ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 502 หลอกล่อด้วยวิธีต่างๆ นานา
เยี่ยนจ้าวเกอมองบุรุษวัยกลางคนที่เป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณระยะต้น พลางผงกศีรษะให้เล็กน้อย “ขอคารวะ”
คนจากเกาะจิตประสานจ้องมองรูปสลักหินด้านหลังเยี่ยนจ้าวเกอ ต่างประหลาดใจเล็กน้อย
สายตาของฟางจ้าวหงกวาดมองรูปสลักหิน แต่ไม่ได้หยุดมองมัน จากนั้นเขาก็หันกลับมาพูดกับเยี่ยนจ้าวเกอว่า “ถ้าหากท่านมีเวลา ได้โปรดมาเป็นแขกที่เกาะจิตประสานของเรา ให้พวกเราได้แสดงความขอบคุณ”
ชายหนุ่มยิ้มพลางส่ายหน้า “ต่อจากนี้ข้าเตรียมจะเดินทางไปเขาหงส์วิเศษ วันหน้าถ้ามีเวลาอาจจะได้ไปรบกวนสำนักท่าน”
ฟางจ้าวหงพูด “สำนักเรายินดีต้อนรับ”
เยี่ยนจ้าวเกอมองรูปสลักหินด้านข้าง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ขอไม่ปิดบัง ในมิติต่างแดนนี้ ข้าเจอแค่ของสิ่งนี้เท่านั้น พูดไปก็น่าละอาย ข้ายังไม่ได้ทำความเข้าใจมันเลย”
“มันน่าจะเป็นของล้ำค่าชิ้นหนึ่ง แต่ไม่น่าจะแบ่งกันได้ ทางสำนักท่านว่าอย่างไร?”
ฟางหงจ้าวยกมือขึ้นทำท่า ‘เชิญ’ กล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “หากเป็นคนอื่น สำนักเราคงจะแย่งชิง ของล้ำค่าไร้เจ้าของ ผู้มีความสามารถย่อมเป็นคนได้ไป ไม่เกี่ยวกับมาก่อนมาหลัง”
“แต่ว่าท่านเพิ่งจะช่วยศิษย์ร่วมสำนักจำนวนมากจากเงื้อมมือของสำนักตาข่ายปีศาจ พวกเรารู้สึกซาบซึ้งใจยิ่ง ในเมื่อท่านมาก่อน พบของล้ำค่านี้เป็นคนแรก พวกเราก็จะไม่แย่งชิง”
ขณะพูด เขาก็ถอยหลัง เพื่อแสดงให้เห็นว่าจะไม่แย่งชิงกับเยี่ยนจ้าวเกอ พวกหยางฉู่ฟานซึ่งเป็นจอมยุทธ์เกาะจิตประสานที่ตามเขาเข้ามาก็ถอยไปเช่นกัน
ลักษณะเหมือนกับกำลังจะไปจากมิติต่างแดน
ฟางจ้าวหงกล่าว “พวกข้าจะรออยู่ด้านนอก ท่านต้องการไปที่ทะเลไร้ขอบเขตซึ่งเขาหงส์วิเศษตั้งอยู่ เส้นทางที่ใกล้ที่สุดคือข้ามทะเลจิตประสานที่สำนักเราตั้งอยู่ พวกเราสามารถร่วมทางกันได้”
“ท่านอายุยังน้อยก็มีพลังฝึกปรือน่าทึ่งเช่นนี้แล้ว ได้โปรดช่วยชี้แนะคนหนุ่มของเกาะจิตประสานให้มากๆ ด้วย”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “เกรงใจเกินไปแล้ว”
ขณะมองร่างของพวกฟางจ้าวหงหายไปจากเบื้องหน้า เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้เชื่อมปราณพิสุทธิ์กับรูปสลักหินต่อ เพียงใช้พลังดูดเอาไว้เพื่อเก็บของล้ำค่าลี้ลับชิ้นนี้ หลังไปจากที่นี่ค่อยคิดอีกครั้ง
ญาณจริงแท้ม้วนรูปสลักหินที่ตั้งอยู่บนพื้นให้สั่นไหวเล็กน้อย เยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจเคลื่อนไหวมันได้ในครั้งแรก
พลังฝึกปรือในตอนนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ สามารถงัดเขาลูกหนึ่งให้ขึ้นจากพื้นได้
แต่ว่าการขยับรูปสลักหินในตอนนี้ กลับเกิดความรู้สึกว่ากำลังสั่นไหวมิติต่างแดนทั้งมิติอยู่
ความรู้สึกนี้หนักหน่วงยิ่งกว่าตอนจับซากมังกรจริงแท้ ในที่อยู่ของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำแข็งเสียอีก
เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เขาใช้พลังเพิ่มขึ้นอีก บนร่างมีปราณพิสุทธิ์มากมายไหลออกมาเติมเต็มจุดลมปราณบนรูปสลักหินนั้น
มิติต่างแดนสั่นไหวเล็กน้อย แต่ว่ารูปสลักหินหนาหนักนั้นในที่สุดก็ลอยจากพื้น
ชายหนุ่มเปิดถุงย่อส่วนของตัวเอง คิดจะเก็บมันเข้าไป แต่กลับยากเย็นยิ่งนัก
เขาใช้วิธีการเดิม เสาระเบียงวังเทพแสดงผลอีกครั้ง สะกดรูปสลักหิน ทำให้น้ำหนักของมันเบาขึ้นมาก
แต่ว่าในตอนนั้นเอง เหนือศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอก็พลันมีแสงเปล่งประกาย!
ลำแสงมากมายผสมผสานกัน ประกอบกันเป็นกระจกกลมใบหนึ่ง ในแสงกระจกมีร่างของคนผู้หนึ่งโผล่ขึ้นมา เป็นฟางจ้าวหงที่เพิ่งออกไปนั่นเอง!
ฟางจ้าวหงปรากฏตัวขึ้นในจุดที่อยู่ใกล้เยี่ยนจ้าวเกอที่สุด จากนั้นก็ฟาดสองมือใส่อีกฝ่ายพร้อมกัน
กระบวนท่าเกาะจิตประสาน แสงวิญญาณปรากฎ!
ยืมใช้จิตวรยุทธ์ที่แอบทิ้งไว้ก่อนหน้า การลอบโจมตีในครั้งนี้ของฟานจ้าวหงแทบจะเกิดขึ้นในชั่วอึดใจ ทำให้คนรับมือไม่ทัน
เขาไปแล้วกลับมา ฟาดฝ่ามือทั้งสองลงด้านล่าง แสงสีเขียวเปล่งประกาย รูปอาคมอันเป็นญาณวรยุทธ์จริงแท้ขนาดใหญ่สายหนึ่งปรากฏขึ้น ดูลี้ลับยากหยั่งคาด
แต่ระหว่างเขากับเยี่ยนจ้าวเกอกลับถูกความมืดกั้นไว้ ทำให้ดูเหมือนอยู่ห่างไกลกันสุดขอบฟ้า
ฟางจ้าวหงรู้สึกหนักใจ พลังจากฝ่ามือเปลี่ยนแปลง แสงสีมรกตหลายสายหมุนเวียน เคลื่อนไหวอยู่กลางความมืด
แต่ว่าในความมืดอันไร้สิ้นสุดกลับมีเสียงสายฟ้าดังมา ฉับพลันนั้น แสงสายฟ้าสีขาวอันน่าประหลาดก็กระจายเต็มที่ว่าง พุ่งเข้าหาฟางจ้าวหงเหมือนกับคลื่นทะเล!
ฟางจ้าวหงตกใจเล็กน้อย รีบชักฝ่ามือถอยหลัง คนคล้ายกับกลายเป็นแสงสีมรกตสายหนึ่งเคลื่อนไหวไปมากลางอากาศ
ภายใต้การครอบคลุมของสายฟ้าอนธการ ร่างของเยี่ยนจ้าวเกอดูเลือนราง “อืม วรยุทธ์เกาะจิตประสาน กลับมีส่วนพิเศษอยู่ด้วย”
ฟางจ้าวหงขมวดคิ้ว ใช้ฝ่ามือหนึ่งโจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกอ ส่วนฝ่ามืออีกข้างหนึ่งโจมตีใส่อากาศ
แสงกระจกเปล่งประกายกลางอากาศ เป็นอาวุธวิญญาณชั้นสูงชิ้นหนึ่ง!
ขณะที่แสงสว่างกระเพื่อม ฟางจ้าวหงก็วูบไหวร่างมาถึงเบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง
เยี่ยนจ้าวเกอพาดมือข้างหนึ่งบนไหล่ของรูปสลักหิน มืออีกข้างหนึ่งสะบัดแขนเสื้อ พลันมีเสียงร้องของมังกรดังขึ้น ก่อนจะมีแสงสีเขียวเปล่งประกายอยู่ในแขนเสื้อ
ภายใต้การกระตุ้นของเยี่ยนจ้าวเกอ อาวุธวิญญาณชั้นสูง กระบี่บึงมรกตกลายเป็นมังกรเขียว พุ่งเข้าหากระจกแสงหยกของฟางจ้าวหงอย่างดุร้าย!
