ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1651 มีช่องทางในที่ลับ
“ท่านคิดจะตามหาใคร?” เฟิงอวิ๋นเซิงถาม “หรือจะหาเกาหาน?”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้ายิ้มเล็กน้อย “เป็นเขาเอง”
ถึงจะไม่แน่ใจว่าเป็นการกระทำส่วนตัวของเกาหาน หรือว่าจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ส่งเสริม ทว่าเกาหานมีการติดต่อกับแดนสุขาวดีตะวันตกในที่ลับแต่แรกแล้ว
ครั้งกระโน้นเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงได้เปิดโปงเรื่องนี้
“ใช่ว่าจะได้ประโยชน์มากมาย แต่แค่ส่งข่าวสมควรไม่ใช่เรื่องยาก” เยี่ยนจ้าวเกอว่า
“นี่เท่ากับเพิ่มความยุ่งยากให้แก่แดนสุขาวดีตะวันตก ถ้าหากว่าเกาหานมีการไปมาหาสู่กับแดนสุขาวดีตะวันตกอยู่บ้าง นี่เท่ากับทำลายความพยายามมากมายก่อนหน้านของเขา เขาใช่ว่าจะยินดี” เฟิงอวิ๋นเซิงเอ่ยขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอแบมือ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เช่นนี้พวกเราสามารถทดสอบดูได้พอดีว่า ราชันพระอาทิตย์ผู้นี้ในใจเอนเอียงไปทางไหนกันแน่”
ถึงแม้ในสงครามช่วงชิงค่ายกลงทัณฑ์เซียน ณ ตอนนั้น พวกจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กับเกาหานต่างยืนอยู่ข้างสำนักเต๋า ร่วมแรงร่วมใจกับสหายร่วมเส้นทางสามพิสุทธิ์คนอื่นอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่านี่ยังคงไม่ได้บ่งบอกว่าเกาหานไม่มีแผนการอื่น
“ต้องแจ้งพี่ร่วมเส้นทางหนานจี๋ก่อน” เฟิงอวิ๋นเซิงว่า เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “นี่ย่อมแน่นอน”
ในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดนติดต่อไม่ง่าย เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงไม่รีบร้อน พวกเขาค่อยๆ ไปถึงอาณาบริเวณใกล้ๆ แดนสุขาวดีตะวันตก
แน่นอนว่าคนทั้งสองมิได้เข้าใกล้ ถึงขั้นมีความคิดกั้นมิติหลายชั้น
โชคดีที่ทั้งสองเชี่ยวชาญการหลบเร้น ไม่อย่างน้อยต่อให้ตั้งใจควบคุมระยะห่าง เมื่ออยู่ใกล้ถึงระดับนี้ ผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธระดับสุดยอดอย่างทีปังกรพุทธะ กับพระโพธิสัตว์กวนอิมในแดนสุขาวดีตะวันตก ยากจะไม่เกิดความรู้สึก
พวกเขาสองคนอดทนรอคอย คอยสังเกตคนที่มีและไม่มีความพิเศษเข้าออกแดนสุขาวดีตะวันตก
รอเงียบๆ อยู่สักพัก เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจสั่นไหว “เกาหานส่งข่าวมา เขามาถึงใกล้ๆ แล้ว”
เฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้า ออกไปพร้อมกับเยี่ยนจ้าวเกอ
หลังจากคนทั้งสองเคลื่อนไหวด้านสักพั ก็หยุดที่อาณาบริเวณแห่งหนึ่ง
ในความว่างเปล่ามีความมืดประกายน้ำเงินทะมึนกำลังขดตัว จากนั้นก็ค่อยๆ ปรากฏบุรุษอาภรณ์ขาวคนหนึ่งจากด้านใน เป็นเกาหาน ราชันพระอาทิตย์ที่ไม่ได้เจอมานาน
เขาครอบครองพระอาทิตย์กับพระเกตุวรยุทธ์ย้อนจันทร์สองสาย แสดงความมืดไร้ขอบเขตก่อนกำเนิด ระดับการล้อบเร้นและซ่อนตัวไม่ด้อยไปกว่าเจี่ยนซุ่นหวาราชันพระราหูที่อยู่ในขอบเขตเดียวกัน
พระเกตุ ไม่ได้ชั่วร้ายเหมือนพระราหู แต่ว่าสงบนิ่งซ่อนลึกมากกว่า ดูจากจิตวรยุทธ์ เทียบสองสิ่งแล้ว พระราหูเชี่ยวชาญการโจมตีมากกว่า สวนพระเกตุเชี่ยวชาญการป้องกันมากกว่า
แน่นอนว่าการโจมตีของเกาหานก็ร้ายกาจเช่นกัน พระอาทิตย์ยิ่งใหญ่เปิดเผย รุนแรงแข็งกร้าว เป็นความสามารถระดับสุดยอดแห่งใต้หล้า
