ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 399 มังกรออกทะเล หลอมจิตราเป็นญาณ
เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่เหนือยอดเจดีย์สีแดง เงยหน้ากู่ร้อง
รอบๆ ตัวเขามีข่ายอาคมบึงน้ำแข็งครอบคลุม ด้านในข่ายอาคมมีมังกรแสงสีน้ำเงินเลื้อยอยู่บนเจดีย์สีแดง พาเจดีย์บินขึ้นสู่ท้องฟ้า
เสาสีขาวเก้าต้นตั้งขึ้นรอบข่ายอาคม เริ่มหมุนวนรอบเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ตรงกลางอย่างรวดเร็ว
การหมุนของเสาทั้งเก้าต้นกวนหินหลอมเหลวกับไฟในบึงน้ำแข็งรอบๆ เหมือนกับกังหน
น้ำวนขนาดยักษ์ที่มีน้ำแข็งและไฟผสมกันขยายตัวออกรอบๆ อย่างต่อเนื่อง
เยี่ยนจ้าวเกออยู่ใจกลางน้ำวน สีหน้าเรียบเฉยและแน่วแน่ พลางเงยหน้าขึ้นมองไปด้านบน
จ้าวปีศาจอัคคีที่ไล่ตามตนลงมา ในตอนนี้มันส่งเสียงคำรามด้วยความตกใจระคนหวาดกลัว ร่างกายถูกน้ำวนไฟและน้ำแข็งม้วนเอาไว้
เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่เหนือเจดีย์สีแดงฉานท่ามกลางน้ำวน แต่จิตใจกลับสงบยิ่ง
แสงมังกรสีน้ำเงินม้วนเจดีย์พุ่งขึ้นฟ้า บินไปด้านนอกบึงน้ำแข็ง
เมื่อปราศจากการสะกดของเจดีย์สีแดง ในที่สุดเหวเพลิงแห่งนี้ก็สั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากนั้นเส้นทางใต้ดินมากมายซึ่งเชื่อมออกไปรอบๆ ก็สั่นสะเทือนด้วยเช่นกัน ต้นกำเนิดซึ่งอยู่ที่แกนกลางเกิดการเปลี่ยนแปลง ทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันอกทั้งหมดเหมือนถูกกระตุ้นเพราะสาเหตุนี้
เมื่อก้มลงมองมาจากบนท้องฟ้าไร้รอบเขต ตาข่ายเพลิงยักษ์อันยิ่งใหญ่ที่ครอบคลุมทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกทั้งหมด ในตอนนี้เหมือนมีแสงไฟสว่างขึ้นพร้อมกัน จากนั้นก็สลัวลง
ขณะที่เจดีย์สีแดงลอยขึ้นไปยังท้องฟ้า มังกรแสงสีน้ำเงินก็คำรามและม้วนตัวอย่างต่อเนื่อง
เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่บนเจเดีย์ชูหมัดขึ้น จิตวรยุทธ์ของตนหมุนวนถึงขีดสุดเช่นกัน
มังกรแสงที่วนเวียนอยู่รอบเจเดีย์ชูศีรษะกับคอออกมา เลื้อยไปอยู่เหนือร่างเยี่ยนจ้าวเกอ
ครั้นเจดีย์ถูกกระตุ้น แสงสีแดงหลายสายแผ่กระจายครอบคลุมทั่วร่างเยี่ยนจ้าวเกอ
ชายหนุ่มเปิดจุดลมปราณทั่วร่าง แสงสีแดงและแสงสีน้ำเงินหลอมเข้าในร่างเยี่ยนจ้าวเกอ
ลมปราณอันยิ่งใหญ่จำนวนมากแทบจะกลืนกินเขาเหมือนกระแสน้ำ
ด้วยรากฐานจากการฝึกฝนคัมภีร์นภาไร้จำกัดของเยี่ยนจ้าวเกอ จึงมิอาจหลอมปราณวิญญาณที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ได้แต่กักเก็บและหล่อเลี้ยงพลังไว้ก่อน
มีแต่เยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้นที่ทำเช่นนี้ได้ หากเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิตระยะท้ายคนอื่น ร่างกายคงจะพองจนระเบิดตาย
เขาลืมตาทั้งสองข้าง แสงสีน้ำเงินกับแสงสีแดงในดวงตาส่องสว่างสลับกัน
ลมปราณปริมาณมากถูกเขากักเก็บไว้ ส่วนหนึ่งที่หลอมได้ในตอนนี้ ซึมซาบเข้าสู่กลุ่มลมปราณอันโกลาหลภายในร่างกาย
ขณะเขารับรู้ว่าร่างเลือดเนื้อของซากมังกรกลายเป็นความน่าอัศจรรย์เฉกเช่นมังกรแสง รับรู้ถึงจิตพลังพิเศษในเจดีย์สีแดง หัวใจก็เต้นอย่างน่าประหลาด
ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกเฮือกหนึ่ง เสียงคล้ายมังกรคำราม
จุดลมปราณทั่วทั้งร่างของเยี่ยนจ้าวเกอเปิดออกพร้อมกัน ปราณจิตราสีแดงน้ำเงินสลับกันมากมายพุ่งออกมาด้านนอก กลายเป็นหมู่มังกรลอยวนรอบกายของเขา
หมัดที่ชูอยู่ตอนนี้ค่อยคลายออก
เยี่ยนจ้าวเกอต่อยหมัดหนึ่งออกด้านหน้า จิตพลังที่เหมือนความโกลาหลค่อยๆ เปลี่ยนจากปลอมเป็นจริง
รากวิญญาณที่มีจิตยิ่งใหญ่ถึงขีดสุด ในที่สุดก็กลายเป็นรูปเป็นร่าง กลายเป็นรากแก้วหนา ปักลึกลงดิน เป็นไปได้ว่ากำลังจะงอกออกมา!
เหนือศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอปรากฏกลุ่มเมฆเลือนราง ดูสับสนวุ่นวาย เหมือนดูดซับ เปลี่ยนแปลง และทำลายได้ทุกสรรพสิ่ง
กลุ่มเมฆอันโกลาหลนี้มีเพียงแต่เยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้น ที่สัมผัสถึงความน่าอัศจรรย์ของมันได้
สำหรับคนอื่น สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนไม่ใช่ความจริง มันทั้งแอบซ่อนเละปรากฎในคราวเดียว ยากจะสัมผัสถึงการดำรงอยู่ของมัน
นี่คือญาณวรยุทธ์ของเยี่ยนจ้าวเกอ!
วันนี้ เยี่ยนจ้าวเกอเลื่อนเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณแล้ว!
กลุ่มปราณโกลาหลเพียงปรากฏเพียงแวบเดียวก็หายไป ปราณนภามากมายแผ่พุ่งออกมา เหมือนกับท้องฟ้ากว้างใหญ่ก็ไม่ปาน
ปราณจิตราสีแดงสลับน้ำเงินหลายสายหมุนวนใต้ฟ้ากระจ่างนี้ ดุจมังกรบนสวรรค์เลยทีเดียว
ปราณจิตราหลอมรวมกับญาณวรยุทธ์ของเยี่ยนจ้าวเกอ ค่อยๆ กลายเป็นญาณจริงแท้ ก้าวข้ามประตูหลอมจิตราให้กลายเป็นญาณ ทำให้เขามีพลังเพิ่มขึ้น
เจดีย์สีแดงฉานถูกมังกรแสงสีน้ำเงินพาบินไปบนท้องฟ้าด้วยกัน ค่อยๆ กลายเป็นรุ้งแสงพุ่งออกจากผิวทะเล
ทุกคนมองไป คล้ายกับมังกรออกจากทะเล และเยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่เหนือศีรษะมังกรตัวนั้น
พวกปีศาจอัคคีส่งเสียงร้องอย่างเดือดดาล ฟ้าดินเหมือนจะสั่นไหวไปด้วย
หยวนเจิ้งเฟิงพลันรู้สึกยินดีปรีดา หัวเราะออกมาเสียงดัง
ทุกๆ คนมองเยี่ยนจ้าวเกอที่เหมือนขี่มังกรขึ้นไปกลางท้องฟ้าอย่างงงัน
‘คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะทำได้จริงๆ!’
ราชันปีศาจอัคคีจิ่งจงคิดขวางเยี่ยนจ้าวเกอกับมังกรแสงที่พุ่งขึ้นฟ้า ทว่าหยวนเจิ้งเฟิงเตรียมตัวไว้แล้ว จึงขวางอยู่เบื้องหน้ามัน
เหวเพลิงในมหาสมุทรด้านล่างเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง หินโสโครกก้นทะเลที่สงบในตอนแรกพังทลายอย่างต่อเนื่อง ไฟใต้พิภพก็เคลื่อนไหวเช่นกัน
สถานที่อื่นใกล้น่านน้ำ หินหนืดและไฟใต้พิภพซึ่งคลุ้มคลั่งในตอนแรก ก็เริ่มสงบลงแล้ว
ไม่เพียงแต่น่านน้ำแห่งนี้เท่านั้น ยังมีเส้นสายตาข่ายเพลิงซึ่งแผ่ขยายออกไปรอบๆ ด้วย
จุดเชื่อมที่เงียบสงบในตอนแรกถูกกระตุ้นให้ประทุ แต่ว่าภัยพิบัติเพลิงเผาไหม้ทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกกลับค่อยๆ สลายไป
หลังจากเวลาผ่านไป เหวเพลิงหลายแห่งระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นค่อยๆ สงบลง กลับคืนสู่สภาพเดิม
ในที่สุดตาข่ายยักษ์ที่กว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งครอบคลุมทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกก็สลายไป การเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณใต้ดินไม่ได้บ้าคลั่งอีกต่อไปแล้ว
ไอน้ำสีขาวเริ่มสูญสลาย ทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกที่เหมือนกับนรกก่อนหน้า กลับมีสภาพดังเดิม
เผ่าพันธุ์ปีศาจอัคคีแม้จะโมโหมากกว่าเดิม แต่ความน่าเกรงขามที่ยิ่งใหญ่เมื่อครู่ลดลงไม่น้อย
สภาพแวดล้อมที่นี่มิใช่ทะเลเพลิงที่ให้พวกมันอาละวาดได้ตามใจอีกต่อไป
หลังจากสูญเสียความได้เปรียบด้านสถานที่ ถึงแม้ความคิดต่อสู้อันบ้าคลั่งของปีศาจอัคคีจะไม่ลดลง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการตอบโต้จากเหล่ายอดฝีมือเผ่ามนุษย์ พวกมันก็ยิ่งขัดขืนได้ยากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์จากมหาอำนาจแปดพิภพจะใกล้หมดพลังเต็มที่ แต่ว่าขวัญกำลังของพวกเขากลับฮึกเหิม คนที่ยังพอเหลือเรี่ยวแรงอยู่เริ่มโจมตีใส่ปีศาจอัคคี
คนที่ได้รับบาดเจ็บหนัก ตอนนี้ถึงได้ผ่อนคลายลง ไม่จำเป็นต้องฝืนสู้อีก พวกเขาไม่ได้ไล่ตามปีศาจอัคคี เพียงพักฟื้นอยู่ที่เดิม
ทุกคนปรับลมหายใจไปพลาง มองมังกรแสงที่ม้วนตัวอยู่ในท้องฟ้า และเยี่ยนจ้าวเกอซึ่งยืนอยู่เหนือศีรษะมังกรไปพลาง
“หรือเมื่อครู่จะเป็นซากมังกรสมบูรณ์”
“ต้องใช่แน่ เลือด ร่างกาย และเกล็ดล้วนอยู่ครบ ไม่เช่นนั้นจะมีพลังแข็งแกร่งเช่นนั้นได้อย่างไร”
“แต่ต่อให้เป็นซากมังกรจริงๆ ถึงอย่างไรก็ตายไปแล้ว ไม่ใช่มังกรตัวเป็นๆ ไม่น่าจะแสดงพลังเช่นนี้ได้กระมัง”
“ถูกต้อง ถึงอย่างไรเยี่ยนจ้าวเกอนั่นก็ยังไม่บรรลุระดับมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณ”
“แต่เขาทำสำเร็จแล้ว และนี่คือความสามารถของเขาเอง”
คนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น ผู้อาวุโสจากแต่ละสำนักอย่างน้อยก็มีพลังฝึกปรือระดับมหาปรมาจารย์ขั้นที่เจ็ด ระดับรูปญาณระยะต้น
แต่เมื่อมองเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ พวกเขาถ้าไม่ชื่นชม ก็รู้สึกสงสัย “เมื่อครู่เขาเหมือนหลอมจิตรากลายเป็นญาณ ฝึกฝนญาณวรยุทธ์สำเร็จแล้วหรือ เขาเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง…”
ในสถานที่ที่อยู่ไกลออกไป แม้จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ไม่ได้มองเห็นภาพชัดเจน แต่ทุกคนล้วนมองเห็นเงามังกรที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าได้
หลังจากเงามังกรพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว ภัยพิบัติอัคคีต้มของทะเลตะวันออกก็เริ่มหยุดลง
ในใจของคนที่ไม่ทราบเหตุการณ์ ล้วนสั่นไหวอย่างอดไม่ได้
หลังจากมังกรแสงลอยวนกลางอากาศถึงสามสิบหกครั้ง มันก็สลายหายไป
เยี่ยนจ้าวเกอยืนเหนือยอดเจดีย์ ก้มหน้าไปมอง เห็นแสงสีแดงบนเจดีย์ค่อยๆ ริบหลี่ลง ผิวเจดีย์ปรากฏลวดลายมังกรสีน้ำเงินติดอยู่