‘มหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณมีอาวุธวิญญาณชั้นสูงหรือ?’ ฟางจ้าวหงรู้สึกหัวใจหนักอึ้ง ทว่าสีหน้ากลับใจเย็นลง แสดงความสามารถของฝ่ามือจิตประสาน กระบวนท่าของเกาะจิตประสานออกมาถึงขีดสุด
กระบวนท่านี้เมื่อถูกใช้โดยฟางจ้าวหง กลับแตกต่างกับหยางฉู่ฟานราวฟ้ากับเหว
ดวงตาของฟางจ้าวหงเปล่งประกายแสงสีมรกตคล้ายกับกระจกสองใบ ผิวกระจกสะท้อนสภาวะกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ คำนวณการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อ
รูปอาคมอันเป็นญาณวรยุทธ์จริงแท้เปลี่ยนทิศทาง พลังอันลี้ลับหลายสายเชื่อมกับบริเวณรอบๆ
ร่างของฟางจ้าวหงกลายเป็นแสงสีมรกต ก่อนจะหลบคมกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ
แสงสีมรกตเปล่งประกายติดต่อกัน เขาคำนวณการเปลี่ยนแปลงท่ากระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอไปพลาง มองหาช่อวโหว่เพื่อโต้กลับไปพลาง
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็หัวเราะเบาๆ เสียงหนึ่ง “ประสานจิตเอาชนะคู่ต่อสู้หรือ?”
สภาวะกระบี่ของเขาไม่เปลี่ยนแปลง จู่ๆ แววตาทั้งสองข้างก็ลึกล้ำดุจท้องทะเล
ฟางจ้าวหงตกใจเล็กน้อย คล้ายกับตรงหน้าปรากฏเต่ายักษ์นอนนิ่งอยู่ในทะเลลึก
เหมือนกับผิวทะเลที่เงียบสงัด ไร้ลมไร้คลื่น
อาวุธวิญญาณชั้นสูง กระจกแสงหยกของเขาประสานกับฝ่ามือจิตประสาน กระบวนท่าของเกาะจิตประสานอย่างสมบูรณ์แบบ แสดงความสามารถออกมาพร้อมกัน พิชิตศัตรูโดยการคาดการณ์การเคลื่อนไหวก่อน
แต่ว่าในตอนนี้จิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอว่างเปล่า ฟางจ้าวหงคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของกระบวนท่าครั้งต่อไปของเขาไม่ออกแม้แต่น้อย
เยี่ยนจ้าวเกอใช้ท่ากระบี่มังกรเขียวในชายเสื้อไปพลาง กระตุ้นหนึ่งในหกหมัดมารวิญญาณ หมัดวิญญาณสยบคลื่นไปพลาง ทำให้จ้าวฟางหงทำอะไรไม่ได้
“ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดท่านต้องลงมือกับข้า” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างราบเรียบ “แต่ความจริงข้าไม่สนใจเหตุผล ท่านก็อย่าบอกข้าว่าเข้าใจผิดแล้วกัน”
เสียงยังไม่ทันขาด สภาวะกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอก็เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
มังกรเขียวบินขึ้นลง อ้าปากคำรามอย่างฉับพลัน กลายเป็นทางช้างเผือกลาดเทลง ดวงดาวมากมายกระจายเต็มที่ว่าง ครอบคลุมจ้าวฟางหงเอาไว้
ชายหนุ่มในตอนนี้หยุดใช้หมัดวิญญาณสยบคลื่น แสงกระบี่เปล่งประกายในจิตใจของฟางจ้าวหง คำนวณการเปลี่ยนแปลงของท่ากระบี่นี้ได้อีกครั้ง
แต่กระบี่ที่เยี่ยนจ้าวเกอโจมตีมาในตอนนี้ มีการเปลี่ยนแปลงนับหมื่นนับพัน คล้ายกับมีความเป็นไปได้จำนวนนับไม่ถ้วน ทำให้ฟางจ้าวหงคำนวณไม่ออก
แค่ชั่วพริบตาเดียว ฟางจ้าวหงโดนกระบี่ไปหลายครั้ง
อาการบาดเจ็บของเขาไม่สาหัสนัก เทียบกับอาการบาดเจ็บบนร่างแล้ว สิ่งที่ทำให้ฟางจ้าวหงทนไม่ได้ก็คือ เขารู้สึกเหมือนตนเองถูกยัดสิ่งของจำนวนนับไม่ถ้วนใส่สมองจนเจียนจะระเบิด
ความรู้สึกทรมานนั้นทำให้ฟางจ้าวหงต้องหยุดกระบวนท่า ไม่กล้าใช้หมัดจิตประสานอีก
“ท่านเชี่ยวชาญการคำนวณมิใช่หรือ แค่นี้ก็รับไม่ได้แล้วหรืออย่างไรกัน?” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ บัดนี้เขาเก็บรูปสลักหินเรียบร้อย
เมื่อไม่ต้องห่วงรูปสลักหิน เยี่ยนจ้าวเกอก็ระเบิดพลังอย่างสะเทือนเลือนลั่น ไม่ใช้วิธีต่อสู้พลิกแพลงอีก แต่รวบรวมพลังแล้วระเบิดออกมาตรงๆ!
“ท่านรับมือกระบวนท่าที่ซับซ้อนไม่ได้ เช่นนั้นพวกเราก็มาเล่นง่ายๆ กันเถอะ”
ขณะที่พูด เยี่ยนจ้าวเกอก็ฟันกระบี่ใส่ฟางจ้าวหงด้วยสภาวะเบิกฟ้า!