“สองสามีภรรยาสบายดี” เกาหานยิ้มพลางประสานมือให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิง
“ราชันพระอาทิตย์เกรงใจแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มขึ้นเช่นกัน “รายละเอียดเรื่องราวคาดว่าท่นาทราบแล้ว ไม่รู้ว่ามีวิธีหรือไม่”
เกาหานสีหน้าเป็นปรกติ “ถ้าหากเป็นสารีริกธาตุศากยุมณีจริงๆ เช่นนั้นสถานการณ์นี้ก็ควรค่าให้พวกเราสอดมือ ข้าผู้แซ่เกาจะพยายามทดลองสุดกำลัง”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “แดนสุขาวดีตะวันตกจะต้องป้องกันอย่างแนบแน่น ไม่ให้มหาวิทยราชมยุรีได้รับข่าว”
“มิผิด ดังนั้นจำเป็นต้องจ่ายราคาไม่น้อย แต่ถ้าหากว่าทำสำเร็จจริงๆ การจ่ายนี้ก็คุ้มค่าเช่นกัน” เกาหานว่า “ขออนุญาตให้ข้าลองคิดหาวิธีดูก่อน พวกท่านสามีภรรยาหากสะดวกไปยังทางนั้น ใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋มาแล้วเช่นกัน”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงเลิกคิ้วเล็กน้อย “อ้อ?”
ครั้งกระโน้นเป็นเพราะหยกหรูอี้ไตรรัตนะ จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ไม่รับมุกค้ำทะเลชิ้นหนึ่ง หลายปีมานี้มิได้สร้างนิวาสสถานขึ้นใมห่เหมือนพวกสั่วหมิงจาง จักรพรรดิโกวเฉิน เจ้าแม่อู๋ตัง นางเซียนอวิ๋นเซียว
ทว่าตามที่เยี่ยนจ้าวเกอทราบ จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ก็เคยสนับสนุนเกาหานกับหลิงชิงให้แยกกันเปิดฟ้าดินแห่งใหม่ ชุบเลี้ยงคนใหม่ในสำนัก แตกกิ่งก้านสาขา
ตัวเขาตั้งใจเคลื่อนไหวในความว่างเปล่าไร้เขตแดน ค้นหาสหายร่วมเส้นทางสามพิสุทธิ์ที่อาจยังมีชีวิตอยู่ และของวิเศษมากมายที่กระจัดกระจายสูญหายไปในอดีต
ไม่นานมานี้ เขาค้นหาธงเหลืองโบ่วกี้กับพวกหยางเจี่ยนเป็นหลัก
ปัจจุบันเร่งรุดมาหลังได้รับข่าว เป็นเพราะสารีริกธาตุศากยมุณี หรือเป็นเพราะครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอแสดงเรื่องที่เกาหานกับศาสนาพุทธมีการติดต่อกันไว้ในที่แจ้ง?
เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญ แต่เปลือกนอกไร้ความผิดปกติ พยักหน้าทันที “ใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋ก็มาแล้วเหมือนกันหรือ? เช่นนั้นไม่ว่าแดนสุขาวดีตะวันตกกำลังวางแผนอะไร การเตรียมตัวของพวกเราต่างมีพร้อมแล้ว”
“ข้าสามีภรรยาไปพบใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋ เรื่องที่นี่รบกวนราชันพระอาทิตย์แล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอพูดจบก็ประสานมือ บอกลาเกาหาน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังที่ไกลพร้อมเฟิงอวิ๋นเซิง
เดินได้ครู่หนึ่ง เฟิงอวิ๋นเซิงเหลียวมอง “ทางนั้น”
ณ ที่แห่งนั้น ความว่างเปล่ายังคงสงบนิ่งไร้เสียง แต่เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสได้อย่างเลือนรางถึงการสั่นไหวของแสงสายฟ้าด้านใน
เป็นอย่างที่คาด หลังจากเข้าใกล้ ตรงหน้าก็คล้ายมีม่านไร้รูปร่างชั้นหนึ่ง
หลังข้ามไป ก็เห็นสายฟ้าหลายสายปรากฏรูปร่างที่แท้จริง
“ใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋ ไม่เจอกันนานแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือคารวะ เฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้ากล่าว “พี่ร่วมเส้นทางหนานจี๋ สบายดีหรือ?”
