ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 456 ยุ่งไม่เข้าเรื่อง
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวขึ้นเหมือนไม่เห็นมังกรสีเลือดที่หมุนวนกลางอากาศ “แกนหยกแสงรุ้งที่หลอมอยู่ในกำไลข้อมือมีปริมาณน้อยเกินไป”
“ที่ดีที่สุดคือโลกทางด้านนั้นมีการผลิตแกนหยกแสงรุ้ง”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย “ปัญหาที่น่าหนักใจกว่าก็คือ ทางเชื่อมเขตแดนที่เชื่อมไปยังโลกด้านนั้นเกิดขึ้นโดยบังเอิญ คงอยู่เพียงชั่วคราว อีกไม่นานน่าจะหายไปอีกครั้ง”
สวีเฟยสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง “ไม่ว่าจะพูดอย่างไร จัดการสถานการณ์ตรงหน้าก่อนเถอะ แล้วแต่จ้าวเกอเลย”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย มองมังกรสีเลือดที่วนเวียนปกคลุมฟ้าปกคลุมดวงอาทิตย์กลางอากาศ “สถานการณ์ในตอนนี้กลับจัดการง่ายนัก”
พูดจบ เขาก็สั่นไหวจุดลมปราณทั่วร่าง กระตุ้นญาณจริงแท้พุ่งขึ้นฟ้า!
ชายชราเสื้อคลุมดำเห็นดังนั้น สายตาพลันเย็นเยียบ “บังอาจ!”
มังกรยักษ์สีเลือดที่วนเวียนอยู่กลางอากาศเปิดเกล็ดทั่วร่าง ลมปราณอันเดือดพล่านพรั่งพรูออกมาจากด้านในอย่างต่อเนื่อง เมฆมังกรสีเลือดยิ่งมายิ่งหนาตัว
หางมังกรขนาดยักษ์พุ่งออกจากชั้นเมฆสะบัดใส่เยี่ยนจ้าวเกอ พลังโจมตีรุนแรงชนิดผ่าเขาแยกทะเล
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเยาะ พลางตบมือขวา พลังอันยิ่งใหญ่ของท้องฟ้าที่พังทลายระเบิดขึ้นในระยะใกล้เคียง ทำลายหางมังกรขนาดยักษ์นั้นทิ้ง!
ชายชราเสื้อคลุมดำตื่นตระหนก ‘มหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณ หนุ่มขนาดนี้เลยหรือ?’
ชายหนุ่มไม่หยุดมือ หลังจากทำลายหางของมังกรเสร็จแล้ว ก็ใช้ฝ่ามือจู่โจมสด้านบน เมฆสีเลือดหนาหนักพลันพังทลาย
ด้านในเมฆสีเลือด ชายชราเสื้อคลุมสีดำแค่นหัวเราะเสียงหนึ่ง
เกล็ดมังกรสีเลือดเกล็ดแล้วเกล็ดเล่าตกลงมาจากท้องฟ้าเหมือนกับสายฝน
คนทั้งหกที่กำลังสู้กันอยู่เห็นดังนั้นพลันรู้สึกฉงนใจ ชายชราเสื้อคลุมดำยังคงเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณระยะท้าย และเป็นคนที่มีระดับพลังฝึกปรือสูงสุดในหมู่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ กระนั้นเขาเหมือนมิใช่คู่ต่อสู้ของเยี่ยนจ้าวเกอโดยสิ้นเชิง
ชายชราเสื้อคลุมสีดำตวาดด้วยความโกรธ ญาณจริงแท้ทั่วทั้งร่างสั่นไหว มังกรสีเลือดขนาดยักษ์พุ่งงตัวออกมาจากในเมฆสีเลือด
ขณะชายชราเสื้อคลุมสีดำพุ่งมาหาเยี่ยนจ้าวเกอ เขายื่นมือซ้ายของตนออกมา ตบฝ่ามือใส่กะโหลกของมังกรยักษ์สีเลือด
ทั้งสองฝ่ายคล้ายหยุดนิ่งกลางอากาศในชั่วพริบตานั้น
แต่ต่อจากนั้น ศีรษะของมังกรยักษ์สีเลือดก็เกิดเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น
จากนั้นเห็นเพียงเขามังกรหักก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นกะโหลกศีรษะของมันก็ค่อยๆ แตกกระจาย ร่างกายบิดเบี้ยวด้วยมุมอันน่าพิสดาร คล้ายกับถูกพลังอันไร้ขีดจำกัดบดขยี้
เกล็ดจำนวนนับไม่ถ้วนกระจัดกระจาย สาดเป็นสายฝนสีเลือดลงมาทั่วบริเวณอีกครั้ง
จอมยุทธ์พรรคมังกรโลหิตตกใจ ทั้งสี่คนไม่รุมจู่โจมสามีภรรยาคู่นั้นอีก แต่เปลี่ยนมาโจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน
มังกรสีเลือดสี่ตัวพุ่งมาอย่างบ้าคลั่ง เยี่ยนจ้าวเกอกวาดมองแวบหนึ่ง มือซ้ายยังคงดันกะโหลกของมังกรสีเลือดที่เกิดจากญาณจริงแท้ของชายชราเสื้อคลุมดำ มือขวาชี้นิ้วชี้กับนิ้วกลางเป็นกระบี่ แทงออกด้านนอก
ประกายกระบี่สีเขียวหลายสายพุ่งสลับกันทั่วฟ้าดินอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กลายเป็นมังกรเขียว!
มังกรเขียวกับมังกรสีเลือดเกิดการปะทะกัน มังกรสีเลือดสลายไปทันทีหลังจากโดนกระแทกใส่ ถูกมังกรเขียวที่เกิดจากประกายกระบี่ญาณจริงแท้ของเยี่ยนจ้าวเกอทำลาย!
ทุกคนในพรรคมังกรโลหิตตื่นตระหนกเหลือประมาณ แม้จะเป็นสามีภรรยายที่ประกบกระบี่คู่นั้น ในตอนนี้ยังมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ
ขณะที่ญาณจริงแท้ของเยี่ยนจ้าวเกอสั่นไหว จิตแห่งการกำเนิดใหม่ก็กระจายทั่วท้องฟ้า ในภาพมายาแสงเหนือศีรษะมีภาพของใบไม้วิญญาณกำลังส่องแสงระยิบระยับและขยับไหว
ทุกคนดูออกได้ไม่ยากว่า พลังฝึกปรือในตอนนี้ของเขาคือมหาปรมาจารย์ขั้นที่ห้า ขั้นกำเนิดญาณระยะกลาง
แต่คู่ต่อสู้ทั้งสี่ที่เยี่ยนจ้าวเกอเผชิญหน้าด้วยตอนนี้ เป็นมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณระยะกลางทั้งสิ้น ชายชราเสื้อดำผู้นั้นยิ่งเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณระยะท้าย
แต่ว่าการร่วมมือกันของมหาปรมาจารย์จากพรรคมังกรโลหิตทั้งห้า กลับถูกมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณระยะกลางแค่คนเดียวต้านไว้ได้ นี่จะไม่ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจได้อย่างไร?
สามีภรรยาคู่นั้นระบายลมหายใจ มองกันแวบหนึ่ง เห็นความตื่นตระหนกจากในดวงตาของอีกฝ่าย
“ถ้าหากบอกว่าในตอนที่มีพลังฝึกปรือต่ำ อาจจะเกิดเรื่องที่คนที่มีระดับต่ำเอาชนะคนที่มีระดับสูง ก้าวข้ามระดับของตัวเองเพื่อเอาชนะศัตรู กระนั้นกลับเกิดขึ้นได้น้อยเต็มทีในระดับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณ” สตรีที่ขับเคลื่อนประกายกระบี่สีดำสูดลมหายใจเย็นเยียบ “ถึงอย่างไรยิ่งมีระดับพลังฝึกปรือสูง การฝึกฝนก็ยิ่งยากขึ้น คนที่มาถึงขั้นนี้ได้ล้วนเป็นอัจฉริยะที่เหนือกว่าคนทั่วไป”
นางมองเยี่ยนจ้าวเกอ “วรยุทธ์ที่ชายหนุ่มผู้นี้ใช้ ดูไปไม่ได้เหนือกว่าวรยุทธ์ของเขาหงส์วิเศษหรือวรยุทธ์ของพรรคมังกรโลหิตเท่าใดนัก แต่เขามีพลังที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร”
บุรุษที่เร่งประกายกระบี่สีขาวพูดอย่างครุ่นคิด “อายุเพียงเท่านี้ แต่ฝึกจนอยู่ในระดับเดียวกับพวกเราได้ เป็นเรื่องที่จินตนาการไม่ออกเลย ในโลกนี้มักจะมีอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ ต่อหน้าคนเช่นนี้ อัจฉริยะในหมู่คนธรรมดาก็เป็นเพียงคนที่มีความสามารถพื้นๆ เท่านั้น”
ภรรยาของเขาถามเสียงเบา “ในตอนที่เขาบรรลุขั้นกำเนิดญาณระยะกลาง หน่อวิญญาณเติบโตเป็นกิ่งแล้วกลายเป็นใบวิญญาณ มีแปดใบ หรือเก้าใบกันแน่?”
ผู้เป็นสามีส่ายหน้า สายตาที่มองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอเคร่งขรึมมากขึ้น “มองไม่ออก คนหนุ่มผู้นี้มาถึงขั้นนี้ได้ ยังไม่ได้เอาจริงแม้แต่น้อย! แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็แน่ใจว่าต้องมากกว่าเจ็ดใบแน่นอน!”
ฝ่ายภรรยามีความกังวลเล็กน้อย “เช่นนั้นตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี”
บุรุษส่ายหน้า กล่าวว่า “เส้นทางที่ใช้กลับโลกผืนสมุทรถูกอุดไว้แล้ว อีกทั้งยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่ หากคิดจะหนีก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ใด ในเมื่อคนผู้นี้ช่วยพวกเราสู้กับคนของพรรคมังกรโลหิต พวกเราก็ดูสถานการณ์ก่อนเถอะ
“ถ้าหากคนหนุ่มผู้นี้ประสงค์ร้ายต่อพวกเรา ต่อให้พวกเราหนี ด้วยความสามารถของเขายังสลัดทิ้งคนของพรรคมังกรโลหิต ไล่ตามพวกเราง่ายดายยิ่ง”
กลางอากาศ มังกรสีเลือดที่เกิดจากญาณจริงแท้ของมหาปรมาจารย์จากพรรคมังกรโลหิตทั้งสี่ตัว ถูกประกายกระบี่จากท่ามังกรเขียวในแขนเสื้อของเยี่ยนจ้าวเกอบดขยี้ คนทั้งสี่ถอยไปด้านหลังพร้อมกัน
พวกเขามิใช่คนที่ไร้ประสบการณ์ ตอนนี้มองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความตื่นตระหนก ไม่กล้าบุกอีก
ชายชราเสื้อคลุมสีดำผู้นั้น พร้อมกับมังกรสีเลือดที่เกิดจากญาณจริงแท้ตัวนั้น ถูกพลังฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอดูดเอาไว้ให้หยุดนิ่งกลางอากาศ
“หยุดมือ!”
กลางท้องฟ้าพลันมีเสียงตวาดดังมา เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองไป เห็นในประตูทางเชื่อมเขตแดนด้านบนมีแสงสีเลือดอันดุดันสายหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านใน ก่อนจะวาดผ่านท้องฟ้า จู่โจมมาหาตนเอง
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินเสียงตวาด เขาก็หัวเราะเหอะๆ ขึ้นมาเสียงหนึ่ง
ในมือซ้ายที่กำลังกดดันศีรษะมังกรยักษ์อยู่ มีพลังอันแข็งแกร่งที่เต็มเปี่ยมและไม่อาจป้องกัน ระเบิดขึ้นอย่างสะเทือนเลือนลั่น!
มังกรยักษ์สีเลือดที่ร่างกายบิดเบี้ยว เกล็ดเต็มไปด้วยบาดแผล ส่งเสียงคำรามสิ้นหวัง เลือดเนื้อทั่วทั้งร่างพังทลาย แหลกสลายไปทั่วฟ้าดิน
ร่างกายขนาดมโหฬารแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย มากกว่าหนึ่งหมื่นชิ้น
แสงสีเลือดกระจัดกระจาย ร่างของชายชราเสื้อคลุมดำที่ปรากฏออกมากระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง รูขุมขนทั่วร่างมีเลือดไหลซึม ย้อมเสื้อคลุมสีดำให้กลายเป็นสีม่วงเข้ม
แสงสีแดงอันดุดันเข้ามาใกล้ ปรากฏให้เห็นร่างของบุรุษอายุสามถึงสี่สิบปี
บุรุษผู้นี้มาช้าไปก้าวหนึ่ง เขาส่งเสียงตวาดห้าม ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับเหมือนไม่ได้ยิน จึงโกรธหน้าเขียว
“ตาย!”
กลิ่นอายที่แข็งแกร่งถึงขีดสุดส่งออกมาจากร่างของคนผู้นี้ ลมปราณอันน่ากลัวหลายสายปรากฏขึ้นชนิดมืดฟ้ามัวดิน รวมตัวกันกลายเป็นมังกรสีเลือดหลายตัว
บนร่างของเขาปรากฏมังกรสีเลือดอันน่าพรั่นพรึงถึงเก้าตัว
มังกรทั้งเก้าบินวน ต่างพ่นไฟมังกรสีเลือดหลายสายออกมา ม้วนเข้าใส่เยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน!