ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 469 ตีขนาบสองด้าน
พวกเยี่ยนจ้าวเกอมองไปยังเบื้องล่าง เห็นแสงสีทองระเบิดออก แล้วพุ่งขึ้นข้างบนด้วยความรวดเร็ว
และข้างใต้แสงสีทอง เห็นหมอกสีดำหนาหนักกำลังเคลื่อนไหว คล้ายกับมีชีวิต
เมื่อแสงสีทองเข้าใกล้ ทุกคนก็สัมผัสถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน
แต่หลังจากหมอกสีดำเข้าใกล้ ทุกคนก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายจากนพยมโลกอันน่ากลัวได้ชัดเจนกว่าเดิม
ทว่ายอดฝีมือระดับสูงสุดของโลกแปดพิภพที่อยู่รอบๆ กลับรู้สึกวิตก มีความรู้สึกบ้าคลั่งทะลักขึ้นมาจากก้นบึ้งของจิตใจอย่างควบคุมไม่ได้
นี่ไม่ใช่การปั่นป่วนความคิดด้านลบที่อยู่ส่วนลึกในจิตใจของตัวจอมยุทธ์ แต่เหมือนมีคนทะลวงเข้าไปในก้นบึ้งของจิตใจ แล้วขุดเอามุมที่มืดมนที่สุดในใจขึ้นมา จากนั้นก็ขยายมุมนั้นอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะเผยออกมาในที่โล่งแจ้ง
หยวนเจิ้งเฟิง หวงกวงเลี่ย เฉินลี่ อันชิงหลิน จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ ตะโกนขึ้นพร้อมกัน
ทั้งสี่ลงมือพร้อมกัน ธารแสงหลายสายแผ่กระจายในความมืด กดดันวิญญาณร้ายจากนพยมโลกด้านล่างด้วยกัน
เมื่อมีพวกเขารับแรงกดดันหลักแล้ว สถานการณ์ของคนอื่นก็ดีขึ้นมาก หลังจากสงบจิตใจ ต่างก็ช่วยกันสะกดมันไว้
พอสภาวะในการพุ่งขึ้นของหมอกสีดำลดลง ก็มีอารมณ์โกรธแค้นสายหนึ่งพุ่งออกมาจากก้นเหวทันที มันสั่นสะท้านจิตใจของทุกคนอย่างยิ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ‘แตกต่างกับความรู้สึกตอนที่การมาของประตูนพยมโลกก่อนหน้าล้มเหลว เพราะถูกบีบให้ปิด!’
การทำลายค่ายกลแดนปีศาจครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อหยุดการเปิดของประตูแห่งนพยมโลก ก็มีอารมณ์โกรธแค้นส่งออกมาจากในประตูเช่นกัน
แต่ว่าในขณะที่อารมณ์นั้นยิ่งใหญ่เหลือประมาณ กลับเป็นภาพมายา เหมือนกับตัวยมโลกเกิดความรู้สึกโกรธแค้นเนื่องจากถูกขัดขวาง
อารมณ์โกรธแค้นที่ก้นเหวเบื้องล่างในตอนนี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น แต่กลับเหมือนจริงมากกว่า
สภาวะในการพุ่งลอยขึ้นมาของแสงสีทองและหมอกดำลดลงพร้อมกัน จากนั้นก็ชะงักอยู่ในเหวลึก
พอพวกมันหยุดลง ก็ปรากฏเค้าโครงที่ชัดเจนขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เหมือนเห็นดวงอาทิตย์ของจริงดวงหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าของตน สุกสะกาวและร้อนเร่าเกินบรรยาย
ลวดลายอาคมสีทองหลายสายก่อตัวกันกลายเป็นธารแสงเหมือนโซ่ ตัดสลับกับเชือกผ้าต่วน และลอยวนอยู่กลางอากาศ
ด้านล่างเป็นการปะทะกันระหว่างความมืดไร้สิ้นสุด กับดวงอาทิตย์สีทองชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน
ด้านในความมืดมีโซ่สีดำนับไม่ถ้วนเหยียดออกมา แล้วพันกับโซ่สีทองที่อยู่ด้านบน ยุดยื้อกันไปมาอย่างต่อเนื่อง
ผิวของโซ่สีดำหลายสายเต็มไปด้วยธารแสงสีแดงก่ำมากมาย เหมือนกับริ้วเลือด ไหลเวียนไม่หยุด
พลังอันมหาศาลชนและต่อต้านกันอย่างต่อเนื่อง มิติตรงจุดที่ดวงอาทิตย์สีทองกับหมอกหนาสีดำสัมผัสกันบิดเบี้ยวโดยสิ้นเชิง ทั้งยังสับสนวุ่นวาย
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้อย่างเลือนรางว่า ดวงอาทิตย์สีทองมีขนาดมากกว่าที่เห็นมากนัก
แต่เนื่องจากการบิดเบี้ยวของมิติ จึงมีสภาพเหมือนตอนนี้
อาณาเขตอันน่ากลัวที่ทั้งสองฝ่ายสัมผัสกัน ขนาดหยวนเจิ้งเฟิงและหวงกวงเลี่ยเห็น ในดวงตาก็ยังปรากฏความกริ่งเกรงที่ชัดเจน
ธารแสงสีทองหลายสาย กับโซ่สีดำมากมาย พันตูกันขณะแผ่ขยายไปรอบสี่ทิศแปดทางไม่หยุด
หลังจากทั้งสองฝ่ายลอยขึ้นด้านบนเหวลึกพร้อมกัน ก็ค่อยๆ ส่องสว่างปฐพีพิภพทั้งผืน!
ในตอนนี้ หากยืนอยู่บนท้องฟ้าด้านนอกเหวลึก แล้วก้มลงมองลงมา จะสามารถเห็นปฐพีพิภพที่มีขนาดเท่านภาพิภพสว่างขึ้นได้
เส้นสีทองและเส้นสีดำมากมาย แผ่กระจายไปทั่วแผ่นดินเหมือนกับใยแมงมุม ดูละลานตาและน่าทึ่งนัก!
“ลงมือเถอะ!” หยวนเจิ้งเฟิงกล่าว “หากให้นพยมโลกเชื่อมโยงกับโลกแปดพิภพได้จริงๆ พวกเราย่อมประสบคราเคราะห์แน่ ที่นี่ไม่ใช่สิ่งที่โลกปีศาจอัคคีจะเทียบได้”
ทุกคนที่อยู่รอบๆ พยักหน้าอย่างเงียบงัน
นพยมโลกเกิดมาก่อนมหาภัยพิบัติ อีกทั้งยังมีจุดยืนที่แตกต่างกันกับมหาจักรวาลอย่างสุดขั้ว เป็นดินแดนที่มืดมัวที่สุด สกปรกที่สุด และชั่วร้ายที่สุด
แตกต่างกับโลกปีศาจอัคคี โลกลอยน้ำ โลกผืนน้ำ หรือแม้แต่โลกแปดพิภพ ซึ่งเป็นโลกที่เกิดขึ้นหลังจากการพังทลายของแผ่นของมหาจักรวาล
นพยมโลกก็คือนพยมโลก ไม่เคยมีใครเรียกว่า ‘โลกนพยมโลก’ มาก่อน
แค่ชื่อเรียก ก็แตกต่างกับโลกปีศาจแล้ว
จอมยุทธ์แห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เช่นพวกหวงกวงเลี่ย ดวงตาจ้องมองดวงอาทิตย์สีทองอยู่เนิ่นนาน ต่างทอดถอนใจ ก่อนจะละสายตา
ทุกคนลงมือพร้อมกัน ใช้พลังส่งเสริมดวงอาทิตย์สีทองดวงนั้นอย่างไม่หยุดยั้ง
ปราณพิสุทธิ์ แสงอาทิตย์ สายฟ้า เมฆหมอก
อาคมหลายสายแสดงให้เห็นถึงรูปร่างที่แตกต่าง กลายเป็นลวดลายอาคม จากนั้นก็เชื่อมโยงกันกลายเป็นค่ายกล ลอยอยู่กลางอากาศ ต้านทานหมอกสีดำอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาหนึ่งปีกว่าๆ นี้ นอกจากพวกฟางจุ่นที่เป็นผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักจะอยู่ที่ปฐพีพิภพเพื่อคอยสังเกตการณ์และป้องกันแล้ว พวกผู้มีอำนาจอย่างหยวนเจิ้งเฟิงและหวงกวงเลี่ยก็ไปๆ มาๆ ระหว่างปฐพีพิภพเช่นกัน
ในช่วงนาทีสำคัญ ความกังวลมากมายในอดีตถูกโยนทิ้ง ยอดฝีมือทั้งหมดได้สำรวจและศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เข้าใจสถานการณ์ของปฐพีพิภพยิ่งมายิ่งลึกขึ้น
ในการเผชิญหน้ากับศัตรูจากภายนอก ผู้มีอำนาจทุกคนได้ร่วมมือกันและส่งข่าวสารให้กันชั่วคราว ปรึกษาและไตร่ตรองจนได้เป็นวิธีรับมือจำนวนหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ลงมือ ลองสังเกตและทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่องต่อ
วิธีของพวกหยวนเจิ้งเฟิงในตอนนี้คือปลอดภัยไว้ก่อน โดยใช้ดวงอาทิตย์สีทองที่มีอยู่แล้วดวงนั้นให้เป็นแกนกลางผนึกต่อไป และเสริมให้มั่นคงขึ้น
เพียงแต่ถึงอย่างไรพวกเขาต่างก็ไม่ใช่เจ้าของผนึก การเสริมให้ผนึกแข็งแกรงอีกครั้งค่อนข้างเปลืองแรงอยู่บ้าง
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น สถานการณ์ก็ถูกควบคุมไว้ได้ หมอกสีดำลอยขึ้นข้างบนไม่ได้อีก ดวงอาทิตย์สีทองเริ่มจมลงอีกหน กดหมอกสีดำตกลงไปเบื้องล่าง
อารมณ์โกรธแค้นและไม่ยอมรับในเหวลึกยิ่งมายิ่งเข้มข้น ที่ข้างหูของทุกคนคล้ายกับมีเสียงคำรามที่ไร้เสียงดังขึ้น ทำให้จิตใจของผู้คนเขม็งเกร็ง
ลายแสงของเส้นเลือดเล็กละเอียดด้านบนโซ่สีดำที่เหยียดออกมาจากในความมืดหลายสาย พลันส่องสว่างขึ้นมาอย่างละลานตา
จากนั้นก็เห็นพลังมากมายทะลักขึ้นบนโซ่สีดำ กลายเป็นมารร้ายหลายตัว พุ่งเข้าหาพวกเยี่ยนจ้าวเกอ!
พวกยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เช่นพวกหยวนเจิ้งเฟิงและหวงกวงเลี่ยไม่ได้เคลื่อนไหว ยังคงเสริมผนึกให้แข็งแกร่งอย่างตั้งใจ
มหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณจากแต่ละสำนักที่มาด้วยต่างลงมือ เปิดสงครามกับมารร้ายที่เกิดจากพลังมารเหล่านั้น
มารร้ายเหล่านี้มีพลังแข็งแกร่งถึงขีดสุด ทำให้คนเห็นรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใย
เพียงแต่แม้ว่าเหล่ามารร้ายที่เกิดจากพลังมารจะมีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แต่ที่มาของพลังมารซึ่งคิดพุ่งออกมาจากด้านใต้เหวลึกเป็นตัวตนเช่นไรกันแน่?
และตัวตนเช่นนี้มีจำนวนมากเท่าไรในยมโลก เพียงแค่คิดดูก็รู้สึกหวาดกลัวแล้ว
ในตอนนั้นเอง พลันมีคนเข้าใกล้เหนือเหวลึก
ทุกคนหันไปมอง กลับเห็นผู้มาเป็นผู้อาวุโสท่านหนึ่งของเมืองทะเลมรกต
อีกฝ่ายมีสีหน้าเขียวคล้ำ กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ทะเลตะวันออกขอความช่วยเหลือด่วน! ปีศาจอัคคีบุกโจมตีอีกครั้ง”
“ราชันปีศาจอัคคีที่พลังฝึกปรือเทียบเท่ากับยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สองของพวกเราจำนวนมาก เหยียบย่างเข้ามายังทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก ผ่านทางเชื่อมเขตแดนอีกครั้ง!”
ทุกคนเพียงรู้สึกว่ามีความเย็นสายหนึ่งชำแรกจากสันหลังขึ้นมายังศีรษะ
ทะเลตะวันออกในตอนนี้ มีเพลิงผลาญโหมพัดอีกครั้ง โดยมีราชันปีศาจอัคคีที่แข็งแกร่งมากมายเป็นผู้นำทัพ ปีศาจอัคคีจำนวนมากเข่นฆ่าเข้าสู่โลกแปดพิภพ
แนวป้องกันแนวแรกที่จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์วางไว้ พังทลายในชั่วพริบตา!