ชายชราสวมมงกุฎ ใส่เสื้อนักพรต โดยสารรถสายฟ้าปรากฏตัว เป็นจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋นั่นเอง
เขาก้าวลงจากรถสายฟ้า พยักหน้าคารวะตอบ “พวกเจ้าสามีภรรยามีท่วงท่าเหนือกว่าวันวาน”
เสียงของเขาสั่นสะท้านจิตใจคนเหมือนกับทัณฑ์สายฟ้าจากสวรรค์ ชำระล้างกรรมฟ้าดิน ทั้งอ่อนโยนเหมือนกับลมเย็นฝนปรอย หล่อเลี้ยงวัตถุอย่างไร้เสียง
ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันสองอย่างผสมกันเป็นหนึ่ง เกิดเป็นเสน่ห์ที่พิเศษจำเพาะ
“ใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋ชมเชยเกินไปแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอถาม “ข่าวก่อนหน้า บอกว่าธงเหลืองโบ่วกี้ยังคงไร้ร่องรอย ไม่ทราบตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ตอนนี้ยังคงไม่ได้ผลอะไร” จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กล่าว “เทียบกับความล่องลอยว่างเปล่าทางด้านนั้น ที่นี่น่าสนใจมากกว่า”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้าเงียบๆ
“สหายน้อยเยี่ยนเจ้าผนึกหลอมบุปผาจิตแล้ว น่ายินดีนัก” จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เอ่ย “หลังมหาภัยพิบัติ ต่อจากสหายร่วมเส้นทางสั่วกับสหายร่วมเส้นทางเฟิง ก็เป็นเจ้ากับบิดาเจ้า อยู่ใกล้กับระดับมหาชาลมากที่สุด”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “ใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋เกรงใจแล้ว ยิ่งใกล้ระดับมรรคายิ่งลำบาก พวกเราแค่ค่อยเป็นค่อยไป”
“ข้าล้วยอาศัยวาสนาความบังเอิญ กาลเวลาสภาวะสร้างขึ้น เพียงแต่โชคดี พี่ร่วมเส้นทางหนานจี๋ชมเกินไปแล้ว” เฟิงอวิ๋นเซิงเอ่ยขึ้น
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ส่ายหน้า “พวกเจ้าสามีภรรยาถ่อมตัวเกินไป”
เขามองไปยังเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง ถามต่อว่า “ไม่ทราบตอนนี้บิดาเจ้าเป็นอย่างไรแล้ว?”
“ตอนนี้บิดากำลังเก็บตัวฝึกฝนบนสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย ศึกษามรรคายุทธ์ของตัวเองเพิ่มอีกขั้นหนึ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอว่า
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋พยักหน้าเล็กน้อย “สหายน้อยซิงถาสงมีคนรุ่นหลังเช่นนี้ จิตใจได้รับการปลอบประโลมแล้ว”
“ก่อนใต้เท้ามา ได้เจอผู้อาวุโสไท่อี้แล้วหรือ?” เยี่ยนจ้าวเกอถาม
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เป็นศิษย์ของบรมครูเทวกษัตริย์แห่งหยกพิสุทธิ์ เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนักจากอาจารย์คนเดียวกันกับไท่อี้จินหยินอย่างแท้จริง
“ยังไม่ไได้เจอ รอเรื่องด้านนี้จบ จะไปพบกับศิษย์น้องไท่อี้ เกี่ยวกับเรื่องนาจา ข้าได้ยินมาแล้ว ตอนนี้ศิษย์น้องไท่อี้คงกำลังเหนื่อยยากแล้ว” จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋พูด “แต่พวกเขาศิษย์อาจารย์ยังมีชีวิตอยู่ ประเสริฐแท้ๆ”
ทั้งสามคุยกันไปพลาง รอคอยข่าวจากเกาหานไปพลาง
เกาหานเคลื่อนไหวราบรื่นยิ่ง ไม่นานเท่าไหร่ ก็มาพบเยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง และจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋อีกครั้ง