย”
“วาจาอื่นไม่ต้องพูดแล้ว ยังขอให้ท่านนักบวชฮุ่ยอั้นนำข้าไปยังจวนมหาเอกานั่นสักเที่ยวเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งพูด ทางหนึ่งโบกมือ
ประกายกระบี่กะพริบ วาดผ่านร่างของนักบวชศาสนาพุทธต่ำกว่าระดับสุญญตาแต่ยังไม่ตายหล่านั้น มอบความเจ็บปวดรวดเร็วให้แก่พวกท่าน
มู่จามองเหตุการณ์นี้ หนังจากระตุกริกๆ “ข้าต้องกล่าวกับเทวกษัตริย์น้อยสักประโยคว่าไหนเลยต้องลำบากเช่นนี้? เทวกษัตริย์น้อยมีความสามารถล้นฟ้า ไฉนต้องสังหารหมดสิ้น สร้างบาปสังหารเช่นนี้?”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างเรียบเฉย “กล่าวในภาพใหญ่ ครั้งมหาภัยพิบัติ แดนสุขาวดีตะวันตกของพวกท่านเปื้อนเลือดคนในสำนักเต๋าข้าไม่น้อย กล่าวในภาพเล็ก พวกท่านสร้างความลำบากแก่ศิษย์น้องร่วมสำนักของข้า ถ้าไม่ใช่คนผู้นั้นในจวนมหาเอกาลงมือ ศิษย์น้องข้าเกรงจะประสบภัยพิบัติแล้ว ท่านอย่าอย่าปฏิเสธว่าไม่ใช่”
“ยิ่งไปกว่านั้น…” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มขึ้นอย่างฉับพลัน “ต่อให้ไม่มีเรื่องราวเหล่านี้ ข้าสังหารพวกท่านไม่ได้หรือ?”
มู่จาส่ายศีรษะ “คนเป็นมีดเขียง ข้าเป็นเนื้อปลา ไม่มีสิ่งใดต้องตำหนิ เพียงแต่เทวกษัตริย์น้อยอย่าได้ลืมเรือนว่า พวกท่านได้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนไปก็จริง ทว่าค่ายกลลงทัณฑ์เซียนก็ปกป้องพวกท่านไม่ให้เผชิญการลงมือด้วยตัวพระพุทธองค์โดยตรง เทวกษัตริย์น้อยท่านกลับไม่ใช่ใต้หล้าไร้คู่ต่อกร”
“ข้าสู้ท่านไม่ได้ท่านสังหารข้า ท่านสู้ข้าไม่ได้ข้าสังหารท่าน หลักการนี้รวบรัดยิ่ง ท่านนักบวชฮุ่ยอั้นไม่ต้องเตือนข้า” เยี่ยนจ้าวเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “ปล่อยท่านไว้นำทาง เพราะเห็นว่าท่านเคยเป็นคนในสำนักเต๋า ถือว่านึกถึงน้ำใจเก่าก่อน จะให้โอกาสท่านชดใช้สิ่งที่ผ่านมา ไม่อย่างนั้นแค่ที่ท่านสร้างความลำบากแก่ศิษย์น้องข้า ก็ถือว่าล้ำเส้นก่อนแล้ว ข้ากำจัดท่านทิ้ง สมันตภัทรโพธิสัตว์กับโพธิสัตว์กวนอิมก็ไม่ว่าอะไร”
มู่จาถอนใจคำหนึ่ง คิดจะเอ่ยอะไรสักอย่าง กลับถูกเยี่ยนจ้าวเกอตัดบท “ท่านอย่าได้คิดใช้วาจาไร้สาระมาถ่วงเวลา ถึงข้าจะรีบร้อนตามหาศิษย์น้องข้า แต่ในเมื่อรู้แล้วว่าเขาเข้าไปในจวนมหาเอกา ด้านในยังเป็นผู้อาวุโสสำนักเต๋าของข้า ในเวลาอันสั้นสมควรไม่มีอันตราย”
“ไม่มีท่านนำทาง ข้าอย่างมากสุดเจอศิษย์น้องช้าหน่อยเท่านั้นเอง” เยี่ยนจ้าวเกอพูดอย่างราบเรียบ “เมื่อไม่มีพวกท่าน ทัพหนุนจากแดนสุขาวดีตะวันตกก็หาสถานที่แห่งนั้นไม่เจอไม่ใช่หรือ?”
มู่จาเงียบงันเล็กน้อย ครู่ต่อมาก็ยิ้มอย่างขื่นขม “เทวกษัตริน้อยไม่เหลือที่ว่างให้จริงๆ ช่างเถิด ตามข้ามา ข้าเองก็อยากรู้ว่าในจวนมหาเอกาเป็นผู้ใดกันแน่ ถึงค่อยสบายใจ”
“อ้อ? ได้ยินท่านกล่าวเช่นนี้ ท่านคล้ายทราบว่าด้านในเป็นใคร?” เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งพูด ทางหนึ่งมองมู่จาหยิบบาตรเงินสีดำใบหนึ่งออกมา
มู่จาเคาะบาตร น้ำบริสุทธิ์ไหลออกมาจากในบาตร แสงวารีสะท้อนเงา ชี้บอกเส้นทาง
“พวกเราเดิมทีคิดไล่ตามเข้าไปในจวนมหาเอกา ผลคือถูกคนด้านในขัดขวาง สุดท้ายได้แต่ถอยออกมาก่อน” มู่จาว่า “ความรู้สึกนั้นมีความคุ้นเคยหลายส่วน…”
เยี่ยนจ้าวเกอพอฟัง สีหน้าพิกลอย่างไม่อาจควบคุม
มู่จาเป็นผู้สืบทอดหยกพิสุทธิ์ในยุคโบราณตอนต้น ภายหลังติดตามผู่เสี่ยนจินหยินเข้าสู่ศาสนาพุทธ แล้วร่ำเรียนกับพระสมันตภัทรโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์กวนอิมตามลำดับ
เขาแยกแยะว่าอีกฝ่ายเป็นผู้สืบทอดสำนักเต๋า สมควรไม่ผิดพลาด
ทว่าหากบอกว่าเขายังไม่ได้สัมผัสจริงๆ ยังรู้สึกได้ถึงความคุ้นเคย ตัวเลือกก็มีค่อนข้างจำกัดแล้ว
“ข้าว่าด้านในสมควรไม่ใช่มหาเทพสมุทรตรีภพกระมัง?” เยี่ยนจ้าวเกอถามด้วยสีหน้าพิลึก
มหาเทพสมุทรตรีภพนาจา ก็คือไทจือที่สามนาจาซึ่งผู้คนนิยมเรียกขาน
เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงลือลั่นในประวัติศาสตร์สำนักเต๋า หนึ่งในบุคคลระดับสุดยอดสายหยกพิสุทธิ์นอกจากหยางเจี่ยน สร้างชื่ออันน่าเกรงขามขึ้นตอนเป็นเซียนกำเนิดสุญญตาในยุคโบราณตอนต้น
ภายหลังเข้าสู่วังเทพ ขึ้นสู่มหาชาลในยุคโบราณตอนกลาง เป็นเทพารักษ์ที่มีชื่อเสียงของวังเทพ คลื่นลูกหลังกลบคลื่นลูกหน้า เหนือกว่าบรรพบุรุษนับไม่ถ้วน
หากพูดถึงพลัง มีอิทธิฤทธิ์มากมาย ถือว่าเป็นผู้เข้มแข็งชั้นสูงสุดของวังเทพทั้งหมด
แน่นอนว่าเทียบกันแล้ว นิสัยเองก็เป็นที่เลื่องลือ เป็นคนร้ายกาจที่มีชื่อบนประวัติศาสตร์สำนักเต๋า
ในข่าวปัจจุบันที่เยี่ยนจ้าวเกอได้ เซียนสวรรค์ผู้สืบทอดสำนักเต๋าผู้นี้ ที่อยู่ไม่กระจ่างชัด แต่ว่าข่าวส่วนใหญ่ล้วนว่ากันว่าได้เสียชีวิตในมหาภัยพิบัติแล้ว
กระนั้นก็ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนมาโดยตลอด
ดังนั้นขณะนี้ได้ยินคำพูดของมู่จา เยี่ยนจ้าวเกออดเกิดการคาดเดาไม่ได้
ผู้ใดทราบ มู่จากกลับให้คำตอบอีกอย่าง “ข้าไม่แน่ใจ แต่เทียบกับน้องสามแล้ว ข้ารู้สึกว่าเหมือนอาจารย์ลุงไท่อี้ อาจารย์ของเขามากกว่า”
ไท่อี้จินหยินหรือ?
เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้วเล็กน้อย
นั่นเป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าที่เทวกษัตริย์บรรพกำเนิดเจ้านิกายหยกพิสุทธิ์สั่งสอนด้วยตัวเองท่านหนึ่ง ถูกเรียกเป็นสิบสองเซียนแห่งหยกเหมือนกับเทวกษัตริย์กว่างเฉิง ชื่อจิงจื่อ ผู่เสี่ยนจินหยิน เทวกษัตริย์ประพฤติเต๋า เป็นอาจารย์ของนาจา
หลังมหาภัยพิบัติก็ถือว่าเป็นหนึ่งในคนที่ที่อยู่ไม่ชัดเจน
ข่าวเกี่ยวกับตัวเขายังน้อยกว่านาจา
เยี่ยนจ้าวเกอได้บาตรของมู่จา คิดจะตามหาจวนมหาเอกาที่ล่องลอยนั้น ง่ายดายกว่าเดิมมาก
ตอนแรกถึงแม้พวกมู่จาจะถูกไล่ออกมาจากจวนมหาเอกา ทว่าถึงอย่างไรก็เข้าไปด้านในมาแล้ว
เจ้าของที่อยู่ข้างในคล้ายกับมีอะไรไม่สะดวก เป็นเพราะว่าแบ่งจิตใจไปกับเรื่องอื่น ดังนั้นพวกมู่จาจึงใช้วิชาลับ ได้เบาะแสค้นหาจวนมหาเอกาในที่ลับ
พวกเขาเดิมคิดจะรอแดนสุขาวดีตะวันตกส่งคนมาสนับสนุน ผลคือถูกเยี่ยนจ้าวเกอฉกฉวย
เยี่ยนจ้าวเกอพิจารณาอย่างละเอียดครั้งแล้วครั้งเล่า พบว่ารอบๆ ไม่มีพุทธะระดับมหาชาลเข้าออก จึงลอบยินดีกับตัวเอง
ตามเหตุผล ผู้เข้มแข็งระดับมหาชาลเมื่อได้ข่าว สมควรรุดมารวมตัวกับพวกมู่จาอย่างรวดเร็ว มาถึงในเวลาไม่นาน
ก่อนหน้านี้มาไม่ถึง มองไปคล้ายกับว่าแดนสุขาวดีตะวันตกกำลังง่วนกับเรื่องอื่น ไม่อาจโยกย้ายกำลังคนที่เหมาะสมได้ชั่วคราว จึงเสียเวลา
เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงก่อนก้าวหนึ่ง ตัดขาดพวกมู่จากกับโลกภายนอก ฆ่าได้ฆ่า จับได้จับ แดนสุขาวดีตะวันตกคิดจะตามหาอย่างรวดเร็วก็ยากเย็นแล้ว
ทว่าขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอยินดี ก็ลอบระวังตัว ‘แดนสุขาวดีตะวันตกกำลังรวบรวมคนทำอะไรกัน?’
ทางหนึ่งใคร่ครวญ ทางหนึ่งเคลื่อนไหวในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน
ครั้งนี้ผ่านไปไม่นานเขาก็เจอเป้าหมาย
นั่นเป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยหมอก เหมือนกับทะเลเมฆ ลอยอยู่ข้างในความว่างเปล่าสีดำสนิท
กลิ่นอายเปลี่ยวร้างดึกดำบรรพ์ เก่าแก่อ้างว้างสายหนึ่งส่งมาจากด้านในอย่างเลือนราง
เป็นจวนมหาเอกาที่เยี่ยนจ้าวเกอคิดตามหา
ที่นั่นโดยพื้นฐานแล้วเป็นเศษเล็กเศษน้อยที่หลุดออกจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ในยุคสมัยอันรกร้างโบราณของมหาจักรวาล จึงใช้คำว่า ‘เอกา’ ตั้งเป็นชื่อ
เป็นเพราะความลี้ลับเป็นเอกลักษณ์ด้านใน ดังนั้นจึงมีผู้ยิ่งใหญ่มากมายแยกกันเก็บรวบรวมยึดครองเศษชิ้นส่วนเช่นนี้ แล้วสร้างมันเป็นจวนแยกถ้ำฟ้าของตัวเองมานานแล้ว
หลังจากยุคโบราณตอนต้น เศษชิ้นส่วนที่ว่าก็หายากเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันยิ่งดำรงอยู่แค่ในตำนาน
เยี่ยนจ้าวเกอคิดไม่ถึงว่า วันนี้จะได้เห็นด้วยตาตัวเอง
ทว่าการดำรงอยู่ที่พิเศษเช่นนี้ เป็นไปได้อย่างแท้จริงที่จะกลายเป็นสถานที่ซ่อนตัวของใครสักคน