ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 180 หายนะนพยมโลก
ฝูงชนที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกพลังปราณชวนหวาดผวานั้นเข้าปกคลุม จึงได้รับผลกระทบอยู่บ้างไม่มากก็น้อย เช่นเสียจื่ออี้ที่หลังจากถูกเยี่ยนจ้าวเกอโจมตีจนพ่ายแพ้แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดกล่าวถึง ภายในใจจึงมีความรู้สึกมากมายโหมกระหน่ำเข้ามาไม่หยุดยั้ง
เขาคือศิษย์ตำหนักอัสนีสวรรค์ เข้าใจดีถึงความผิดปกติที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาของการประชุมฝ่านภาครั้งนี้ก่อนผู้ใดแล้ว ทว่าตอนนี้เขาถูกเยี่ยนจ้าวเกอโจมตีจนปราชัย ซึ่งนั่นทำให้ตอนนี้เขาได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง อีกทั้งสภาพจิตใจก็ไม่มั่นคงอย่างถึงที่สุด
การที่พลังปราณนั่นปกคลุม ทำให้ความคิดไม่ซื่อตรงเกิดขึ้นพร้อมๆ กันภายในใจของเสียจื่ออี้ ถึงขั้นที่ตอนนี้ปรากฏสภาพการณ์ชวนแปลกประหลาดมากมาย พาให้เขาแทบทนไม่ไหวจนจะบ้าคลั่งขึ้นมา
เขาเป็นผู้สืบทอดตำหนักอัสนีสวรรค์ที่ได้รับการอบรมบ่มเพาะอย่างดีที่สุด ถึงแม้ว่าอุปนิสัยของเขาจะโอหังอวดดี กระนั้นเมื่อประสบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ก็ยังคงไม่สูญเสียความสุขุมไป ลองอดกลั้นต่อสภาพจิตใจที่ไม่ปกติของตนเองในตอนนี้ แต่แม้จะทำเช่นนี้ ความคิดมากมายกลับวนเวียนอยู่ในก้นบึ้งจิตใจของเขาอุตลุด กดก็กดไว้ไม่อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยี่ยนจ้าวเกอผู้เป็นจุดก่อกำเนิดของความคิดมากมาย ขณะนี้ก็อยู่เบื้องหน้าเขา!
ผู้ที่สถานการณ์ใกล้เคียงกันกับเขายังมีเฉินหลินที่จิตใจกระสับกระส่ายไม่สงบเช่นกัน นางเห็นพ่านพ่าน หมียักษ์ตัวนั้นที่สังหารสุนัขป่าปีศาจทมิฬนามว่าเจวี๋ยหานของนางกับตาตนเอง บัดนี้นัยน์ตาของนางแดงก่ำเป็นพิเศษ ทำให้นางปรารถนาที่จะสังการพ่านพ่านเพื่อชำระแค้นอย่างแรงกล้า โดยที่ไม่คำนึงว่าตนเองเป็นเพียงแค่ปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นนอกเท่านั้น
กลับกัน ถึงแม้ว่าจะมีเยี่ยนจ้าวเกอกับพ่านพ่านช่วยเหลือมังกรวารีทมิฬของตน ทั้งยังช่วยเขาระบายความเคียดแค้น ถึงกระนั้นตอนนี้ที่เยี่ยฉงโจวกำลังมองเฉินหลิง ไม่ว่ามองอย่างไรก็ขัดลูกหูลูกตาเช่นกัน
คนอื่นๆ ล้วนมีปัญหาคล้ายๆ กันไม่มากก็น้อย แม้แต่ซ่งเฉาที่อยู่ขั้นฝ่านภา สภาพจิตใจก็ยังไม่มั่นคงอยู่บ้าง อยากจะต่อสู้กับถังหย่งฮ่าวอีกครั้ง
พวกเขาเหมือนเยี่ยนจ้าวเกอ ต่างก็เป็นศิษย์สืบทอดหัวกะทิของแต่ละสำนัก เชี่ยวชาญและเข้าใจวรยุทธ์อย่างลึกซึ้ง จิตใจแน่วแน่หนักแน่น
เกาะปิดนภา กระทั่งบนทะเลสาบปิดนภา จอมยุทธ์คนอื่นๆ ภายใต้หอคลื่นโหมในฐานะเจ้าภาพจึงมีผลกระทบที่ชัดเจนยิ่งกว่า
