ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1664 เส้นทางหลักไม่ผ่านเดินเส้นทางนอกรีต
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสัมผัสได้ว่า อยู่ๆ หมาป่าขุยมู่ก็ผละจากเผ่าปีศาจตนอื่นๆ มุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่งตัวคนเดียว
มหาเทวะเผ่าปีศาจที่เฝ้าที่นี่มีจำกัด ถึงหมาป่าขุยมู่จะขึ้นสู่มหาชาล แต่ว่าขีดความสามารถโดดเด่นสุดขีด เคลื่อนไหวคนเดียวกับปกติเช่นกัน จอมปีศาจตนอื่นๆ ล้วนไม่ถามไถ่
เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่สงสัย เพียงแต่เขาย่อมติดตามอีกฝ่ายใกล้ชิด
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่แสดงท่าที เปลี่ยนตำแหน่งของตัวเอง
เพื่อป้องกันไม่สร้างความสงสัย เขาไม่ได้ติดตามหมาป่าขุยมู่ใกล้เกินไป แต่ว่ายังสามารถรับประกันว่าตนจะไม่หลงกับหมาป่าขุยมู่
โชคดีที่หมาป่าขุยมู่คล้ายไม่ใช่ต้องการทำเรื่องไร้ยางอาย ความระวังต่อสภาพแวดล้อมรอบๆ มิได้สูงมาก
ตรงกันข้ามความระมัดระวังของเขาเหมือนกับต่ำกว่ายามปกติ เหมือนถูกของอะไรดึงดูดความสนใจ
นี่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอที่ตอนแรกไม่มีความสงสัยกลับสนใจขึ้นมา
เขาตั้งใจสำรวจรอบๆ ก่อน เมื่อไม่พบสาถนการณ์ผิดปกติอย่างอื่น ดูท่าทางสมควรไม่ใช่พบว่าเขามีปัญหา อีกฝ่ายจึงจงใจวางกับดัก
หมาป่าขุยมู่ตรงหน้าอยู่คนเดียว กลับเหมือนเวลาดีในการติดต่อกับอีกฝ่าย ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอสนใจในการเคลื่อนไหวของหมาป่าขุยมู่มากกว่า
ถ้าหากมีผลพลอยได้อย่างอื่นจริงๆ จะส่งผลต่อการติดต่อกับหมาป่าขุยมู่ต่อจากนี้มากกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย
หมาป่าขุยมู่หยุดฝีเท้าอย่างรวดเร็ว เยี่ยนจ้าวเกอมองอย่างละเอียด
ปัจจุบันการต่อสู้ระหว่างแดนสุขาวดีบัวขาวกับโถงเซียนไม่ใช่การต่อสู้เล็กน้อยตามสถานการณ์ปกติ แต่ว่าเปิดการสงคราบทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากหนึ่งร้อยปี
ดังนั้นแนวรบของสองฝ่ายจึงเหยียดยาว เกี่ยวพันกว้างขวาง เปิดสนามรบหลายแห่ง ขณะเดียวกันก็สู้รบจนฟ้าพลิกแผ่นดินคว่ำ
เนื่องจากว่าแดนสุขาวดีบัวขาวมีพลังได้เปรียบ โจมตีด้วยตัวเอง ดังนั้นเพลิงสงครามจึงคุกคามดินแดนของโถงเซียนเป็นหลัก
ปัจจุบันพวกจอมปีศาจที่รวมถึงหมาป่าขุยมู่ รวมถึงนักบวชศาสนาพุทธแห่งแดนสุขาวดีบัวข่าว ไม่ได้เข้าร่วมสงครามโดยตรง ส่วนใหญ่สังเกตการณ์อยู่รอบนอก หลังความขัดแย้งส่วนน้อยปะทุขึ้น ก็สงบลงอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้หมาป่าขุยมู่ตั้งใจเข้าใกล้สมรภูมิแห่งหนึ่งในการต่อสู้ของเส้นทางนอกรีต
ที่นี่เป็นหนึ่งในสามพันแดนเซียนของโถงเซียน ดูโลกหลายใบในแดนเซียนแห่งนี้ เส้นทางนอกรีตสู้ยาตราทัพไม่หยุดหย่อน กลายเป็นสภาพซับซ้อนเหมือนเขี้ยวหมาเกี่ยวกัน ท่านสู้กันชิง ชิงดินแดนไม่ยอมหลีกหนี