ความคิดชั่วร้ายบางส่วนที่ปกติมักจะฝังซ่อนเอาไว้ในก้นบึ้งจิตใจ กระทั่งตนเองก็ไม่เคยสัมผัสได้ ณ ตอนนี้ค่อยๆ ปรากฏขึ้นสู่ผิวน้ำ
ความคับแค้นและความพยาบาทที่สะสมทีละเล็กทีละน้อยแต่กาลก่อน เวลานี้คล้ายกับปะทุเผยออกมาพร้อมกันทั้งหมด ความขัดแย้งก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นปฏิปักษ์ต่อกันอย่างถึงที่สุด
ทางด้านจอมยุทธ์วัยกลางคนที่ตอนนั้นคิดจะจับพ่านพ่าน ใช้ธนูก่อกวนการเลื่อนขั้นของมัน ผลคือถูกหลิวเซิ่งเฟิงโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส หอคลื่นโหมจัดเตรียมที่พักให้เขาพักผ่อนรักษาบาดแผล อยู่ที่เกาะขนาดเล็กแห่งหนึ่งบนทะเลสาบปิดนภา บัดนี้ดวงตาทั้งสองของจอมยุทธ์วัยกลางคนผู้นี้แดงก่ำ ดิ้นรนคิดอยากจะผุดลุกขึ้น หน้าตาแลดูโหดร้ายน่ากลัว แต่กลับสองจิตสองใจเป็นทุกข์อยู่บ้าง
ก่อนหน้านี้เขาถูกหลิวเซิ่งเฟิงทำร้ายบาดจนเจ็บหนัก แม้ว่าหลิวเซิ่งเฟิงจะถูกเยี่ยนจ้าวเกออัดจนสภาพเจียนตาย แต่สุดท้ายซานสือเวิงก็พาตัวกลับไป
สิ่งนี้ทำให้ภายในใจเขาจงเกลียดจงชังเขาไร้พรมแดนเป็นอย่างยิ่ง ทว่ากลับกระทำสิ่งใดไม่ได้เลย
เขาไร้พรมแดน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งภูผาพิภพ ไม่ว่าจะเป็นตัวของจอมยุทธ์วัยกลางคนเอง หรือกลุ่มอิทธิพลภายใต้การบัญชาสำนัก ล้วนไร้กำลังจะสั่นคลอน
พลังความสามารถแก่กล้าที่อยู่เหนือมวลชนนั่น ทำให้เขาถึงขั้นไม่อาจเกิดความคิดแก้แค้นได้
ถึงอย่างนั้นความแข็งกร้าวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งใหญ่ทั้งหก ยังคงทำให้เขาไม่ยินยอมพร้อมใจ
ภายหลังหอคลื่นโหมจัดเตรียมรักษาเยียวยาเขาอย่างเหมาะสม ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นอยู่บ้าง
ถึงกระนั้นบัดนี้ ในใจของจอมยุทธ์วัยกลางคนก็ยังคงเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเขาไร้พรมแดน พาลเกลียดชังหอคลื่นโหมที่เป็นตัวเชื่อมของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกด้วยเช่นกัน
อารมณ์ความรู้สึกแง่ลบภายในใจไหลพรั่งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่งจนไม่อาจควบคุมได้ ทั้งยังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนสติสัมปชัญญะค่อยๆ หายไป
จอมยุทธ์วัยกลางคนผู้นี้ เป็นเพียงภาพสะท้อนเล็กๆ ที่ฝูงชนบนทะเลสาบปิดนภาในขณะนี้กำลังประสบเท่านั้น
บนเกาะลอย เยี่ยนจ้าวเกอเองก็กำลังสงบสติอารมณ์เช่นกัน เขาไม่มีอาการบาดเจ็บบนร่างกายคอยเบี่ยงเบนความสนใจ เพียงใช้ระดับพลังฝึกปรือของตนเองสงบใจตนเอง จึงไม่นับว่ายากลำบากเกินไปนัก
“การสืบทอดของจักรพรรดิปีศาจอัคคี ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของผู้คน เพียงแต่เป็นแค่ด้านความเดือดดาลอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนมารชั่วร้ายของนพยมโลก กลับเปลี่ยนแปลงไปได้ร้อยแปดพันเก้า เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนยากจะป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังเชี่ยวชาญการขุดเอาความทะเยอทะยานและความหวาดกลัวของผู้คนออกมา จึงทำให้บ่อยครั้งยากจะป้องกัน”
เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้าเล็กน้อย ส่วนอาหู่ที่อยู่ข้างกายเขาแยกเขี้ยวยิงฟัน “คุณชายขอรับ พวกท่านผู้อาวุโสฟางเองก็น่าจะลงมือแล้วกระมัง”
“เริ่มแล้วละ” เยี่ยนจ้าวเกอพยายามทอดมองออกไปไกล สัมผัสอย่างถี่ถ้วน เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่ามีจอมยุทธ์กำลังเข้ามาใกล้ทางทะเลสาบปิดนภาจากทั่วสารทิศอยู่ไม่น้อย
จอมยุทธ์เหล่านี้ล้วนมีการสืบทอดที่แตกต่างกัน ยอดฝีมือภายในนั้นล้วนไม่ขาดแคลนระดับมหาปรมาจารย์ อีกทั้งยิ่งมียอดฝีมือระดับสุดยอด พลังที่ออกมาก็ยิ่งสูงเทียมฟ้า ไม่ด้อยไปกว่าผู้อาวุโสเฉิน ซานสือเวิง และคนอื่นๆ เลย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนเหล่านี้ต่างก็เป็นยอดฝีมือของภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขต การที่รวมตัวอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ ทะเลสาบปิดนภาครั้งนี้ ต่างก็ต้องการทำเรื่องของพวกเขาให้ประสบความสำเร็จ
ถึงกระนั้นทางด้านหอคลื่นโหมและดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งใหญ่ทั้งห้าได้รับข่าวสารล่วงหน้า จึงได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว
ยอดฝีมือแห่งหอคลื่นโหมมากมาย ดักซุ่มระแวกใกล้เคียงกับทะเลสาบปิดนภาล่วงหน้าแล้ว หลังจากที่กำลังคนของภาคีรวมตัวกันที่ทะเลสาบปิดนภา กองกำลังดักซุ่มก็พลันปรากฎทั่วทั้งสี่ทิศ!
เขากว่างเฉิงและดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอื่นทั้งห้า เพื่อไม่ให้เป็นการเปิดเผยแผนการ ซึ่งนับเป็นการเคารพหอคลื่นโหมด้วยเช่นเดียวกัน ยอดฝีมือของสำนักต่างๆ จึงไม่เข้าไปในบึงพิภพ
ถึงอย่างนั้นยอดฝีมือมากมาย ต่างก็ไปยังปฐพีพิภพพร้อมกันอีกครั้ง ตัดความเป็นไปได้ที่นพยมโลกจะเยื้องกรายจากอีกทางหนึ่ง
ส่วนบริเวณบนเกาะปิดนภา ในที่สุดฟางจุ่นและคนอื่นๆ ก็ลงมือแล้วเช่นเดียวกัน
พวกของฟางจุ่นที่ได้มีการเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงดำเนินการตามแผนการ แบ่งหน้าที่ชัดเจน ระเบียบแผนแจ่มชัด
ยอดฝีมือที่มารวมกันกับหอคลื่นโหมที่ดักซุ่มอยู่ตรงนี้ กลุ่มคนของฟางจุ่นบางส่วนไปจัดการมังกรอสูรสีโลหิตที่อยู่ภายในทะเลสาบ มีบางส่วนจับกุมพวกภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตที่เข้ามาแฝงตัวเป็นหนอนบ่อนไส้อยู่ในแต่ละดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มีบางส่วนก็แย่งชิงอำนาจควบคุมค่ายกลทะเลสาบปิดนภากลับมาใหม่อีกครั้ง เพื่อหยุดยั้งแผนการของภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขต ทุกสิ่งล้วนกำลังดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ
ความมืดครึ้มของเมฆดำที่ปกคลุมอยู่ในอากาศเหนือทะเลสาบปิดนภาค่อยๆ กระจัดกระจายหายไป ควันเมฆหมอกเลือนรางก่อนหน้าฟื้นคืนกลับมาใหม่อีกครั้ง สายฟ้าแลบสีแดงชวนแปลกตาและบ้าคลั่งหาไม่เห็นอีกต่อไป
น้ำในทะเลสาบที่ดำสนิทประดุจน้ำหมึก ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นใสแจ๋วขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
บนเกาะปิดนภา ชายวัยกลางคนในอาภรณ์สีฟ้าครามมองดูคนเบื้องหน้าด้วยความเสียดาย อีกทั้งยังเศร้าสร้อยอยู่บ้าง “ศิษย์พี่เฝิง เหตุใดท่านถึงได้อุทิศตัวให้นพยมโลกเล่า”
เบื้องหน้าเขาเป็นมหาปรมาจารย์ที่แก่ชราคนหนึ่ง ซึ่งก็คือผู้อาวุโสหอคลื่นโหมที่ก่อนหน้านี้รับผิดชอบนำศิษย์หอคลื่นโหมเข้าร่วมการประชุมฝ่านภา และควบคุมค่ายกลทะเลสาบปิดนภาไปพร้อมกันนั่นเอง
ผู้อาวุโสเฝิงท่านนี้มองชายวัยกลางคนอาภรณ์สีฟ้าครามผู้นั้น พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเกลียดชังว่า “เส้นทางที่เลือกเดินไม่อาจร่วมมือกันได้ ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ”
ชายวัยกลางคนอาภรณ์สีฟ้าครามทอดถอนใจ “นี่จำเป็นด้วยหรือ”
พลังฝึกปรือของเขาสูงกว่าผู้อาวุโสเฝิง อำนาจควบคุมค่ายกลทะเลสาบปิดนภา บัดนี้ถูกเขาแย่งชิงกลับคืนอยู่ในมือแล้ว
เมื่อทำเช่นนี้ อย่าว่าแต่ผู้อาวุโสเฝิงจะเอาชนะได้เลย เพียงคิดจะหนีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
ขณะนั้นเอง สีหน้าชายวัยกลางคนอาภรณ์สีฟ้าครามพลันเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หันกายกลับไปมอง “เจ้ามาได้อย่างไร เจ้าควรจะไป…”
“เจ้า!” น้ำเสียงเขาชะงักทันที “ที่แท้ก็เป็นเจ้านั่นเอง…”
บนเกาะปิดนภา เยี่ยนจ้าวเกอและคนอื่นๆ ต่างมองดูหายนะเบื้องหน้าที่ค่อยๆ เงียบสงบลง พลางผ่อนลมหายใจออกมา
ทว่าไม่รอให้พวกเขาได้ผ่อนคลายจริงๆ ภาพตรงหน้าก็พลันเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน!
ค่ายกลขนาดมหึมาที่ส่องประกายแสงสีดำ ส่องสว่างขึ้นที่ก้นบึ้งทะเลสาบอีกครั้ง ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มทั้งผืนใหม่อีกหน สายฟ้าแลบสีแดงตัดสลับกันไปมา!
พลังปราณชวนหวาดผวาที่สั่นไหวจิตใจผู้คน ปรากฎขึ้นอีกรอบ!
“หืม?” ลูกตาดำเยี่ยนจ้าวเกอหดเล็กลงเล็กน้อย
วินาทีถัดมา เกาะลอยใต้ฝ่าเท้าพลันสั่นสะเทือนขึ้น
เกาะลอยที่กลายสภาพมาจากค่ายกลควบคุมเริ่มพังทลายอย่างรวดเร็ว!
แรงดึงดูดมหาศาลจากเบื้องล่าง ดึงเอาเยี่ยนจ้าวเกอและคนอื่นๆ ให้ตกลงไปพร้อมกัน!
………………..