จอมยุทธ์เส้นาทงนอกรีตที่ปัจจุบันทำศึกบนแดนเซียนแห่งนี้ ไม่ว่าแดนสุขาวดีบัวขาวหรือโถงเซียน อย่างสูงที่สุดไม่เกิดระดับเซียนลี้ลับสงบนิ่ง เทียบกับหมาป่าขุยมู่มหาเทวะเผ่าปีศาจแล้ว ไม่มีควรค่าให้กล่าวถึงอย่างไม่ต้องสงสัย
สองฝ่ายที่สู้กันถึงขั้นสัมผัสการเข้าใกล้ของมหาป่าขุยมู่ไม่ได้ด้วยซ้ำ
กลับเป็นผู้เข้มแข็งระดับเทวกษัตริย์ของทางโถงเซียน หลังจากพบว่าหมาป่าขุยมู่เข้าใกล้ ก็ตึงเครียดเป็นอย่างยิ่ง
พุทธแห่งแดนสุขาวดีบัวขาวเดิมมีจำนวนมากกว่าเทวกษัตริย์จากโถงเซียน ทำให้พวกท่านเต็มไปด้วยแรงกดดันอยู่แล้ว ขณะนี้มีมหาเทวะเผ่าปีศาจอย่างหมาป่าขุยมู่มาถึง แนวป้องกันด้านโถงเซียนก็มีความเสี่ยงที่จะพังทลายทันที
ทว่านี่กลับไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาร้อนใจ
หลังจากสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของหมาป่าขุยมู่ เหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกที่คอยจับตาดูอยู่ใกล้ๆ ย่อมไม่ซ่อนมือในแขนเสื้อมองดูเฉยๆ มีพุทธะองค์หนึ่งมาถึงที่นี่ทันที
พุทธะไม่ได้รีบลงมือ แต่ว่าจับตามองหมาป่าขุยมู่อย่างระมัดระวัง
หมาป่าขุยมู่ก็ไม่มีความคิดลงมือ หลังจากมองพุทธะแวบหนึ่ง ก็ย้ายสายตาไปที่การต่อสู้ระหว่างโถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวตรงหน้า
สองฝ่ายคุมเชิงกัน แต่ผู้ใดก็ไม่มีการเคลื่อนไหวมากกว่านี้
ท่าทางของหมาป่าขุยมู่เหมือนยืนอยู่ไกลๆ มองไม่ชัด เลยจงใจเข้าใกล้เล็กน้อย
พุทธะที่มาจากศาสนาพุทธสายหลักผู้นั้นเห็นดังนั้น เปลือกนอกปล่อยเขาไป ยืนอยู่ใกล้ๆ เป็นเพื่อนเขา แต่ว่ามีมีการระวังในที่ลับ ป้องกันหมาป่าขุยมู่เล่นตุกติกอยู่เบื้องหลัง
หากแต่หมาป่าขุยมู่คล้ายไม่มีความคิดเดียวกัน เพียงมองโลกที่เพลิงสงครามเวียนว่อนตรงหน้าเงียบๆ
เยี่ยนจ้าวเกอจุ๊ปากกล่าวว่าประหลาด ไม่ทราบว่าอนุเทวะเสื้อเหลืองในอดีตผู้นี้ มหาเทวะเสื้อเหลืองในปัจจุบันในน้ำเต้าขายยาอันใด[1]
เพียงแต่ว่า ถึงจะอยู่ห่างมาก แต่เยี่ยนจ้าวเกอยังสัมผัสอย่างเลือนรางได้ว่า หมาป่าขุยมู่มหาเทวะเสื้อเหลืองตนนั้นขณะนี้กำลังเหม่อลอยเล็กน้อย
‘ถ้าหลังมหาภัยพิบัติเขาหลบซ่อนอยู่ในเขาดาราทะเลดวงดาวมาโดยตลอด เช่นนี้ตอนนี้สมควรเป็นครั้งแรกที่เขาเข้าใกล้ดินแดนของโถงเซียน’ เยี่ยนจ้าวเกอขบคิด
หปกติหมาป่าขุยมู่เร้นกายอยู่ในเขาดาราทะเลดวงดาวนานๆ ครั้งจะออกมา น้อยครั้งจะมีข่าวสารแพร่หลาย เยี่ยนจ้าวเกอถึงขั้นนึกว่าเขาตายไปตอนเกิดมหาภัยพิบัติแล้ว ดังนั้นตอนตามหาหยกหยุดวิญญาณ จึงไม่เคยคิดถึงเขามาก่อน
วันนี้ในที่สุดหมาป่าขุยมู่ก็ออกเขาอีกครั้ง เรื่องราวแรกคือไปหาสารีริกธาตุศากยมุณีกับเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ราชาปีศาจวัว เซียนหัวมังกร
หลังจากเรื่องนั้น ก็มาชมดูการต่อสู้บริเวณนี้
‘หากว่าก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน เช่นนั้นโถงเซียนสมควารไม่ใช่สาเหตุที่ดึงดูดความสนใจของเขา’ เยี่ยนจ้าวเกอมองหมาป่าขุยมู่ด้วยความสนอกสนใจ ‘นั่นเป็นเพราะคนบางคน หรือของบางอย่างที่อยู่ที่นี่แล้ว?’
‘เขายืนอยู่รอบนอกสักครู่อยู่ๆ ก็เคลื่อนไหวเข้าใกล้ เห็นได้ชัดว่าถูกสาเหตุที่อยู่เหนือความคาดหมายหรือการค้นพบอย่ากระทันหันดึงดูด ไม่ใช่เรื่องที่ได้ยินเผ่าปีศาจตนอื่นพูดถึงตอนอยู่บนเขาดาราทะเลดวงดาวเมื่อก่อนหน้า’
‘เช่นนั้นจะเป็นอะไรได้?’ เยี่ยนจ้าวเกอถือโอกาสมองไปยังแดนเซียนแห่งนั้น ขณะมองอยู่ไกลๆ ทางหนึ่งสำรวจทางหนึ่งพิจารณา
ในแดนเซียนแห่งนั้นบรรจุโลกแปดใบ ตอนนี้ล้วนกลายเป็นแดนอสูร จอมยุทธ์เส้นทางนอกรีตจำนวนมากสู้กันอยู่ด้านใน พลังฝึกปรือมีสูงมีต่ำ
จอมยุทธ์ที่ขอบเขตพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำ เข่นฆ่าขนาดใหญ่ ท่านมาข้าไปในโลกแปดใบนั้น
จอมยุทธ์ที่มีขอบเขตพลังฝึกปรือของข้างสูง ต่อสู้ในความว่างเปล่าของแดนเซียน ด้านนอกฟ้าดิน
ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นกษัตริย์โถงเซียนคนหนึ่ง กำลังสู้กับอรหันต์ศาสนาพุทธจากแดนสุขาวดีบัวขาวท่านหนึ่ง ต่างฝ่ายไม่ยอมถอย
นอกจากนี้แล้ว ยังมีจักรพรรดิเซียนจริงแท้จากโถงเซียนหลายคน แยกกันจับคู่ฆ่าฟัน
จากมุมมองของจอมยุทธ์ และมุมมองด้านพลัง เยี่ยนจ้าวเกอไม่พบจุดที่ใช้ประโยชน์ได้ด้านในสักเท่าไหร่
เขาเชื่อว่าด้วยสายตาของหมาป่าขุยมู่ ก็ไม่มีทางถูกดึงดูดมาเพราะพลังของเซียนลี้ลับกับเซียนจริงแท้เส้นทางนอกรีตเหล่านี้
เยี่ยนจ้าวเกอพยพายามนึกย้อนถึงวรยุทธ์ที่หมาป่าขุยมู่หนึ่งในยี่สิบแปดกลุ่มดาวแห่งวังเทพฝึกฝน จากนั้นเปรียบเทียบกับจอมยุทธ์เส้นทางนอกรีตตรงหน้า ไม่พบว่าผู้ใดมีการเชื่อมโยงแหล่งที่มากับสิ่งที่หมาป่าขุยมู่ร่ำเรียน
เส้นทางนี้ไม่ผ่าน เยี่ยนจ้าวเกอก็เปลี่ยนแนวคิด เริ่มสังเกตว่าในแดนเซียนแห่งนั้นได้ซ่อนของวิเศษที่พิเศษส่วนหนึ่งหรือไม่
ของวิเศษซ่อนในที่ลับ ตามปกติ ย่อมเจอได้ยาก
ทว่าในเมื่อหมาป่าขุยมู่มีการเคลื่อนไหวที่แปลกๆ แบบนี้ เช่นนั้นหมายความว่าในสายตายอดฝีมือระดับเขา สิ่งของมิได้เร้นลับ
ถึงระดับของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกจะต่ำกว่าหมาป่าขุยมู่ ทว่าปัจจุบันก็มีพลังไม่ธรรมดา สายตาของเยี่ยนจ้าวเกอยิ่งสะท้านคน แต่มองดูอยู่ครึ่งวัน ก็ไม่ได้รับผลลัพธ์ใดๆ
ต่อจากนั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็คิดถึงความเป็นไปได้มากมาย สุดท้ายตัดออกทีละข้อๆ
‘ถ้าทางสายหลักเดินผ่านไม่ได้ เช่นนั้นเราได้แต่นึกถึงเส้นทางนอกรีตส่วนหนึ่งแล้ว’ เยี่ยนจ้าวเกอเบ้ปากในที่ลับ
สายตาของเขาสำรวจจอมยุทธ์เส้นทางนอกรีตแต่ละคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ในแดนเซียนแห่งนี้อีกครั้ง
ทว่าคราครั้งนี้ เขาเพียงจ้องมองสตรีเพศเท่านั้น
………………..
[1] ในน้ำเต้าขายยาอันใด หมายถึง ไม่ทราบว่ามาไม้ไหน